ประมวลธรรมนิพนธ์เกี่ยวกับสันติภาพ

ธรรมนิพนธ์ของพระบาฮาอุลลาห์

ยุคนี้เป็นยุคที่พระเมตตาสูงสุดของพระผู้เป็นเจ้าได้หลั่งไหลมาสู่มวลมนุษย์ เป็นยุคที่พระกรุณาอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์ได้ซึมซาบไปทั่วทุกสรรพสิ่งสร้างสรรค์ เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่จะปรองดองข้อขัดแย้งทั้งหลายและอาศัยอยู่ด้วยความสามัคคีและสันติภาพอันสมบูรณ์ภายใต้พฤกษาแห่งความเมตตารักใคร่และความเอาใจใส่ของพระองค์ ในยุคนี้ทุกคนจำเป็นที่จะต้องยึดมั่นสิ่งที่จะนำไปสู่ความปิติและการอำนวยประโยชน์สูงสุดของพวกเขา

Gleanings from the Writings of Baha?u?llah ? ???P. 6

พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ที่ส่งศาสนทูตทั้งหลายมายังมนุษย์นั้นมีสองประการ ประการแรกคือเพื่อที่จะปลดปล่อยเด็กๆ ทั้งหลายของมนุษย์ให้หลุดพ้นจากความมืดแห่งความเขลาและนำทางพวกเขาไปสู่แสงสว่างแห่งความเข้าใจอันแท้จริง ประการที่สองคือเพื่อที่จะรับประกันสันติภาพและความสงบของมนุษยชาติและจัดหาวิธีทั้งหลายที่จะสามารถสถาปนาขึ้นมา

Gleanings from the Writings of Baha?u?llah ???????P. 79-80

ดูกร บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่บนโลกนี้ ลักษณะเด่นอันสำคัญของการเปิดเผยศาสนาอันสูงสุดนี้คือเรา…..ได้วางหลักเกณฑ์อันจำเป็นในเบื้องต้นสำหรับความปรองดอง ความเข้าใจ และความสามัคคีอันสมบูรณ์ยั่งยืนไว้ให้ ขอความดีจงมีแด่ผู้ที่ยึดถือพระบัญญัติของเรา

Gleanings from the Writings of Baha?u?llah ??P. 97

ความผาสุกของมนุษยชาติ สันติภาพและความปลอดภัยจะไม่สามารถบรรลุได้นอกจากและจนกว่าความสามัคคีจะได้รับการสถาปนาอย่างมั่นคง ความสามัคคีนี้จะไม่สามารถบรรลุได้ตราบใดที่คำแนะนำที่ปากกาของพระผู้ทรงประเสริฐสุดได้เปิดเผยไว้ยังไม่ได้รับการเอาใจใส่

Gleanings from the Writings of Baha?u?llah P. 286

ดูกร ผู้ปกครองทั้งหลายของโลก ทำไมพวกเจ้าจึงได้บดบังรัศมีของดวงอาทิตย์และทำให้มันหยุดส่องแสง จงฟังคำแนะนำที่ให้แก่เจ้าโดยปากกาของพระผู้ทรงประเสริฐสุดเพื่อว่าบางทีทั้งเจ้าและผู้ยากจนอาจจะบรรลุสู่ความสงบและสันติภาพ เราขอวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าให้ช่วยเหลือกษัตริย์ทั้งหลายของโลกในการสถาปนาสันติภาพบนโลกมนุษย์ โดยแท้จริงแล้วพระองค์ทรงกระทำตามที่พระองค์ปรารถนา

ดูกร กษัตริย์ทั้งหลายของโลก ?เราเห็นเจ้าเพิ่มค่าใช้จ่ายต่างๆ ของเจ้ามากขึ้นทุกปีและทิ้งภาระนั้นไว้ให้กับประชาชนที่เจ้าปกครอง โดยแท้จริงแล้วนี่มิใช่อื่นใดแต่เป็นความอยุติธรรมอันร้ายกาจ จงเกรงกลัวต่อเสียงถอนหายใจและชลเนตรของพระผู้ทรงถูกประทุษร้ายนี้และจงอย่าสุมภาระให้กับประชาชนของเจ้าเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถทนได้ จงอย่าปล้นพวกเขามาเพื่อก่อสร้างวังสำหรับตัวเจ้าเอง ไม่เพียงแต่เท่านั้นจงเลือกสำหรับพวกเขาในสิ่งที่เจ้าเลือกให้กับตัวเอง ?ดังนั้นเราจึงคลี่คลายต่อสายตาของเจ้าในสิ่งที่จะอำนวยประโยชน์แก่เจ้าถ้าเจ้าเพียงแต่เข้าใจ ประชาชนคือสมบัติของเจ้า จงระวังเพื่อมิให้การปกครองของเจ้าละเมิดบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อมิให้เจ้ามอบผู้ที่อยู่ในปกครองให้อยู่ในมือของขโมย โดยพวกเขาที่เจ้าได้ปกครอง โดยทรัพย์สมบัติของพวกเขาที่เจ้าดำรงอยู่ได้ โดยความช่วยเหลือของพวกเขาที่เจ้าได้ชัยชนะ กระนั้นเจ้าดูถูกพวกเขาเพียงไร! ช่างน่าประหลาดเพียงไร ช่างน่าประหลาดยิ่งเพียงไร!

บัดนี้เจ้าได้ปฏิเสธสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด เจ้าจงยึดมั่นอยู่กับสันติภาพรองนี้เพื่อว่าบางทีเจ้าอาจจะปรับปรุงฐานะของเจ้าเองและผู้ที่ขึ้นอยู่กับเจ้าให้ดีขึ้นมาบ้าง

ดูกร ผู้ปกครองทั้งหลายของโลก จงปรองดองกันในหมู่พวกเจ้าเพื่อว่าพวกเจ้าจะไม่ต้องสะสมอาวุธอีกต่อไปเว้นแต่มีไว้เพียงจำนวนหนึ่งเพื่อปกป้องดินแดนและอาณาจักรของเจ้า จงระวังเพื่อมิให้เจ้าละเลยคำแนะนำของพระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงความซื่อสัตย์

ดูกร กษัตริย์ทั้งหลายของโลก จงสามัคคีกันเพราะด้วยความสามัคคีนั้นจะทำให้พายุแห่งความบาดหมางในหมู่พวกเจ้าสงบลงและประชาชนของเจ้าจะได้รับการพักผ่อนถ้าเจ้าเป็นผู้ที่เข้าใจ หากใครก็ตามในหมู่พวกเจ้าเตรียมพร้อมจะเข้าปะทะอีกฝ่ายหนึ่ง พวกเจ้าทั้งหมดจงลุกขึ้นต่อต้านเขาเพราะนี่มิใช่อื่นใดแต่คือความยุติธรรมอันชัดแจ้ง

Gleanings from the Writings of Baha?u?llah ????P. 253-254

พระผู้เป็นเจ้าทรงปรารถนาที่จะเปิดเผยหลักเกณฑ์อันจำเป็นในเบื้องต้นสำหรับสันติภาพและความสงบของโลกและความก้าวหน้าของประชาชนทั้งหลายได้ทรงจารึกว่า: เวลานั้นจะต้องมาถึง คือเวลาที่ความจำเป็นอันรีบด่วนของการจัดให้มีการชุมนุมของมนุษย์อย่างไพศาลและทั่วถึงจะเป็นที่ตระหนักกันทั่วโลก ?ผู้ปกครองและกษัตริย์ทั้งหลายของโลกจำเป็นต้องเข้าร่วมการชุมนุมนี้และปรึกษาหารือ ต้องพิจารณาถึงหนทางและวิธีการต่างๆ ที่จะวางรากฐานของสันติภาพอันยิ่งใหญ่ของโลกในหมู่มนุษย์ สันติภาพนี้เรียกร้องให้บรรดามหาอำนาจทั้งหลายมุ่งหมายที่จะปรองดองกันอย่างบริบูรณ์ในหมู่พวกเขาเพื่อเห็นแก่ความสงบของประชาชนบนโลก หากกษัตริย์องค์ใดเตรียมพร้อมจะเข้าปะทะอีกฝ่ายหนึ่งทั้งหมดต้องลุกขึ้นอย่างสามัคคีและขัดขวางเขา ถ้าสิ่งนี้ได้รับการปฏิบัติ ชาติทั้งหลายของโลกจะไม่จำเป็นต้องมีอาวุธอีกต่อไปเว้นแต่มีเพียงเพื่อรักษาความปลอดภัยของอาณาจักรและระเบียบภายในดินแดนของพวกเขา สิ่งนี้จะรับประกันสันติภาพและความสงบของประชาชน รัฐบาล และชาติทั้งหมด เราหวังว่ากษัตริย์และผู้ปกครองทั้งหลายของโลกผู้ซึ่งเป็นกระจกของพระนามอันทรงกรุณาและทรงอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าจะบรรลุสู่ฐานะนี้และปกป้องมนุษยชาติจากการกดขี่… วันนั้นกำลังใกล้เข้ามาคือวันที่ประชาชนทั้งหมดของโลกจะใช้ภาษาสากลเดียวกันและใช้อักษรร่วมกัน เมื่อสิ่งนี้บรรลุผลสำเร็จไม่ว่ามนุษย์จะเดินทางไปเมืองไหนก็ตามจะเป็นเหมือนว่าเขากำลังเข้าไปในประเทศของตัวเอง สิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นและขาดเสียไม่ได้ เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนที่มีความหยั่งรู้และเข้าใจที่จะพยายามแปลสิ่งที่จารึกไว้นี้ให้เป็นความจริงและเป็นการกระทำ….แท้จริงแล้วคนนั้นคือผู้ที่อุทิศตนในปัจจุบันต่อการรับใช้มวลมนุษยชาติทั้งหมด พระผู้เป็นเจ้าทรงกล่าวว่า: ขอพระพรและความสุขจงมีแด่ผู้ที่ลุกขึ้นส่งเสริมประโยชน์อันสูงสุดของประชาชนและวงศ์ตระกูลทั้งหลายของโลก ในอีกตอนหนึ่งพระองค์ได้ทรงประกาศว่า: เขาไม่ควรภูมิใจว่าเขารักประเทศตัวเองแต่เขาควรภูมิใจว่าเขารักโลกโดยทั้งหมด โลกนี้เป็นเพียงแผ่นดินเดียวและมนุษยชาติคือพลเมืองของประเทศนั้น

Gleaning from the writings of Baha?u?llah ????????????????????????????????????????????????????P. 249-250

ขอความประเสริฐจงมีแด่ความรุ่งโรจน์ของพระผู้เป็นเจ้า เราขอวิงวอนและยึดมั่นในความหวังว่าพระองค์จะทรงโปรดช่วยเหลือการแสดงปรากฏของความมั่งคั่ง อานุภาพ และรุ่งอรุณของอำนาจปกครองและความรุ่งโรจน์ ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเหลือกษัตริย์ทั้งหลายของโลกให้สถาปนาสันติภาพรองโดยพระกรุณาของพระองค์ แท้จริงแล้วนี้คือวิถีทางอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะรับประกันความสงบของชาติทั้งหลาย ?เป็นหน้าที่ของประมุขทั้งหลายของโลกที่จะสามัคคีกัน ยึดมั่นต่อสันติภาพนี้ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่สุดที่จะปกป้องมนุษยชาติทั้งหมด ขอพระผู้เป็นเจ้าจงช่วยเหลือพวกเขา มันคือความหวังของเราว่าพวกเขาจะลุกขึ้นเพื่อบรรลุในสิ่งที่จะนำไปสู่ความผาสุกของมนุษย์ เป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะเรียกประชุมสภาที่รวมชาติไว้ทั้งหมด ซึ่งพวกเขาหรือตัวแทนของพวกเขาจะเข้าร่วมประชุมและบังคับใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นต่อการสถาปนาเอกภาพและความปรองดองในหมู่มนุษย์ พวกเขาต้องละทิ้งอาวุธสงครามทั้งหลายและหันมาใช้เครื่องมือในการผดุงขึ้นใหม่อย่างเป็นสากล หากกษัตริย์องค์หนึ่งลุกขึ้นปะทะอีกฝ่ายหนึ่ง กษัตริย์ที่เหลือทั้งหมดต้องลุกขึ้นยับยั้งเขา เมื่อนั้นกองทัพและการสะสมอาวุธของแต่ละประเทศ ถ้าพวกเขาบรรลุถึงพระพรอันล้ำเลิศนี้ ประชาชนของแต่ละชาติก็จะประกอบอาชีพด้วยความสงบและพึงพอใจ เสียงคร่ำครวญและความทุกข์โศกของมนุษย์ก็จะเงียบลง เราวิงวอนขอให้พระผู้เป็นเจ้าช่วยเหลือพวกเขาให้ทำตามพระประสงค์และความยินดีของพระองค์ โดยแท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้เป็นนายแห่งบัลลังก์เบื้องบนและพิภพเบื้องล่างแห่งโลกนี้และโลกหน้า เป็นสิ่งดีกว่าและเหมาะสมกว่าที่กษัตริย์ผู้ทรงเกียรติทั้งหลายควรเข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าวนี้และประกาศกฤษฎีกาทั้งหลายของพวกเขา กษัตริย์องค์ใดที่ลุกขึ้นและดำเนินงานนี้ โดยแท้จริงแล้วในสายตาของพระผู้เป็นเจ้าเขาคือศูนย์กลางดึงดูดของกษัตริย์ทั้งปวง ขอความสุขจงมีแด่เขา และความยิ่งใหญ่จงมีแด่ความสำราญของเขา

?Epistle to the Son of the Wolf? ??P. 30

ข่าวดีข้อที่หกคือการสถาปนาสันติภาพรอง ซึ่งรายละเอียดนั้นได้เปิดเผยไว้ก่อนนี้แล้วจากปากกาอันสูงส่งที่สุดของเรา ขอความยิ่งใหญ่จงมีแด่ความสำราญของผู้ที่สนับสนุนและปฏิบัติตามสิ่งที่บัญญัติไว้โดยพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงปรีชาญาณ

?Tablets of Baha?u?llah revealed after the Kitab-i-Aqdas? ????????????????????????????????????????P. 23

ความพอประมาณในทุกเรื่องนั้นเป็นสิ่งที่พึงปรารถนา ถ้าสิ่งใดกระทำจนเกินควรจะเป็นบ่อเกิดแห่งความชั่วร้าย จงพิจารณาดูอารยธรรมของโลกตะวันตกว่าได้ก่อกวนและสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนของโลกเพียงไร เครื่องกลอันร้ายกาจได้รับการประดิษฐ์ขึ้นและใช้เป็นอาวุธทำลายล้างอันโหดร้ายอย่างที่ไม่เคยเป็นพยานหรือได้ยินมาก่อน การชำระล้างความชั่วที่ฝังรากลึกและท่วมท้นนี้ไม่สามารถบังเกิดผลได้นอกจากว่าประชาชนทั้งหลายของโลกจะสามัคคีร่วมกันปฏิบัติตามความมุ่งหมายเดียวกันและยอมรับในศาสนาสากลเดียวกัน จงเอียงหูของเจ้าต่อเสียงเรียกร้องของพระผู้ทรงประทุษร้ายนี้และยึดมั่นในสันติภาพรอง

?Tablets of Baha?u?llah revealed after the Kitab-i-Aqdas? ??P. 69

ในความล้นเหลือของความกรุณาและความรักใคร่เมตตาของเรา เราได้เปิดเผยโดยเฉพาะต่อผู้ปกครองและรัฐมนตรีทั้งหลายของโลกในสิ่งที่นำไปสู่ความปลอดภัยและความคุ้มครอง ความสงบและสันติภาพเพื่อว่าบางทีเด็กๆ ทั้งหลายของมนุษย์จะได้ปลอดภัยจากความชั่วร้ายของการกดขี่ โดยแท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงคุ้มครอง พระผู้ทรงช่วยเหลือ พระผู้ทรงประทานชัยชนะ เป็นหน้าที่ของสมาชิกของสภายุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้าที่จะต้องตรึงสายตาทั้งกลางวันและกลางคืนไปยังสิ่งที่ได้ฉายออกมาจากปากกาแห่งความรุ่งโรจน์สำหรับการอบรมประชาชนทั้งหลาย การก่อสร้างชาติทั้งหลาย การคุ้มครองมนุษย์และปกป้องเกียรติของเขา

Tablets of Baha?u?llah revealed after the Kitab-i-Aqdas ????????????????????????????????????????P. 125

บรรดาผู้ที่ได้ครอบครองความมั่งคั่งและได้รับการประสาทด้วยอำนาจต้องแสดงความนับถืออย่างลึกซึ้งที่สุดต่อศาสนา แท้จริงแล้วศาสนาคือประทีปอันส่องสว่างและปราการอันมิอาจตีแตกได้สำหรับการปกป้องและความผาสุกของประชาชนทั้งหลายของโลก เพราะความเกรงกลัวในพระผู้เป็นเจ้าได้ผลักดันมนุษย์ให้ยึดมั่นอยู่กับสิ่งดีงามและรังเกียจสิ่งชั่วร้าย หากตะเกียงของศาสนาถูกทำให้มืดมน ความไม่มีระเบียบและความสับสนจะตามมา และประทีปแห่งความถูกต้องและความยุติธรรม แห่งความสงบและสันติภาพ จะหยุดส่องแสง นี้จะเป็นพยานต่อมนุษย์ทุกคนที่มีความเข้าใจอันแท้จริง

Tablets of Baha?u?llah revealed after the Kitab-i-Aqdas ? P. 125

เราได้บัญชาให้มนุษยชาติทั้งหมดสถาปนา สันติภาพรอง ซึ่งเป็นวิธีอันแน่นอนที่สุดที่จะคุ้มครองมนุษยชาติ ประมุขทั้งหลายของโลกต้องพร้อมใจกันยึดมั่นในสิ่งนี้เพราะนี่คือเครื่องมืออันสำคัญที่สุดที่สามารถรับประกันความปลอดภัยและความผาสุกของประชาชนและชาติทั้งหมด โดยแท้จริงแล้วพวกเขาคือการแสดงปรากฏของอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าและรุ่งอรุณแห่งอำนาจของพระองค์ เราขอวิงวอนพระผู้ทรงอำนาจ ขอทรงโปรดช่วยพวกเขาในสิ่งที่จะนำไปสู่ความผาสุกของประชาชนของพวกเขา คำอธิบายอย่างละเอียดในเรื่องนี้ได้จารึกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยปากกาแห่งความรุ่งโรจน์ ขอความดีจงมีแต่ผู้ที่ปฏิบัติตาม

Tablets of Baha?u?llah revealed after the Kitab-i-Aqdas P. 126

จุดมุ่งหมายของศาสนาตามที่ได้เปิดเผยจากสวรรค์แห่งพระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าคือเพื่อที่จะสถาปนาความสามัคคีและความปรองดองในหมู่ประชาชนทั้งหลายของโลก จงอย่าทำให้เป็นสาเหตุของความแตกร้าวและการทะเลาะวิวาท ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าและกฎของพระองค์คือเครื่องมืออันทรงอำนาจสูงสุดและเป็นวิธีอันแน่นอนที่สุดสำหรับการรุ่งอรุณของแสงแห่งความสามัคคีในหมู่มนุษย์ ความก้าวหน้าของโลก การพัฒนาของชาติทั้งหลาย ความสงบของประชาชนและสันติภาพสำหรับทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลกนี้ เหล่านี้อยู่ในหลักธรรมและเทศบัญญัติทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้า ศาสนาให้ของขวัญอันล้ำค่าที่สุดแก่มนุษย์ ให้ถ้วยแห่งความเจริญรุ่งเรือง ให้ชีวิตนิรันดร์และให้คุณประโยชน์อันมิรู้สิ้นแก่มนุษยชาติ หัวหน้าและผู้ปกครองทั้งหลายของโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกของสภายุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้าจำเป็นต้องพยายามอย่างเต็มกำลังที่จะปกป้องฐานะของศาสนา ส่งเสริมประโยชน์และเชิดชูความสูงส่งของศาสนาต่อสายตาทั้งหลายของโลก ในลักษณะนี้เป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะสืบสวนถึงสภาพทั้งหลายของประชาชนและทำความคุ้นเคยกับธุรกิจและกิจกรรมทั้งหลายของชุมชนต่างๆ ในอาณาจักรของพวกเขา เราขอเรียกร้องประมุขและผู้ปกครองทั้งหลายของโลกผู้ซึ่งเป็นการแสดงปรากฏอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า ให้ตื่นตัวขึ้น และกระทำทุกอย่างที่พวกเขาสามารถ เพื่อว่าบางทีพวกเขาจะได้ขับความบาดหมางออกไปจากโลกนี้และส่องสว่างโลกด้วยแสงแห่งความปรองดอง

Tablets of Baha?u?llah revealed after the Kitab-i-Aqdas ????P. 129-130

ความหวังของเราคือผู้นำศาสนาและผู้ปกครองทั้งหลายของโลกจะสามัคคีกัน ลุกขึ้นปฏิรูปและกู้โชคชะตาของยุคนี้ ขอให้พวกเขาคิดคำนึงถึงความจำเป็นและปรึกษากันอย่างละเอียดและด้วยความห่วงใย แล้วจึงให้การรักษาที่จำเป็นต่อโลกที่เจ็บป่วยและได้รับความยุ่งยาก

พระผู้เป็นเจ้าทรงกล่าวว่า : ฟ้าแห่งความฉลาดสุขุมได้รับการส่องสว่างด้วยสองดวงประทีปแห่งการปรึกษาหารือและความเห็นอกเห็นใจพวกเจ้าจงปรึกษากันในทุกเรื่องเนื่องด้วยการปรึกษาหารือคือตะเกียงแห่งการนำทางและเป็นผู้ให้ความกระจ่าง

Tablets of Baha?u?llah revealed after the Kitab-i-Aqdas P. 168

???????????พวกเจ้าจงปรึกษาร่วมกันและให้ความสนใจของพวกเจ้าอยู่แต่ในสิ่งที่จะอำนวยประโยชน์แก่มนุษยชาติและปรับสภาพความเป็นอยู่ของมนุษยชาติให้ดีขึ้น…..จงถือว่าโลกนี้เป็นดั่งร่างกายมนุษย์ซึ่งถึงแม้ว่าจะถูกสร้างขึ้นมาสมบูรณ์ ก็ได้รับความยุ่งยากโดยโรคภัยร้ายแรงต่างๆ จากสาเหตุมากมาย ไม่มีสักวันเดียวที่มันได้พักผ่อน ไม่เพียงแต่เท่านั้นความเจ็บปวดทั้งหลายยิ่งทวีรุนแรงมากขึ้นด้วยเหตุที่ตกอยู่ภายใต้การรักษาของนายแพทย์ผู้ไร้ความเชี่ยวชาญทั้งหลาย ผู้ซึ่งเร่งควบอยู่บนหลังม้าแห่งความอยากทางโลกีย์ของพวกเขาและได้กระทำผิดพลาดอย่างสาหัส และถ้าในเวลาหนึ่งโดยการดูแลของนายแพทย์ผู้มีความสามารถ อวัยวะส่วนหนึ่งได้รับการบำบัด อวัยวะที่เหลือยังคงเจ็บป่วยอยู่เหมือนเดิม…..สิ่งที่พระผู้เป็นนายได้ทรงบัญญัติไว้ให้เป็นดั่งการรักษาอันมีประสิทธิภาพและเครื่องมืออันทรงอำนาจสูงสุด สำหรับการรักษาทั่วทั้งโลกคือ การประสานสามัคคีประชาชนทั้งหมดในความมุ่งหมายสากลและในศาสนาเดียวกัน สิ่งนี้ไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จได้เว้นแต่อำนาจของ นายแพทย์ ผู้ชำนาญ ผู้ทรงพลานุภาพและผู้ทรงได้รับการดลใจ โดยแท้จริงแล้วนี้คือสัจธรรมและที่นอกเหนือไปจากนี้มิใช่อื่นใดแต่เป็นความผิดพลาด…..

จงพิจารณาดูวันเหล่านี้ซึ่งพระผู้ทรงความงามบรมโบราณผู้ทรงพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุด ได้ถูกส่งมาเพื่อให้ชีวิตใหม่และประสานสามัคคีมนุษยชาติ จงดูซิว่าพวกเขาได้ชักดาบขึ้นต่อต้านพระองค์อย่างไรและกระทำในสิ่งที่ทำให้พระวิญญาณผู้ซื่อสัตย์ต้องสั่นสะท้าน และเมื่อไรที่เราพูดกับเขา : ดูซิ พระผู้ทรงปฏิรูปแห่งพิภพได้เสด็จมาแล้ว พวกเขาได้ตอบว่า : แท้จริงแล้วเขาคือผู้กระพือความชั่วร้าย

Extracts from the Tablet of Queen Victoria

?The World Order of Baha?u?llah? ?P. 39-40, 163

คำกล่าวของพระบาฮาอุลลาห์

ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระผู้เป็นเจ้าที่ท่านได้มาถึง…..ท่านได้มาพบกับนักโทษและผู้ถูกเนรเทศ…..เราปรารถนาแต่สิ่งดีงามของโลกและความสุขของชาติทั้งหลาย กระนั้นพวกเขาถือว่าเราเป็นผู้กระพือการทะเลาะวิวาทและปลุกปั่นการกบฏ ควรแก่การถูกพันธนาการและถูกเนรเทศ…..ชาติทั้งหมดควรมีความศรัทธาเป็นหนึ่งเดียวกันและมนุษย์ทั้งหมดควรเป็นพี่น้องกัน พันธะแห่งความรักและความสามัคคีระหว่างบุตรทั้งหลายของมนุษย์ควรได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแกร่ง ความแตกต่างทางศาสนาควรสิ้นสุดและความแตกแยกของเชื้อชาติควรล้มเลิก ? สิ่งนี้มีภัยอันใด…..กระนั้นมันจะต้องเป็นไป การทะเลาะวิวาทอันไร้ประโยชน์และสงครามอันทำลายล้างเหล่านี้จะผ่านพ้นไป และสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด จะบังเกิดขึ้น…..ท่านที่อยู่ในยุโรปไม่ต้องการสิ่งนี้หรือ นี่มิใช่สิ่งที่พระคริสต์ได้ทรงทำนายไว้หรือ…..กระนั้นเราเห็นกษัตริย์และผู้ปกครองทั้งหลายของท่านทุ่มเททรัพย์สมบัติอย่างฟุ่มเฟือยในการทำลายล้างมนุษยชาติมากกว่าที่ใช้ในสิ่งที่นำความสุขให้แก่มนุษยชาติ….. การทะเลาะวิวาทเหล่านี้ การหลั่งเลือดและความบาดหมางนี้ต้องสิ้นสุด และมนุษยชาติทั้งหมดต้องเป็นดังวงศ์ตระกูลและครอบครัวเดียวกัน….มนุษย์จงอย่าภูมิใจว่าเขารักประเทศของเขา แต่เขาควรภูมิใจว่าเขารักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน…..

Words spoken to E.G.Brown, from his pen portrait of Baha?u?llah

?Baha?u?llah and the New Era? ??P. 37

ธรรมนิพนธ์ของพระอับดุลบาฮา

เจ้าจงรู้ไว้ด้วยว่าอานุภาพทั้งหมดที่รวมกันก็ไม่พอที่จะสถาปนาสันติภาพสากลหรือต้านทานอำนาจครอบงำในทุกยุคและทุกฤดูกาลของสงครามอันไม่จบสิ้นเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าอานุภาพสวรรค์และอำนาจของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จะชักธงแห่งความรักและสันติภาพขึ้นบนยอดสุดของภูเขา และบนปราสาทแห่งความตระหง่านและอำนาจธงเหล่านี้จะโบกด้วยลมรุนแรงที่พัดมาด้วยพระเมตตาปรานีของพระผู้เป็นเจ้า

Selections from the Writings of ?Abdu?l-Baha? P. 174

เจ้าจงมั่นใจเถิดว่านี่คือยุคแห่งธรรม อาณาจักรแห่งสันติภาพจะก่อเทพมณเฑียรขึ้นบนยอดสุดของโลกและบัญญัติทั้งหลายของ เจ้าชาย แห่งสันติภาพจะมีอำนาจเหนือเส้นโลหิตและเส้นประสาทของประชาชนทั้งหมดอย่างที่จะดึงดูดชาติทั้งหมดของโลกให้เข้ามาสู่ร่มเงาที่กำบังของพระองค์ จากน้ำพุแห่งความรัก แห่งสัจจะและความสามัคคี ผู้เลี้ยงแกะที่แท้จริงจะให้แกะของเขาดื่ม

ดูกร คนรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า สันติภาพต้องได้รับการสถาปนาในแต่ละบุคคลก่อนจนกระทั่งจะนำไปสู่สันติภาพระหว่างชาติในท้ายที่สุด ดูกร บาไฮศาสนิกชนทั้งหลาย พวกเจ้าจงพยายามด้วยอำนาจของพวกเจ้าทั้งหมด โดยอานุภาพแห่งพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อจะสร้างความรักอันแท้จริง การคบค้ากันอย่างมีศีลธรรมและพันธะอันยั่งยืนในหมู่บุคคลทั้งหลาย นี้คืองานของเจ้า

Selections from the Writings of ?Abdu?l-Baha? P. 246

???????????ตราบใดที่อคติเหล่านี้ (อคติทางศาสนา, เชื้อชาติ, ชาติ และการเมือง) ยังอยู่ สงครามอันน่ากลัวจะคงอยู่ต่อไป

การที่จะแก้ไขสภาพนี้จะต้องมีสันติภาพสากล การที่จะทำให้สันติภาพบังเกิดขึ้น ศาลสูงสุดต้องได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นตัวแทนของรัฐบาลและประชาชนทั้งหมด ปัญหาของชาติและระหว่างชาติต้องเสนอไปยังศาลนี้ และทั้งหมดต้องดำเนินการตามบัญชาของศาลนี้ หากรัฐบาลไหนหรือประชาชนกลุ่มใดไม่เชื่อฟัง ขอให้โลกทั้งหมดลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลหรือประชาชนนั้น

Selections from the Writings of ?Abdu?l-Baha? P. 249

ปัจจุบันสันติภาพสากลเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่เอกภาพของมโนธรรมเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อว่ารากฐานของการสถาปนาสันติภาพจะมั่นคงและโครงร่างของมันจะแข็งแรง

ด้วยเหตุนี้ พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงอธิบายปัญหาของสันติภาพนี้ขณะเมื่อพระองค์ถูกคุมขังในป้อมเมืองอัคคา ถูกประทุษร้ายและถูกจำคุก…..

หนึ่งในบรรดาคำสั่งสอนของพระองค์คือการประกาศสันติภาพสากล…..คำสั่งสอนของพระบาฮาอุลลาห์มิได้ถูกจำกัดอยู่ในเรื่องการสถาปนาสันติภาพสากล ได้รวมคำสั่งสอนมากมายที่เสริมและสนับสนุนสันติภาพสากลนี้…..

โดยรายละเอียดแล้วคำสั่งสอนเหล่านี้มีมากมาย หลักธรรมนานาประการเหล่านี้ซึ่งประกอบกันขึ้นเป็นรากฐานอันยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับความปิติของมนุษยชาติและเป็นความกรุณาของพระผู้ทรงเมตตา ต้องรวมเข้ากับเรื่องของสันติภาพสากลเพื่อว่าผลจะได้บังเกิดขึ้น มิฉะนั้น การบังเกิดขึ้นของสันติภาพสากลโดยตัวมันเองในโลกของมนุษยชาติจะเป็นสิ่งที่ยาก เนื่องด้วยคำสั่งสอนของพระบาฮาอุลลาห์ได้รวมเข้ากับสันติภาพสากล จึงเป็นดั่งโต๊ะที่เพียบพร้อมไปด้วยอาหารทุกชนิดที่สดและโอชะ ที่โต๊ะแห่งความอารีอันไม่สิ้นสุดนี้ทุกคนสามารถพบสิ่งที่เขาปรารถนา ถ้าปัญหาถูกจำกัดอยู่เฉพาะในเรื่องของสันติภาพสากล ผลอันน่าพิศวงตามที่คาดหวังและปรารถนาจะไม่บรรลุผลสำเร็จ ขอบเขตของสันติภาพสากลต้องเป็นดังว่าทุกชุมชนและทุกศาสนาจะสามารถพบความปรารถนาอันสูงสุดของพวกเขาเป็นจริงอยู่ในนั้น คำสั่งสอนของพระบาฮาอุลลาห์เป็นดังว่าชุมชนทั้งหมดของโลก ไม่ว่าจะเป็นชุมชนทางศาสนา ทางการเมือง ทางจริยธรรม เป็นของโบราณหรือของสมัยใหม่ จะสามารถพบการแสดงออกของความปรารถนาอันสูงสุดของพวกเขาอยู่ในคำสั่งสอนของพระองค์…..

ตัวอย่างเช่น ปัญหาเกี่ยวกับสันติภาพสากลซึ่งพระบาฮาอุลลาห์ทรงกล่าวว่าศาลสูงสุดจะต้องได้รับการสถาปนาขึ้น ถึงแม้องค์การสันนิบาตชาติได้เกิดขึ้นมาแล้ว กระนั้นก็ตามก็ไม่สามารถสถาปนาสันติภาพสากล แต่ศาลสูงสุดที่พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงพรรณนาไว้จะบรรลุความสำเร็จในงานอันศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วยอำนาจและอานุภาพสูงสุด และแผนของพระองค์คือดังนี้ : สภาแห่งชาติของแต่ละประเทศหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือรัฐสภาทั้งหลายควรเลือกบุคคลสองหรือสามคนที่เฟ้นอย่างดีที่สุดแล้วในชาตินั้นๆ ผู้ซึ่งทราบดีเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลทั้งหลาย และทราบถึงความจำเป็นอันสำคัญทั้งหลายของโลกแห่งมนุษยชาติในยุคนี้ จำนวนของผู้แทนเหล่านี้ควรได้สัดส่วนกับจำนวนพลเมืองของประเทศนั้นๆ การเลือกตั้งบุคคลเหล่านี้ที่คัดมาโดยสภาแห่งชาติหรือรัฐสภาจะต้องได้รับการรับรองโดยสภาสูงสุด องค์นิติบัญญัติ และคณะรัฐมนตรี และโดยประธานาธิบดีหรือกษัตริย์ ดังนั้นบุคคลเหล่านี้จะเป็นผู้ที่ได้รับเลือกจากทุกชาติและทุกรัฐบาล ศาลสูงสุดจะประกอบด้วยบุคคลเหล่านี้ และดังนี้มนุษยชาติทั้งหมดจะมีส่วนร่วมเพราะผู้แทนเหล่านี้แต่ละคนเป็นผู้แทนโดยสมบูรณ์จากชาติของเขา เมื่อศาลสูงสุดให้คำตัดสินต่อปัญหาใดๆ ระหว่างชาติ ไม่ว่าจะโดยเอกฉันท์หรือโดยเสียงส่วนใหญ่ จะไม่มีข้ออ้างใดๆ อีกต่อไปสำหรับโจทก์หรือมูลฐานการคัดค้านใดๆ ของจำเลย ในกรณีที่รัฐบาลใดหรือชาติใดถ่วงให้ช้าหรือละเลยต่อการปฏิบัติตามคำตัดสินอันมิอาจแย้งได้ของศาลสูงสุด ชาติที่เหลือทั้งหมดจะลุกขึ้นต่อต้านเขา เพราะรัฐบาลและชาติทั้งหมดคือผู้ค้ำจุนศาลสูงสุดนี้ จงพิจารณาดูว่ารากฐานนี้มั่นคงเพียงใด แต่โดยสันนิบาตที่จำกัด ความมุ่งหมายจะไม่บังเกิดขึ้นตามที่ควรจะเป็น นี่คือความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ได้กล่าวไปแล้ว

Selections from the Writings of ?Abdu?l-Baha? ?????P. 297-298, 304, 306-307

เครื่องมือของการต่อสู้ ซึ่งถ้าหากการตระเตรียมทั้งหลายดำเนินต่อไปในอัตราดังปัจจุบัน จะถึงจุดที่สงครามกลายเป็นสิ่งที่ทนไม่ได้สำหรับมนุษยชาติ

เป็นสิ่งชัดเจนตามที่ได้กล่าวไว้แล้วว่า ความรุ่งโรจน์และความยิ่งใหญ่ของมนุษย์มิได้สำคัญอยู่ที่ความกระหายเลือดและอุ้งเล็บอันแหลมคม หรือทำลายเมืองทั้งหลายและแผ่กระจายความพินาศพังทลาย สังหารกองทัพและพลเรือนอย่างทารุณ สิ่งที่หมายถึงอนาคตอันสดใสของมนุษย์คือกิตติศัพท์แห่งความยุติธรรม ความเมตตาต่อพลเมืองทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นคนชั้นสูงหรือต่ำต้อย การก่อสร้างประเทศ เมือง หมู่บ้านและตำบลทั้งหลาย การทำให้ชีวิตผ่อนคลาย สงบและเป็นสุขต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน การวางหลักการมูลฐานทั้งหลายสำหรับความก้าวหน้า การยกมาตรฐานและเพิ่มความมั่งคั่งให้กับประชากรทั้งหมด…..

The Secret of Divine Civilization ??P. 67

ความมุ่งหมายอันยิ่งใหญ่ทั้งหมดในโลกแห่งการดำรงอยู่มีการแสดงออกที่เห็นได้โดย 3 วิธี วิธีแรกคือเจตนา วิธีที่สองคืออำนาจ วิธีที่สามคือการปฏิบัติ ปัจจุบันบนโลกนี้มีผู้คนมากมายที่เป็นผู้ส่งเสริมสันติภาพและความปรองดอง และปรารถนาต่อการบังเกิดขึ้นของความเป็นอันหนึ่งเดียวกันและเอกภาพของโลกแห่งมนุษยชาติ แต่เจตนานี้จำเป็นต้องมีอานุภาพขับเคลื่อนเพื่อว่าจะแสดงปรากฏออกมาในโลกแห่งการดำรงอยู่ ในยุคนี้คำสั่งสอนแห่งสวรรค์และคำเคี่ยวเข็ญอันเลิศของพระบาฮาอุลลาห์ได้แพร่กระจายความมุ่งหมายอันยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ และอำนาจแห่งอาณาจักรสวรรค์ได้สนับสนุนและช่วยเหลือการบังเกิดขึ้นของเจตนานี้ ดังนั้นถึงแม้กำลังและความคิดร่วมกันทั้งหมดของชาติทั้งหลายในโลกโดยตัวเองจะไม่สามารถบรรลุสู่จุดมุ่งหมายอันประเสริฐนี้ อานุภาพของพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าได้ทะลุผ่านสรรพสิ่งทั้งหมดและความช่วยเหลือจากอาณาจักรสวรรค์คงอยู่อย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้าจะเป็นหลักฐานและเห็นได้ชัดว่า ธงแห่งสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดคือคำสั่งสอนของพระบาฮาอุลลาห์ และเทพมณเฑียรแห่งเอกภาพและความปรองดองในหมู่ชาติทั้งหลายคือเทพมณเฑียรแห่งอาณาจักรสวรรค์ เพราะภายในนั้นเจตนา อำนาจ และการปฏิบัติ ถูกนำมารวมเข้าด้วยกัน การบังเกิดขึ้นของทุกสิ่งในโลกแห่งการดำรงอยู่ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 อย่างนี้

Extract from a newly Translated Tablet of ?Abdu?l-Baha?

เจ้าจงอย่าหยุดพักแม้เพียงชั่วขณะ ?และจงเดินทางให้ไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ไปยังทางเหนือและทางใต้ของประเทศ ?และเรียกร้องมนุษย์ทั้งหมดให้มาที่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของโลกแห่งมนุษยชาติและมาที่สันติภาพสากลโดยกล่าว่า : ดูกร ประชาชนทั้งหลาย ?พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงวางรากฐานแห่งสันติภาพสากลเมื่อกว่าร้อยปีก่อน พระองค์ทรงถึงกับส่งสาส์นไปยังกษัตริย์ทั้งหลายซึ่งในสาส์นนั้นพระองค์ได้ประกาศว่าสงครามจะทำลายรากฐานของโลกแห่งมนุษยชาติ สันติภาพจะนำมาซึ่งชีวิตนิรันดร์ ?และภัยพิบัติอันร้ายแรงรอคอยมนุษยชาติอยู่ สามปีก่อนที่สงครามโลกจะเกิดขึ้น พระอับดุลบาฮาได้ทรงเดินทางไปอเมริกาและยุโรป เกือบทั้งหมดซึ่งพระองค์ได้ทรงกล่าวต่อที่ชุมชน สมาคม และในโบสถ์ทั้งหลาย วิงวอนว่า : ดูกร ชุมนุมชนของมนุษย์ ทวีปยุโรปได้กลายเป็นคลังอาวุธอันแท้จริงที่เต็มไปด้วยวัตถุระเบิด มีวัตถุทำลายล้างมากมายซ่อนอยู่และพร้อมที่จะระเบิดขึ้นด้วยประกายไฟเพียงครั้งเดียว ซึ่งจะทำให้โลกทั้งหมดสั่นสะเทือน ดูกร มนุษย์ผู้มีความเข้าใจทั้งหลาย จงตื่นตัวขึ้นเพื่อว่าบางทีการสะสมวัตถุเหล่านี้อาจจะไม่ระเบิดขึ้น แต่คำวิงวอนนี้มิได้รับการเอาใจใส่และผลต่อมาคือ สงครามผลาญชีวิตนี้ได้ระเบิดขึ้น

บัดนี้มนุษยชาติส่วนใหญ่ตระหนักแล้วว่า สงครามเป็นความหายนะอันยิ่งใหญ่เพียงไร และสงครามทำให้มนุษย์กลายเป็นสัตว์ดุร้ายอย่างไร ทำให้เมืองอันเจริญและหมู่บ้านทั้งหลายกลายเป็นซากปรักหักพัง และทำให้รากฐานของโครงร่างของมนุษยชาติแตกทลาย บัดนี้เนื่องด้วยมนุษย์ทั้งหมดได้ตื่นขึ้นแล้วและหูของเขามีความเอาใจใส่ จึงเป็นเวลาสำหรับประกาศสันติภาพสากล ซึ่งเป็นสันติภาพที่ตั้งอยู่บนรากฐานแห่งธรรมและความยุติธรรม เพื่อว่ามนุษยชาติจะไม่ต้องถูกเผยต่ออันตรายมากกว่านี้ในอนาคต บัดนี้คือรุ่งอรุณของสันติภาพสากลและแสงแรกเริ่มกำลังเริ่มต้นปรากฏขึ้น เราหวังอย่างตั้งใจจริงว่าดวงดาวอันโชติช่วงจะส่องรัศมีอาบไปทั่วตะวันออกและตะวันตก การสถาปนาสันติภาพสากลเป็นไปไม่ได้นอกจากโดยอานุภาพของพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า…..

Extract from previously untranslated Tablet of ?Abdu?l-Baha?

ความไม่มีระเบียบและความสับสนในโลกกำลังทวีขึ้นทุกวัน มันจะไปถึงความรุนแรงระดับหนึ่งที่ทำให้โครงร่างของมนุษยชาติไม่สามารถทนได้ เมื่อนั้นมนุษย์ทั้งหลายจึงจะตื่นขึ้นและตระหนักว่าศาสนาคือปราการอันมิอาจตีแตกได้และประทีปอันแจ่มชัดของโลก และกฎ คำเคี่ยวเข็ญและคำสั่งสอนทั้งหลายของศาสนาคือบ่อเกิดแห่งชีวิตบนโลก

Words of ?Ablu?l-Baha? Quoted in a letter of the Universal House of Justice

dated of February 1980

คำกล่าวของพระอับดุลบาฮา

ปัจจุบันโลกแห่งมนุษยชาติจำเป็นต้องมีเอกภาพและไมตรีระดับนานาชาติ การที่จะสถาปนาหลักการมูลฐานอันยิ่งใหญ่เหล่านี้จำเป็นต้องมีอานุภาพผลักดัน เป็นที่ชัดเจนในตัวเองว่าเอกภาพของโลกมนุษย์และสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่สามารถบรรลุความสำเร็จได้โดยวิธีทางโลก ไม่สามารถสถาปนาได้โดยอำนาจทางการเมือง เพราะผลประโยชน์ทางการเมืองของชาติทั้งหลายแตกต่างกันและนโยบายทั้งหลายของประชาชนแตกขยายออกไปและขัดแย้งกัน ไม่สามารถก่อตั้งได้โดยอำนาจทางเชื้อชาติหรือความรักชาติเพราะเหล่านี้คืออำนาจของมนุษย์ซึ่งเห็นแก่ตัวและอ่อนแอ คุณลักษณะความแตกแยกของเชื้อชาติและอคติทางชาตินิยมได้ขัดขวางการบังเกิดของเอกภาพและความลงรอยนี้ ดังนั้น เป็นหลักฐานว่าการส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาณาจักรของมนุษยชาติซึ่งเป็นสาระสำคัญของคำสั่งสอนทั้งหลายของพระศาสดาทั้งหมด เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เว้นแต่โดยอานุภาพสวรรค์และลมหายใจของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ อำนาจอื่นๆ อ่อนแอเกินไปและไม่สามารถบรรลุสิ่งนี้

The Promulgation of Universal Peace ???????P.11-12

เราจะอธิษฐานขอให้ธงแห่งสันติภาพสากลได้รับการชูขึ้น ขอให้ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของโลกแห่งมนุษยชาติบังเกิดขึ้นและบรรลุความสำเร็จ ทั้งหมดนี้สามารถเป็นไปได้โดยความพยายามทั้งหลายของท่าน ขอให้ประชาธิปไตยของอเมริกานี้เป็นชาติแรกที่สถาปนารากฐานแห่งความลงรอยระดับนานาชาติ ขอให้เป็นชาติแรกที่ประกาศถึงความเป็นสากลของมนุษยชาติ ขอให้เป็นชาติแรกที่ยกธงแห่งสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด และโดยชาติแห่งประชาธิปไตยนี้ขอให้เจตนาและสถาบันทั้งหลายในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เหล่านี้ได้กระจายแผ่ไปทั่วโลก โดยแท้จริงแล้วนี้คือชาติที่ยิ่งใหญ่และน่านับถือ ที่นี่อิสรภาพได้บรรลุถึงขีดสูงสุด เจตนาทั้งหลายของประชาชนเป็นสิ่งน่าสรรเสริญที่สุด แท้จริงแล้วประชาชนของชาตินี้ควรค่าที่จะเป็นชาติแรกที่สร้างเทพมณเฑียรแห่ง สันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด และประกาศถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมนุษยชาติ เราจะวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าขอความช่วยเหลือและอำนาจเพื่อพวกท่าน

The Promulgation of Universal Peace ???????????????????????????????????????????????????????????P. 36-37

??????????ปัจจุบันความจำเป็นอันยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกแห่งมนุษยชาติคือการสิ้นสุดของความเข้าใจผิดระหว่างชาติทั้งหลาย สิ่งนี้สามารถบรรลุได้โดยเอกภาพของภาษา นอกเสียจากว่าเอกภาพของภาษาจะบังเกิดขึ้น สันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของโลกมนุษย์จะไม่สามารถจัดตั้งและสถาปนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหน้าที่ของภาษาคือการพรรณนาถึงความลึกลับและความลับทั้งหลายของหัวใจมนุษย์ หัวใจเป็นเช่นกล่องและภาษาเป็นเช่นกุญแจ เฉพาะการใช้กุญแจเท่านั้นที่เราจะสามารถเปิดกล่องและเฝ้าดูของมีค่าที่บรรจุอยู่ ?ด้วยเหตุนี้ปัญหาเกี่ยวกับภาษานานาชาติอันเป็นภาษาเสริมเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด…. คือความหวังของเราว่าสิ่งนี้จะสมบูรณ์โดยความอารีของพระผู้เป็นเจ้า และมนุษย์ที่ฉลาดทั้งหลายจะได้รับการเลือกจากประเทศต่างๆ ของโลกเพื่อที่จะจัดตั้งสภานานาชาติ ซึ่งความมุ่งหมายอันสำคัญที่สุดคือการส่งเสริมสื่อสากลของการพูด

The Promulgation of Universal Peace ???????P. 60-61

พวกเราทั้งหลายทราบว่าสันติภาพนานาชาติเป็นสิ่งดี เป็นสิ่งนำไปสู่ความผาสุกและความรุ่งโรจน์ของมนุษย์ แต่อำนาจแห่งเจตนาและการปฏิบัติเป็นสิ่งจำเป็นก่อนที่จะสถาปนาขึ้นได้ การปฏิบัติเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องด้วยศตวรรษนี้เป็นศตวรรษแห่งความสว่าง ความสามารถในการปฏิบัติได้รับการยืนยันให้แก่มนุษยชาติ หลักธรรมทั้งหลายแห่งสวรรค์จำเป็นต้องได้รับการกระจายไปในหมู่มนุษย์จนกระทั่งถึงเวลาของการปฏิบัติ แน่นอนได้เป็นดังนั้นแล้ว และบัดนี้เวลาและสภาพทั้งหลายพร้อมแล้วสำหรับการปฏิบัติ

The Promulgation of Universal Peace P. 121

??????????ปัญหาสำคัญที่สุดในยุคนี้คือสันติภาพและอำนาจตัดสินนานาชาติ สันติภาพสากลเป็นไปไม่ได้ถ้าปราศจากสิทธิการออกเสียงโดยทั่วถึง เด็กๆ ทั้งหลายได้รับการศึกษาจากผู้หญิง แม่ได้รับความลำบากและห่วงใยในการเลี้ยงดูเด็ก ผ่านความลำบากในการคลอดและการอบรมเด็ก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งยากที่สุดสำหรับแม่ทั้งหลายที่จะส่งผู้ที่เธอได้ทุ่มเทความรักและความเอาใจใส่ให้ไปสู่สนามรบ จงพิจารณาดูลูกชายคนหนึ่งที่ได้รับการเลี้ยงดูและอบรมเป็นเวลา 20 ปีโดยแม่ที่เอาใจจดจ่อ เป็นเวลากี่คืนที่เธอนอนไม่หลับและกระวนกระวายเพียงไหนเป็นเวลากี่วันที่เธอเฝ้ากังวลเพียงไร! โดยการเลี้ยงดูเขาผ่านอันตรายและความยากลำบากทั้งหลายจนมาสู่วัยเติบโตเต็มที่ เป็นความเจ็บปวดเพียงไหนที่จะสละชีวิตเขาไปในสนามรบ ด้วยเหตุนี้แม่ทั้งหลายจะไม่สนับสนุนให้มีสงครามหรือพอใจกับมัน ดังนั้น เมื่อผู้หญิงเข้าร่วมอย่างเต็มที่และเท่าเทียมในธุรกิจทั้งหลายของโลก เมื่อพวกเธอได้เข้าสู่สมรภูมิของกฎหมายและการปกครองอย่างมั่นใจและสามารถ ?สงครามจะสิ้นสุดลงเพราะผู้หญิงจะเป็นอุปสรรคและเครื่องกีดขวางมันนี้คือความจริงและปราศจากข้อสงสัย

The Promulgation of Universal Peace ????P. 134-135

มันได้บังเกิดขึ้นแล้ว อำนาจทั้งหลายของโลกไม่สามารถต้านทานอภิสิทธิ์และพรทั้งหลายที่พระผู้เป็นเจ้าได้กำหนดให้ไว้สำหรับศตวรรษอันยิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์นี้ เป็นความจำเป็นและเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งของกาลเวลา….ขอให้ศตวรรษนี้เป็นดวงอาทิตย์ของศตวรรษที่แล้วมาทั้งหลาย ซึ่งความโชติช่วงจะคงอยู่ตลอดกาล เพื่อว่าในกาลสมัยที่จะมาถึงพวกเขาจะสรรเสริญศตวรรษที่ยี่สิบ โดยกล่าวว่าศตวรรษที่ยี่สิบ คือคือศตวรรษแห่งความสว่าง ศตวรรษที่ยี่สิบ คือศตวรรษแห่งชีวิต ศตวรรษที่ยี่สิบ คือศตวรรษแห่งสันติภาพนานาชาติ ศตวรรษที่ยี่สิบ คือศตวรรษแห่งพระพรสวรรค์ และศตวรรษที่ยี่สิบ ได้ทิ้งร่องรอยทั้งหลายไว้ซึ่งจะคงอยู่ไปชั่วกาลนาน

The Promulgation of Universal Peace ????P. 125-126

????????????บัดนี้ศตวรรษที่ยี่สิบ อันรุ่งโรจน์และสุกใสได้รุ่งอรุณแล้ว และความอารีแห่งสวรรค์กำลังแผ่รังสีไปทั่วทุกแห่งหน…..

โดยแท้จริงแล้วสามารถเรียกได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์ของศตวรรษทั้งหลายเพราะเป็นศตวรรษที่เต็มไปด้วยการแสดงปรากฏของสิ่งมหัศจรรย์ เวลาได้มาถึงแล้วคือเวลาที่มนุษยชาติทั้งหมดจะได้รับการประสานสามัคคี ที่ทุกเชื้อชาติจะจงรักภักดีต่อปิติภูมิเดียวกัน ศาสนาทั้งหมดจะกลายเป็นศาสนาเดียว และอคติทางเชื้อชาติและศาสนาจะตายไป คือวันที่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมนุษยชาติจะยกธงของสันติภาพนานาชาติ ประดุจเวลาเช้าที่อาบโลกด้วยแสงของมัน

The Promulgation of Universal Peace P. 153

พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงประกาศและจัดหาหนทางซึ่งความเป็นปรปักษ์และความแตกร้าวจะถูกขจัดออกไปจากโลกมนุษย์ พระองค์มิได้ทรงเหลือมูลเหตุหรือความเป็นไปได้ใดๆ ไว้สำหรับการทะเลาะวิวาทหรือความไม่ลงรอย

ประการแรกพระองค์ได้ทรงประกาศถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมนุษยชาติและให้คำสั่งสอนของศาสนาเป็นพิเศษสำหรับสภาพทั้งหลายของมนุษยชาติที่เป็นอยู่นี้ รูปแบบแรกของความแตกร้าวเกิดขึ้นมาจากความแตกแยกทางศาสนา พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงให้คำสั่งสอนอย่างละเอียดแก่โลกอันจะนำไปสู่มิตรภาพและความสามัคคีในศาสนาตลอดศตวรรษทั้งหลายที่ผ่านมา แต่ละหลักความเชื่อทางศาสนาได้โอ้อวดถึงความเหนือกว่าและความดีเลิศของตน ลบหลู่และดูถูกหลักเหตุผลของความเชื่ออื่นๆ ทั้งหมด แต่ละกลุ่มได้ประกาศถึงความเชื่อของตนเป็นดังแสงสว่างและความเชื่ออื่นๆ ทั้งหมดเป็นความมืด นักศาสนาทั้งหลายได้พิจารณาโลกแห่งมนุษยชาติเป็นดังต้นไม้ 2 ต้น หนึ่งคือต้นไม้แห่งสวรรค์และความปรานี อีกต้นหนึ่งคือซาตาน ถือว่าพวกเขาเองเป็นกิ่งก้าน ใบไม้และผลไม้ของต้นไม้แห่งสวรรค์และคนอื่นๆ ที่มีความเชื่อต่างจากพวกเขาเป็นผลิตผลของต้นไม้ซาตาน ดังนั้นความไม่สงบและการต่อสู้การหลั่งเลือดและการทะเลาะวิวาท ได้เกิดขึ้นเรื่อยมาในหมู่พวกเขา สาเหตุอันยิ่งใหญ่ที่สุดของความห่างเหินของมนุษยชาติที่ผ่านมาคือศาสนาเพราะแต่ละกลุ่มได้ถือความเชื่อของกลุ่มอื่นว่าถูกสาปแช่งและถูกตัดขาดจากความปรานีของพระผู้เป็นเจ้า

คำสั่งสอนพิเศษของพระบาฮาอุลลาห์ได้รับการกล่าวต่อมนุษยชาติ พระองค์ทรงกล่าวว่า ?พวกเจ้าทั้งหมดคือใบไม้บนต้นไม้เดียวกัน? พระองค์มิได้ทรงกล่าวว่า ?พวกเจ้าคือใบไม้ของต้นไม้ 2 ต้น ต้นหนึ่งคือต้นไม้สวรรค์ อีกต้นคือซาตาน? พระองค์ได้ทรงประกาศว่าสมาชิกแต่ละคนของครอบครัวมนุษยชาติคือใบและกิ่งบนต้นไม้อดัม ทั้งหมดได้รับกำบังภายใต้ความปรานีที่ปกป้องและความอารักขาของพระผู้เป็นเจ้าทั้งหมดคือเด็กๆ ของพระผู้เป็นเจ้า คือผลบนต้นไม้เดียวกันแห่งความรักของพระองค์ พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตาและกรุณาเท่าเทียมกันต่อไป กิ่งและผลทั้งหมดของต้นไม้นี้ ดังนั้นไม่มีต้นไม้ซาตานใดๆ ซาตานคือผลิตผลของจิตใจของมนุษย์และสัญชาตญาณความโน้มเอียงของมนุษย์ไปสู่ความผิดพลาด….

อีกสาเหตุหนึ่งของความแตกร้าวและความไม่ลงรอยที่ผ่านมาคือการก่อตั้งนิกายต่างๆ พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงกล่าวว่า พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงประทานศาสนามาเพื่อก่อตั้งมิตรภาพในหมู่มนุษยชาติ มิใช่เพื่อก่อการทะเลาะวิวาทและความบาดหมาง เพราะทุกศาสนาตั้งอยู่บนความรักของมนุษยชาติ……นี้คือความเป็นจริงของศาสนา ถ้าเราละทิ้งคำเล่าลือและสืบสวนความเป็นจริงและความหมายภายในของคำสั่งสอนทั้งหลายแห่งสวรรค์ เราจะพบรากฐานอันเดียวกันของความรักสำหรับมนุษยชาติความหมายคือศาสนานั้นมุ่งหมายให้เป็นสาเหตุแห่งความสามัคคี ความรักและมิตรภาพ มิใช่ความบาดหมาง ความเป็นศัตรูและความห่างเหิน มนุษย์ได้ละทิ้งรากฐานของศาสนาแห่งสวรรค์และยึดอยู่กับของปลอมโดยไม่ไตร่ตรอง แต่ละชาติได้ยึดอยู่กับของปลอมของตนเอง และเพราะว่าสิ่งเหล่านี้แตกต่างกัน สงคราม การหลั่งเลือดและการทำลายล้างรากฐานของมนุษยชาติจึงเป็นผลตามมา ศาสนาที่แท้จริงตั้งอยู่บนรากฐานแห่งความรักและความลงรอย พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงกล่าวว่า ?ถ้าศาสนาเป็นเหตุของความเป็นศัตรูและความแตกร้าว….การไม่มีศาสนาจะดีกว่า…..? ดังนั้นการขจัดความแตกร้าวนี้ได้เป็นคำสอนพิเศษของพระบาฮาอุลลาห์…..

The Promulgation of Universal Peace ????P. 230-232

โลกอยู่ในความจำเป็นที่สุดที่จะต้องมีสันติภาพนานาชาติ จนกว่าจะได้รับการสถาปนา มนุษยชาติจะไม่บรรลุถึงความสงบสุขเป็นสิ่งจำเป็นที่ชาติและรัฐบาลทั้งหลายต้องจัดตั้งศาลนานาชาติซึ่งข้อโต้แย้งและข้อพิพาททั้งหลายจะถูกเสนอไปยังศาลนี้ คำตัดสินของศาลนี้จะเป็นเด็ดขาด ข้อโต้เถียงส่วนบุคคลจะได้รับการตัดสินโดยศาลประจำท้องถิ่น ปัญหาทั้งหลายระดับนานาชาติจะมาที่ศาลสากลและดังนี้สาเหตุของสงครามจะถูกขจัดไป

The Promulgation of Universal Peace P. 301

พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสร้างโลกและสร้างมนุษยชาติให้เป็นประชาชนบนโลก มนุษย์ไม่มีที่อาศัยอื่นใดอีก แต่มนุษย์เองได้เสนอตนและประกาศเส้นสมมุติแบ่งเขตแดนและจำกัดอาณาเขต ให้ชื่อว่าเยอรมัน ฝรั่งเศส รัสเซีย ฯลฯ และกระแสอันรุนแรงของเลือดอันมีค่าได้หกล้นออกมาในการป้องกันเขตแดนที่สมมุติขึ้นมาเหล่านี้โดยความหลงละเมอในชาตินิยมอันฟุ้งซ่านและจำกัด

กระนั้นก็ตาม การอ้างสิทธิในอาณาเขตหรือดินแดนบ้านเกิดเป็นเพียงการอ้างสิทธิและความผูกพันอยู่กับผงธุลีของโลก เราอาศัยอยู่บนโลกนี้เพียงไม่กี่วันแล้วก็จะนอนอยู่ใต้พื้นดินไปตลอดกาล ดังนั้นมันคือที่ฝังศพชั่วนิรันดร์ของเรา มนุษย์จะต่อสู้เพื่อหลุมฝังศพที่จะกลืนเขา เพื่อสุสานชั่วนิรันดร์หรือ มีความโง่เขลาอื่นใดที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ ต่อสู้เพื่อหลุมฝังศพของตน ฆ่าผู้อื่นเพื่อหลุมฝังศพของตน! ?ช่างเป็นความสะเพร่าเพียงไร! ช่างเป็นความหลงละเมอเพียงไร!

The Promulgation of Universal Peace P. 355

เราพบว่าสองชาติที่ยิ่งใหญ่ของทวีปอเมริกาเหนือนี้ (อเมริกาและแคนาดา) มีความสามารถและมีความก้าวหน้าสูง….คือความหวังของเราว่า ชาติทั้งสองที่น่านับถือนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสถาปนาสันติภาพนานาชาติ และความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของโลกแห่งมนุษยชาติ

The Promulgation of Universal Peace P. 318

โลกแห่งมนุษยชาติครอบครองปีกสองข้าง คือบุรุษและสตรีตราบใดที่ปีกสองข้างนี้ยังแข็งแรงไม่เท่ากัน นกจะไม่บิน จนกว่าสตรีจะบรรลุสู่ระดับเดียวกับบุรุษ จนกว่าเธอจะได้เข้าร่วมสมรภูมิเดียวกันในกิจกรรมการบรรลุความสำเร็จอันพิเศษของมนุษยชาติจะไม่บังเกิดขึ้น มนุษยชาติจะไม่สามารถบินไปถึงระดับความสูงของการบรรลุความสำเร็จอันแท้จริงเมื่อปีกทั้งสองมีความแข็งแรงเท่ากัน ได้ร่วมอภิสิทธิ์เดียวกัน การบินของมนุษย์จะสูงตระหง่านและพิเศษที่สุด ด้วยเหตุนี้สตรีต้องได้รับการศึกษาเช่นเดียวกับบุรุษและความไม่เท่าเทียมกันจะได้รับการปรับด้วยวิธีนี้สตรีที่เปี่ยมไปด้วยคุณความดีเช่นเดียวกับบุรุษและขึ้นสู่ในทุกระดับความสำเร็จของบุรุษ จะกลายเป็นผู้เท่าเทียมกับบุรุษ จนกว่าความเท่าเทียมนี้จะได้รับการสถาปนา ความก้าวหน้าและการบรรลุความสำเร็จอันแท้จริงของมนุษยชาติจะไม่เป็นไปอย่างสะดวก

เหตุผลสนับสนุนอันเป็นรากฐานของสิ่งนี้คือดังต่อไปนี้ : ผู้หญิงมีลักษณะเป็นศัตรูกับสงคราม เธอเป็นผู้สนับสนุนสันติภาพ เด็กทั้งหลายได้รับการเลี้ยงดูอบรมโดยแม่ผู้ซึ่งเป็นคนแรกที่ให้หลักการศึกษาและตรากตรำอย่างพากเพียรเพื่อพวกเขา จงพิจารณาดูตัวอย่างเช่น แม่ผู้ที่เลี้ยงดูลูกชายอย่างทะนุถนอมมาเป็นเวลายี่สิบปีจนถึงวัยเติบโตเต็มที่ แน่นอนเธอจะไม่ยินยอมให้ลูกชายถูกฉีกขาดสะบั้นและถูกฆ่าในสนามรบ ด้วยเหตุนี้ขณะที่สตรีคืบหน้าไปสู่ระดับเดียวกับบุรุษในด้านอำนาจและอภิสิทธิ์ด้วยสิทธิออกเสียงและการควบคุมการปกครองของมนุษย์ แน่นอนที่สุดสงครามจะสิ้นสุด เพราะโดยธรรมชาติแล้วสตรีคือผู้อุทิศสูงสุดและผู้สนับสนุนที่ซื่อสัตย์ของสันติภาพนานาชาติ

The Promulgation of Universal Peace P. 375

สันติภาพสากลจะได้รับการสถาปนาขึ้นอย่างไร?

โดยการให้การศึกษาสาธารณชนให้มีความสำนึกในสันติภาพปัจจุบันการบังเกิดสันติภาพอย่างบริบูรณ์คือยาครอบจักรวาลสำหรับทุกโรค

อะไรคือโรคเหล่านั้น?

หนึ่งในโรคเหล่านี้คือความยากจนลงของชาวนาและชนชั้นกลางเพราะภาระอันหนักเหลือทนของภาษีสงคราม คลื่นของความบ้าคลั่งทางทหารนี้ได้ขึ้นถึงยอดแล้ว และจะลดลงในไม่ช้า รายได้ของชาวนาและประชาชนถูกนำไปโดยกองกำลังทหารของรัฐบาลและใช้จ่ายอย่างโง่เขลาเพื่อเครื่องมือทำลายล้างอันไร้ประโยชน์ ความหวังของทุกรัฐบาลมืดมนขึ้นทุกปี เพราะงบประมาณสงครามของทุกรัฐบาลกำลังเพิ่มขึ้นโดยไม่คำนึงถึงสัญญาณอันเร่าร้อนของความไม่สงบทางสังคมและกลียุคทางอุตสาหกรรม ประชาชนกำลังเดือดพล่านด้วยความคิดต่างๆ ของความปั่นป่วนและการขัดขืนรัฐบาล ภาระนี้เป็นสิ่งที่หนักเกินไป ความอดทนของมนุษยชาติหมดแรงเสียแล้ว พวกเขาคร่ำครวญต่อภาระอันหนักนี้และคลำหาแสงสว่างของสันติภาพและภราดรภาพท่ามกลางความมืด เสียงร้องอันน่าสงสารของพวกเขาได้ขึ้นไปสู่บัลลังก์ของพระผู้ทรงพลานุภาพ ดูซิ ดูซิ พระองค์ได้ทรงสดับฟังพวกเขา พระองค์ได้ทรงตอบคำอธิษฐานอ้อนวอนของพวกเขา รุ่งอรุณของสันติภาพได้ปรากฏขึ้นแล้ว จงยินดี! ?ดูกร ผู้แบกภาระอันหนักทั้งหลาย จงเป็นสุข จงเป็นสุข! จงอย่าร้องไห้อีกต่อไปเพราะภาระของพวกเจ้าจะได้รักการปลดออก!

From a talk to an American newspaper correspondent on board the Cedric as ?Abdu?l-Baha? approached America. ?From the Diary of Mirza Ahmad Sohrab, July, 20,1913 or Waging Peace

  1. 43-44

………เราประหลาดใจต่อความโหดร้ายของมนุษย์ที่ยังดำรงอยู่ในโลก เป็นไปได้อย่างไรที่มนุษย์ได้ต่อสู้กันแต่เช้าจนมืดค่ำ ฆ่ากันและกันหลั่งเลือดเพื่อมนุษย์ของเขา และเพื่อจุดประสงค์อันใด เพื่อที่จะครอบครองดินแดนส่วนหนึ่งของโลก! ?แม้แต่สัตว์ทั้งหลายเมื่อต่อสู้กันยังมีสาเหตุโดยตรงและเหตุผลสมควรกว่าในการโจมตี เป็นความน่าสยองเพียงไรที่มนุษย์ผู้ซึ่งอยู่ในอาณาจักรที่สูงกว่า สามารถลงมาเข่นฆ่าและนำความทุกข์ยากมาสู่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันเพื่อจะครอบครองส่วนหนึ่งของแผ่นดิน

สิ่งมีชีวิตสูงสุดที่ถูกสร้างขึ้นมาได้ต่อสู้กันเพื่อจะให้ได้สิ่งที่ต่ำสุดนั่นคือพื้นดิน แผ่นดินมิได้เป็นของประชาชนเพียงคนหนึ่งแต่เป็นของประชาชนทั้งหมด โลกนี้มิใช่บ้านของมนุษย์แต่เป็นหลุมฝังศพของเขา คือเพื่อหลุมฝังศพของพวกเขาที่มนุษย์ทั้งหลายกำลังต่อสู้กัน ไม่มีอะไรน่าขยะแขยงในโลกนี้ดังเช่นหลุมฝังศพซึ่งเป็นที่อาศัยของร่างกายเน่าเปื่อยทั้งหลายของมนุษย์

ไม่ว่าผู้พิชิตจะยิ่งใหญ่เพียงใด ไม่ว่าจะกี่ประเทศที่เขาได้กดให้เป็นทาส เขาก็ไม่สามารถที่จะเก็บส่วนใดๆ ของแผ่นดินที่ถูกล้างผลาญเหล่านี้ได้ เว้นแต่เพียงส่วนอันน้อยนิดนั่นคือหลุมฝังศพของเขา ถ้าแผ่นดินจำนวนมากขึ้นจำเป็นสำหรับการแผ่อารยธรรม (การแทนที่ธรรมเนียมอันป่าเถื่อนด้วยกฎหมายที่ยุติธรรม) แน่นอนเป็นไปได้ที่จะขยายอาณาเขตอันจำเป็นอย่างสันติ

แต่สงครามได้ก่อขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการอันทะเยอทะยานของมนุษย์ เพื่อเห็นแก่การเพิ่มพูนผลประโยชน์ทางโลกของคนจำนวนเล็กน้อย ความทุกข์ทรมานอันน่ากลัวมาสู่บ้านจำนวนนับไม่ถ้วน ทำลายหัวใจของชายและหญิงเป็นร้อยๆ

หญิงหม้ายจำนวนเท่าไรโศกเศร้าเสียดายสามีของเธอ เรื่องราวของความทารุณโหดร้ายจำนวนเท่าไรที่เราได้ยิน! เด็กกำพร้าตัวน้อยๆ จำนวนเท่าไรที่กำลังร้องไห้ต่อพ่อที่สิ้นลมหายใจ หญิงจำนวนเท่าไรที่กำลังร้องไห้ต่อลูกชายของเธอที่ถูกเข่นฆ่า!

ไม่มีอะไรปวดร้าวหัวใจและน่าสยองเช่นการระเบิดออกของความโหดร้ายของมนุษย์!

Paris Talks ???????P. 28-29

ศาลสูงสุดจะได้รับการก่อตั้งโดยประชาชนและรัฐบาลของทุกชาติซึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่เลือกมาจากแต่ละประเทศและรัฐบาล สมาชิกของสภาอันยิ่งใหญ่นี้จะชุมนุมกันด้วยความสามัคคี ข้อโต้แย้งทั้งหมดระหว่างชาติจะถูกนำเสนอต่อศาลนี้ งานของมันคือการใช้อำนาจตัดสินจัดการทุกอย่างที่จะเป็นสาเหตุของสงคราม ภาระหน้าที่ของศาลนี้คือป้องกันสงคราม

Paris Talks ???????????????????P .155

ฮัดสัน แมกซิม ?การวิวัฒนาการได้มาถึงระยะในชีวิตของชาติทั้งหลายที่การค้าได้มาอยู่ในตำแหน่งของการต่อสู้?

พระอับดุลบาฮา ?เป็นความจริง! สงครามมิได้ถูกจำกัดอยู่ที่สาเหตุเดียว สงครามมีหลายชนิดและความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป สงครามทางการเมือง สงครามทางการค้า สงครามแห่งชาตินิยม สงครามทางเชื้อชาติ นี้คือยอดอารยธรรมของสงคราม?

From an interview of Hudson Mazim with Abdu?l-Baha at the Hotel Ansonia, New York City, April 15, 1912 (Star of the West, Vol.3 No.7 P.5)

ในเรื่องปัญหาเกี่ยวกับการลดอาวุธ ทุกชาติต้องลดอาวุธพร้อมกัน ไม่เหมาะสมเลยและจะไม่ได้รับการเสนอว่าให้บางชาติวางอาวุธในขณะที่ชาติอื่นๆ ที่เป็นเพื่อนบ้านยังคงถืออาวุธอยู่ สันติภาพของโลกต้องบังเกิดขึ้นจากการตงลงระหว่างนานาชาติ ทุกชาติต้องตกลงที่จะลดอาวุธในเวลาเดียวกัน…..ไม่มีชาติไหนสามารถปฏิบัติตามนโยบายแห่งสันติภาพได้ในขณะที่เพื่อนบ้านยังคงพาลเกเรอยู่…..ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีใครคิดฝันที่จะแนะนำว่าสันติภาพของโลกจะบังเกิดขึ้นในแนวทางปฏิบัติเช่นนั้น ต้องบังเกิดขึ้นโดยการตกลงยินยอมระหว่างนานาชาติอย่างเข้าใจและทั่วถึง และไม่มีวิธีอื่นใด…..

พระองค์ทรงกล่าวต่อไปว่า ?การปฏิบัติพร้อมกันเป็นสิ่งจำเป็นไม่ว่าในแผนใดของการลดอาวุธ รัฐบาลทั้งหมดของโลกต้องเปลี่ยนเรือรบและเครื่องบินรบของพวกเขาให้เป็นเรือสินค้า ไม่มีชาติใดสามารถเริ่มต้นนโยบายดังกล่าวได้ด้วยตนเอง และเป็นสิ่งโง่เขลาหากชาติหนึ่งชาติใดพยายามทำเช่นนี้…..จะเป็นเพียงการเชิญการทำลาย?…..

?มีสัญลักษณ์ใดไหมที่สันติภาพถาวรของโลกจะได้รับการสถาปนาในช่วงเวลาหนึ่งที่สมเหตุผล? พระอับดุลบาฮาถูกถาม

?สันติภาพถาวรของโลกจะได้รับการสถาปนาในศตวรรษนี้? พระองค์ทรงตอบ ?สันติภาพจะเป็นสากลในศตวรรษที่ 20 ชาติทั้งหมดจะถูกบีบบังคับให้มาสู่สันติภาพ

?ความกดดันทางเศรษฐกิจจะบอกหรือ?

?ใช่ : ชาติทั้งหลายจะถูกบีบบังคับให้มาสู่สันติภาพและตกลงเลิกล้มสงคราม ภาระอันน่ากลัวของการเก็บภาษีเพื่อนำไปใช้ในการสงครามจะเกินกว่าที่มนุษย์จะทนได้…..

?ไม่? พระอับดุลบาฮาทรงกล่าวในตอนท้าย ?เราขอย้ำว่า ไม่มีชาติใดสามารถลดอาวุธภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ การลดอาวุธกำลังจะบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน จะต้องบังเกิดขึ้น และจะบังเกิดขึ้นโดยการยินยอมอย่างเป็นสากลของชาติที่มีอารยธรรมทั้งหลายของโลก โดยข้อตกลงนานาชาติ พวกเขาจะวางอาวุธและการใกล้เข้ามาของสันติภาพจะได้รับการประกาศ

โดยวิธีนี้และไม่มีวิธีอื่นใดที่จะสามารถสถาปนาสันติภาพบนโลก?

Extracts from interview with newspaper reporter quoted in ?Abdu?l-Baha in Canada? ????P.50

เมื่อรัฐสภาของมนุษยชาติได้รับการสถาปนาขึ้นและองค์ประกอบทั้งหลายได้รับการจัดเป็นระบบ รัฐบาลทั้งหลายของโลกเมื่อเข้าไปสู่กติกาแห่งมิตรภาพอันยั่งยืน จะไม่มีความจำเป็นต้องผดุงกองทัพและราชนาวีอันใหญ่หลวงให้เตรียมพร้อมไว้ กองทหารจำนวนเล็กน้อยสำหรับรักษาระเบียบภายในและกองตำรวจนานาชาติสำหรับดูแลทางหลวงและทะเลก็เพียงพอต่อความจำเป็น แล้วจำนวนเงินอันมหาศาลจะถูกนำไปใช้ในทางอื่นๆ ที่มีประโยชน์กว่า ความอนาถาจะสูญหายไปความรู้จะเพิ่มขึ้น ชัยชนะของสันติภาพจะได้รับการขับร้องโดยกวีทั้งหลาย ความรู้จะปรับปรุงสภาพทั้งหลาย และมนุษยชาติจะถูกไกวในเปลแห่งความปีติและความสุขสำราญ เมื่อนั้นไม่ว่ารัฐบาลจะเป็นรัฐธรรมนูญหรือเป็นแบบสาธารณรัฐ เป็นของตระกูลกษัตริย์หรือประชาธิปไตยผู้ปกครองทั้งหลายจะอุทิศเวลาต่อความเจริญของชาติของพวกเขา ต่อการออกกฎหมายทั้งหลายอันยุติธรรมและมีเหตุผลสมควร และต่อการบำรุงเลี้ยงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและมีมิตรภาพยิ่งขึ้นกับเพื่อนบ้านทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้โลกแห่งมนุษยชาติจะกลายเป็นกระจกสะท้อนคุณความดีและคุณลักษณะทั้งหลายของอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

โดยการตกลงกันอย่างกว้างๆ รัฐบาลทั้งหลายของโลกต้องลดอาวุธพร้อมกัน….ไม่เหมาะสมถ้าฝ่ายหนึ่งวางอาวุธแต่อีกฝ่ายหนึ่งปฏิเสธที่จะทำตาม ชาติทั้งหลายต้องเห็นพ้องซึ่งกันและกันเกี่ยวกับเรื่องอันสำคัญที่สุดนี้ ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะพร้อมกันละทิ้งอาวุธอันร้ายกาจที่ไว้ใช้สังหารมนุษย์ ตราบใดที่ชาติหนึ่งเพิ่มงบประมาณทางทหารและราชนาวี อีกชาติหนึ่งจะถูกบังคับให้ต้องเข้าร่วมการแข่งขันอันบ้าคลั่งนี้เพราะความห่วงใยเป็นธรรมดา…….

ปัจจุบันปัญหาเกี่ยวกับการลดอาวุธต้องนำมาปฏิบัติโดยชาติทั้งหมดมิใช่เฉพาะเพียงหนึ่งหรือสองชาติ ต่อมาผู้สนับสนุนสันติภาพทั้งหลายต้องพยายามทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อว่าแต่ละบุคคลของทุกประเทศจะกลายเป็นผู้รักสันติภาพ ความเห็นสาธารณชนจะแข็งแกร่งและมีจุดยืนอันถาวร และเมื่อผ่านไปแต่ละวันกองทัพของสันติภาพสากลจะทวีขึ้น การลดอาวุธโดยสมบูรณ์จะเกิดขึ้นและธงแห่งไมตรีสากลจะโบกสะบัดบนยอดสุดของภูเขาทั้งหลายของโลก

…….อุดมคติทั้งหลายของสันติภาพต้องได้รับการบำรุงเลี้ยงและกระจายไปในหมู่ผู้อาศัยบนโลก อุดมคติเหล่านี้ต้องได้รับการสั่งสอนในโรงเรียนแห่งสันติภาพ……ประการแรกผู้ให้ทุนและนายธนาคารต้องเลิกการให้ยืมเงินแก่รัฐบาลใดก็ตามที่เพ่งพิจารณาทำสงครามอันไม่ชอบธรรมกับชาติที่ไม่มีความผิด ประการที่สองผู้อำนวยการและผู้จัดการทั้งหลายของการรถไฟต้องละเว้นจากการขนส่งกระสุน เครื่องกลร้ายแรงทั้งหลาย ปืน ปืนใหญ่และดินปืน ?จากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง ประการที่สามทหารทั้งหลายต้องยื่นคำร้องผ่านตัวแทนไปยังรัฐมนตรีแห่งสงคราม ไปยังนักการเมือง ไปยังสมาชิกสภาและนายพลทั้งหลาย ให้แสดงอย่างชัดเจนและเป็นที่เข้าใจถึงเหตุผลและสาเหตุทั้งหลายที่พาพวกเขาไปใกล้จุดแห่งความหายนะของประเทศชาติ ทหารทั้งหลายต้องเรียกร้องสิ่งนี้เป็นหนึ่งในอภิสิทธิ์ทั้งหลาย พวกเขาจะต้องพูดว่า ?จงสาธิตต่อพวกเราว่านี่คือสงครามที่ชอบธรรมและพวกเราจึงจะเข้าไปสู่สนามรบ ถ้าไม่เช่นนั้นเราจะไม่ขยับสักก้าว……จงออกมาจากที่หลบซ่อนของท่าน จงเข้ามาสู่สนามรบ ถ้าท่านต้องการที่จะโจมตีซึ่งกันและกันและฉีกกันและกันออกเป็นชิ้นๆ ถ้าท่านต้องการแสดงสิ่งที่ท่านเรียกว่าข้อโต้แย้ง ความบาดหมางและความอาฆาตอยู่ระหว่างท่าน ทำไมท่านจึงให้พวกเราผู้ซึ่งไม่รู้ไม่เห็นมามีส่วนร่วม ถ้าการต่อสู้และการหลั่งเลือดเป็นสิ่งที่ดี เช่นนั้นจงนำเราไปสู่การต่อสู้โดยมีท่านอยู่ด้วย!?

?Star of the West? ????Vol. V, P. 115-117

ทุกศตวรรษมีวิธีแก้ไขต่อปัญหาที่เด่นปัญหาหนึ่ง ถึงแม้จะมีปัญหามากมาย กระนั้นหนึ่งในปัญหานับไม่ถ้วนเหล่านี้จะปรากฏอย่างเด่นชัดและกลายเป็นปัญหาสำคัญที่สุด….ในศตวรรษอันเรืองรองนี้ ของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกแห่งมนุษยชาติคือสันติภาพสากลซึ่งต้องได้รับการสถาปนาขึ้น เพื่อว่าอาณาจักรแห่งการสร้างสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าจะได้รับความสงบ โลกตะวันออกและโลกตะวันตกซึ่งรวม 5 ทวีปของโลกไว้ในอ้อมแขนจะสวมกอดกันและกัน มนุษยชาติจะได้พักผ่อนอยู่ภายใต้กระโจมแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของโลกแห่งมนุษยชาติ และธงของสันติภาพสากลจะโบกไปทั่วทุกดินแดน

ปัจจุบันหน้าที่อันแท้จริงของกษัตริย์ผู้มีอำนาจคือการสถาปนาสันติภาพสากล เพราะโดยแท้จริงแล้วจะแสดงถึงอิสรภาพของประชาชน ทั้งหมดของโลก….

?Star of the West? Vol. VII P.136

?โดยกระบวนการใดที่สันติภาพบนโลกนี้จะได้รับการสถาปนาขึ้นจะเกิดขึ้นทันทีหลังจากการประกาศสัจธรรมอย่างเป็นสากล หรือไม่?

พระอับดุลบาฮาได้ทรงกล่าวว่า ?ไม่ สันติภาพจะบังเกิดขึ้นทีละน้อย ต้นไม้ที่โตเร็วเกินไปจะมีอายุไม่ยืน ท่านคือครอบครัวของเรา? ?และพระองค์ทรงจ้องมองพร้อมกับยิ้ม ?เด็กคนใหม่ของเรา ถ้าครอบครัวหนึ่งอยู่กันด้วยความสามัคคี ผลอันยิ่งใหญ่จะได้รับ ขยายวงออกไป; เมื่อเมืองหนึ่งอยู่ด้วยความสนิทสนมปรองดอง ผลอันยิ่งใหญ่กว่าจะตามมา ในทำนองเดียวกันทวีปหนึ่งที่สามัคคีกันอย่างบริบูรณ์จะประสานทวีปอื่นทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วจะมาถึงเวลาแห่งผลอันยิ่งใหญ่ที่สุดเพราะพลเมืองทั้งหมดของโลกเป็นของแผ่นดินเดียวกัน?

Abdu?l-Baha in London P.106

บทประพันธ์ของท่านโชกิ เอฟเฟนดิ

การทดสอบที่สาหัสอันสั่นสะเทือนโลกตามที่คัดมาไว้ในหน้าก่อนซึ่งพระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงทำนายไว้อย่างแจ่มชัด จะพบว่าประเทศอเมริกาถูกกวาดลงไปสู่กระแสน้ำวนในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่เหมือนปฏิกิริยาต่อความขัดแย้งครั้งที่แล้วของโลก น่าจะโผล่ขึ้นมาจากกระแสน้ำวนและมุ่งหมายอย่างมีสติที่จะยึดโอกาสที่จะใช้อิทธิพลเต็มที่ต่อปัญหาใหญ่โตทั้งหลายที่การทดสอบอันสาหัสนั้นจะเหลือไว้ให้จากระลอกของมัน และโดยร่วมกับประเทศเกี่ยวข้องทั้งทางโลกตะวันออกและโลกตะวันตก จะขับไล่ความอัปมงคลอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่ได้สร้างความยุ่งยากและทำความเสื่อมทรามให้แก่มนุษยชาติมาแต่บรมโบราณ

เมื่อนั้นและเพียงเมื่อนั้นที่ประเทศอเมริกาซึ่งถูกปั้นและชำระให้บริสุทธิ์ให้เบ้าหลอมแห่งสงครามร่วมอันหนึ่ง ถูกฝึกให้ชินต่อความรุนแรงและได้รับการฝึกวินัยโดยบทเรียนนี้ จะอยู่ในฐานะที่จะเปล่งเสียงร้องในสภาของชาติทั้งหลาย ตัวมันเองจะวางศิลาหลักของสันติภาพสากลและยั่งยืน จะประกาศถึงความเป็นปึกแผ่น ความสามัคคีและการพัฒนาเต็มที่ของมนุษยชาติ และช่วยเหลือการสถาปนารัชสมัยแห่งธรรมบนโลกตามพันธะสัญญา เมื่อนั้นและเพียงเมื่อนั้นที่ประเทศอเมริกา ในขณะที่ชุมชนบาไฮอเมริกันภายในใจกลางของประเทศกำลังบรรลุสู่จุดสมบูรณ์ของภาระหน้าที่ที่ได้รับโองการจากสวรรค์ จะสามารถบรรลุจุดหมายอันรุ่งโรจน์อย่างเหลือจะกล่าวที่กำหนดไว้โดยพระผู้ทรงมหิทธานุภาพและที่เทิดทูนไว้อย่างเป็นอมตะในธรรมนิพนธ์ทั้งหลายของพระอับดุลบาฮา เมื่อนั้นและเพียงเมื่อนั้นที่ประเทศอเมริกาจะบรรลุความสำเร็จใน ?สิ่งที่จะประดับหน้าของประวัติศาสตร์? ??กลายเป็นที่อิจฉาของโลกและได้รับการเจริญพรทั้งในโลกตะวันออกและโลกตะวันตก?

The Advent of Divine Justice, 25 December 1938, ????????P.90-91

หลักการของความปลอดภัยโดยส่วนรวมที่พระองค์ (พระบาฮาอุลลาห์) ทรงเร่งเร้าอย่างไม่ยั้ง ได้แนะนำการลดการสะสมอาวุธของแต่ละชาติ และได้ประกาศการเรียกประชุมของโลกอันจำเป็นและมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งกษัตริย์และผู้ปกครองทั้งหลายของโลกจะปรึกษาหารือกันในการสถาปนาสันติภาพในหมู่ชาติทั้งหลาย

God Passes By, 1944, ?????P.217-218

ในระหว่างยุคแห่งการก่อสร้างระบบของศาสนาบาไฮและในวิถีของศักราชปัจจุบันและศักราชที่จะสืบเนื่องตามมา ระยะสุดท้ายและยอดสุดในการสร้างโครงร่างของระบบบริหารของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์คือการเลือกตั้งสภายุติธรรมสากล จะต้องเสร็จสมบูรณ์ พระคัมภีร์คีตาบี-อัคดัสซึ่งเป็นพระคัมภีร์แม่บทของการเปิดเผยศาสนาของพระองค์จะได้รับการประมวลเป็นหมวดหมู่และกฎทั้งหลายจะได้รับการประกาศ สันติภาพรอง จะได้รับการสถาปนา เอกภาพของมนุษยชาติจะบรรลุความสำเร็จและบรรลุถึงการพัฒนาเต็มที่ โครงการที่วาดไว้โดยพระอับดุลบาฮาจะได้รับการปฏิบัติ การปลดปล่อยศาสนาบาไฮให้เป็นอิสระจากโซ่ตรวนของความดั้งเดิมทางศาสนาจะบังเกิดผล และสถานภาพแห่งความเป็นไทของศาสนาบาไฮจะเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นสากล

เราย่อมจะแลเห็นสองกระบวนการที่ดำเนินไปพร้อมกันที่เกิดขึ้นในปีท้ายๆ ของยุคแห่งวีรกรรมของศาสนาของเรา แต่ละขบวนการถูกแสดงไว้อย่างชัดเจนและแยกกันอย่างเด่นชัด กระนั้นมันสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดและถูกลิขิตเมื่อครบกำหนดเวลาให้ไปถึงยอดสุดของความสมบูรณ์อันรุ่งโรจน์อันหนึ่ง

หนึ่งในขบวนการนี้สัมพันธ์กับภาระหน้าที่ของชุมชนบาไฮอเมริกัน อีกกระบวนการหนึ่งสัมพันธ์กับจุดหมายของประเทศอเมริกา กระบวนการแรกส่งเสริมโดยตรงต่อผลประโยชน์ของระบบบริหารของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์….

อีกกระบวนการหนึ่งเริ่มมาตั้งแต่การระเบิดขึ้นของสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งได้เหวี่ยงสาธารณรัฐอันยิ่งใหญ่ของโลกตะวันตกไปสู่กระแสน้ำวนของระยะแรกของการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ของโลก ขบวนการนี้ได้รับแรงขับเคลื่อนเริ่มแรกโดยการวางหลักเกณฑ์ของประธานาธิบดีวิลสัน ซึ่งได้สัมพันธ์สาธารณรัฐนี้อย่างใกล้ชิดกับโชคชะตาของโลกเก่าเป็นครั้งแรก ได้ทรมานการถูกรั้งครั้งแรกโดยการแยกสาธารณรัฐนั้นออกจากองค์การสันนิบาตชาติที่เพิ่งเกิดใหม่ ซึ่งประธานาธิบดีคนเดียวกันนั้นได้ตรากตรำตั้งขึ้นมา กระบวนการนี้ได้รับกำลังเคลื่อนไหวเสริมโดยการระเบิดออกของสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งก่อความทุกข์ทรมานอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนให้แก่สาธารณรัฐนั้น และเกี่ยวพันคืบหน้าต่อไปในธุรกิจทั้งหลายของทวีปทั้งหมดในโลก กระบวนการเดียวกันนี้ได้รับการเสริมกำลังเพิ่มโดยการประกาศที่อยู่ในกฎบัตรแอตแลนติคตามที่ได้กล่าวโดยหนึ่งในผู้บุกเบิก คือ แฟรงคลิน ดี รูสเวลท์ ได้สันนิษฐานโครงร่างอันแน่นอนอันหนึ่งโดยการกำเนิดขององค์การสหประชาชาติที่การประชุม ณ เมืองซานฟรานซิสโก มีความหมายยิ่งขึ้นโดยการเลือกเมืองแห่งพระปฏิญญาให้เป็นตำแหน่งขององค์การที่เพิ่งเกิดใหม่ โดยการประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ของประธานาธิบดีของอเมริกาซึ่งสัมพันธ์กับสัญญาต่างๆ ของประเทศของเขาในประเทศกรีกและตุรกี และโดยการเสนอต่อสภาสามัญขององค์การสหประชาชาติถึงปัญหาที่เต็มไปด้วยขวากหนามและท้าทายของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งจิตใจและการบริหารของศาสนาแห่งโลกของพระบาฮาอุลลาห์ ไม่ว่าหนทางจะไกลและคดเคี้ยวเพียงใด ต้องนำโดยผ่านลำดับของชัยชนะและความปราชัยไปสู่การประสานสามัคคีทางการปกครองของซีกโลกตะวันออกและซีกโลกตะวันตก สู่การโผล่ขึ้นมาของรัฐบาลแห่งโลกและการสถาปนาสันติภาพรองตามที่ทำนายไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์และพยากรณ์ไว้โดยศาสนฑูตอิสซิยา ในสุดท้ายจะต้องไปสู่ยอดสุดในการคลี่ออกของธงแห่งสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคทองของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์

Citadel of Faith, 5 June 1947 ????P. 6, 32-33

การก่อสร้างอาคารนี้ (พิพิธภัณฑ์บาไฮนานาชาติ) จะประกาศถึงการใกล้เข้ามาของการก่อสร้างในวิถีของศักราชอันสืบเนื่องกันทั้งหลายของยุคแห่งการก่อสร้างระบบของศาสนาของสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งซึ่งจะใช้เป็นตำแหน่งการบริหารของสถาบันทั้งหลายที่ได้รับโองการจากสวรรค์เช่น ศาสนภิบาล พระหัตถ์ศาสนา และสภายุติธรรมสากล อาคารเหล่านี้ในรูปโค้งที่ขยายกว้างและเป็นไปตามแบบอันกลมกลืนของสถาปัตยกรรมจะล้อมรอบสุสานของ ??ใบไม้อันศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด? ผู้ซึ่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดในเพศของเธอในศาสนาบาไฮ สุสานของน้องชายของเธอซึ่งสละให้เป็นค่าไถ่โดยพระบาฮาอุลลาห์เพื่อที่จะกระตุ้นและประสานสามัคคีโลก และสุสานของมารดาของทั้งสองซึ่งประกาศโดยพระบาฮาอุลลาห์ให้เป็น ?ชายาของพระองค์ในทุกภพของพระผู้เป็นเจ้า? การเสร็จสมบูรณ์ท้ายที่สุดของงานอันมโหฬารนี้จะบ่งบอกถึงการบรรลุสู่จุดสูงสุดของการพัฒนาของระบบบริหารที่แผ่ไปทั่วโลกโดยโองการสวรรค์ซึ่งการเริ่มต้นจะได้รับการสืบย้อมกลับไปในปีท้ายๆ ของยุคแห่งวีรกรรมของศาสนา

กระบวนการอันไพศาลและมิอาจต้านทานได้นี้ และไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ทางศีลธรรมของมนุษยชาติ ซึ่งจะเกิดขึ้นพร้อมกันกับการพัฒนาสองอย่างที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ การสถาปนาสันติภาพรองและการวิวัฒนาการของสถาบันทั้งหลายของศาสนาบาไฮระดับชาติและระดับท้องถิ่น อันหนึ่งอยู่ภายนอกและอีกอันหนึ่งอยู่ภายในโลกบาไฮ จะบรรลุถึงจุดสมบูรณ์สุดท้ายในยุคทองของศาสนาบาไฮโดยการยกธงแห่งสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดและการโผล่ขึ้นมาด้วยอานุภาพและความรุ่งโรจน์ของศูนย์กลางของหน่วยงานต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นระบบแห่งโลกของพระบาฮาอุลลาห์ การสถาปนาขั้นสุดท้ายของตำแหน่งนี้ของสหพันธรัฐบาไฮแห่งโลกในอนาคตจะเป็นสัญญาณบอกโดยพร้อมกันถึงการประกาศอำนาจปกครองของผู้ก่อตั้งศาสนาของเรา และการมาถึงของอาณาจักรของพระบิดาที่ได้รับการสดุดีครั้งแล้วครั้งเล่าและสัญญาไว้โดยพระเยซูคริสต์

ระบบแห่งโลกนี้ ในวิถีของศาสนาที่สืบเนื่องกันของวัฏจักรของศาสนาบาไฮ จะออกผลอันสวยงามที่สุดโดยการกำเนิดและออกดอกของอารยธรรมอันหนึ่งซึ่งได้รับการดลใจจากสวรรค์ ลักษณะเด่นมิมีที่เปรียบ ขอบเขตครอบคลุมทั่วโลก ลักษณะเป็นมูลฐานทางศีลธรรม เป็นอารยธรรมที่ถูกกำหนดเมื่อคลี่ออกให้สืบแรงผลักดันแรกเริ่มมาจากพลังที่กระตุ้นสถาบันทั้งหลายซึ่งกำลังขับเคลื่อนในสภาพของตัวอ่อนอยู่ในครรภ์ของยุคแห่งการก่อสร้างระบบของศาสนาบาไฮในปัจจุบัน

Messages to the Baha?I world, 1950-1957.

27 November 1954, ??????P.74-75

จดหมายในนามท่านโชกิ เอฟเฟนดิ

โลกอยู่ในความยุ่งเหยิงอย่างใหญ่หลวงและที่น่าสงสารที่สุดคือได้เรียนรู้ที่จะออกห่างไปจากพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพระองค์เท่านั้นที่สามารถคุ้มครองและบรรเทาความทุกข์ทรมานได้ เป็นหน้าที่ของเราผู้ซึ่งได้รับมอบหมายงานการใช้การรักษาแห่งสวรรค์ที่ให้ไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์ที่จะรวมความสนใจของเราไปยังการบรรลุจุดสมบูรณ์ของงานนี้ และไม่พักจนกว่าสันติภาพที่ทำนายไว้โดยศาสนฑูตทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการสถาปนาอย่างถาวร

9 December 1931

ท่านโชกิ เอฟเฟนดิ ได้เขียนจดหมายทั่วไปฉบับสุดท้ายของท่าน (The Goal of a New World Order) ถึงมิตรสหายชาวตะวันตกทั้งหลายเพราะท่านรู้สึกว่าสาธารณชนควรได้รับความเข้าใจในเจตคติของศาสนาบาไฮที่มีต่อปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมืองที่มีอยู่ทั่วไป เราควรให้โลกรู้ว่าความมุ่งหมายอันแท้จริงของพระบาฮาอุลลาห์คืออะไร ตราบจนปัจจุบันนี้ความสามัคคีของมนุษยชาติมีความสำคัญเป็นเพียงทฤษฎีทางวิชาการเท่านั้น บัดนี้ซึ่งมากขึ้นทุกทีกำลังกลายเป็นหัวข้อสำหรับรัฐบุรุษนานาชาติทั้งหลายที่จะต้องคิดถึง กำลังเข้ามาสู่ขอบเขตของการปฏิบัติทางการปกครอง ด้วยเหตุนี้นี่คือโอกาสพิเศษสำหรับเราที่จะขึ้นมาข้างหน้าและอธิบายคำสั่งสอนที่เป็นเป้าหมายและความมุ่งหมายของหลักศีลธรรมทางสังคมของพระบาฮาอุลลาห์ ท่านโชกิ เอฟเฟนดิ หวังว่ามิตรสหายทั้งหลายจะสะท้อนเสียงเรียกร้องนี้ไปสู่ระบบเอกภาพอันหนึ่งของมนุษยชาติจนกว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธาในจิตสำนึกของผู้มีชีวิตทุกคนบนโลก อย่างไรก็ตามควรใช้ดุลพินิจอย่างสูงเพื่อมิให้เราถูกเข้าใจผิด และมิให้ศาสนาของเราถูกจัดว่าเป็นการเคลื่อนไหวของพวกหัวรุนแรง

28 January 1932

??.ท่านศาสนภิบาลรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่ามิตรสหายทั้งหลายรู้สึกว่า (The Goal of a New World Order) เป็นสิ่งที่น่าสนใจและคุ้มค่าที่จะนำมาเป็นหัวข้อเรื่องในการรณรงค์สอนศาสนา ท่านหวังอย่างจริงใจว่าสิ่งนี้จะปลุกมิตรสหายบางคนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการสอนศาสนาและกระตุ้นพวกเขาให้ศึกษาอย่างละเอียดลึกซึ้ง เพราะโดยไม่มีข้อสงสัย นี่เป็นเป้าหมายของหลักศีลธรรมทางสังคมของศาสนาบาไฮ ไม่มีเหตุผลใดว่าบาไฮศาสนิกชนทั้งหลายไม่ควรนำเป็นตัวอย่างในการสนับสนุนสหพันธรัฐดังกล่าวของโลก ซึ่งโลกกำลังมุ่งไปสู่โดยแรงขับเคลื่อนที่ไม่สามารถควบคุมได้

16 February 1932

ท่านศาสนภิบาลได้อ่านเอกสารที่แนบมาทั้งหมดด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ท่านมีความมั่นใจอย่างแน่วแน่ว่าโดยความพากเพียรและการปฏิบัติร่วมกัน ความมุ่งหมายแห่งสันติภาพจะมีชัยในท้ายที่สุดเหนืออำนาจมืดทั้งหลายที่คุกคามความผาสุกและความก้าวหน้าของโลกในปัจจุบัน แต่ความพยายามของมนุษย์โดยลำพังไม่ต้องสงสัยเลยว่าไม่มีประสิทธิภาพพอนอกจากจะได้รับการดลใจและการนำทางจากพลังความศรัทธา ถ้าปราศจากความช่วยเหลือของพระผู้เป็นเจ้าดังที่ประสาทผ่านมาทางข่าวสารของพระบาฮาอุลลาห์ สันติภาพจะไม่สามารถสถาปนาได้อย่างปลอดภัยและเพียงพอ การละเลยวิธีแก้ปัญหาของศาสนาบาไฮเพื่อสันติภาพของโลกเป็นการก่อสร้างบนรากฐานของทราย การยอมรับและนำมาใช้เพื่อสร้างสันติภาพมิเป็นเพียงความฝันหรืออุดมคติ แต่เป็นความจริงที่มีชีวิต นี้คือจุดสำคัญที่ท่านศาสนภิบาลต้องการให้คุณพัฒนา ให้เน้นครั้งแล้วครั้งเล่าและให้สนับสนุนด้วยเหตุผลอันน่าเชื่อถือ แท้จริงแล้วแผนการสันติภาพของศาสนาบาไฮมิใช่เป็นเพียงหนทางหนึ่งที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ มิใช่แม้แต่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับสิ่งอื่น เมื่อวิธีอื่นทั้งหมดได้ล้มเหลวแล้วคือเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพียงอันเดียว สำหรับการสถาปนารัชสมัยแห่งสันติภาพบนโลกนี้ เจตคตินี้มิได้นำไปสู่การปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงต่อวิธีการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ที่เสนอโดยผู้เห็นแก่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย เพียงแสดงถึงความไม่เพียงพอของวิธีเหล่านั้น เมื่อเทียบกับแผนของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับการประสานสามัคคีโลก เราไม่สามารถหนีความจริงไปได้ว่าไม่มีสิ่งใดทางโลกซึ่งแม้ได้ลองทุกวิธีแล้วจะสามารถยั่งยืนอยู่ได้นอกจากจะได้รับการสนับสนุนและค้ำจุนโดยอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า

25 September 1933

ไม่ว่าเรามีความบกพร่องอย่างไรและอำนาจมืดที่ล้อมเราอยู่ในปัจจุบันจะน่าสะพรึงกลัวเพียงใด ?การประสานสามัคคีมนุษยชาติตามที่วาดโครงร่างและรับประกันไว้โดยระบบแห่งโลกของพระบาฮาอุลลาห์เมื่อถึงเวลากำหนด จะได้รับการสถาปนาขึ้นอย่างมั่นคงและถาวร นี้คือคำมั่นสัญญาของพระบาฮาอุลลาห์และไม่มีอำนาจใดๆ ในโลกที่ในท้ายที่สุดจะสามารถขัดขวางหรือแม้แต่เหนี่ยวการบังเกิดขึ้น ดังนั้นมิตรสหายทั้งหลายไม่ควรหมดหวัง แต่ด้วยความสำนึกอย่างยิ่งในกำลังและบทบาทของพวกเขา พวกเขาควรพากเพียรในความพยายามอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาที่จะขยายและสร้างความมั่นคงให้กับอาณาจักรสากลของพระบาฮาอุลลาห์บนโลกมนุษย์

6 November 1933

ในเรื่องของคณะบริหารนานาชาติที่พาดพิงถึงโดยท่านศาสนภิบาลใน ??The Goal of a New World Order? ควรเป็นสิ่งที่สังเกตว่าคำแถลงนี้มิได้หมายถึงสหพันธรัฐบาไฮในอนาคต แต่หมายถึงรัฐบาลแห่งโลกซึ่งจะประกาศถึงการใกล้เข้ามาและนำไปสู่การสถาปนาในท้ายที่สุดของระบบแห่งโลกของพระบาฮาอุลลาห์ การก่อร่างของคณะบริหารนานาชาตินี้ซึ่งเหมือนกับหัวหน้าคณะบริหารของรัฐบาลแต่ละประเทศในปัจจุบันเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งที่จะนำไปสู่รัฐบาลแห่งโลกบาไฮในอนาคต และด้วยเหตุนี้จึงไม่ควรนำมาเทียบกับสถาบันศาสนภิบาลหรือสภายุติธรรมนานาชาติ

17 March 1934

ในเรื่องเกี่ยวกับงานสอนศาสนาของคุณ สิ่งที่ท่านศาสนภิบาลต้องการให้คุณเน้นเป็นพิเศษในการพูดทั้งหมดคือ ความจำเป็นสูงสุดสำหรับทุกคนและทุกชาติในปัจจุบันที่จะรับเอาแผนการทางสังคมไว้โดยครบถ้วนตามที่ให้ไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์สำหรับการผดุงขึ้นใหม่ของชีวิตของมนุษยชาติทางศาสนา ทางเศรษฐกิจและการปกครอง ท่านต้องการให้คุณอธิบายและวิเคราะห์องค์ประกอบที่จะช่วยในการก่อสร้างระบบแห่งโลกของพระผู้เป็นเจ้านี้ในแง่ของเหตุการณ์และสภาพทั้งหลายในโลกปัจจุบัน ท่านคิดว่าควรเน้นเป็นพิเศษถึงความจำเป็นที่กำลังใกล้เข้ามาของการสถาปนาอภิรัฐแห่งโลกตามที่วาดไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์ เนื่องด้วยโลกกำลังอยู่ภายใต้ความอึกทึกวุ่นวายและความโกลาหลอันรุนแรงมากขึ้นทุกวันอย่างไม่เคยมีมาก่อน การตระหนักถึงความจำเป็นนี้กำลังเข้าไปสู่จิตสำนึกไม่เฉพาะของผู้ที่ฉลาดสุขุมและมีความรู้แต่รวมทั้งประชาชนทั่วไปเช่นกัน ดังนั้นบาไฮศาสนิกชนทั้งหลายควรยึดโอกาสนี้และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแสดงคำสั่งสอนทางสังคมและการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยคำพูดอันน่าเชื่อถือและจับใจ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นเช่นยาครอบจักรวาลเพียงอันเดียวสำหรับความยุ่งยากอันนับไม่ถ้วนที่กำลังสร้างความลำบากให้กับโลกของเราในปัจจุบัน

15 November 1935

ในเรื่องงานสอนศาสนาของคุณ ท่านศาสนภิบาลได้แนะนำไว้แล้วให้คุณเน้นในการพูดถึงความคิดของอภิรัฐแห่งโลกและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมนุษยชาติที่เป็นรากฐานของอภิรัฐนี้ นอกจากนี้ท่านต้องการให้คุณเน้นถึงความจริงที่ว่ามนุษยชาติโดยทั้งหมดได้เข้ามาสู่ระยะที่วิกฤตและที่สำคัญที่สุดของการวิวัฒนาการคือระยะของการพัฒนาเต็มที่ ความคิดของการมาถึงของยุคแห่งมนุษยชาติเป็นเช่นแกนสำคัญที่สุดของคำสั่งสอนของศาสนาบาไฮและเป็นลักษณะเด่นที่สุดของการเปิดเผยศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ การเข้าใจอย่างถูกต้องในความคิดนี้จะเป็นกุญแจไปสู่การรู้คุณค่าอย่างเพียงพอในคำกล่าวอ้างอันยิ่งใหญ่ที่กล่าวไว้โดยผู้ก่อตั้งศาสนาบาไฮทั้งในแง่ของฐานะของพระองค์เองและความยิ่งใหญ่อันเปรียบมิได้ของศาสนาของพระองค์

12 October 1936

ในเรื่องปัญหาที่คุณถามเกี่ยวกับเวลาและวิธีการซึ่งสันติภาพรองและสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่พาดพิงไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์ จะได้รับการสถาปนาภายหลังสงครามโลก ความเห็นของคุณที่ว่าสันติภาพรองจะบังเกิดขึ้นโดยความพยายามของรัฐและชาติทั้งหลายของโลกและไม่ขึ้นกับแผนและความพยายามโดยตรงของศาสนาบาไฮ และสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด จะได้รับการสถาปนาโดยวิธีการของบาไฮศาสนิกชนและการปฏิบัติการโดยตรงของกฎและหลักการทั้งหลายที่เปิดเผยโดยพระบาฮาอุลลาห์ และโดยการปฏิบ้ติหน้าที่ของสภายุติธรรมสากลในฐานะเป็นองค์กรสูงสุดของอภิรัฐของศาสนาบาไฮ ความเห็นของคุณในเรื่องนี้ถูกต้องทีเดียวและสอดคล้องอย่างบริบูรณ์กับคำแถลงของท่านศาสนภิบาลที่ประมวลอยู่ใน ?The Enfoldment of World Civilization?

14 March 1939

สิ่งที่พระอับดุลบาฮาหมายความเกี่ยวกับการลุกขึ้นของสตรีเพื่อสันติภาพนั้นเป็นเรื่องที่มีผลกระทบอันสำคัญต่อสตรีทั้งหลาย และเมื่อพวกเธอก่อร่างขึ้นเป็นมวลชนที่มีสำนึกและท่วมท้นความคิดเห็นของสาธารณชนในการต่อต้านสงคราม จะไม่มีสงครามเกิดขึ้นได้ สตรีบาไฮทั้งหลายได้รวมตัวกันอยู่แล้วโดยการเป็นสมาชิกของศาสนาและระบบบริหาร ไม่มีองค์การอื่นใดอีกที่จำเป็น แต่โดยการสอนและโดยการสนับสนุนศีลธรรมอย่างขันแข็งที่เธอให้แก่การเคลื่อนไหวทั้งหมดที่ไปสู่สันติภาพ พวกเธอควรพยายามใช้อิทธิพลชักจูงอันแรงกล้าต่อจิตใจของสตรีอื่นๆ ในเรื่องอันสำคัญยิ่งนี้

24 March 1945

คำสั่งสอนของพระบาฮาอุลลาห์จะสถาปนาวิถีชีวิตใหม่สำหรับมนุษยชาติ ผู้ที่เป็นบาไฮศาสนิกชนทั้งหลายต้องพยายามที่จะสถาปนาชีวิตใหม่นี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ บัดนี้ชั่วโมงนั้นได้มาถึงแล้วคือชั่วโมงที่ศาสนาบาไฮกำลังมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น และกำลังได้รับการพิจารณาและพิจารณาใหม่โดยประชาชนจำนวนมากมาย จำเป็นที่ผู้สนับสนุนศาสนาบาไฮทั้งหลายควรดำเนินชีวิตตามอุดมคติอันสูงส่งทั้งหลายของศาสนาในทุกๆ ทาง ดังนี้พวกเขาจะสามารถสาธิตได้ว่าศาสนาบาไฮสร้างวิถีชีวิตใหม่จริง ซึ่งจะนำความสัมพันธ์อันสมบูรณ์กับพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้ามาสู่แต่ละบุคคล และด้วยวิธีนี้มาสู่การสถาปนาสังคมสากลที่รักสันติอันหนึ่ง การผูกพันแบ่งแยกทั้งหลายเป็นของมนุษย์ ส่วนการรับใช้อย่างเป็นสากลเป็นของพระผู้เป็นเจ้า

ท่านศาสนภิบาลปรารถนาอย่างแรงกล้าว่ามิตรสหายทั้งหมดจะบรรลุถึงจิตสำนึกอันเป็นสากลและวิถีชีวิตอันเป็นสากล

20 November 1955

รัฐบาลแห่งโลกจะบังเกิดขึ้นแต่เราไม่รู้วันที่

15 August 1957

ในเรื่องปัญหาของคุณเกี่ยวกับการพาดพิงของพระอับดุลบาฮาถึง ?ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของราชอาณาจักรการปกครอง? ความเป็นอันหนึ่งเดียวกันนี้ควรเป็นที่เด่นชัดต่างจาก ?ความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของชาติทั้งหลาย อย่างแรกคือความสามัคคีที่รัฐเอกราชทั้งหลายบรรลุในหมู่พวกเขาเอง ขณะที่อย่างที่สองคือความสามัคคีที่เกิดขึ้นระหว่างชาติทั้งหลาย ความแตกต่างระหว่างรัฐและชาติคือว่า รัฐคือการดำรงอยู่ของการปกครองซึ่งไม่จำเป็นต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวกันของเชื้อชาติ แต่ความสามัคคีของชาติทั้งหลายแสดงนัยถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของชาติและการปกครอง

26 July 1936

ถึงแม้ยังไม่ถึงเวลาที่จะพยายามคาดการณ์ในอนาคตว่า บนรากฐานใดที่ชาติต่างๆ จะเป็นตัวแทนในสภานานาชาติหรือในรัฐบาลนานาชาติรูปแบบใด แต่เป็นที่ชัดเจนตามทัศนะของบาไฮว่า สามารถดำเนินไปได้เฉพาะเพียงบนรากฐานของความยุติธรรมอันแท้จริง และความยุติธรรมมิได้แสดงนัยว่าเชื้อชาติหนึ่งมีสิทธิออกเสียงเหนือตัวแทนของเชื้อชาติอื่นๆ หรืออยู่ในฐานะที่มีอิทธิพลเหนือเชื้อชาติอื่น

12 April 1942

เทียนทั้งเจ็ดแห่งความเป็นอันหนึ่งเดียวกันไม่จำเป็นจะต้องปรากฏตามลำดับ ผลิตผลของเทียนอันที่สองน่าจะเป็นวัฒนธรรมสากล

19 November 1945

จดหมายของสภายุติธรรมสากล

เมื่อพระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงประกาศข่าวสารของพระองค์ต่อโลกในศตวรรษที่ 19 พระองค์ทรงประกาศอย่างชัดเจนว่า ขั้นแรกที่จำเป็นสำหรับสันติภาพและความก้าวหน้าของมนุษยชาติคือการประสานสามัคคีพวกเขา ตามที่พระองค์ทรงกล่าวว่า ?ความผาสุกของมนุษยชาติ สันติภาพและความปลอดภัย จะไม่สามารถบรรลุได้นอกจากและจนกว่าความสามัคคีจะได้รับการสถาปนาอย่างมั่นคง? (The World Order Baha?u?llah P.203) อย่างไรก็ตามปัจจุบันท่านจะพบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเห็นในทางตรงกันข้าม พวกเขาถือว่าความสามัคคีเป็นเป้าหมายท้ายสุดที่แทบจะไม่มีทางบรรลุได้และมุ่งความสนใจในอันดับแรกที่จะรักษาความยุ่งยากอื่นๆ ทั้งหลายของมนุษยชาติ พวกเขาหารู้ไม่ว่าความยุ่งยากทั้งหลายนี้เป็นเพียงอาการและผลข้างเคียงต่างๆ ของโรคมูลฐาน คือ ความแตกสามัคคี

ยิ่งไปกว่านั้นพระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงกล่าวว่า การฟื้นฟูชีวิตใหม่ของมนุษยชาติและการรักษาความยุ่งยากทั้งหมดสามารถบรรลุได้เฉพาะเพียงโดยวิธีการของศาสนาของพระองค์….

เราได้รับการบอกโดยท่านโชกิ เอฟเฟดิว่าสองขบวนการอันยิ่งใหญ่กำลังปฏิบัติการอยู่ในโลก หนึ่งคือแผนอันยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าวุ่นวายในความคืบหน้าของแผนนั้น ปฏิบัติการผ่านมาทางมนุษยชาติโดยทั้งหมดทลายอุปสรรคทั้งหลายของเอกภาพแห่งโลก และหลอมมนุษยชาติให้เป็นร่างกายที่ประสานเข้าด้วยกันด้วยไฟแห่งความทุกข์ทรมานและประสบการณ์ เมื่อถึงเวลากำหนดของพระผู้เป็นเจ้า ขบวนการนี้จะก่อให้เกิดสันติภาพรองซึ่งเป็นการประสานสามัคคีทางการปกครองของโลก ในเวลานั้นมนุษยชาติจะเป็นเช่นร่างกายที่ได้รับการประสานเข้าด้วยกันแต่ปราศจากชีวิต ขบวนการที่สองเป็นงานของการหายใจชีวิตเข้าไปสู่ร่างกาย นี้เป็นการสร้างเอกภาพและศีลธรรมอันแท้จริงซึ่งจะไปสู่ยอดสุดที่ สันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นงานของบาไฮศาสนิกชนทั้งหลายผู้ซึ่งกำลังตรากตรำอย่างมีสติด้วยคำสั่งสอนอย่างละเอียดและด้วยการนำทางต่อเนื่องจากสวรรค์ เพื่อก่อตั้งโครงร่างของอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนโลกมนุษย์ซึ่งพวกเขาจะเรียกเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายให้เข้าไปสู่ ด้วยวิธีนี้จะให้ชีวิตนิรันดร์แก่พวกเขา

?Wellspring of Guidance? 8 December 1967, ??????????????????????????????????????????????P.131-134

มีคำแถลงจากจดหมายเขียนในปี ค.ศ. 1964 ถึงบาไฮศาสนิกชนคนหนึ่งในนามของท่านศาสนภิบาลที่รักยิ่งโดยเลขานุการของท่านว่า

?…..เท่าที่เรารู้คือ สันติภาพรอง และ สันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด จะบังเกิดขึ้น วันที่ที่แน่นอนเราไม่รู้ เป็นความจริงเช่นเดียวกันในเรื่องความเป็นไปได้ของสงครามในอนาคต เราไม่สามารถกล่าวอย่างมั่นใจโดยปราศจากข้อพิสูจน์ได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ เท่าที่เรารู้คือมนุษยชาติต้องได้รับความทุกข์ทรมานและถูกลงโทษอย่างเพียงพอที่จะทำให้เขาหันไปสู่พระผู้เป็นเจ้า

29 July 1979

จดหมายเขียนในนามของสภายุติธรรมสากล

…..ศาสนาบาไฮมุ่งหมายที่จะขจัดสงครามรวมทั้งสงครามนิวเคลียร์ จุดประสงค์มูลฐานของศาสนาของเราคือความเป็นเอกภาพและการสถาปนาสันติภาพ เป้าหมายนี้ซึ่งเป็นที่ปรารถนาของประชาชนทั่วทั้งโลกที่ไม่มีความมั่นคงขึ้นทุกวัน สามารถบรรลุได้โดยหลักธรรมคำสอนของพระบาฮาอุลลาห์เท่านั้น เนื่องด้วยเฉพาะบาไฮศาสนิกชนเท่านั้นที่สามารถประสาทหลักธรรมเหล่านี้ให้แก่มนุษยชาติ มิตรสหายทั้งหลายต้องใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบว่าพวกเขาจะใช้เวลาและพลังงานของพวกเขาอย่างไร และจะระวังป้องกันอย่างไรต่อการเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่จะหันความสนใจของพวกเขาโดยไม่สมควรไปจากความรับผิดชอบอันดับแรกในการกระจายข่าวสารของพระบาฮาอุลลาห์

4 July 1982

ในปัจจุบันเรื่องของการลดอาวุธนิวเคลียร์ได้กลายเป็นประเด็นการเมืองอย่างมาก ซึ่งการชุมนุมเดินขบวนทั้งหลายได้บังเกิดขึ้นไม่เฉพาะในอเมริกาแต่รวมทั้งในอังกฤษและยุโรปตะวันตกบางประเทศ การเจาะจงในเรื่องการลดอาวุธนิวเคลียร์อยู่ต่ำกว่าฐานะของศาสนาบาไฮและจะพัวพันศาสนาเข้ากับการโต้แย้งในปัจจุบันระหว่างชาติทั้งหลาย เป็นที่ชัดเจนว่าบาไฮศาสนิกชนเชื่อการลดอาวุธว่าเป็นสิ่งจำเป็น ไม่เฉพาะอาวุธนิวเคลียร์เท่านั้นแต่รวมทั้งอาวุธเชื้อโรค อาวุธเคมี และอาวุธในรูปแบบอื่นทั้งหมด

12 January 1983

เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงจากระบบปัจจุบันของอำนาจปกครองระดับชาติไปสู่ระบบของรัฐบาลแห่งโลก สภายุติธรรมสากลเห็นด้วยอย่างเต็มที่กับความเห็นของท่านว่าบัดนี้บาไฮศาสนิกชนทั้งหลายต้องใช้กำลังของพวกเขาทั้งหมดในการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงนี้ ?สิ่งนี้จำเป็นต้องมีกิจกรรมเกี่ยวข้องกันหลายอย่างซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเป้าหมายของแผนงาน 7 ปีในปัจจุบัน หนึ่งคือการก่อตั้งฐานอันมั่นคงอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ของธรรมสภาท้องถิ่นทั้งหลายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพในทุกส่วนของโลก เพื่อว่าผู้แสวงหาจากทุกแห่งหนจะมีจุดอ้างอิงที่พวกเขาสามารถหันมาหาการนำทางและคำสั่งสอนทั้งหลายของศาสนา สองคือการศึกษาศาสนาอย่างลึกซึ้งของบาไฮศาสนิกชนทุกอายุในความเข้าใจและการเชื่อฟังคำสั่งสอนทั้งหลาย สามคือการประกาศศาสนาต่อสังคมทุกระดับโดยเฉพาะผู้มีอำนาจและผู้นำทางความคิดทั้งหลาย เพื่อว่าบรรดาผู้ที่กุมทิศทางของประชาชนจะเรียนรู้อย่างถูกต้องเกี่ยวกับลักษณะและหลักคำสอนของศาสนา และจะบังเกิดความนับถือและดำเนินการตามหลักการทั้งหลาย สี่คือการส่งเสริมการศึกษาของบาไฮเพื่อว่าจะมีบาไฮศาสนิกชนจำนวนเพิ่มมากขึ้นที่สามารถวิเคราะห์ปัญหาทั้งหลายของมนุษยชาติในทุกสาขา และสามารถแสดงให้เห็นว่าคำสั่งสอนของศาสนาแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร ห้าคือการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนบาไฮนานาชาติกับองค์การสหประชาชาติทั้งโดยตรงกับสถาบันสูงสุดทั้งหลายขององค์การสหประชาชาติ และในระดับรากลึกในขอบเขตทั้งหลายของการพัฒนาชนบท การศึกษา ฯลฯ

ดังที่ท่านทราบโดยไม่มีข้อสงสัย ท่านศาสนภิบาลได้ชี้ให้เห็นว่าการพัฒนาของมนุษยชาติจากสภาพอันไม่มีระเบียบในปัจจุบันไปสู่ระยะของสหพันธรัฐบาไฮแห่งโลก เป็นการพัฒนาอันยาวนานและเป็นไปทีละน้อย การบังเกิดขึ้นของอำนาจปกครองระดับโลกและการริเริ่มของสันติภาพรอง เป็นการเปลี่ยนรูปอันสำคัญอันหนึ่งในขบวนการนี้ และจะตามมาด้วยระยะอื่นๆ ของการพัฒนาศาสนาบาไฮตามที่วาดโครงร่างไว้โดยท่านโชกิ เอฟเฟนดิในบทประพันธ์ทั้งหลายของท่าน อย่างไม่มีข้อสงสัย ขณะที่การพัฒนาเหล่านี้กำลังดำเนินไป คำปรึกษาที่สถาบันทั้งหลายของศาสนาสามารถให้กับรัฐบาลต่างๆ แบบแผนของการบริหารแห่งโลกที่เสนอโดยชุมชนบาไฮและโครงการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อันยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่จะเริ่มดำเนินการภายใต้การอุปถัมภ์ของสภายุติธรรมสากลจะปฏิบัติการโน้มน้าวอย่างยิ่งต่อวิถีความก้าวหน้านี้

19 January 1983

เป็นความจริงที่ว่าบาไฮศาสนิกชนทั้งหลายมิใช่ผู้ถือลัทธิอหิงสา เนื่องด้วยเราสนับสนุนการใช้กำลังในการรับใช้ความยุติธรรมและค้ำจุนกฎหมาย แต่เราไม่เชื่อว่าสงครามเป็นสิ่งจำเป็นเสมอไป และการเลิกล้มเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายสำคัญและพันธะสัญญาอันสดใสที่สุดทั้งหลายของการเปิดเผยศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ บัญชาเฉพาะของพระองค์ต่อกษัตริย์ทั้งหลายของโลกคือ ?หากใครก็ตามในหมู่พวกเจ้าเตรียมพร้อมจะเข้าปะทะอีกฝ่ายหนึ่ง พวกเจ้าทั้งหมดจงลุกขึ้นต่อต้านเขาเพราะนี่มิใช่อื่นใดแต่คือความยุติธรรมอันชัดแจ้ง? (Tablet to Queen Victoria, ?The Proclamation of Baha?u?llah? p.13) ?ท่านศาสนภิบาลที่รักยิ่งได้อธิบายว่า เอกภาพของมนุษยชาติแสดงนัยถึงการสถาปนาสหพันธรัฐแห่งโลก ระบบสหพันธ์ของโลกอันหนึ่ง ?…..เป็นอิสระจากภัยพิบัติของสงครามและความทุกข์ยากทั้งหลาย…..เป็นระบบซึ่งอำนาจถูกทำให้เป็นผู้รับใช้ความยุติธรรม? คณะบริหาร ?ได้รับการหนุนโดยกองกำลังนานาชาติ…..จะปกป้องเอกภาพของระบบของสหพันธรัฐทั้งหมด? เห็นได้ชัดว่านี่มิใช่สงครามแต่เป็นการค้ำจุนกฎหมายและระเบียบระดับโลก การสงครามเป็นเรื่องน่าสลดท้ายที่สุดของความแตกสามัคคีในหมู่ชาติทั้งหลาย ที่ซึ่งไม่มีอำนาจนานาชาติที่มีอำนาจพอที่จะห้ามพวกเขาจากการแสวงหาผลประโยชน์อันจำกัดของตนเอง ด้วยเหตุนี้บาไฮศาสนิกชนทั้งหลายถามที่จะรับใช้ประเทศของพวกเขาในหนทางทั้งหลายที่ไม่อยู่ฝ่ายรบในระหว่างการต่อสู้นี้ โดยไม่ต้องสงสัยพวกเขาจะรับใช้กองกำลังนานาชาติดังกล่าวตามที่พระบาฮาอุลลาห์ทรงวาดไว้เมื่อกำเนิดขึ้น

11 September 1984

ภาระหน้าที่สำคัญของพระบาฮาอุลลาห์ในการปรากฏพระองค์ในเวลานี้ของประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติคือการบังเกิดขึ้นของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมนุษยชาติและการสถาปนาสันติภาพในหมู่ชาติทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้กำลังทั้งหลายที่รวมจุดมาที่การบรรลุสู่จุดหมายเหล่านี้ ได้รับอิทธิพลโน้มน้าวจากการเปิดเผยศาสนาของพระองค์ อย่างไรก็ตามเราทราบว่าสันติภาพจะบังเกิดเป็นขั้นตอน อันดับแรก สันติภาพรอง จะเกิดขึ้นก่อน เมื่อเอกภาพของชาติทั้งหลายบรรลุผลสำเร็จแล้ว สันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นเอกภาพทางจิตใจเช่นเดียวกับทางสังคมและทางการปกครองของมนุษยชาติ จะได้รับการสถาปนาขึ้นทีละน้อยโดยความพยายามของบาไฮศาสนิกชนทั้งหลายเมื่อสหพันธรัฐบาไฮแห่งโลกปฏิบัติการสอดคล้องอย่างแท้จริงกับกฎและเทศบัญญัติของพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของการเปิดเผยศาสนาบาไฮ

ในเรื่องของ สันติภาพรอง ท่านโชกิ เอฟเฟนดิได้อธิบายว่า ในเริ่มแรกจะเป็นเอกภาพของการปกครองที่มาจากการตัดสินใจของรัฐบาลของชาติต่างๆ จะมิได้รับการสถาปนาจากการปฏิบัติโดยตรงของชุมชนบาไฮ อย่างไรก็ตามนี้มิได้หมายความว่าให้บาไฮศาสนิกชนทั้งหลายอยู่เฉยๆ และรอให้สันติภาพรองมาถึงก่อนที่พวกเขาจะทำอะไรเกี่ยวกับสันติภาพของมนุษยชาติ แท้จริงแล้วโดยการส่งเสริมหลักธรรมทั้งหลายของศาสนาซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไมได้ในการค้ำจุนสันติภาพ และโดยการออกแบบเครื่องมือต่างๆ ของระบบบริหารของศาสนาบาไฮซึ่งเราได้รับการบอกจากท่านศาสนภิบาลที่รักยิ่งว่าเป็นแบบแผนสำหรับสังคมในอนาคตบาไฮ ศาสนิกชน ทั้งหลายเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องอยู่กับการวางรากฐานสำหรับสันติภาพอันถาวรอันหนึ่งคือ สันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นเป้าหมายท้ายที่สุดของพวกเขา

สันติภาพรองโดยตัวมันเองจะผ่านระยะต่างๆ ในระยะเริ่มแรกรัฐบาลทั้งหลายจะทำหน้าที่ทั้งหมดด้วยพวกเขาเองโดยปราศจากจิตสำนึกเกี่ยวพันกับศาสนาบาไฮ ต่อมาเมื่อถึงกำหนดเวลาของพระผู้เป็นเจ้า ศาสนาบาไฮจะมีอิทธิพลโดยตรงในหนทางทั้งหลายที่แสดงไว้โดยท่านโชกิ เอฟเฟนดิ ?The Goal of a New World Order? เกี่ยวกับขั้นตอนทั้งหลายที่จะนำไปสู่ระยะหลังนี้ สภายุติธรรมสากลจะกำหนดอย่างแน่นอนว่าจะต้องทำสิ่งใดโดยสอดคล้องกับการนำทางในธรรมนิพนธ์ทั้งหลาย ดังเช่นข้อความท่านคัดมาจาก ?Tablets of Baha?u?llah p.89? ในระหว่างนั้นบาไฮศาสนิกชนทั้งหลาย โดยไม่ต้องสงสัย จะดำเนินการต่อเนื่องด้วยความสามารถของพวกเขาทั้งหมดเพื่อส่งเสริมการสถาปนาสันติภาพ

31 January 1985