ประมวลพระธรรมบางบทของพระบาฮาอุลลาห์

ดาวน์โหลด?PDF

?

ประมวลพระธรรมบางบทของพระบาฮาอุลลาห์

(รวบรวมโดย สภายุติธรรมสากล)

A Compilation of Passages from the Writings of Baha’u’llah

(by the Universal House of Justice 1979)

Published by Spiritual Assembly of the Baha’is of Thailand

1993

?

?

Pra Muan Pra Dham Bang Boat Khong Pra Baha’u’llah

สมาคมสภาการกลางศาสนาบาไฮ

1415 ศรีวราทาวน์รนทาวน์ ซอย 3/4 ถ.ศรีวรา ลาดพร้าว 94 วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. (02) 5307417-8

สมาคมสภาการกลางศาสนาบาไฮ

(สงวนลิขสิทธิ์)

?

สภายุติธรรมสากล

ศูนย์กลางบาไฮแห่งโลก

24 ตุลาคม พ.ศ.2522

ถึง ธรรมสภาแห่งชาติทุกแห่ง

เพื่อนบาไฮที่รัก

การจัดหาและแจกจ่ายวรรณกรรมบาไฮอย่างสมดุล คือหนึ่งในจุดมุ่งหมายที่แถลงไว้ในแผนงานเจ็ดปี สภายุติธรรมสากลได้ พิจารณาส่วนนี้ของแผนงาน และขอให้เราแจ้งความคิดเห็นมายังท่านดังนี้

สภายุติธรรมสากลหวังว่า ธรรมสภาแห่งชาติทุกแห่งจะจัดพิมพ์พระวจนะของพระบาฮาอุลลาห์ พระบ๊อบ และพระอับดุล-บาฮา เพื่อให้บาไฮในเขตความรับผิดชอบของตนได้ใช้ เป็นที่ชัดเจน ในพระธรรมศักดิ์สิทธิ์ว่าศาสนิกชนของพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุด ควรสวดวจนะทุกวัน สิ่งนี้จะเป็นไปได้อย่างไรสำหรับบาไฮนับพัน ที่ไม่มีพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ในภาษาที่ตนเข้าใจ? นอกจากนี้หนทางเปิดออกแล้วสำหรับชุมชนบาไฮที่จะพัฒนาและเข้มแข็งขึ้น เมื่อหัวใจของบาไฮสามารถเปิดรับพระธรรมคำสอนเนื้อแท้

ด้วยคำนึงถึงหลักการเหล่านี้ สภายุติธรรมสากลจึงขอให้คณะกรรมการหนึ่งที่ศูนย์กลางแห่งโลกให้ตระเตรียมประมวลพระธรรมบางบทจากที่เคยพิมพ์ไว้แล้ว ซึ่งครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆไว้กว้างขวาง ที่พระผู้เป็นศูนย์กลางของศาสนาได้สอนไว้ รวมทั้งพระธรรมที่เข้าใจได้ง่าย บันดาลใจ เสริมพลังความศรัทธา และช่วยให้จิตใจ ของผู้อ่านเข้าถึงธรรมะได้ดีขึ้น

บัดนี้ประมวลพระธรรมดังกล่าวได้ตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว และกำลังส่งมาให้คุณทางไปรษณีย์อากาศในอีกซองหนึ่งต่างหาก ประมวลพระธรรมนี้มิใช่ให้แทนสิ่งที่ท่านอาจประมวลไว้แล้ว แต่เป็นตัวอย่างของกิจกรรมที่สำคัญยิ่งนี้ที่ทำได้ ดังนั้นคุณมีอิสระที่จะใช้ หรือแปลประมวลพระธรรมนี้มากหรือน้อยตามต้องการเพิ่มพระ-ธรรมบางบทที่คุณคิดว่าเหมาะกับบาไฮในพื้นที่ของคุณ ตีพิมพ์และจัดจำหน่ายประมวลพระธรรมของคุณเองให้เร็วที่สุดและราคาถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

สภายุติธรรมสากลหวังว่า คนสวนในไร่องุ่นสวรรค์ในทุกดินแดนจะมีธรรมนิพนธ์ที่เปิดเผยโดยพระผู้เป็นศูนย์กลางของ ศาสนาจำนวนมากขึ้นไว้เป็นที่พึ่งเสมอ จะเห็นคุณค่าของอานุภาพ ของพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ และให้อานุภาพธรรมอันประเสริฐของพระวจนะแนะแนวการดำเนินชีวิต และนำทางพวกเขาในการอุทิศตน รับใช้ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า

ขออวยพรด้วยความรัก

สำนักเลขาธิการ

  1. จุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่งคือการรู้จักพระผู้เป็นเจ้า และจุดหมายของทุกสรรพสิ่งคือการเคร่งครัดปฏิบัติตามพระธรรมที่หลั่งมาจากนภาแห่งพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่ซึบซาบทุกสรรพสิ่งที่อยู่ ในสวรรค์และบนโลก

Gleanings from the Writings of Baha’u’llah (GWB) II, 5

  1. การเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ที่ได้รับการสดุดีมาแต่โบราณกาลว่า เป็นจุดประสงค์และคำสัญญาของพระศาสดาทั้งปวงของพระผู้เป็นเจ้า เป็นยอดปรารถนาของธรรมทูตของพระองค์ มาบัดนี้ได้เปิดเผยต่อมนุษย์ตามพระประสงค์และบัญชาที่ยับยั้งไม่ได้ของ พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ทุกเล่มได้ทำนายถึงการ มาของการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ครั้งนี้ และกระนั้นก็ดี จงดูซิว่ามนุษยชาติก็ยังหลงทางและปิดกั้นตัวเองจากความรุ่งโรจน์นี้

ดูกร ผู้เป็นคนรักของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว! จง พยายามเพื่อว่าเจ้าจะได้ยอมรับและรู้จักพระองค์ และปฏิบัติตามบัญญัติของพระองค์อย่างเหมาะสม หากมนุษย์หลั่งเลือดหนึ่งหยด เพื่อเห็นแก่การเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ครั้งนี้ เขาจะได้รับมหาสมุทรสุดคณานับเป็นการชดเชย ดูกร มิตรสหาย จงมีสติ เพื่อว่าเจ้า จะไม่สูญเสียคุณประโยชน์ที่ประเมินค่ามิได้หรือเมินฐานะที่ล้ำเลิศนี้ จงพิจารณาดูชีวิตจำนวนมากมายที่เสียสละไปในโลกที่หลงอยู่ใน จินตนาการอันไร้สาระของประชาชน จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ เจ้าได้มาถึงยอดปรารถนาของหัวใจ และได้สมัครสมานกับบรม ศาสดาตามพันธสัญญาของทุกชาติ จงปกป้องบูรณภาพของฐานะ ที่เจ้าบรรลุถึงด้วยความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ และยึดถือสิ่งที่ส่งเสริมศาสนา ของพระองค์ แท้จริงแล้วพระองค์บัญญัติสิ่งที่ถูกต้องและนำไปสู่ความเจริญของมนุษย์ ขอความรุ่งโรจน์จงมีแด่พระผู้ทรงปรานี พระผู้เปิดเผยธรรมจารึกอัศจรรย์นี้

GWB 111,5-6

  1. ยุคนี้เป็นยุคที่ความโปรดปรานอันวิศิษฏ์สุดของพระผู้เป็นเจ้าได้หลั่งไหลมาสู่มวลมนุษย์ เป็นยุคที่กรุณามัยอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์ ได้ซึมซาบไปทั่วทุกสรรพสิ่ง เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนบน โลกที่จะปรองดองข้อขัดแย้งทั้งหลาย และอาศัยอยู่ด้วยความสามัคคี และสันติภาพอันสมบูรณ์ภายใต้ร่มพฤกษาแห่งการดูแลเอาใจใส่ และความเมตตารักใคร่ของพระองค์ ในยุคนี้เป็นหน้าที่ของทุกคน ที่จะยึดถือสิ่งที่นำไปสู่ความเจริญและส่งเสริมประโยชน์ของตนได้ ดีที่สุด ความสุขจงมีแด่ผู้ที่ปากกาอันรุ่งโรจน์นี้จารึกไว้ในความ ทรงจำ และพระพรจงมีแด่ผู้ที่เราไม่ประสงค์จะเปิดเผยนามตามประกาศิตที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ของเรา

เจ้าจงวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ขอทรงกรุณาช่วยเหลือมนุษย์ทุกคนให้บรรลุสิ่งอันเป็นที่ยอมรับในสายตาของเรา ในไม่ช้าระบบในปัจจุบันจะถูกม้วนเก็บ และระบบใหม่จะแผ่ออก มาแทนที่ แท้จริงแล้วพระผู้เป็นนายของเจ้าทรงตรัสความจริง และเป็นผู้ทรงรอบรู้ในสรรพสิ่งที่มองไม่เห็น?????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????? GWV IV, 6-7

  1. ยุคนี้เป็นยุคที่มหาสมุทรแห่งความปรานีของพระผู้เป็นเจ้าได้ปรากฏต่อมนุษย์ ดวงตะวันแห่งความเมตตารักใคร่ของพระองค์สาดรัศมีมายังพวกเขา เมฆแห่งพระกรุณาล้นพ้นของพระองค์ได้ทอด เงามาปกคลุมมนุษยชาติทั้งปวง บัดนี้เป็นเวลาสำหรับให้ความ สดชื่นเบิกบานแก่ผู้ที่ตรอมใจ โดยอาศัยสายลมแห่งความรักและมิตรภาพ ธาราแห่งไมตรีและเมตตาจิต

บรรดาผู้เป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าจะชุมนุมกันอยู่ที่ไหนหรือได้พบปะใครก็ดาม ต้องแสดงออกซึ่งความถ่อมตัวและ ยอมจำนนด้วยจิตสำนึกในพระผู้เป็นเจ้า และกิริยาที่สรรเสริญความ รุ่งโรจน์ของพระองค์ จนทุกอะตอมของธุลีใต้ฝ่าเท้าจะเป็นพยาน ต่อความอุทิศอันแรงกล้าของพวกเขา การสนทนาของดวงวิญญาณ ที่บริสุทธิ์เหล่านี้ควรมีอานุภาพที่จะทำให้อะตอมของธุลีเดียวกันนี้ สั่นไหว พวกเขาควรประพฤติตนด้วยกิริยาที่พื้นพิภพที่พวกเขาย่ำ อยู่จะไม่มีสิทธิ์พูดกับพวกเขาว่า “ข้าควรเป็นที่โปรดปรานมากกว่าเจ้า เพราะดูซิว่า ข้ากำลังแบกภาระที่ชาวไร่ชาวนาสุมให้ ข้าคือ ครื่องมือที่อำนวยพรให้แก่ทุกชีวิตอยู่เนืองนิตย์ตามที่พระผู้เป็น แหล่งกำเนิดกรุณาธิคุณทั้งปวงมอบหมายไว้ แม้ข้าจะได้รับเกียรติ เช่นนี้ และหลักฐานของความมั่งคั่งของข้านับไม่ถ้วน ซึ่งเป็นความ มั่งคั่งที่จุนเจือทุกสรรพสิ่ง แต่ถึงกระนั้นเถอะ จงดูความถ่อมตนของข้า จงเป็นพยานต่อความยอมจำนนโดยสิ้นเชิงที่ข้ายอมถูก เหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้าของมนุษย์…”

จงแสดงความอดกลั้น เมตตาจิตและความรักซึ่งกันและกัน หากใครคนหนึ่งในหมู่พวกเจ้าไม่สามารถเข้าใจสัจธรรมใดหรือกำลังพยายามทำความเข้าใจ เมื่อเจ้าสนทนากับเขา จงแสดงดวงจิตแห่ง ความเมตตาและไมตรีจิต จงช่วยให้เขาเห็นและยอมรับสัจธรรม โดยไม่ถือว่าตัวเจ้าเหนือกว่าเขาแม้แต่น้อยเดียว หรือมีพรสวรรค์ มากกว่าเขา

หน้าที่ทั้งหมดของมนุษย์ในยุคนี้คือการยอมรับสายธาราคุณ ที่หลั่งมาจากพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นขออย่าให้ผู้ใดใส่ใจกับขนาดใหญ่ เล็กของภาชนะรองรับ ส่วนแบ่งของบางคนอาจเท่าอุ้งมือ ของคนอื่นอาจเต็มถ้วยหรือเต็มแกลลอน

ในยุคนี้ ดวงตาทุกคนควรมองหาสิ่งที่จะส่งเสริมศาสนาของ พระผู้เป็นเจ้าได้ดีที่สุด พระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดรเป็นพยานต่อเรา! ในยุคนี้ไม่มีสิ่งใดเป็นภัยต่อศาสนานี้มากกว่าการพิพาทและทะเลาะ วิวาท การต่อสู้ หมางเมินและเย็นชาต่อกันในหมู่ผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้า จงหลีกหนีสิ่งเหล่านี้โดยอาศัยอานุภาพและความ ช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้า และพยายามผูกหัวใจของมนุษย์เข้าด้วยกันในนามของพระองค์ พระผู้ประสานสามัคคี พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ

เจ้าจงวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ขอให้เจ้าได้ลิ้มรสของการกระทำในวิถีธรรมของพระองค์ และได้ลิ้มความหวาน ของความถ่อมตัวและยอมจำนนเพื่อเห็นแก่พระองค์ จงอย่านึก ถึงตัวเจ้าเองแล้วมองไปยังเพื่อนบ้าน จงทุ่มเทพลังงานของเจ้าให้ กับสิ่งที่จะทำนุบำรุงการอบรมมนุษย์ ไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้นจากพระ-ผู้เป็นเจ้าได้ หากเจ้าปฏิบัติตามวิถีธรรมของพระองค์ พระพรอมตะ สุดคณานัปจะหลั่งมายังเจ้า นี้คือธรรมจารึกอันเรืองรองที่บรรจุวจนะที่หลั่งมาจากปากกาของพระผู้เป็นนายของภพทั้งปวง จงตรึกตรองด้วยหัวใจของเจ้า และจงเป็นพวกที่ปฏิบัติตามคำสอนใน ธรรมจารึกนี้

GWB V, 7-9

  1. เวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าสำหรับประชาชนและวงศ์ตระกูลบนพิภพ มาถึงแล้ว คำสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลายเป็นจริงแล้ว กฎของพระผู้เป็นเจ้าออกมาจากไซออน ความรุ่งโรจน์ของการเปิดเผยพระธรรมของพระองค์เรืองรองส่องสว่างเยรูซาเล็มรวมทั้งเนินและธรณี ความสุขจงมีแต่ผู้ที่ตรึกตรอง ด้วยหัวใจในสิ่งที่เปิดเผยอยู่ในคัมภีร์ของพระผู้เป็นเจ้าพระผู้ทรงช่วยเหลือในภยันตราย พระผู้ทรงดำรงอยู่ด้วยตนเอง ดูกร ผู้เป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นเจ้า จงทำสมาธิตรึกตรองสิ่งนี้ และสดับฟังพระวจนะของพระองค์ เพื่อว่าด้วยความกรุณาปรานีของพระองค์ เจ้าจะได้ดื่มอมฤตแห่งความไม่ผันแปรจนอิ่ม จงมั่นคงไม่หวั่นไหว ประดุจภูผาในศาสนาของพระองค์

ในคัมภีร์ของยะซายาจารึกไว้ว่า : “จงเข้าไปในโขดหินและ ซ่อนตัวอยู่ในธุลีด้วยความกลัวพระผู้เป็นเจ้า และเพื่อความรุ่งโรจน์ ของราชศักดาของพระองค์” ไม่มีใครที่ทำสมาธิตรึกตรองบทกลอนนี้แล้วจะไม่ยอมรับความยิ่งใหญ่ของศาสนานี้ : “และพระผู้เป็นนายเท่านั้นที่สูงส่งในยุคนั้น” ยุคนี้คือยุคที่ปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่งได้สรรเสริญไว้ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ทุกเล่ม ไม่มีบทกลอนใดในคัมภีร์เหล่านี้ที่มิได้ประกาศความรุ่งโรจน์ของพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ ของพระองค์ ไม่มีคัมภีร์ใดที่มิได้เป็นพยานต่อความสูงส่งของหัว ข้อที่ประเสริฐสุดนี้ หากเราเอ่ยถึงทุกสิ่งที่คัมภีร์สวรรค์เหล่านี้กล่าว ไว้เกี่ยวกับการเปิดเผยพระธรรมครั้งนี้ ย่อมเกินกว่าธรรมจารึกนี้ จะแจกแจงได้ ในยุคนี้เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะไว้วางใจในกรุณาธิคุณ อเนกอนันต์ของพระผู้เป็นเจ้า และลุกขึ้นแพร่กระจายหลักธรรมของศาสนาของพระองค์ด้วยความสุขุมที่สุด เมื่อนั้นและเพียง เมื่อนั้น ทั่วทั้งพิภพจึงจะอาบด้วยแสงอรุณแห่งการเปิดเผยพระธรรม ของพระองค์

GWB X, 12-14

  1. จงพิจารณาดูอดีต ผู้สูงศักดิ์และผู้ต่ำต้อยมากมายเพียงไร เฝ้าคอยพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าให้มาปรากฏในวรกายของพระศาสดา บ่อยแค่ไหนที่พวกเขาคาดหวังการเสด็จมาของพระองค์ อธิษฐานขอให้สายลมแห่งความปรานีของพระผู้เป็นเจ้าพัดมา ขอให้พระผู้ทรงความงามตามพันธสัญญาออกมาจากม่านบังตา และ ปรากฏองค์ต่อชาวโลก และเมื่ออานนสวรรค์เปิดออก วาริทแห่งทิพยอารีหลั่งธรรมวิวรณ์มาสู่มนุษยชาติ และสุริยสังสีส่องอยู่เหนือ ขอบฟ้านภานุภาพ พวกเขากลับปฏิเสธพระองค์ ผินหลังให้พระพักตร์ของพระองค์ พระพักตร์ของพระผู้เป็นเจ้านั่นเอง

GWB XIII, 17

  1. จงพิจารณาดูบรรพชนรุ่นก่อนๆ จงเป็นพยานว่าทุกครั้งที่ธรรมาทิตย์แห่งทิพยอารีสาดแสงธรรมให้โลกประชาชนในยุคของพระองค์ ได้ลุกขึ้นต่อต้านและปฏิเสธสัจธรรมของพระองค์อย่างไร บุคคล ที่เป็นผู้นำได้พยายามขัดขวางประชาชนมิให้หันไปหาพระผู้เป็น มหาสมุทรแห่งความอารีอันไม่รู้สิ้นของพระผู้เป็นเจ้า

จงดูซิว่าเพราะคำตัดสินที่ประกาศโดยนักบวช ประชาชนได้ก่อความทุกข์ทรมานให้กับพระอับราฮัมผู้เป็นพระสหายของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร พระโมเสสผู้สนทนากับพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ ถูกประณามว่าเป็นคนโกหกและชอบพูดใส่ร้ายอย่างไร จงตรึกตรองดูว่า ทั้งๆที่มีขันติและหัวใจอ่อนโยน พระเยซูผู้เป็นพระจิตของพระผู้เป็นเจ้าก็ยังถูกศัตรูเล่นงานอย่างไร พระองค์ผู้เป็นสาระแห่งชีวิตและเป็นนายของรูปธรรมและนามธรรม ต้องเผชิญการต่อต้านอย่างโหดร้ายจนไม่มีที่หนุนศีรษะนอน ต้องระเหเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่าง ๆ ไร้ที่อยู่อาศัยที่แน่นอน จงตรึกตรองสิ่งที่บังเกิดกับพระโมฮัมหมัดผู้เป็นตราประทับของพระศาสดาทั้งหลาย ขอให้ชีวิตของทุกสรรพสิ่งสละเพื่อพระองค์ หลังจากที่พระองค์ประกาศ เอกภาพของพระผู้เป็นเจ้าและสัจจะในพระธรรมของพระองค์ ผู้นำของชาวยิวและพวกบูชารูปปั้นได้สุมความทุกข์ทรมานอันสาหัส เพียงใดให้พระองค์ผู้เป็นนายสูงสุดของทุกคน ความชอบธรรมของศาสนาของเราเป็นพยาน! ปากกาของเราโอดครวญและ ทุกสรรพสิ่งร่ำไห้อย่างขมขื่นต่อความหายนะที่พระองค์ได้รับจากน้ำมือของพวกละเมิดพระปฏิญญาของพระผู้เป็นเจ้า ฝ่าฝืนพินัย-กรรมของพระองค์ ปฏิเสธข้อพิสูจน์ของพระองค์ และโต้แย้งเครื่องหมายของพระองค์ เราเล่าเรื่องในอดีตเหล่านี้ให้เจ้าฟังก็เพื่อว่าเจ้าอาจจะเข้าใจ

เจ้าทราบแล้วว่า พระศาสดา ธรรมทูต และผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าเลือกสรร ได้ทนทุกข์ทรมานอย่างสาหัสเพียงไร จงตรึกตรองสักพักหนึ่งเกี่ยวกับแรงจูงใจและเหตุผลของการประหัตประหารดังกล่าว ไม่เคยมีตอนไหนในยุคศาสนาใดที่พระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าหนี พ้นจากการหมิ่นประมาทของศัตรู ความโหดร้ายของผู้กดขี่ การ ประณามของผู้แก่วิชาในแต่ละยุค ผู้ซึ่งแสร้งเป็นคนซื่อตรงและเคร่งศาสนา ทั้งทิวาราตรีพระศาสดาทั้งปวงปวดร้าวใจอย่างไม่มีใครหยั่งรู้นอกจากพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ความรุ่งโรจน์ ของพระองค์จงเจริญ

จงพิจารณาดูพระผู้ถูกประทุษร้ายนี้ แม้มีข้อพิสูจน์ที่แจ่มแจ้ง ยืนยันสัจธรรมในศาสนาของพระองค์ แม้คำพยากรณ์อันแน่ชัดที่พระองค์ทำนายไว้ได้เกิดขึ้นจริง แม้พระองค์มิได้รับการนับว่าเป็นผู้แก่วิชา ไม่ได้เล่าเรียนและไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับข้อถกเถียงในหมู่นักบวช พระองค์ก็หลั่งความรู้อเนกอนันต์ที่ดลใจจากสวรรค์ มาให้แก่มนุษย์ ถึงกระนั้น จงดูซิว่าคนในยุคนี้ปฏิเสธอำนาจของ พระองค์และต่อต้านพระองค์อย่างไร! ชีวิตส่วนใหญ่ของพระองค์ ถูกทรมานอย่างเจ็บปวดในอุ้งมือของศัตรู บัดนี้ความทรมานของพระองค์มาถึงขีดสุดในคุกหฤโหดนี้ที่ผู้ถูกกดขี่ส่งพระองค์มาอย่างไม่ยุติธรรม พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด ขอให้เจ้าเห็นสิ่งที่ได้เกิดขึ้นและกำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ด้วยสายตาที่แหลมคมและหัวใจที่ผ่องใส และ เมื่อตรึกตรองสิ่งเหล่านี้ด้วยหัวใจ เจ้าจะได้ยอมรับสิ่งที่มนุษย์เกือบทุกคนในยุคนี้มองไม่เห็น พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด ขอพระองค์ช่วย ให้เจ้าได้สูดสุคนธรสในยุคของพระองค์ ได้รับกรุณาธิคุณของพระองค์ ที่หลั่งไหลมาอย่างไม่มีขีดจำกัด ได้ดื่มจากมหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่สาดซัดในยุคนี้ในนามของราชันจิรันดร และมั่นคงไม่หวั่นไหว ประดุจภูผาในศาสนาของพระองค์

ขอความรุ่งโรจน์จงมีแด่พระองค์ ผู้ทรงทำให้ธรรมธาดาทั้งหลาย สารภาพความหมดหนทางของตนต่อการเปิดเผยอำนาจอเนกอนันต์ ของพระองค์ และพระศาสดาทุกพระองค์ยอมรับศูนยภาพของตนต่อความรุ่งโรจน์อนันต์ของพระองค์ ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อ พระนามของพระองค์ที่ไขประตูสวรรค์และยังความปลาบปลื้มแก่เทพเทวัญเบื้องบน ขอทรงช่วยให้ข้าพเจ้ารับใช้พระองค์ในยุคนี้และ ปฏิบัติตามบัญญัติในคัมภีร์ของพระองค์ ข้าแต่พระผู้เป็นนายของข้าพเจ้า พระองค์ทราบในตัวข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าไม่ทราบในตัวพระองค์ พระองค์คือพระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงรับทราบทุกสิ่ง

GWB XXIII, 56-59

  1. ดูกร บรรดาผู้ที่เชื่อในเอกภาพของพระผู้เป็นเจ้า จงระวัง เพื่อว่าเจ้าจะไม่ถูกชักจูงให้จำแนกพระศาสดาผู้แสดงธรรมของพระองค์ หรือจำแนกสัญลักษณ์ที่ประกาศและมาพร้อมกับการเปิดเผยพระธรรมของแต่ละพระองค์ นี้คือความหมายที่แท้จริงของเอกภาพ สวรรค์ หากเจ้าเป็นพวกที่เข้าใจและเชื่อสัจจะนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้า จงวางใจได้ว่า ผลงานและการกระทำของพระศาสดาแต่ละพระองค์ ไม่เพียงเท่านั้น อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับพระศาสดาเหล่านี้ และที่พระศาสดาจะแสดงให้ปรากฏในอนาคต ล้วนบัญญัติไว้โดยพระผู้เป็นเจ้า และคือการสะท้อนของพระประสงค์และเจตนาของพระองค์ ใครก็ตามที่จำแนกอัตภาพ วจนะ พระธรรม การกระทำและกิริยา ของพระศาสดาให้ต่างกันแม้เพียงน้อยเดียว ที่จริงแล้วผู้นั้นมิได้เชื่อ พระผู้เป็นเจ้าปฏิเสธเครื่องหมายของพระองค์ และทรยศต่อศาสนาของธรรมทูตทั้งหลายของพระองค์

GWB XXIV, 59-60

  1. ขอความสรรเสริญจงมีแด่เอกภาพของพระผู้เป็นเจ้า และเกียรติทั้งปวงจงมีแต่พระองค์ พระผู้เป็นนายสูงสุด พระผู้ไม่มีเปรียบปาน พระผู้ปกครองจักรวาลที่รุ่งโรจน์ ผู้สร้างทุกสรรพสิ่งขึ้นมาจากศูนยภาพโดยสมบูรณ์ ผู้บันดาลให้ธาตุต่าง ๆ ที่ละเอียดอ่อนและลี้ลับที่สุดเกิดขึ้นมา ผู้ทรงรับประชาชนเข้ามาในอาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์อมรของพระองค์ เพื่อมิให้พวกเขาตกต่ำเพราะความห่างไกลและอยู่ในอันตรายของการดับสูญ ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ได้รับ กรุณาธิคุณและความปรานีของพระองค์แล้วจะบรรลุสิ่งนี้ได้หาไม่ แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่ศูนยภาพโดยสมบูรณ์ซึ่งไม่ดำรงอยู่ จะมีความสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่?

เมื่อทรงสร้างโลกและทุกสรรพสิ่งที่อาศัยและเคลื่อนไหวอยู่ในโลก ด้วยปฏิบัติการโดยตรงของพระประสงค์ที่เกรียงไกรที่สุด พระองค์ทรงประสาทมนุษย์ด้วยความสามารถพิเศษที่จะรู้จักและ รักพระองค์ เป็นความสามารถที่ต้องถือว่าเป็นแรงขับและปฐมเจตนา ที่อยู่เบื้องหลังของการสร้างสรรค์ทั้งหมด…พระองค์ทรงสาดแสง ให้แต่ละสิ่งด้วยพระนามหนึ่งของพระองค์ และบันดาลให้สิ่งนั้นเป็นผู้รับความรุ่งโรจน์ของคุณลักษณะหนึ่งของพระองค์ อย่างไรก็ตาม ความชัชวาลของพระนามและคุณลักษณะทั้งหมดของพระองค์รวม แสงมาที่มนุษย์ และทำให้มนุษย์เป็นกระจกสะท้อนฉายาของพระองค์ในบรรดาสรรพสิ่งทั้งปวงมีมนุษย์เพียงผู้เดียวที่ได้รับกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่และพระพรอันยั่งยืนเป็นพิเศษ

GWB XXVII, 64-65

  1. จงใช้ธรรมจักษุของเจ้าพินิศดูลูกโซ่ของการเปิดเผยพระธรรม-สวรรค์ที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งได้เชื่อมการเปิดเผยพระธรรมของอดัมกับของพระบ๊อบ เราขอเป็นพยานต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า พระศาสดาเหล่านี้แต่ละพระองค์ถูกส่งมาโดยปฏิบัติการของพระประสงค์และ เจตนาของพระผู้เป็นเจ้า แต่ละพระองค์เป็นผู้นำสารเฉพาะอันหนึ่ง ได้รับมอบให้เปิดเผยคัมภีร์หนึ่ง และไขความลึกลับของธรรมจารึก หนึ่งที่ทรงอำนาจระดับของการเปิดเผยพระธรรมของแต่ละพระองค์ ถูกกำหนดไว้แน่นอนล่วงหน้า แท้จริงแล้วนี้คือสัญลักษณ์ของกรุณาธิคุณของเราต่อพระศาสดาทั้งหลาย หากเจ้าเป็นพวกที่เข้าใจสัจธรรมนี้…

GWB XXXI, 74-75

  1. เรื่องที่เจ้าได้ยินเกี่ยวกับพระอับราฮัมผู้เป็นพระสหายของพระ-ผู้ทรงปรานี คือความจริงที่ไร้ข้อกังขา สุรเสียงของพระผู้เป็นเจ้า บัญชาพระองค์ให้สละอิสมาเอลเป็นเครื่องบูชายัญ เพื่อว่าความมั่นคงของพระองค์ในศาสนาและการตัดความผูกพันจากทุกสิ่ง นอกจากพระผู้เป็นเจ้า จะได้สาธิตต่อมนุษย์ นอกจากนี้ จุดประสงค์ ของพระผู้เป็นเจ้าคือการสละอิสมาเอลเป็นค่าไถ่สำหรับบาปและ ความอยุติธรรมขางประชาชนทั้งปวงบนโลก เกียรติเดียวกันนี้ พระเยซูบุตรของแมรี่ได้วิงวอนขอจากพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว พระนามและความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ และด้วย เหตุผลเช่นเดียวกัน พระโมฮัมหมัดผู้เป็นธรรมเทศของพระผู้เป็นเจ้าได้สละฮุสเซนเป็นเครื่องบูชายัญ

ไม่มีมนุษย์คนใดอ้างได้ว่าตนเข้าใจกรุณาธิคุณอเนกอนันต์ อันเร้นลับของพระผู้เป็นเจ้า ไม่มีใครสามารถหยั่งรู้ความปรานีของ พระองค์ที่ห้อมล้อมทุกสรรพสิ่ง ดังกล่าวคือความวิปริตและบาป ของมนุษย์ พระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าและศาสนิกชนที่ถูกเลือกสรรต้องได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ซึ่งมวลมนุษยชาติควรถูกทรมานให้มลายสิ้นไป อย่างไรก็ดามการบริบาลที่ซ่อนเร้นอยู่ในความรักของพระผู้เป็นเจ้า ได้คุ้มครองมนุษยชาติด้วยอิทธิพลที่มองเห็นและมองไม่เห็น และจะคุ้มครองต่อไปเพื่อมิให้มนุษยชาติ ต้องรับกรรมชั่วที่ตนเป็นผู้ก่อ จงตรึกตรองสิ่งนี้ด้วยหัวใจ เพื่อว่าสัจธรรมจะเปิดเผยต่อเจ้า และเจ้าจะได้มั่นคงในวิถีธรรมของพระองค์

GWB XXXII, 75-76

  1. พระศาสดาทั้งหลายของผู้เป็นเจ้าควรได้รับการพิจารณาว่าเป็น นายแพทย์ผู้มีภาระในการทำนุบำรุงความผาสุกของโลกและประชาชน และรักษาความเจ็บป่วยของมนุษยชาติที่แตกแยกกันโดยอาศัยพลังแห่งเอกภาพ ไม่มีใครมีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยในวจนะหรือดแคลนความ ประพฤติของพระศาสดา เพราะพระศาสดาเท่านั้นทีรางได้ว่าตน เข้าใจผู้ป่วยและวินิจฉัยความเจ็บป่วยได้ถูกต้อง ไม่ว่ามนุษย์จะมีปัญญาเฉียบแหลมเพียงใดก็ไม่สามารถบรรลุถึงระดับปัญญาและ ความเข้าใจของนายแพทย์สวรรค์ ดังนั้นไม่เป็นที่น่าฉงนใจเลยว่า การรักษาของนายแพทย์ในยุคนี้ไม่ควรเหมือนกับการรักษาเมื่อยุคก่อน การรักษาจะเหมือนกันได้อย่างไรในเมื่อโรคภัยที่ทรมาน ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีการรักษาพิเศษเฉพาะในแต่ละระยะของโรค ในทำนองเดียวกันทุกครั้งที่พระศาสดาส่องโลกด้วยรัศมีอำไพของดวงตะวันแห่งเมธาสวรรค์ พระองค์ทรงเรียกประชาชนให้มารับ แสงธรรมของพระผู้เป็นเจ้าเสมอ ด้วยวิธีที่เหมาะที่สุดกับความ ต้องการของยุคที่พระองค์มาปรากฏ ดังนั้นพระศาสดาจึงสามารถขับไล่อันธการของอวิชชา และสาดรัศมีแห่งความรู้ของพระองค์มายังโลก ธาตุแท้ของพระศาสดานี้เองที่ดวงตาของมนุษย์ทุกคน ที่มีปัญญาต้องพิศดู เพราะพระศาสดาทั้งหลายมีจุดประสงค์เดียว กันคือนำทางผู้ที่หลงผิดและปลดเปลื้องความทุกข์ นี้มีใช่วันเวลาแห่งความเจริญรุ่งเรืองและชัยชนะ โรคภัยนานัปการกำลังเบียดเบียนมนุษยชาติ ดังนั้นจงพยายามรักษาชีวิตของมนุษยชาติด้วยยาที่พระหัตถ์อันทรงอำนาจของนายแพทย์ผู้ไม่มีผิดพลาดจัดมาให้

GWB XXXIV, 80-81

  1. เจ้าจงรู้ไว้เถิดว่า เมื่อบุตรแห่งมนุษย์สละชีวิตของพระองค์ ให้พระผู้เป็นเจ้า สรรพสิ่งทั้งปวงร่ำไห้อย่างขมขื่น อย่างไรก็ตาม การสละพระองค์เองบันดาลให้ความสามารถใหม่ซึบซาบเข้าไปใน ทุกสรรพสิ่ง ซึ่งมีหลักฐานให้ประชาชนทั้งปวงบนโลกเป็นพยาน และบัดนี้เป็นที่ประจักษ์แจ้งต่อเจ้า วาทะอันคมคายที่มาจาก นักปราชญ์ วิชาอันลึกซั้งที่ปัญญาคิดขึ้นมา ศิลปะที่ยอดฝีมีอประดิษฐ์ ขึ้น อิทธิพลที่เกิดจากผู้ปกครองที่ทรงอำนาจที่สุด ล้วนเป็นเพียง หลักฐานของอานุภาพขับเคลื่อนที่ปลดปล่อยมาจากพระวิญญาณ อันเรืองรองของพระองค์ที่ซึบซาบ อยู่ในทุกสรรพสิ่ง

เราขอเป็นพยานว่า เมื่อพระองค์เสด็จมายังโลก พระองค์สาด รัศมีอันรุ่งโรจน์มายังทุกสรรพสิ่ง ยังผลให้ผู้ป่วยโรคเรื้อนหายจากโรคแห่งความวิปริตและอวิชชา ผู้ที่โสมมและถือทิฐิได้รับการรักษา อานุภาพของพระองค์ซึ่งก่อกำเนิดจากพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงมหิทธานุภาพ ทำให้คนตาบอดมองเห็น และชำระวิญญาณของคนบาปให้บริสุทธิ์

โรคเรื้อนอาจตีความว่าเป็นม่านที่ปิดกั้นมนุษย์มิให้ยอมรับ พระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าของเขา ใครก็ตามที่ยอมให้ม่านนี้มาปิดกั้น ที่จริงแล้วก็คือผู้ป่วยโรคเรื้อน และจะไม่ได้รับการจดจำ ในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงอำนาจ พระผู้เป็นที่สรรเสริญ เราขอเป็นพยานว่า อานุภาพของพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าสามารถชำระผู้ป่วยโรคเรื้อน รักษาคนเจ็บไข้ และปัดเป่าทุพพลภาพ พระองค์คือผู้ที่ชำระโลกให้บริสุทธิ์ พระพรจงมีแด่ ผู้ที่หันไปหาพระองค์ด้วยใบหน้าที่ผ่องใส

GWB XXXVI, 85-86

  1. จงรู้ไว้แน่นอนว่า ในทุกยุคศาสนา การเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ สาดแสงให้มนุษย์เท่าที่จิตใจของมนุษย์จะรับได้ จงพิจารณาดูดวงอาทิตย์ รังสีของดวงอาทิตย์อ่อนเพียงไรเมื่อเริ่มผุดขึ้นมาจากขอบฟ้า แสงอาทิตย์ทวีความร้อนและเจิดจ้าขึ้นทีละน้อยขณะขึ้นสู่มัธยันห์ เป็นการช่วยให้ทุกสรรพสิ่งได้ปรับตัวเข้ากับความเข้มของแสงที่เพิ่มขึ้น จากนั้นคล้อยลงอย่างสม่ำเสมอจนลับฟ้าไป หากดวงอาทิตย์ แผดความร้อนแรงออกมาทั้งหมดในทันใด ทุกสรรพสิ่งย่อมได้รับ อันตราย…ในทำนองเดียวกัน หากในระยะแรกของการแสดงธรรม ธรรมาทิตย์เปิดเผยอานุภาพธรรมออกมาทั้งหมดตามที่พระผู้ทรง มหิทธานุภาพประสาทไว้ให้ปัญญาของมนุษย์ย่อมถูกเผาผลาญ และร่อยหรอไป เพราะหัวใจของมนุษย์ไม่สามารถทานอิทธิพลของการแสดงธรรมหรือสะท้อนรัศมีของแสงธรรมนั้นได้ และจะวอดวายไปด้วยความตระหนกอย่างหมดหนทาง

GWB XXXVIII, 87-88

  1. ดูกร ประชาชนของพระผู้เป็นเจ้า จงน้อมใจรับคำแนะนำของพระผู้เป็นมิตรแท้ที่ไม่มีเปรียบปานของเจ้า พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าอาจเปรียบได้กับต้นอ่อนที่ฝังรากอยู่ในหัวใจของมนุษย์ เป็น หน้าที่ของเจ้าที่จะทำนุบำรุงต้นอ่อนนี้ให้เติบโตโดยอาศัยน้ำแห่ง ปัญญาและวาจาที่พิสุทธิ์ เพื่อว่ารากจะได้ยึดแน่น และมีกิ่งแตก ออกมาสูงเทียมฟ้าหรือสูงขึ้นไปกว่านั้น

ดูกร ผู้ที่อาศัยอยู่บนโลก ลักษณะพิเศษของการเปิดเผย พระธรรมสวรรค์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนี้คือ เราได้ลบสิ่งที่เป็นเหตุของการทะเลาะวิวาท ความประสงค์ร้าย และความเสียหายในหมู่มนุษย์ ให้ออกไปจากคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า และวางเงื่อนไข ที่จำเป็นสำหรับความปรองดอง ความเข้าใจ และความสามัคคีที่ สมบูรณ์และยั่งยืน ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อบัญญัติของเรา

ครั้งแล้วครั้งเล่า เราตักเตือนบรรดาผู้เป็นที่รักยิ่งของเราให้ หลีกเลี่ยงและหนีสิ่งที่มีกลี่นของความอุบาทว์ โลกอยู่ในความโกลาหลอย่างใหญ่หลวง และจิตใจของประชาชนอยู่ในความสับสนสิ้นดี เราวิงวอนพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ ขอความรุ่งโรจน์แห่งความยุติธรรมของพระองค์ส่องแสงให้ประชาชน และช่วยให้พวกเขา ค้นพบสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับตนเองในทุกเวลาและทุกสภาพการณ์ แท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงครอบครองทุกสรรพสิ่ง พระผู้ทรงความสูงส่ง

GWB XLIII, 97-98

  1. เรามิได้เศร้าโศกต่อการถูกจองจำหรือถูกเนรเทศ หรือเพราะความทุกข์ทรมานที่เราได้รับจากน้ำมือของศัตรู ชีวิตของเราเป็นพยาน! สิ่งเหล่านี้คือความรุ่งโรจน์ของเราที่พระผู้เป็นเจ้าใช้ประดับพระองค์เอง ขอให้เจ้ารู้ไว้เถิด

ความอับอายที่เราได้รับทำให้ความรุ่งโรจน์ของสรรพสิ่งทั้ง ปวงปรากฏออกมา ความทารุณที่เราผจญทำให้ดวงตะวันแห่งความยุติธรรมรุ่งขึ้นมาและสาดรัศมีมายังมนุษย์

เราเศร้าโศกก็เพราะว่า ผู้ที่หมกมุ่นอยู่โนกิเลสอันโสมมโต้อ้าง ว่ามีความสัมพันธ์กับศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงการุณย์ พระผู้เป็นที่สรรเสริญ

เป็นหน้าที่ของประชาชนแห่งบาฮาที่จะตายจากโลกและทุก สรรพสิ่งในโลก ตัดความผูกพันจากวัตถุทั้งปวงอย่างที่บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในสวรรค์จะได้สูดสุคนธรสแห่งความบริสุทธิ์จากภูษาของ พวกเขา และประชาชาติทั้งปวงบนพิภพจะได้เห็นความชัชวาลของ พระผู้ทรงปรานีบนใบหน้าของพวกเขา และเครื่องหมายและสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงอริยภาพ จะได้แพร่กระจายไปกว้างไกลโดยพวกเขา ผู้ที่ทำให้ชื่อของศาสนามัวหมองเพราะหมกมุ่นอยู่ในโลกียวิสัย คือผู้ที่หลงผิดถนัด!

GWB XLVI, 100-101

  1. ดูกร ชาวยิว! หากเจ้ามีเจตนาจะตรึงกางเขนพระเยซูผู้เป็นพระจิตของพระผู้เป็นเจ้าอีกครั้ง ก็จงสังหารเราเสีย เพราะพระองค์ ได้มาปรากฏอีกครั้งในตัวเรา จงปฏิบัติต่อเราตามที่เจ้าปรารถนา เพราะเราได้ปฏิญาณว่าจะสละชีวิตในหนทางของพระผู้เป็นเจ้า เราจะไม่กลัวผู้ใดแม้ว่าอำนาจของโลกและสวรรค์จะร่วมกันต่อด้านเรา สาวกของพระเยซู! หากเจ้าปรารถนาจะสังหารพระโมฮัมหมัดผู้เป็นอัครสาวกของพระผู้เป็นเจ้า จงจับเราไปสังหาร เพราะเราคือพระโมฮัมหมัด และตัวเราคือตัวของพระองค์ จงกระทำต่อเราตามที่เจ้าต้องการ เพราะความปรารถนาอันสูงสุดในหัวใจของเราคือการเข้าเฝ้าพระผู้เป็นที่รักยิ่งในอาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์ของ พระองค์ นี้คือประกาศิตของพระผู้เป็นเจ้าหากเจ้ารู้ สาวกของ พระโมฮัมหมัด! หากเจ้าต้องการใช้หอกทะลวงอกของพระผู้ประทาน คัมภีร์บายันมาให้เจ้า ก็จงทำร้ายและประหัตประหารเรา เพราะเรา คือผู้เป็นที่รักยิ่งของพระองค์ และพระองค์อยู่ในตัวเรา แม้ว่าชื่อ ของเราไม่เหมือนพระองค์ เราเสด็จมาในเงาของก้อนเมฆแห่ง ความรุ่งโรจน์ และได้รับการประสาทด้วยอธิปไตยที่ล่วงล้ำไม่ได้จาก พระผู้เป็นเจ้า แท้จริงแล้วเราคาดหวังว่าเจ้าจะปฏิบัติต่อเราดังที่ ปฏิบัติต่อพระผู้เสด็จมาก่อนเรา แท้จริงแล้วทุกสิ่งเป็นพยานต่อ เรื่องนี้หากเจ้าเป็นพวกที่สดับฟัง ดูกร ประชาชนแห่งคัมภีร์บายัน! หากเจ้าตั้งใจจะหลั่งเลือดของบรมศาสดาที่พระบ๊อบประกาศว่าจะ เสด็จมา พระโมฮัมหมัดพยากรณ์การมาถึงและพระเยซูคริสต์เอง ประกาศว่าจะเสด็จมาเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ เราพร้อมแล้วและยืนอยู่ต่อหน้าเจ้านี่ไง อีกทั้งยังป้องกันตัวเองไม่ได้ จงปฏิบัติต่อเรา ตามแต่เจ้าปรารถนา

GWB XLVII, 101-102

  1. ดูกร ประชาชน! เราขอปฏิญาณต่อพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว! นี้คือมหาสมุทรที่เป็นต้นกำเนิดของทะเลทั้งปวง ซึ่งทะเล เหล่านี้จะไหลมาบรรจบกันในที่สุด พระองค์ให้กำเนิดดวงตะวัน ทั้งปวงและดวงตะวันเหล่านี้จะกลับมาสู่พระองค์ พฤกษาแห่งการเปิดเผยธรรมสวรรค์ออกผลโดยอาศัยอำนาจของพระองค์ ซึ่ง แต่ละผลถูกส่งลงมาในรูปของพระศาสดาผู้นำพระธรรมมาให้ประชาชนของพระผู้เป็นเจ้าในแต่ละภพ และพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรง รอบรู้ทุกสรรพสิ่งเท่านั้นที่สามารถนับจำนวนภพเหล่านี้ได้ พระองค์ ทำเช่นนี้ได้โดยใช้เพียงพยัญชนะเดียวจากพระวจนะที่ลิขิตโดยปากกาของพระองค์ ซึ่งปากกานี้ขยับโดยนิ้วของพระองค์ และนิ้วนั้นได้ รับอานุภาพจากธรรมะของพระผู้เป็นเจ้า

GWB LI, 104

  1. ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นที่รักยิ่งของเราเป็นพยาน! เราไม่เคยใฝ่ฝันจะเป็นผู้นำทางโลก จุดประสงค์เดียว ของเราคือการมอบธรรมะให้แก่มนุษย์ตามที่บัญชาจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงการุณย์ พระผู้ไม่มีเปรียบปาน เพื่อว่าธรรมะนี้จะช่วยให้มนุษย์ตัดความผูกพันจากทุกสิ่งในโลก และบรรลุถึงภาวะที่เกินกว่าผู้ไร้ศีลธรรมและคนวิปริตจะคาดคิดได้

GWB LIV, 108

  1. ผู้สังเกตการณ์ที่เที่ยงธรรมทุกคนจะยอมรับได้เลยว่า ตั้งแต่รุ่งอรุณของการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ พระผู้ถูกประทุษร้ายนี้ ได้เชิญมวลมนุษยชาติให้หันหน้ามาหาอรุโณทัยแห่งความรุ่งโรจน์ และทรงห้ามความทุจริต ความเกลียดชัง การกดขี่ สิ่งเลวทราม และถึงกระนั้นจงดูซิว่า มือของผู้กดขี่ได้ทำอะไรลงไป! ไม่มีปากกาด้ามไหนกล้าพรรณนาการกดขี่ของพวกเขา แม้ว่าจุดประสงค์ของพระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดรคือการประสาทชีวิตอนันต์ให้มวลมนุษย์ รับประกันความปลอดภัยและสันติภาพ แต่จงเป็นพยานเถิดว่า มนุษย์ได้ลุกขึ้นหลั่งเลือดของบรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์ และประกาศคำตัดสินประหารชีวิตพระองค์อย่างไร

ผู้ที่ยุยงการกดขี่นี้คือบรรดาผู้ที่โง่เขลาแต่กลับขึ้นชื่อว่าฉลาด รอบรู้ที่สุด ดังกล่าวนี้คือความตาบอดของมนุษย์ผู้ทารุณที่จับพระองค์ขังในคุกที่แน่นหนาแสนทรมานนี้ ซึ่งโลกนี้ถูกสร้างขึ้นมาก็เพื่อบรรดาคนรับใช้ ณ ธรณีประตูของพระองค์ แม้จะมีผู้โง่เขลาเหล่านี้และพวกที่ปฏิเสธสัจธรรมของ “การประกาศครั้งยิ่งใหญ่” นี้ พระผู้ทรงมหิทธานุภาพก็ได้เปลี่ยนคุกนี้ให้เป็นสวรรค์อันประเสริฐ สุด เป็นพิมานของทิพยสถานทั้งหลาย

GWB LIX, 115-116

  1. โลกกำลังเจ็บปวด และความวิตกบนพิภพหนักขึ้นทุกวัน โลกหลงอยู่ในทิฐิและไร้ศรัทธา ดังกล่าวนี้คือชะตาของโลกซึ่งไม่สมควรที่จะเปิดเผยตอนนี้ ความวิปริตในโลกจะคงอยู่ไปอีกนาน และเมื่อถึงชั่วโมงที่กำหนด จะปรากฏอย่างทันใดในสิ่งที่จะทำให้แขนขาของมนุษยชาติสั่นสะท้าน เมื่อนั้นและเพียงเมื่อนั้น ธงของพระผู้เป็นเจ้าจึงจะพลิ้วสะบัด และนกไนติงเกลสวรรค์จะขับขานเสียงเพลง

GWB LXI, 118-119

  1. หากเจ้าต้องการไขว่คว้าความไร้แก่นสารของชีวิตนี้ เจ้าควร ไขว่คว้าขณะที่เจ้ายังอยู่ในครรภ์มารดา เพราะในเวลานั้นเจ้ากำลัง ใกล้เข้ามาสู่ชีวิตนี้ หากเจ้าเพียงแต่เข้าใจ ตั้งแต่เจ้าเกิดและบรรลุวุฒิภาวะ เจ้ากำลังถอยห่างออกไปจากโลกนี้ตลอดเวลา และใกล้จะเป็นธุลีเข้าไปทุกที ดังนั้นทำไมจึงกอบโกยทรัพย์สมบัติบนโลก ด้วยความโลภ ในเมื่อวันเวลาของเจ้ามีจำกัดและโอกาสของเจ้าใกล้ จะสูญเสียไป ดูกร ผู้ที่ลืมสติ เจ้าจะไม่ตื่นจากความหลับใหลอีกหรือ?

จงเงี่ยหูฟังคำปรึกษาที่คนรับใช้ผู้นี้ให้แก่เจ้าเพราะเห็นแก่ พระผู้เป็นเจ้า แท้จริงแล้วพระองค์มิได้ขอสิ่งตอบแทนจากเจ้า แต่ ทรงน้อมรับบัญญัติจากพระผู้เป็นเจ้า และยอมตามพระประสงค์ ของพระผู้เป็นเจ้าโดยสิ้นเชิง

ดูกร ประชาชน วันเวลาของเจ้าล่วงเลยมานานแล้ว และ อวสานของเจ้ากำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจงละทิ้งสิ่งที่เจ้าคิดขึ้นมาและทำให้เจ้ายึดติด แล้วหันมายึดมั่นในคำสอนของ พระผู้เป็นเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะได้บรรลุสิ่งที่พระองค์ตั้งพระประสงค์ไว้ สำหรับเจ้า และจะได้เป็นพวกที่ดำเนินตามวิถีที่ถูกต้อง จงอย่า ยินดีในโลกียวิสัยหรือเครื่องประดับที่ไร้แก่นสาร และอย่าตั้งความหวังไว้กับสิ่งเหล่านี้ ขอให้สรณะของเจ้าคือการระลึกถึงพระผู้เป็น-เจ้า พระผู้ทรงประเสริฐสุด พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่ ในไม่ช้าพระองค์ จะบันดาลให้ทุกสิ่งที่เจ้าครอบครองกลายเป็นสิ่งไร้ค่า ขอให้เจ้าเกรงกลัวพระองค์ อย่าลืมพระปฏิญญาที่พระองค์ทำไว้กับเจ้า และอย่าเป็นพวกที่ถูกม่านปิดกั้นจนไม่เห็นพระองค์

จงระวังอย่าได้หยิ่งทะนงต่อพระผู้เป็นเจ้า แล้วปฏิเสธบรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์อย่างดูถูก จงอ่อนน้อมยอมตามผู้ที่ศรัทธา และเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าและสัญลักษณ์ของพระองค์ ซึ่งหัวใจของ พวกเขาเป็นพยานต่อเอกภาพของพระองค์ ลิ้นของพวกเขาประกาศความเป็นหนึ่งของพระองค์ และพวกเขาจะไม่พูดนอกจากจะได้รับ อนุญาตจากพระองค์ ดังนี้เราขอแนะนำเจ้าด้วยความยุติธรรม และขอเตือนเจ้าด้วยสัจธรรม เพื่อว่าเจ้าจะได้ตื่นขึ้น

อย่าให้ผู้ใดแบกภาระที่เจ้าเองก็ไม่อยากแบก และอย่าปรารถนาให้ผู้ใดในสิ่งที่เจ้าเองก็ไม่ต้องการ นี้คือคำแนะนำที่ดีที่สุดของเรา หากเจ้าเพียงแต่ปฏิบัติตาม

จงนับถือนักบวชและผู้แก่วิชาที่ประพฤติชอบ ไม่ละเมิดขอบเขตที่พระผู้เป็นเจ้ากำหนดไว้ และมีความคิดอ่านต้องตรงกับบัญญัติ ที่เปิดเผยไว้ในคัมภีร์ของพระองค์ จงรู้ไว้ว่าบุคคลเหล่านี้คือตะเกียง ที่นำทางสำหรับบรรดาผู้ที่อยู่ในสวรรค์และบนโลก ผู้ที่ไม่นับถือ และเมินนักบวชและผู้แก่วิชาที่อยู่รอบข้าง คือผู้ที่ทำให้ความโปรดปรานที่พระผู้เป็นเจ้ามีต่อเขาแปรเปลี่ยนไป

จงรอจนกว่าพระผู้เป็นเจ้าจะหันมาโปรดปรานเจ้า ไม่มีสิ่งใดหนีพระองค์ได้ พระองค์รู้ความลับของทั้งสวรรค์และโลก ความรู้ของพระองค์ครอบคลุมทุกสรรพสิ่ง อย่าปีติในสิ่งที่เจ้าได้ทำไปหรือ จะทำในอนาคต หรือยินดีที่ได้ก่อความทุกข์ทรมานให้แก่เรา เพราะ เจ้าไม่สามารถยกฐานะของตัวเองได้ด้วยวิธีดังกล่าว หากเจ้าตรวจ สอบงานของเจ้าด้วยปัญญาอันเฉียบแหลม และเจ้าก็ไม่สามารถลดทอนฐานะที่สูงส่งของเรา ไม่เพียงเท่านั้น พระผู้เป็นเจ้าจะเพิ่ม รางวัลตอบแทนให้เราที่ได้ทนทุกข์ทรมานด้วยความอดทน แท้จริงแล้วพระองค์จะเพิ่มรางวัลให้กับผู้ที่ยืนหยัดด้วยความอดทน

จงรู้ไว้ว่าตั้งแต่โบราณกาล การถูกทดสอบและความทุกข์ทรมาน เป็นเคราะห์ที่บังเกิดกับผู้ที่พระผู้เป็นเจ้ารักและเลือกสรร และคน รับใช้ที่ตัดความผูกพันจากทุกสิ่งนอกจากพระองค์ ผู้ซึ่งไม่ถูกสินค้า หรือการค้าส่อใจให้ลืมพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ ไม่พูดจนกว่าพระองค์จะพูด และปฏิบัติตามบัญญัติของพระองค์ ดังกล่าวนี้คือวิธีของ พระผู้เป็นเจ้าที่เป็นมาในอดีต และจะเป็นไปในอนาคต ขอพรจงมีแด่ผู้ที่ยืนหยัดอดทน ผู้ที่อดทนความยุ่งยากและแร้นแค้น ผู้ที่ไม่ เศร้าโศกต่อสิ่งใดก็ตามที่บังเกิดกับตน และผู้ที่เดินในหนทางแห่ง การยอมจำนน…

วันนั้นกำลังใกล้เข้ามา คือวันที่พระผู้เป็นเจ้าจะเชิดชูประชาชน ที่จะระลึกถึงวันเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ เล่าเรื่องความทุกข์ทรมานของ เรา เรียกร้องให้มีการเรียกสิทธิ์ของเราคืนมาจากพวกที่ปฏิบัติต่อเราอย่างอยุติธรรมโดยไม่มีพยานหลักฐานแม้แต่น้อย พระผู้เป็นเจ้ากุมชะตาชีวิตของบรรดาผู้ที่ประทุษร้ายเรา และทรงทราบการ กระทำของพวกเขาเป็นอย่างดี พระองค์จะไม่ปล่อยพวกเขาไว้แน่สำหรับบาปที่พวกเขากระทำ แท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรง พยาบาทที่โหดเหี้ยมที่สุด

ดังนี้เราเล่าเรื่องราวของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวให้เจ้าฟัง และมอบสิ่งที่พระองค์กำหนดไว้ล่วงหน้าให้แก่เจ้า เพื่อว่าเจ้า จะได้ขออภัยจากพระองค์ กลับไปหาพระองค์ สำนึกผิด ตระหนักในกรรมชั่วของเจ้า ตื่นจากความหลับใหลและไม่เอาใจใส่ แก้ตัวสำหรับสิ่งที่เสียไป และเป็นพวกที่กระทำความดี ผู้ที่ต้องการยอมรับ สัจธรรมในวจนะของเราก็จงยอมรับเถิด ส่วนผู้ที่ไม่ต้องการก็ย่อมเมินหนีไปได้ หน้าที่ประการเดียวของเราคือ เตือนให้เจ้าสำนึก ถึงความบกพร่องในหน้าที่ที่พึงมีต่อศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะได้เป็นพวกที่เอาใจใส่คำเตือนของเรา ดังนั้นจงสดับฟังวาทะของเรา กลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า แล้วจงสำนึกผิด เพื่อว่า พระองค์จะปรานีเจ้าด้วยความกรุณาล้างบาปของเจ้า และให้อภัยกรรมชั่วของเจ้า ความปรานีของพระองค์ยิ่งใหญ่กว่าความพิโรธ และความกรุณาของพระองค์ห้อมล้อมทุกคนที่กำเนิดมาด้วยชีวิต ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

GWB LXVI, 127-130

  1. สมดุลของโลกถูกรบกวนโดยอานุภาพสั่นสะเทือนของระบบแห่ง โลกใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ แบบแผนชีวิตของมนุษยชาติถูกปฏิวัติ โดยปฏิบัติการของระบบที่พิเศษและอัศจรรย์นี้ อย่างที่ไม่เคยปรากฏต่อสายตาของมนุษย์มาก่อน

จงดำดิ่งลงสู่มหาสมุทรแห่งวจนะของเรา เพื่อเจ้าจะได้คลี่คลายความลับที่อยู่ในพระวจนะ และค้นพบไข่มุกแห่งอัจฉริยภาพที่ซ่อน เร้นอยู่ในความล้ำลึกนั้น จงมีสติ เพื่อว่าเจ้าจะได้ยอมรับสัจธรรมของศาสนานี้อย่างไม่ลังเล ซึ่งเป็นศาสนาที่เปิดเผยศักยภาพของอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า และสถาปนาอธิปไตยของพระองค์ จงรีบไปหาพระองค์ด้วยใบหน้าที่เบิกบาน นี้คือศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง คงอยู่นิรันดรทั้งในอดีตและอนาคต ขอให้ผู้ที่แสวงหาได้เข้าถึง ส่วนผู้ที่ไม่ยอมแสวงหาเล่า พระผู้เป็นเจ้าทรงพร้อมมูลในพระองค์เองและไม่ต้องอาศัยผู้ใด

ศาสนานี้คือคันชั่งที่ไม่ผิดพลาดที่อยู่ในมือของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเอาไว้ชั่งและกำหนดชะตาของทุกคนทีอยู่ในสวรรค์และบนโลก หากเจ้าเป็นพวกที่เชื่อถือและยอมรับสัจธรรมนี้ โดยอาศัยศาสนานี้ ผู้ยากไร้กลับร่ำรวย ผู้แก่วิชากลายเป็นผู้รู้แจ้ง และผู้แสวงหาก็ได้ ขึ้นไปเฝ้าพระผู้เป็นเจ้า จงระวังอย่าทำให้ศาสนาเป็นเหตุของการพิพาทในหมู่พวกเจ้า จงมั่นคงประดุจภูผาในศาสนาของพระผู้เป็นนาย พระผู้ทรงอำนาจ พระผู้ทรงเปี่ยมไปด้วยความรัก

GWB LXX, 136-137

  1. ดูกร ประชาชนทั้งหลายของโลก อย่าได้ตระหนกใจเมื่อดวงดะวัน แห่งความงามของเราลับฟ้าไป และนภาแห่งเทพมณเฑียรของเรา เลือนหายไปจากสายตาของเจ้า จงลุกขึ้นส่งเสริมศาสนาและเชิดชูพระวจนะของเราในหมู่มนุษย์ เราอยู่กับเจ้าตลอดเวลา และจะเสริมพลังของเจ้าด้วยอานุภาพของสัจธรรม เราทรงมหิทธานุภาพอย่างแท้จริง ใครก็ตามที่ยอมรับเราจะลุกขึ้นรับใช้เราด้วยความมุ่งมั่นจนอำนาจของโลกและสวรรค์ไม่สามารถยับยั้งเจตนาของเขาได้

ประชาชนในโลกกำลังหลับใหล หากได้ตื่นขึ้นมา พวกเขา จะรีบไปหาพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ พวกเขาจะทิ้งทุกสิ่งที่ตนครอบครองแม้ว่าจะเป็นทรัพย์สมบัติทั้งหมดในโลก เพื่อว่าพระผู้เป็นนายจะได้จดจำและตรัสต่อพวกเขาแม้เพียงคำเดียว ดังนี้คือการชี้แนะจากพระผู้ทรงรอบรู้สรรพสิ่งที่เร้นลับ ซึ่งอยู่ในธรรมจารึกที่ไม่เคยประจักษ์ต่อสายตาของมนุษย์ และมิได้เปิดเผยต่อใคร.ยกเว้นพระองค์เอง พระผู้ทรงอำนาจคุ้มครองภพ ทั้งปวง พวกเขามัวเมาอยู่ในกิเลสอันชั่วร้ายจนไม่สามารถยอมรับ พระผู้เป็นนายแห่งชีวิดทั้งปวง ?ซึ่งสุรเสียงของพระองค์ก้องมาจากทุกสารทิศว่า : “ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากเรา พระผู้ทรงอำนาจ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ”

จงอย่าดีใจในสิ่งที่เจ้าครอบครอง คืนนี้มันเป็นของเจ้า พรุ่งนี้คนอื่นจะเอาไป นี้คือการเตือนจากพระผู้เป็นผู้ทรงรอบรู้ พระ ผู้ทรงทราบทุกอย่าง เจ้าอ้างได้หรือว่าสิ่งที่เจ้ามีอยู่นั้นยั่งยืนหรือนอนใจได้? ไม่เลย! เราเองผู้เป็นพระผู้ทรงปรานีเป็นพยาน วันเวลาของเจ้าผ่านไปเหมือนสายลม ความหรูหรารุ่งเรืองของเจ้าจะ ถูกพับเก็บเช่นเดียวกับผู้ที่มาก่อนเจ้า ดูกร ประชาชน! จงตรึกตรองดู วันเวลาและศตวรรษของเจ้าที่ล่วงเลยไปมีอะไรขึ้นมาบ้าง? ความสุข จงมีแด่วันที่อุทิศต่อการระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า และพระพรจงมีแด่ชั่วโมงที่ใช้ไปในการสรรเสริญพระผู้เป็นผู้ทรงอัจฉริยภาพ ชีวิตของเราเป็นพยาน! ไม่ว่าความหรูหราของผู้มีอำนาจหรือความมั่งคั่ง ของผู้ร่ำรวย หรือแม้แด่อำนาจของผู้ใร้ศีลธรรม ล้วนไม่ยั่งยืนและจะมลายสิ้นโดยวจนะจากพระองค์ แท้จริงแล้วพระองค์คือพระ ผู้ทรงอานุภาพ พระผู้ทรงอำนาจบีบบังคับ พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ ทรัพย์สมบัติที่มนุษย์ครอบครองมีประโยชน์อันใดหรือ? ส่วนสิ่งที่มีประโยชน์พวกเขากลับไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย ในไม่ช้าพวกเขาจะ ตื่นขึ้นมาจากความหลับใหล แล้วจะพบว่าตนไม่สามารถเรียกคืน สิ่งที่หลุดมือไปในสมัยที่พระผู้เป็นนาย พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้เป็นที่สรรเสริญยังอยู่ หากเพียงแต่รู้ พวกเขาจะสละสิ่งที่ตนมีอยู่ทั้งหมด เพื่อว่าชื่อของพวกเขาจะได้รับการกล่าวถึงต่อหน้าบัลลังก์ของพระองค์ แท้จริงแล้วพวกเขาถูกนับว่าเป็นคนตาย

GWB LXXI, 137-139

  1. ดูกร ประชาชน อย่าได้หวั่นใจเมื่อชีวิตที่เรืองรองของเราอำลา โลกนี้ไป และมหาสมุทรแห่งวจนะของเราสงบนิ่ง การที่เราอยู่กับ เจ้ามีข้อดีอย่างหนึ่ง และการที่เราไม่อยู่มีข้อดีอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่มี ใครหยั่งรู้ไต้นอกจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ไม่มีเปรียบปาน พระผู้ทรงรอบรู้ เรามองเห็นเจ้าจากอาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์ของเรา และจะช่วยผู้ที่ลุกขึ้นเพื่อชัยชนะของศาสนาของเราด้วยกองทัพ เทวัญเบื้องบนและหมู่เทพธิดาที่เราโปรดปราน

ดูกร ประชาชนทั้งหลายของโลก พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นสัจธรรม นิรันดรเป็นพยานให้เราว่า สายธารจากน่านน้ำไหลรินบริสุทธิ์พุ่ง ออกมาจากโขดหินแล้วโดยมธุราของวจนะที่เปล่งจากพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงอยู่เหนืออำนาจบังคับใดๆ และถึงกระนั้นเจ้ายังคงหลับใหล จงทิ้งสิ่งที่เจ้าครอบครอง และเหินด้วยปีกแห่งความ ไม่ยึดมั่นให้หลุดพ้นจากสรรพสิ่งทั้งปวง นี้คือบัญชาจากพระผู้เป็น-นายแห่งสรรพภาวะ ซึ่งการขยับปากกาของพระองค์ได้ปฏิวัติ วิญญาณของมนุษยชาติ

เจ้ารู้ไหมว่า พระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ กำลังเรียกเจ้าจากเบื้องบนระดับไหน? เจ้าคิดหรือว่า เจ้าได้ยอมรับ ปากกาที่พระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้เป็นนายของนามทั้งปวง ทรงใช้บัญชาเจ้า? ไม่เลย ชีวิตของเราเป็นพยาน! หากเจ้าเพียง แต่รู้เจ้าจะสละโลกและไปหาพระผู้เป็นที่รักยิ่งด้วยหัวใจทั้งหมด วิญญาณของเจ้าจะถูกขับด้วยพระวจนะของพระองค์จนทำให้ภพที่ ยิ่งใหญ่กว่าจลาจล และจะจลาจลยิ่งกว่าเพียงไหนสำหรับภพน้อย ๆ นี้ ดังนี้พระพรของเราได้หลั่งจากสวรรค์แห่งความเมตตารักใคร่ประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความกรุณาของเรา เพื่อว่าเจ้าจะเป็น ผู้ที่รู้คุณ…

จงระวังอย่าให้กิเลสและความใฝ่ต่ำทำให้พวกเจ้าแตกแยกกัน พวกเจ้าจงเป็นประดุจนิ้วบนมือเดียวกัน อวัยวะของร่างกายเดียวกัน ดังนี้คือคำแนะนำจากปากกาที่เปิดเผยพระธรรมสวรรค์ หากเจ้าเป็นพวกที่เชื่อ

จงพิจารณาดูความปรานีและของขวัญของพระผู้เป็นเจ้า พระ-องค์ทรงบัญชาสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่เจ้า ถึงแม้ว่าพระองค์เองไม่ ต้องพึ่งสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้นมา กรรมชั่วของเจ้ามิได้เป็นภัยต่อเรา กรรมดีของเจ้าก็หาได้เป็นประโยชน์ต่อเราไม่ เราเรียกร้องเจ้า ก็เพราะเห็นแก่พระผู้เป็นเจ้า และมนุษย์ผู้มีปัญญาหยั่งรู้จะเป็นพยานต่อสิ่งนี้

GWB LXII, 139-140

  1. จงฉีกม่านที่ปิดบังสายตาของเจ้าให้ขาดสะบั้นในนามของเราโดย อาศัยอานุภาพที่เกิดจากความเชื่อในเอกภาพของพระผู้เป็นเจ้า และจงเลิกหลับหูหลับตาลอกเลียนอย่างไร้สาระ จากนั้นจงเข้า มาในสวรรค์แห่งอภิรดีของพระผู้ทรงปรานี จงชำระวิญญาณของเจ้าให้บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ามิได้สอน และลิ้มมธุราของการพักผ่อนในบริเวณของการเปิดเผยพระธรรมที่ยิ่งใหญ่ไพศาลนี้ ภายใต้ร่มเงาของอำนาจสูงสุดที่ไม่มีผิดพลาดของพระองค์ อย่าให้ความเห็นแก่ตัวมาเป็นม่านปิดบังเจ้า เพราะเราทำให้การสร้างสรรค์ สมบูรณ์ที่ตัวเจ้าแต่ละคน เพื่อว่าความลาเลิศของงานฝีมือของเรา จะได้เปิดเผยต่อมนุษย์อย่างบริบูรณ์ เป็นความจริงที่ว่ามนุษย์ทุกคน สามารถเห็นคุณค่าความงามของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นที่สรรเสริญ หากมนุษย์ไม่ได้รับการประสาทด้วยความสามารถดังกล่าว เขาจะถูกเรียกให้ไปชี้แจงเหตุผลที่เขาเมินความงามนั้นได้อย่างไร? ในยุคที่ประชาชนทั้งปวงบนพิภพจะมาชุมนุมกัน และขณะที่ยืนอยู่ ณ เบื้องพระพักตร์ของพระผู้เป็นเจ้า หากเขาถูกถามว่า : “เหตุไฉนเจ้า จึงไม่เชื่อในความงามของเราและเมินไปจากเรา” และหากผู้นั้นตอบว่า : “เนื่องด้วยมนุษย์ทุกคนหลงผิด และไม่มีใครเต็มใจจะ หันหน้ามาหาสัจธรรม ข้าพเจ้าจึงเอาอย่างและไม่ยอมรับความงาม ของพระผู้ทรงอนันต์เช่นกัน” คำแก้ตัวเช่นนี้จะถูกปฏิเสธแน่นอน เพราะความศรัทธาของมนุษย์ไม่ขึ้นกับผู้ใดนอกจากตัวเขาเอง

GWB LXXV, 143

  1. ต่อคำถามของเจ้าเกี่ยวกับจุดกำเนิดของสรรพสิ่ง จงรู้ไว้เป็นที่แน่นอนว่า การสร้างสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าดำรงอยู่ตั้งแต่อนันตกาล และจะคงอยู่ต่อไปชั่วนิรันดร กำเนิดของสรรพสิ่งไม่มีจุดเริ่มต้น และอวสานของสรรพสิ่งไม่มีจุดจบ พระนามของพระองค์นั่นคือพระผู้สร้าง แสดงนัยถึงการสร้างสรรค์ ดังเช่นอภิไธยของพระองค์ นั่นคือพระผู้เป็นนายของมนุษย์ ต้องเกี่ยวพันถึงการดำรงอยู่ของคนรับใช้

เกี่ยวกับวาทะที่พระศาสดาทั้งหลายในอดีตกล่าวไว้เช่น “พระผู้เป็นเจ้าดำรงอยู่ตอนเริ่มต้น ไม่มีใครรู้จักพระองค์” และ “พระ-ผู้เป็นนายอยู่โดยลำพัง ไม่มีใครบูชาพระองค์” ความหมายของวาทะเหล่านี้และวาทะอื่นที่คล้ายกันเป็นที่ประจักษ์และชัดเจน และ ไม่ควรเป็นที่เข้าใจผิด สัจธรรมเดียวกันนี้ได้รับการยืนยันโดยวาทะ ที่พระองค์เปิดเผยไว้ว่า “พระผู้เป็นเจ้าอยู่โดยลำพัง ไม่มีใครอื่น นอกจากพระองค์ พระองค์จะคงอยู่เหมือนเดิมชั่วนิรันดร” ผู้มีปัญญาทุกคนจะเห็นได้เลยว่า บัดนี้พระผู้เป็นนายได้ปรากฏองค์ แล้ว แต่ถึงกระนั้นไม่มีใครยอมรับความรุ่งโรจน์ของพระองค์นี้หมายความว่า ที่สถิตของพระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือเกินกว่าผู้ใดจะเข้าถึงหรือเข้าใจนอกจากพระองค์ สิ่งใดก็ตามในโลกที่ไม่จีรังนี้ที่เราสามารถแสดงออกหรือเข้าใจได้ ไม่สามารถล่วงเกินขอบเขตที่ธรรมชาติกำหนดไว้ พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่อยู่เหนือข้อจำกัดเหล่านี้ แท้จริงแล้วพระองค์ดำรงอยู่ตั้งแต่อนันตกาล ไม่มีผู้ใดเปรียบปาน หรือเสมอกับพระองค์ได้ ไม่มีนามใดเปรียบกับพระนามของพระองค์ ได้ ไม่มีปากกาด้ามใดพรรณนาพระองค์หรือวจีใดอธิบายความรุ่งโรจน์ของพระองค์ได้ ตราบชั่วนิรันดรพระองค์จะคงภิญโญภาพ เหนือทุกคนนอกจากพระองค์เอง

จงพิจารณาชั่วโมงที่บรมศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าเปิดเผย พระองค์เองต่อมนุษย์ ก่อนที่ชั่วโมงนั้นจะมาถึง พระผู้ทรงดำรง อยู่แต่บรมโบราณ แม้ยังไม่เป็นที่ทราบสำหรับมนุษย์และยังไม่ได้ เอ่ยพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ทรงเป็นสรรเพชุดาในภพที่ปราศจากนรชนที่รู้จักพระองค์ ที่จริงแล้วพระองค์คือพระผู้สร้างที่ปราศจาก สิ่งสร้างสรรค์ เพราะในวินาทีก่อนการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ ของพระองค์ ทุกสรรพสิ่งจำต้องสละวิญญาณของตนให้พระผู้เป็นเจ้า ที่จริงแล้วนี้คือยุคที่ได้รับการจารึกไว้ว่า : “อาณาจักรในยุคนี้เป็น ของใคร?” และไม่พบผู้ใดพร้อมที่จะตอบ!

GWB LXVIII, 150-151

  1. ต่อคำถามของเจ้าเกี่ยวกับภพต่างๆของพระผู้เป็นเจ้า จงรู้ความ จริงไว้ว่าภพของพระผู้เป็นเจ้ามีจำนวนนับไม่ถ้วนและไร้ขอบเขต ไม่มีใครสามารถนับหรือเข้าใจภพเหล่านี้นอกจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ จงพิจารณาภาวะที่เจ้าหลับ ที่จริงแล้วปรากฏการณ์นี้คือสัญลักษณ์ที่ลึกลับที่สุดของพระ-ผู้เป็นเจ้าในหมู่มนุษย์ หากพวกเขาตรึกตรองสิ่งนี้ในหัวใจ จงดูซิ ว่าสิ่งที่เจ้าเห็นในฝันต่อมาภายหลังได้บังเกิดขึ้นจริงอย่างไร หากภพที่เจ้าเห็นตัวเองในฝันเป็นภพเดียวกับโลกที่เจ้าอาศัยอยู่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฝันนั้นต้องเกิดขึ้นในโลกนี้ในเวลาเดียวกัน หากเป็นเช่นนี้ตัวเจ้าเองย่อมได้เห็น แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ดังนั้นโลกที่เจ้าอาศัยอยู่ต้องต่างจากภพที่เจ้าประสบในฝัน ซึ่งภพนี้ไม่มีจุดเริ่มต้น และไม่มีจุดจบ หากเจ้าโต้แย้งว่าภาพเดียวกันนี้อยู่ในตัวเจ้าเองตาม ที่ประกาศิตไว้โดยพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงความรุ่งโรจน์และมหิทธานุภาพ นั่นคือความจริง และก็เป็นความจริงเช่นกันที่จะยืนยันว่า วิญญาณของเจ้าหลังจากหลุดพ้นจากสภาวะหลับและความผูกพันกับโลก ได้ผ่านเข้าไปในอาณาจักรที่เร้นลับที่สุดของโลกนี้ แท้จริงแล้วพระ-ผู้เป็นเจ้าทรงสร้างภพอื่นด้วยนอกจากโลกนี้ และสร้างสิ่งมีชีวิตอื่น ด้วยนอกจากสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ ในแต่ละภพเหล่านี้พระองค์ทรง กำหนดสิ่งที่ไม่มีใครค้นหาไต้นอกจากพระองค์เอง พระผู้ทรงค้นหา พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ เจ้าจงทำสมาธิตรึกตรองสิ่งที่เราเปิดเผยต่อ เจ้า เพื่อว่าเจ้าจะได้ค้นพบจุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้เป็นนายของภพทั้งปวง ความลับของเมธาสวรรค์ ถนอมไว้ในวจนะเหล่านี้ เราละเว้นจากการสาธยายเรื่องนี้ก็เพราะ ความเศร้าโคกที่รุ่มล้อมเรา ซึ่งมาจากการกระทำของบรรดาผู้ที่วจนะ ของเราสร้างขึ้นมา หากเจ้าเป็นพวกที่จะสดับฟังสุรเสียงของเรา

LXXIX, 151-153

  1. เจ้าถามเราว่า นอกจากพระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าและบรรดาผู้ที่พระองค์เลือกสรร ความเป็นปัจเจก อัตภาพ สติ และความเข้าใจของมนุษย์ขณะที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ จะคงอยู่ต่อไปหรือไม่หลัง ร่างกายตาย เจ้าได้สังเกตเห็นแล้วว่า ภัยที่เกิดกับสมองเพียงเล็ก น้อยเช่นการเป็นลมหรืออาการป่วยหนัก ได้บั่นทอนความเข้าใจ และสติของมนุษย์ ดังนั้นจะเป็นไปได้อย่างไรที่ความตายซึ่งนำไป สู่การเน่าเปื่อยของร่างกายและการสลายขององค์ประกอบจะไม่สามารถทำลายความเข้าใจและดับสติของมนุษย์? เมื่ออวัยวะต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงอยู่และปฏิบัติการของสติได้เสื่อมสลายไปจนหมดสิ้น ใครเล่าที่ยังจะคิดอีกว่าสติและอัตภาพของมนุษย์ยังคงอยู่?

เจ้าจงรู้ไว้ว่า วิญญาณของมนุษย์เป็นอิสระและอยู่เหนือทุพพลภาพทั้งปวงของร่างกายและจิตใจ การที่ผู้ป่วยแสดงความ อ่อนแอ เป็นเพราะเกิดการปิดกันระหว่างวิญญาณและร่างกายของ เขา เพราะวิญญาณไม่ถูกกระทบกระเทือนจากความเจ็บป่วยของ ร่างกาย จงพิจารณาดูแสงของตะเกียง แม้จะมีวัตถุมาขวางกั้น การล่องแสงของตะเกียง แสงนั้นยังคงฉายต่อไปไม่อ่อนลง ในทำนองเดียวกัน ความเจ็บป่วยทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายเป็นสิ่ง ปิดกั้นมิให้วิญญาณแสดงอำนาจและอานุภาพออกมา อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกจากร่างกาย วิญญาณจะแสดงอิทธิและอานุภาพอย่างที่ไม่มีพลังใดในโลกเทียบเท่า วิญญาณที่บริสุทธิ์ทุกดวงจะได้รับการ ประสาทด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่และจะปีติอย่างเหลือล้น

จงพิจารณาดูตะเกียงที่ถูกตะกร้าครอบ แม้ว่าแสงของตะเกียงยังส่องสว่าง แต่รัศมีถูกบดบัง ในทำนองเดียวกัน จงพิจารณาดูดวงอาทิตย์ที่ถูกก้อนเมฆบดบัง จงสังเกตดูว่าแสงอาทิตย์ดูเหมือน อ่อนลง แต่ในความจริงแล้วแหล่งกำเนิดแสงนั้นไม่เปลี่ยนแปลง วิญญาณของมนุษย์เปรียบได้กับดวงอาทิตย์ และทุกสิ่งบนโลกเป็น ร่างกายของมนุษย์ ตราบใดที่ไม่มีสิ่งใดปิดกั้นระหว่างวิญญาณและร่างกาย ร่างกายทุกส่วนจะยังคงสะท้อนแสงของวิญญาณ และ ได้รับอานุภาพค้ำจุนจากวิญญาณ แต่ถ้ามีม่านมาคั่นระหว่าง วิญญาณและร่างกาย ความสว่างไสวของแสงนั้นจะดูเหมือนอ่อนลงทันที

จงพิจารณาดูดวงอาทิตย์ที่ถูกก้อนเมฆบังจดมิด แม้ว่าพื้นโลก ยังคงได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ แต่แสงที่ได้รับนั้นอ่อนลงอย่างมาก จนกว่าก้อนเมฆจะสลายตัว ดวงอาทิตย์จึงจะฉายแสงได้เจิดจ้าเต็มที่ การมีก้อนเมฆหรือไม่ก็มิได้มีผลต่อความสว่างไสวในตัวของดวงอาทิตย์ เอง วิญญาณของมนุษย์คือดวงอาทิตย์ที่ฉายแสงให้ร่างกายและค้ำจุนชีวิต และควรเข้าใจตามนี้

นอกจากนี้จงพิจารณาดูว่า ผลไม้มีศักยภาพแฝงอยู่ในต้นไม้อย่างไร แม้ว่าต้นไม้ยังไม่ออกผล หากต้นไม้ถูกตัดเป็นชิ้น ๆ ก็จะไม่พบร่องรอยหรือส่วนใดของผลไม้แม้แต่น้อย แต่เมื่อต้นไม้นั้น ออกผล ความงามและความลมบูรณ์อันรุ่งโรจน์อัศจรรย์ของผลไม้ จึงปรากฏออกมา ผลไม้บางชนิดจะสุกเต็มที่ก็ต่อเมื่อถูกตัดจาก ต้นไม้

GWB LXXX, 153-155

  1. บัดนี้มาถึงคำถามของเจ้าเกี่ยวกับวิญญาณของมนุษย์และการดำรง อยู่ภายหลังความตาย เจ้าจงรู้ความจริงไว้ว่า ภายหลังที่แยกจากร่างกาย วิญญาณจะพัฒนาต่อไปจนกระทั่งไปถึงที่สถิตของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งจะเป็นไปในสภาวะที่การหมุนเวียนของยุคสมัยและ ศตวรรษ หรือการเปลี่ยนแปลงและความบังเอิญของโลกนี้ ก็ไม่ สามารถหันเหได้ วิญญาณจะคงอยู่ตราบเท่าที่อาณาจักร อธิปไตย และอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้ายังอยู่ วิญญาณจะแสดงสัญลักษณ์ และคุณลักษณะของพระผู้เป็นเจ้า และจะเปิดเผยความเมตตารักใคร่และความอารีของพระองค์ ปากกาของเราหยุดชะงักเพื่อพยายาม จะอธิบายความสูงส่งและความรุ่งโรจน์ของฐานะอันประเสริฐของวิญญาณ เกียรติที่พระหัตถ์แห่งความปรานีจะมอบให้วิญญาณนั้น ไม่มีวจีใดเปิดเผยได้ ไม่มีสิ่งใดในโลกอธิบายได้อย่างเพียงพอ พระพร จงมีแด่วิญญาณที่ในชั่วโมงแห่งการแยกจากร่างกาย ได้รับการชำระ ให้ปลอดจากจินตนาการอันไร้สาระของประชาชนบนโลก ดวง วิญญาณดังกล่าวดำรงอยู่และเคลื่อนไหวไปตามพระประสงค์ของ พระผู้เป็นเจ้า และเข้าไปสู่สวรรค์ชั้นสูงสุด บริจาริกาบนสวรรค์ ผู้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์อันประเสริฐสุดจะรายล้อมดวงวิญญาณนั้น พระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าและบรรดาผู้ที่พระองค์เลือกสรร จะ เข้ามาคบหาสมาคมด้วย ดวงวิญญาณนั้นจะสนทนากับบุคคล เหล่านี้ได้อย่างอิสระ และจะเล่าให้พวกเขาฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ตนได้ ทนทุกข์ในวิถีทางของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งภพทั้งปวง หากมนุษย์ได้รับการบอกเล่าถึงสิ่งที่กำหนดไว้ให้ดวงวิญญาณดังกล่าว ในภพด่าง ๆ ของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งบัลลังก์เบื้องบน และโลกเบื้องล่าง ชีวิตของเขาจะลุกโพลงอย่างทันใดด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะบรรลุถึงฐานะที่บริสุทธิ์อำไพและประเสริฐ สุดนี้…ธรรมชาติของวิญญาณภายหลังความตายไม่สามารถอธิบาย ได้ ไม่สมควรหรือเป็นที่อนุญาตให้เปิดเผยลักษณะทั้งหมดของวิญญาณต่อสายตาของมนุษย์ พระศาสดาและธรรมทูตของพระผู้เป็นเจ้าถูกส่งมาเพื่อจุดประสงค์เดียวคือ นำทางมนุษยชาติไปสู่ วิถีแห่งสัจธรรม เจตนาที่อยู่เบื้องหลังการเปิดเผยพระธรรมของ พระศาสดาคือการอบรมมวลมนุษย์ เพื่อว่าในชั่วโมงแห่งความตาย มนุษย์จะได้ขึ้นไปสู่บัลลังก์ของพระผู้ทรงความสูงส่ง ด้วยความวิสุทธิ์และไม่ผูกพัน แสงสว่างที่ฉายมาจากดวงวิญญาณเหล่านี้ ก่อให้เกิดการพัฒนาของโลกและความก้าวหน้าของประชาชน ดวงวิญญาณเหล่านี้เป็นเสมือนผงฟูที่ทำให้สรรพภาวะฟูขึ้น และเป็นพลังขับเคลื่อนให้ศิลปะและสิ่งมหัศจรรย์ในโลกปรากฏออกมา ทำให้ ก้อนเมฆหลั่งฝนมายังมนุษย์ และพึ๊นพิภพออกผล ทุกสิ่งจำเป็น ต้องเกิดจากเหตุและอานุภาพขับเคลื่อนซึ่งเป็นไปตามกฎ ดวงวิญญาณเหล่านี้ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งความไม่ผูกพันจะให้แรงขับสูงสุด แก่สรรพภาวะภพถัดไปต่างจากโลกนี้ดังที่โลกนี้ต่างจากโลกของทารกในครรภ์มารดา เมื่อไปถึงที่สถิตของพระผู้เป็นเจ้า ดวงวิญญาณ นั้นจะดำรงสภาวะที่เหมาะกับความเป็นอมตะที่สุด และคู่ควรที่จะ ได้อาศัยอยู่ในทิพยสถาน การดำรงสภาวะดังกล่าวมิใช่การดำรง อยู่ที่ตายตัว เพราะเป็นการดำรงอยู่ที่มีเหตุนำมาก่อน การดำรง อยู่ที่ตายตัวต้องไม่ขึ้นกับเหตุ และเป็นของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ผู้ที่ เข้าใจสัจธรรมนี้ หากเจ้าตรึกตรองด้วยหัวใจเกี่ยวกับความประพฤติ ของพระศาสดาทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้า เจ้าย่อมเป็นพยานได้เลยว่า ต้องมีภพอื่นอีกนอกจากโลกนี้ ตามที่บันทึกไว้โดยปากกาแห่งความรุ่งโรจน์ในธรรมจารึกแห่งอัจฉริยภาพ ผู้ชาญฉลาดและแก่วิชาส่วนใหญ่ตลอดทุกยุคสมัย ได้เป็นพยานต่อสัจธรรมที่คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าเปิดเผย แม้แต่นักวัตถุนิยมยังรับรอง อัจฉริยภาพของธรรมทูตจากสวรรค์เหล่านี้เป็นลายลักษณ์อักษร และถือว่าสิ่งที่พระศาสดาพาดพิงถึงสวรรค์ ไฟนรก รางวัลและการลงโทษในอนาคต เกิดจากความต้องการจะอบรมและยกระดับวิญญาณของมนุษย์ ดังนั้นจงพิจารณาดูว่ามนุษยชาติโดยส่วนรวม ไม่ว่าจะมีความเชื่อใดหรือทฤษฎีใดก็ตาม ได้ยอมรับความล้ำเลิศ และยิ่งใหญ่กว่าของพระศาสดาเหล่านี้ของพระผู้เป็นเจ้า มณีแห่งความไม่ผูกพันเหล่านี้ได้รับการสดุดีจากบางคนว่าเป็นผู้ทรงอัจฉริยภาพ ขณะที่คนอื่นเชื่อว่าพระองค์เป็นกระบอกเสียงของพระผู้เป็นเจ้าเอง หากพระศาสดาทั้งหลายเชื่อว่าภพทั้งปวงของพระ ผู้เป็นเจ้ามีแค่เพียงชีวิตบนโลกนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่พระองค์จะยอมจำนนต่อศัตรู? เป็นไปได้หรือที่พระองค์จะเต็มใจยอมทนทุกข์ ทรมานอย่างที่ไม่มีมนุษย์คนใดเคยประสบหรือเห็นมาก่อน?

GWB LXXXI, 155-158

  1. เจ้าถามเราเกี่ยวกับธรรมชาติของวิญญาณ จงรู้ไว้ว่าวิญญาณ คือสัญลักษณ์หนึ่งของพระผู้เป็นเจ้า คือมณีสวรรค์ที่มนุษย์ผู้แก่ วิชาที่สุดก็ไม่สามารถเข้าใจความลับของวิญญาณนั้น ปัญญาที่เฉียบแหลมเพียงไรก็ไม่สามารถคลี่คลายได้ วิญญาณคือสิ่งแรกในสรรพสิ่งทั้งปวงที่ประกาศความล้ำเลิศของพระผู้สร้าง ยอมรับความรุ่งโรจน์ของพระองค์ ยึดมั่นอยู่กับสัจธรรมของพระองค์ และน้อมบูชาพระองค์ หากวิญญาณซื่อสัตย์ต่อพระผู้เป็นเจ้า วิญญาณจะสะท้อนอาภาของพระองค์และกลับไปหาพระองค์ในที่สุด แต่ถ้าวิญญาณไม่ภักดีต่อพระผู้สร้าง วิญญาณจะกลายเป็นเหยื่อของอัตตา และกิเลส และจมอยู่ในนั้นในที่สุด

ในยุคนี้ใครก็ตามที่ไม่ยอมให้ข้อสงสัยและความเพ้อฝันของ มนุษย์มาทำให้ตนเมินพระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดร ไม่ยอมให้ความชุลมุนที่ปลุกปั้นโดยนักบวชและเจ้าหน้าที่มายับยั้งตนมิให้ยอมรับ พระธรรมของพระองค์ บุคคลดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาโดย พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายของมวลมนุษย์ ว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ อันยิ่งใหญ่ของพระองค์ และจะได้รับการนับว่าเป็นพวกที่ถูกจารึกชื่อไว้ในคัมภีร์โดยปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่ง พระพรจงมีแต่ผู้ที่ยอมรับสถานะที่แท้จริงของดวงวิญญาณดังกล่าว ยอมรับฐานะและคุณธรรมของดวงวิญญาณนั้น

หนังสือในอดีตได้เขียนไว้มากมายเกี่ยวกับระยะต่าง ๆ ของพัฒนาการของวิญญาณ เช่น กามตัณหา โทสะจริต ได้รับการดลใจ มีเมตตาจิต พึงพอใจ เป็นที่ยินดีของพระผู้เป็นเจ้า และทำนองคล้ายกัน อย่างไรก็ตามปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่งไม่อยากสาธยายระยะเหล่านี้ ในยุคนี้วิญญาณทุกดวงที่เดินไปกับพระผู้เป็นเจ้า อย่างถ่อมตัว และยึดมั่นอยู่กับพระองค์ จะพบว่าตนได้รับการประสาทด้วยเกียรติและความรุ่งโรจน์ของนามและฐานะที่ดีงามทั้งปวง

ขณะที่มนุษย์หลับ ตัววิญญาณเองไม่ถูกกระทบโดยวัตถุภายนอกใด ๆ ภาวะหรือลักษณะดั้งเดิมของวิญญาณไม่มีการเปลี่ยนแปลง ความผันแปรในการปฏิบัติงานของวิญญาณ มีเหตุมาจากภายนอก ปัจจัยภายนอกเหล่านี้เองที่เป็นเหตุของความผันแปรในสภาวะแวดล้อม ความเข้าใจและการรับรู้ของวิญญาณ

จงพิจารณาดูดวงตาของมนุษย์ซึ่งแม้จะสามารถมองเห็นทุกสรรพสิ่ง แต่สิ่งปิดกั้นเพียงน้อยนิดก็อาจบังสายตาจนไม่สามารถ มองเห็นวัตถุใด ๆ ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระนามของพระผู้สร้าง และเป็นปฐมเหตุของเหตุเหล่านี้ ผู้ทรงกำหนดให้การเปลี่ยนแปลง และความผันแปรทุกอย่างในสรรพภาวะขึ้นกับเหตุต่าง ๆ ทุก สรรพสิ่งในจักรวาลเป็นเพียงประตูนำไปสู่ความรู้ของพระองค์ เป็น เครื่องหมายของอธิปไตยของพระองค์ เป็นการเปิดเผยพระนาม ของพระองค์ เป็นสัญลักษณ์ของราชศักดาและอานุภาพของพระองค์ เป็นหนทางไปสู่วิถีธรรมของพระองค์…

ที่จริงแล้วแก่นแท้ของวิญญาณของมนุษย์คือหนึ่งในสัญลักษณ์ ของพระผู้เป็นเจ้า หนึ่งในความลึกลับของพระองค์ หนึ่งในสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ และบ่งบอกถึงการดำรงอยู่จริงของภพทั้งปวงของพระผู้เป็นเจ้า สิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในวิญญาณ นั้นโลกปัจจุบันไม่สามารถเข้าใจได้แม้แต่น้อย จงใช้หัวใจตรึกตรอง การเปิดเผยพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าที่ซึมซาบอยู่ในกฎทั้งปวงของพระองค์ และเปรียบเทียบข้อแตกต่างกับธรรมชาติฝ่ายต่ำที่ต่อต้านพระองค์ ห้ามมนุษย์มิให้หันไปหาพระผู้เป็นนายแห่งนาม และผลักดันมนุษย์ไปสู่ตัณหาและความเลวทราม ความจริงแล้ว วิญญาณดังกล่าวหลงทางไปไกล…

เจ้ายังถามเราอีกเกี่ยวกับสภาวะของวิญญาณภายหลังที่แยกจากร่างกาย จงรู้ความจริงไว้ว่า หากวิญญาณของมนุษย์เดินใน วิถีธรรมของพระผู้เป็นเจ้า วิญญาณนั้นจะกลับไปสู่ความรุ่งโรจน์ ของพระผู้เป็นที่รักยิ่งอย่างแน่นอน ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้า เป็นพยาน! ดวงวิญญาณนั้นจะบรรลุถึงสถานะที่ไม่มีปากกาด้ามใด พรรณนาได้ ไม่มีวจีใดอธิบายได้ ดวงวิญญาณที่ซื่อสัตย์ต่อศาสนา ของพระผู้เป็นเจ้าและมั่นคงไม่หวั่นไหวอยู่ในวิถีของพระองค์ ภายหลังที่แยกจากร่างกาย จะครอบครองอานุภาพที่ทุกภพที่พระผู้ทรงมหิทธานุภาพสร้างไว้จะได้รับประโยชน์จากเขา โดยบัญชาจากราชัน ผู้ล้ำเลิศและผู้อบรมจากสวรรค์ ดวงวิญญาณดังกล่าวจะให้ผงฟูที่ ทำให้สรรพภาวะฟูขึ้น และประสาทอานุภาพที่หนุนนำให้ศิลปะ และสิ่งอัศจรรย์ในโลกปรากฏออกมา จงพิจารณาดูว่า อาหารจะฟูขึ้นต้องใช้ผงฟูอย่างไร ดวงวิญญาณที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความ ไม่ผูกพันคือผงฟูสำหรับโลก จงทำสมาธิตรึกตรองสิ่งนี้ แล้วจงเป็นผู้ที่รู้คุณ

ในหลายธรรมจารึกเราได้พาดพิงถึงหัวข้อนี้ และอธิบายระยะต่าง ๆ ของพัฒนาการของวิญญาณ แท้จริงแล้ววิญญาณของมนุษย์ สูงส่งกว่าการออกการคืนตัว ดวงวิญญาณอยู่นิ่งแต่ก็เหิน เคลื่อนไหวแต่ก็ไม่ไหวติง ดวงวิญญาณเองคือหลักฐานที่ยืนยันถึงการดำรง อยู่ของโลกที่ไม่จีรังและโลกที่ไม่มีการเริ่มต้นหรือสิ้นสุด จงดูซิว่า สิ่งที่เจ้าฝันได้ปรากฏต่อสายดาของเจ้าอย่างไรหลังจากหลายปีผ่านไป จงพิจารณาดูว่าความลึกลับของภพที่ปรากฏในฝันของเจ้าช่างแปลกเพียงไร จงตรึกตรองด้วยหัวใจเกี่ยวกับอัจฉริยภาพ ที่หยั่งไม่ถึงของพระองค์ที่แสดงออกมาในรูปแบบต่าง ๆ นานัปการ…

จงเป็นพยานต่อหลักฐานที่อัศจรรย์ของงานฝีมือของพระผู้เป็นเจ้า และใคร่ครวญถึงขอบเขตและลักษณะของงานฝีมือนี้ พระผู้เป็นตราประทับของพระศาสดาทรงกล่าวไว้ว่า : “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า! ขอทรงทำให้ข้าพเจ้าพิศวงและอัศจรรย์ใจในพระองค์ยิ่งขึ้น”

ต่อคำถามของเจ้าที่ว่า โลกนี้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดใด ๆ หรือไม่ จงรู้ไว้ว่าความเข้าใจในเรื่องนี้ขึ้นกับผู้สังเกตเอง นัยหนึ่งโลกนี้มีข้อจำกัด อีกนัยหนึ่งโลกนี้อยู่เหนือข้อจำกัดทั้งปวง พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวดำรงอยู่ตั้งแต่นิรันดรกาล และจะดำรงอยู่ต่อไปชั่วนิรันดร การสร้างสรรค์ของพระองค์ไม่มีการเริ่มต้นและไม่มี สิ้นสุดเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามทุกสรรพสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมามีเหตุนำมาก่อน ข้อเท็จจริงนี้ยืนยันถึงเอกภาพของพระผู้สร้าง อย่างไร้ข้อกังขา

เจ้ายังถามเราอีกเกี่ยวกับท้องฟ้า การจะเข้าใจธรรมชาติ ของท้องฟ้าจำเป็นต้องศึกษาความหมายที่อยู่ในคัมภีร์ต่าง ๆในอดีต ที่พาดพิงถึงท้องฟ้า ค้นหาความสัมพันธ์ของท้องฟ้ากับโลกนี้และอิทธิพลที่ท้องฟ้ามีต่อโลก หัวใจทุกดวงพิศวงต่อเรื่องที่ฉงนปัญญานี้ ความลึกสับของท้องฟ้าฉงนปัญญาของทุกคน พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น ที่หยั่งรู้ธรรมชาติของท้องฟ้า บรรดาผู้แก่วิชาได้กำหนดอายุของ โลกนี้ไว้หลายพันปี เป็นเวลาอันยาวนานที่พวกเข้าเฝ้าสังเกตตำแหน่งของดวงดาว แต่หาได้พิจารณาจำนวนหรืออายุของดวงดาวอื่นไม่ นอกจากนี้ จงพิจารณาดูทฤษฎีต่าง ๆ ที่บุคคลเหล่านี้นำเสนอซึ่งแตกแขนงออกไปมากมาย จงรู้ไว้ว่าตะวันทุกดวงมีดาวเคราะห์เป็นบริวาร และดาวเคราะห์ทุกดวงมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ซึ่งไม่มีใครคำนวณได้

ดูกร ผู้พิศดูพักตรากฤดิของเรา! ในยุคนี้อรุโณทัยแห่งความ รุ่งโรจน์ได้ทอแสงแล้ว และสุรเสียงของพระผู้ทรงความสูงส่งกำลัง ร้องเรียก ก่อนหน้านี้เราได้เอ่ยวจนะเหล่านี้ : “ยุคนี้มิใช่สำหรับผู้ใดจะตั้งข้อสงสัยพระผู้เป็นนายของเขา ผู้ที่สดับฟังเสียงร้องเรียกของพระผู้เป็นเจ้าที่เปล่งมาจากพระผู้เป็นอรุโณทัยแห่งความรุ่งโรจน์ มีหน้าที่ลุกขนแล้วเปล่งเสียงว่า : “ข้าแต่พระผู้เป็นนายแห่งนาม ทั้งปวง ข้าพเจ้าอยู่นี่ ข้าพเจ้าอยู่นี่ ข้าแต่พระผู้สร้างสวรรค์! ข้าพเจ้าอยู่นี่ ข้าพเจ้าขอเป็นพยานว่า การเปิดเผยพระธรรมของพระองค์ ได้เปิดเผยสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่โนคัมภีร์ของพระผู้เป็นเจ้า และทำให้สิ่งที่ธรรมทูตทั้งหลายของพระองค์บันทึกไว้ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ใต้บังเกิด ขึ้นจริง”

GWB LXXXII, 158-163

  1. บัดนี้มาถึงคำถามของเจ้าที่ว่า ภายหลังที่แยกจากร่างกาย วิญญาณ ของมนุษย์ยังคงรู้จักกันและกันหรือไม่ จงรู้ไว้ว่า ดวงวิญญาณของ ประชาชนแห่งบาฮาผู้ซึ่งเข้าไปสถิตอยู่ในเรือคริมซั่น จะสมาคมและสนทนากันอย่างสนิทสนม ชีวิต ความใฝ่ฝัน จุดมุ่งหมายและความ พยายามของพวกเจ้าจะสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดประดุจเป็นวิญญาณดวงเดียวกัน พวกเขาคือผู้ที่ทราบดี มีสายตาแหลมคม และมีความเข้าใจอย่างแท้จริง ดังนี้คือประกาศิตของพระผู้เป็นผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ

ประชาชนแห่งบาฮาทุกคนผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในเรือแห่งความรอดพ้น ของพระผู้เป็นเจ้า จะตระหนักถึงสภาวะของกันและกัน และจะเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยพันธะแห่งความสนิทสนมและมิตรภาพ อย่างไรก็ตาม สภาวะดังกล่าวขึ้นกับความศรัทธาและความประพฤติของ พวกเขา ผู้ที่อยู่ในระดับและฐานะเดียวกันจะตระหนักดีถึงความสามารถ อุปนิสัย ผลงาน และคุณความดีของกันและกัน ผู้ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าจะไม่สามารถเข้าใจฐานะหรือประเมินคุณความดี ของผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าได้เพียงพอ แต่ละคนจะได้รับส่วน แบ่งจากพระผู้เป็นนายของเจ้า พระพรจงมีแด่ผู้ที่หันหน้าเข้าหาพระองค์และมั่นคงอยู่ในความรักของพระองค์ จนกระทั่งวิญญาณ ของเขาบินไปสู่พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายสูงสุดของทุกคน พระผู้ทรงอานุภาพที่สุด พระผู้ทรงอภัยเสมอ พระผู้ทรงปรานี

อย่างไรก็ตามเราขอเป็นพยานว่า วิญญาณของผู้ที่ไม่มีศาสนา เมื่อหายใจเฮือกสุดท้ายจะตระหนักถึงสิ่งดีงามทั้งหลายที่หนีจากเขาไป จะคร่ำครวญต่อชะตาของตนเองและถ่อมตัวต่อพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาจะเป็นเช่นนี้ต่อไปภายหลังจากที่วิญญาณของตนแยกจากร่างกาย

เป็นที่ประจักษ์และชัดเจนว่า หลังจากที่ร่างกายตาย มนุษย์ ทุกคนจะประเมินคุณค่าของการกระทำของตน และจะตระหนักถึงสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป เราขอเป็นพยานต่อดวงตะวันที่เรืองแสง อยู่เหนือขอบฟ้าแห่งอานุภาพสวรรค์! ผู้ที่เป็นสาวกของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ขณะที่จากชีวิตนี้ไป จะประสบกับความปีติ หรรษาจนเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบาย ส่วนผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างหลงผิดจะถูกครอบงำด้วยความกลัวและสั่นสะท้าน จะอกสั่นขวัญหนีอย่างไม่มีสิ่งใดเปรียบ ขอความสุขสวัสดีจงมีแต่ผู้ที่ได้ดื่มอมฤตแห่งความ ศรัทธาจากกรุณาธิคุณและพระพรอเนกอนันต์ของพระผู้เป็นนายแห่งศาสนาทั้งปวง…

ยุคนี้คือยุคที่บรรดาผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้าควรมองไปที่ พระผู้แสดงธรรมของพระองค์ และพิศดูสิ่งที่พระผู้แสดงธรรมนั้น ยินดีจะเปิดเผยความเชื่อบางอย่างที่เล่าต่อกันมาจากยุคในอดีตหามีมูลไม่ ข้อคิดเห็นจากบรรพชนและที่บันทึกไว้ในหนังสือนั้น ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากกิเลสจูงใจ เจ้าเห็นแล้วว่า ข้อวิจารณ์ และการดีความวจนะของพระผู้เป็นเจ้าที่ยอมรับกันทั่วไปในหมู่มนุษย์ นั้นไร้ซึ่งสัจธรรม และในบางกรณีได้เผยความจอมปลอมออกมาเมื่อม่านที่ปิดกั้นขาดสะบั้นลง พวกเขายอมรับตนเองว่า ตนไม่เข้าใจความหมายของวจนะใด ๆ ของพระผู้เป็นเจ้า

จุดประสงค์ของเราคือเพื่อแสดงให้เห็นว่า หากบรรดาผู้เป็น ที่รักของพระผู้เป็นเจ้าประทินหัวใจและหูของตนให้บริสุทธิ์ปลอด จากคำพูดอันไร้สาระที่พูดกันมาตั้งแต่อดีต แล้วหันมาหาพระผู้เป็นอรุโณทัยแห่งการเปิดเผยพระธรรมและธรรมะที่พระองค์แสดงความประพฤติเช่นนี้ย่อมได้รับการพิจารณาว่ามีกุศลสูงส่งในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า…

จงสรรเสริญพระนามของพระองค์และจงเป็นที่รู้คุณ จงมอบคำอวยพรจากเราให้แก่บรรดาผู้เป็นที่รักของเรา ผู้ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าเลือกไว้สำหรับความรักของพระองค์ และทรงบันดาลให้พวกเขาบรรลุวัตถุประสงค์ของตน ความรุ่งโรจน์ทั้งปวงเป็นของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งภพทั้งปวง

GWB LXXXVI, 169-172

  1. คัมภีร์ของพระผู้เป็นเจ้ากางออกแล้ว และพระวจนะของพระองค์ กำลังเรียกมนุษยชาติให้มาหาพระองค์ อย่างไรก็ตาม มีเพียงแค่หยิบมือที่เต็มใจจะยึดถือศาสนาของพระองค์ หรือยอมเป็นเครื่องมือ สำหรับส่งเสริมศาสนา สาธุชนจำนวนน้อยนี้ได้รับน้ำทิพย์จาก พระผู้เป็นเจ้าซึ่งสามารถเปลี่ยนขยะของโลกให้เป็นทองบริสุทธิ์ และ ได้รับอำนาจในการให้โอสถสวรรค์สำหรับรักษาโรคภัยทุกชนิดที่ทรมานมวลมนุษย์ ไม่มีมนุษย์คนใดได้รับชีวิตนิรันดร นอกจากเขาจะยอมรับสัจธรรมของการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ที่ประเสริฐ อัศจรรย์และประเมินค่ามิได้ครั้งนี้

ดูกร มิตรสหายของพระผู้เป็นเจ้า จงเงี่ยหูฟังสุรเสียงของพระผู้ที่ถูกโลกประทุษร้าย และยึดมั่นอยู่กับสิ่งทีจะเชิดชูศาสนาของพระองค์ แท้จริงแล้วพระองค์ทรงนำทางผู้ที่พระองค์โปรดให้ ไปในวิถีธรรมของพระองค์ นี้คือการเปิดเผยพระธรรมที่เติมพลังให้ผู้ที่อ่อนแอและสวมความมั่งคั่งให้ผู้ที่ขาดแคลน

จงปรึกษาหารือกันด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ และอุทิศวันเวลาอันมีค่าของเจ้าเพื่อความเจริญของโลก และเพื่อส่งเสริมศาสนาของพระผู้ดำรงอยู่ตั้งแต่โบราณกาลและเป็นนายสูงสุดของทุกคน แท้จริงแล้วพระองค์บัญญัติสิ่งที่ถูกต้องให้แก่มนุษย์ทุกคน และทรงห้ามสิ่งที่จะฉุดมนุษย์ให้ต่ำลง

GWB XCII, 183-184

  1. เจ้าจงรู้ไว้ว่า ตามที่พระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้เป็นนายของมวลมนุษย์ ได้ประกาศิตไว้ในคัมภีร์ กรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงโปรด ให้มนุษยชาตินั้นไม่มีขีดจำกัด ประการแรกและสำคัญที่สุดที่พระผู้ทรงมหิทธานุภาพประสาทให้แก่มนุษย์คือพรสวรรค์ของการเข้าใจ จุดประสงค์ที่พระองค์ประสาทพรสวรรค์นี้มิใช่อื่นใดนอกจากจะช่วย ให้มนุษย์รู้จักและยอมรับพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ พรสวรรค์นี้ทำให้มนุษย์สามารถมองเห็นสัจธรรมในทุกสิ่ง นำมนุษย์ไปสู่สิ่งที่ถูกต้อง ช่วยให้มนุษย์ค้นพบ ความสับของสรรพภาวะ ลำดับต่อไปคือพรสวรรค์ของการเห็น ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ความเข้าใจปฏิบัติงานได้ ประสาทรับเรื่องการได้ยินของหัวใจ และที่คล้ายกัน นับเป็นพรสวรรค์ที่ร่างกายของมนุษย์ได้รับประสาทเช่นเดียวกัน พระผู้ทรงมหิทธานุภาพทรงความสูงส่งเหลือประมาณ และทรงประทานพรสวรรค์เหล่านี้ให้มาปรากฏในร่างกายของมนุษย์

พรสวรรค์แต่ละอย่างเหล่านี้คือหลักฐานที่แน่แท้ของราชศักดา อานุภาพ อำนาจและความรอบเของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ จงพิจารณาดูประสาทรับสัมผัส จงเป็นพยานว่าประสาทนี้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของมนุษย์ อย่างไรขณะที่ประสาทการเห็นและการได้ยินต่างก็อยู่เฉพาะที่ ประสาทรับสัมผัสห่อหุ้มทั้งร่างกายของมนุษย์ ขอความสรรเสริญ จงมีแด่อานุภาพและอธิปไตยของพระองค์!

พรสวรรค์เหล่านี้มีอยู่ในธรรมชาติของมนุษย์ สิ่งที่ล้ำเลิศ เหนือพรจากสวรรค์ทั้งปวง ไม่มีเสื่อมทรามและเกี่ยวพันกับพระผู้เป็นเจ้าเอง คือการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ พรทั้งปวงที่พระผู้สร้างประสาทให้แก่มนุษย์ไม่ว่าจะเป็นทางต้านร่างกายหรือจิตใจ ก็เพื่อส่งเสริมการเปิดเผยพระธรรมนี้ การเปิดเผยพระธรรมโดย เนื้อแท้แล้วคือขนมปังที่มาจากสวรรค์ คือหลักฐานที่มีน้ำหนักและ ชัดเจนที่สุดของสัจธรรมของพระองค์ คือเครื่องหมายแห่งความ อารีสูงสุดของพระองค์ คือสัญลักษณ์แห่งความปรานีต่อทุกสรรพสิ่งของพระองค์ คือข้อพิสูจน์ของการบริบาลด้วยความรักของพระองค์ คือสัญลักษณ์แห่งพระกรุณาที่สมบูรณ์ที่สุดของพระองค์ ผู้ที่ยอม รับพระผู้แสดงธรรมของพระองค์ในยุคนี้ จะได้รับพรสวรรค์สูงสุดนี้ของพระผู้เป็นเจ้า

จงขอบคุณพระผู้เป็นนายของเจ้าที่ทรงประสาทพรที่ยิ่งใหญ่ ให้แก่เจ้า จงเปล่งเสียงและกล่าวว่า : ข้าแต่พระผู้เป็นยอดปรารถนา ของผู้มีปัญญาทุกคน! ขอความสรรเสริญทั้งปวงจงมีแด่พระองค์

GWB XCV, 194-195

  1. ดูกร ผู้นำศาสนาทั้งหลาย! อย่าชั่งคัมภีร์ของพระผู้เป็นเจ้าด้วยมาตรฐานและศาสตร์ที่ใช้กันอยู่ในหมู่พวกเจ้า เพราะคัมภีร์คือ คันชั่งที่ไม่มีผิดพลาดสำหรับมนุษย์ อะไรก็ตามที่ประชาชนและวงศ์ตระกูลบนพิภพครอบครอง ต้องนำมาชั่งกับคันชั่งที่สมบูรณ์ ที่สุดนี้ ขณะที่น้ำหนักของคันชั่งนี้ควรทดสอบตามมาตรฐานของ คันชั่งเอง หากเจ้าเพียงแต่รู้

ดวงตาแห่งความเมตตารักใคร่ของเราร่ำไห้อย่างขมขื่น เพราะเจ้าไม่ยอมรับบรมศาสดาที่เจ้าเรียกหาทั้งทิวาราตรี ทั้งอุษาและสายัณห์ ดูกร ประชาชน จงมีใบหน้าอันผุดผ่องและหัวใจที่ผ่องใส แล้วก้าว ไปสู่บริเวณคริมซั่นที่ซาดาตรู มันทาฮา กำลังร้องเรียกว่า : “แท้จริงแล้วไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากเรา พระผู้ทรงอำนาจคุ้มครอง พระผู้ทรงดำรงอยู่ด้วยตนเอง”

ดูกร ผู้นำศาสนาทั้งหลาย! ใครเล่าในหมู่พวกเจ้าที่สู้เราได้ ในด้านธรรมทรรศนะ? มีคนไหนเล่าที่กล้าอ้างตนว่าเท่าเทียมเรา ในด้านวาทะหรืออัจฉริยภาพ? ไม่มีเลย พระผู้เป็นนายของเรา พระผู้ทรงปรานี เป็นพยาน! ทุกคนบนพิภพจะต้องตายไป และนี่คือพระพักตร์ของพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงปรีชา

ดูกร ประชาชน เราได้ประกาศิตไว้ว่าจุดหมายสุดท้ายและประเสริฐสุดของการเรียนรู้ทั้งปวงคือ เพื่อยอมรับพระผู้เป็นจุดหมาย ของความรู้ทั้งปวง และกระนั้นจงดูซิว่า วิชาของเจ้าได้เป็นม่าน ปิดกั้นระหว่างเจ้ากับพระผู้เป็นอรุโณทัยแห่งอาภานี้อย่างไร ซึ่ง ทุกสิ่งที่ซ่อนเร้นถูกเปิดเผยออกมาโดยพระองค์ หากเจ้าเพียงแต่ ค้นพบแหล่งที่รุจีราของวาทะนี้เรืองแสงออกมา เจ้าย่อมจะทิ้งประ-ชาชนของโลกและทุกสิ่งที่พวกเขาครอบครอง แล้วใกล้เข้าไปสู่คฤหาสน์แห่งความรุ่งโรจน์ที่อุดมพรที่สุดนี้

แท้จริงแล้วนี้คือสวรรค์ที่ถนอมคัมภีร์แม่บทไว้ หากเจ้าเพียงแต่เข้าใจ พระองค์คือผู้ที่บันดาลให้โขดหินร้องตะโกน และพุ่มไม้ที่ลุกไหม้เปล่งเสียงจากภูเขาบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และประกาศว่า : “อาณาจักรเป็นของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายสูงสุดของทุกคน พระผู้ทรงอานุภาพ พระผู้ทรงเปี่ยมไปด้วยความรัก!”

เรามิได้เข้าโรงเรียนใด จะอ่านวิทยานิพนธ์ของเจ้าหรือก็หาไม่ จงเงี่ยหูฟังวจนะของพระผู้ไร้การศึกษานี้ที่เรียกเจ้าให้มาหาพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงสถิตอยู่นิรันดร์ สิ่งนี้ดีกว่าทรัพย์สมบัติทั้งปวงในโลก หากเจ้าเพียงแต่เข้าใจ

GWB XCVIII, 198-199

  1. เป็นหน้าที่ของเจ้าและเหล่าสาวกของพระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดร์ ที่จะเรียกมวลมนุษย์มาสู่สิ่งที่จะชำระพวกเขาให้หลุดพ้นจากความผูกพันกับสรรพสิ่งทางโลก และชะล้างมลทินทางโลกออกไป เพื่อว่าสุคนธรสจากภูษาของพระผู้ทรงความรุ่งโรจน์จะได้ขจรมาจากทุกคน ที่รักพระองค์

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ร่ำรวยต้องมีใจอาทรต่อคนยากไร้ เพราะ พระผู้เป็นเจ้ากำหนดเกียรติอันยิ่งใหญ่ไว้ให้คนยากไร้ที่ยืนหยัดอดทน ชีวิตของเราเป็นพยาน! ไม่มีเกียรติใดเทียบเกียรตินี้ได้ นอกจากเกียรติที่พระผู้เป็นเจ้าจะประทานให้เป็นพิเศษ พระพรอันยิ่งใหญ่ รอคอยคนยากไร้ที่อดทนและปกปิดความทุกข์ทรมานของตน และความสุขสวัสดีมีแด่ผู้ร่ำรวยที่แบ่งความมั่งคั่งให้กับคนขัดสน และถือว่าพวกเขาสำคัญกว่าตนเอง

พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด ขอให้คนยากไร้พยายามหาเลี้ยงชีพ ในการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ นี่คือหน้าที่ที่ กำหนดไว้สำหรับทุกคน และได้รับการนับว่าเป็นการกระทำที่ดีงาม ในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า ใครก็ตามที่ปฏิบัติหน้าที่นี้ พระผู้เป็นนามธรรมจะช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอน กรุณาธิคุณของพระองค์ จะสามารถทำให้ผู้ที่พระองค์ทรงโปรดมั่งมี แท้จริงแล้วพระองค์ ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง…????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????????? GWB C, 202-203

  1. จุดประสงค์ที่อยู่เบื้องหลังการเปิดเผยคัมภีร์ทุกเล่มและทุกวจนะ คือเพื่อจะประสาทความชอบธรรมและความเข้าใจให้แก่มวลมนุษย์ เพื่อว่าสันติภาพและความสงบจะได้รับการสถาปนาอย่างมั่นคง อะไรก็ตามที่ให้ความอุ่นใจแก่มนุษย์ ยกฐานะของมนุษย์ หรือส่งเสริมมนุษย์ให้รู้จักพอ ล้วนเป็นที่ยอมรับในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า ฐานะที่มนุษย์สามารถบรรลุถึงนั้นช่างสูงส่งเพียงไร หากมนุษย์เพียงแต่พยายามไปสู่จุดหมายอันประเสริฐของตน! ความสามานย์ของมนุษย์ต่ำช้าได้ถึงเพียงไหน ต่ำอย่างที่สัตว์ที่เลวทรามที่สุดก็ไม่ต่ำเท่า! ดูกร มิตรสหาย จงฉวยโอกาสที่ยุคนี้เสนอให้แก่เจ้า และอย่าพรากตัวเจ้าเองจากกรุณาธิคุณของพระองค์ที่หลั่งไหลมาอย่างท่วมท้น เราวิงวอนพระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ทรงช่วยพวกเจ้าทุกคนให้ประดับตนเองด้วยอลงกรณ์แห่งการกระทำที่วิสุทธิ์ในยุคที่อุดมพรนี้ แท้จริงแล้วพระองค์กระทำตามที่พระองค์ปรารถนา

GWB CI, 206

  1. ดูกร ประชาชน จงเงี่ยหูฟังสิ่งที่เรากล่าวต่อเจ้าพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ ทรงถืออยู่ เสมอว่า หัวใจของมนุษย์เป็นเสมือนหัวใจของพระองค์เอง และ พระองค์เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ทุกสิ่งนอกจากนี้ไม่ว่าจะเกี่ยวพันกับแผ่นดินหรือท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นความมั่งคั่งหรือความรุ่งเรือง พระองค์ทรงมอบให้เป็นมรดกสำหรับกษัตริย์และผู้ปกครองทั้งหลาย บนพิภพ ตั้งแต่เริ่มต้นที่ไม่มีจุดเริ่มต้น ธงที่ประกาศวจนะ : “พระองค์กระทำตามที่พระองค์ปรารถนา” ได้คลี่วิภาทั้งหมดของตนออกมาต่อพระพักตร์ของพระผู้แสดงธรรมของพระองค์ สิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษยชาติในยุคนี้คือ การเชื่อฟังบรรดาผู้ที่อยู่ในอำนาจ และยึดถือสายใยแห่งปัญญา เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการคุ้มครองความปลอดภัยและความอุ่นใจสำหรับมนุษยชาติได้มอบหมายไว้ ในความรับผิดชอบและเงื้อมมือของบรรดาผู้ปกครองสังคมมนุษย์ นี่คือความปรารถนาของพระผู้เป็นเจ้าและเป็นประกาศิตของพระองค์… เราหวังว่า หนึ่งในบรรดากษัตริย์บนพิภพจะลุกขึ้นเพราะเห็นแก่ พระผู้เป็นเจ้า เพื่อชัยชนะของประชาชนที่ถูกประทุษร้ายและกดขี่นี้ กษัตริย์ดังกล่าวจะได้รับการสดุดีสรรเสริญไปชั่วนิรันดร์ พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดให้ประชาชนเหล่านี้มีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ที่ช่วยพวกเขา อีกทั้งส่งเสริมประโยชน์สูงสุดและแสดงความจงรักภักดีต่อผู้นั้น ผู้ที่เชื่อฟังเราต้องพยายามในทกสภาพแวดล้อม เพื่อส่งเสริมความ ผาสุกของใครก็ตามที่ลุกขึ้นเพื่อชัยชนะของศาสนาของเรา และต้องพิสูจน์ถึงความอุทิศและภักดีต่อผู้นั้นทุกเวลา ความสุขบังเกิดกับผู้ที่สดับฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำของเรา ความหายนะบังเกิดกับผู้ที่ไม่กระทำตามความปรารถนาของเรา

GWB 011,206-207

  1. ดูกร ประชาชนทั้งหลายของโลก! จงรู้ไว้ด้วยว่า ความหายนะ ที่คาดไม่ถึงกำลังติดตามเจ้า และโทษทัณฑ์อันสาหัสรอคอยเจ้าอยู่ อย่าคิดว่าการกระทำของเจ้าถูกลบไปจากสายตาของเรา ความงามของเราเป็นพยาน! การกระทำทั้งหมดของเจ้านั้น ปากกาของเราได้จารึกไว้เป็นอักขระที่ชัดเจนบนแผ่นมรกต

GWB CIV, 209-210

  1. นายแพทย์ผู้รอบรู้ทรงจับชีพจรของมนุษยชาติ พระองค์เข้าใจ โรคและสั่งการรักษาด้วยอัจฉริยภาพที่ไม่มีผิดพลาด แต่ละยุคมีปัญหาของตนเอง และวิญญาณแต่ละดวงมีความใฝ่ฝันของตนเอง การรักษาที่โลกต้องการสำหรับความทุกข์ทรมานในปัจจุบัน จะไม่เหมือนกับการรักษาที่ยุคต่อไปต้องการ จงเอาใจใส่ห่วงใยต่อความ ต้องการของยุคที่เจ้ามีชีวิตอยู่ และหารือกันเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นและ รีบด่วน

เราเห็นได้ว่า มวลมนุษยชาติถูกห้อมล้อมด้วยความทุกข์ยาก มหันต์สุดคณนาอย่างไร เราเห็นมนุษยชาติระโหยอยู่บนเตียง เจ็บ ป่วย ปวดร้าวและสิ้นหวัง บรรดาผู้ที่ถือดีได้เข้ามาขวางกั้นระหว่าง มนุษยชาติกับนายแพทย์สวรรค์ผู้ไม่มีผิดพลาด จงเป็นพยานว่า พวกเขานำพามวลมนุษย์รวมทั้งตัวเองเข้ามาติดร่างแหของแผนงาน ของพวกเขาอย่างไร พวกเขาไม่สามารถค้นพบสมุฏฐานของโรค และไม่มีความรู้เกี่ยวกับการรักษา พวกเขาเห็นถูกเป็นผิด เห็นมิตรเป็นศัตรู

จงเงี่ยหูฟังเพลงเสนาะของนักโทษผู้นี้ และลุกขึ้นเปล่งเสียงของเจ้า เพื่อว่าผู้ที่หลับใหลจะถูกปลุกขึ้นมา ดูกร ผู้เป็นเสมือนคนตาย! พระหัตถ์แห่งความอารีของพระผู้เป็นเจ้ายื่นน้ำแห่งชีวิต มาให้เจ้าจงรีบดื่มให้อิ่ม ใครก็ตามที่ได้เกิดใหม่ในยุคนี้จะไม่มีวันตาย ใครที่ยังตายอยู่ก็จะไม่มีวันมีชีวิต

GWB CVI, 213

  1. พระผู้ซึ่งเป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงปรานี ทรงธำรงความปรารถนาไว้ในหัวใจที่จะได้เห็นมวลมนุษยชาติเป็นประดุจวิญญาณและร่างกาย เดียวกัน จงรีบไปรับส่วนแบ่งจากกรุณาธิคุณและความปรานีของ พระผู้เป็นเจ้าในยุคนี้ซึ่งบดบังรัศมีของยุคอื่นทั้งหมด ความสุขที่ รอคอยผู้ที่ละทิ้งทุกอย่างที่ตนมีด้วยความปรารถนาจะรับธรรมะ จากผู้เป็นเจ้านั้นช่างยิ่งใหญ่เพียงไร! เราขอยืนยันว่าบุคคลดังกล่าว เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่ได้รับพรจากพระผู้เป็นเจ้า

GWB CVII, 214

  1. ดูกร ประชาชน เรากำหนดเวลาไว้แล้วสำหรับเจ้า เมื่อถึงชั่วโมงที่กำหนดหากเจ้ายังไม่หันมาหาพระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะใช้ความรุนแรงกับเจ้า และจะบันดาลให้ความทุกข์ยากอันสาหัสมาโจมดี เจ้าจากทุกทิศทาง การลงโทษที่พระผู้เป็นเจ้าจะใช้กับเจ้าในตอนนั้น ช่างรุนแรงเพียงใด!

GWB CVIII, 214

  1. พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่กล่าวว่า : ดูกร อนุชนทั้งหลาย! เจตนามูลฐานที่ขับเคลื่อนศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าคือ การปกป้องประโยชน์ และส่งเสริมเอกภาพของมนุษยชาติ และทำนุบำรุงดวงจิตแห่งความ รักและมิตรภาพในหมู่มนุษย์ จงอย่าให้ศาสนากลายเป็นเหตุของความร้าวฉาน ความเกลียดชังและเป็นปรปักษ์ นี้คือหนทางตรง คือรากฐานที่มั่นคงสถาพร อะไรก็ตามที่รังสฤษฏ์บนรากฐานนี้ การเปลี่ยนแปลงและความบังเอิญของโลกจะไม่สามารถบั่นทอนพลังของสิ่งนั้นได้ การหมุนเวียนของหลายศตวรรษสุดคณานับก็ไม่สามารถบ่อนทำลายโครงสร้างของสิ่งนั้น ความหวังของเราคือ ผู้นำศาสนาและผู้ปกครองทั้งหลายของโลกจะสามัคคีกันลุกขึ้นเพื่อฟื้นฟูโชคชะตาของยุคนี้ หลังจากทำสมาธิตรึกตรองเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นสำหรับยุค ขอให้พวกเขาปรึกษาหารือกันอย่างจริงจังและเต็มที่ แล้วให้การรักษาที่จำเป็นสำหรับโลกที่เจ็บป่วยและทรมานอย่างเจ็บปวด…เป็นหน้าที่ของบรรดาผู้ที่อยู่ในอำนาจที่จะพอประมาณ ในทุกเรื่อง อะไรที่เกินขอบเขตของความพอประมาณจะหยุดส่งผลดี จงพิจารณาดูสิ่งต่าง ๆ เช่น อิสรภาพ อารยธรรม และที่คล้ายกัน ไม่ว่ามนุษย์ผู้มีปัญญาจะชื่นชมสิ่งเหล่านี้มากเพียงไร แต่ถ้าปล่อยให้เลยเถิด ก็จะส่งผลร้ายต่อมนุษย์…พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด ขอให้ประชาชนทั้งหลายของโลกได้รับการชี้นำให้ยอมรับ ประโยชน์สูงสุดของพวกเขาเอง อันเป็นผลมาจากความพยายาม อันสูงส่งของผู้ปกครอง ผู้ชาญฉลาดและผู้แก่วิชา อีกนานเท่าไร มนุษยชาติจะยังถือทิฐิ อีกนานเท่าไรความอยุติธรรมจะดำเนินต่อไป? อีกนานเท่าไรความโกลาหลและความสับสนจะปกครองมนุษย์? อีกนานเท่าไรความร้าวฉานจะทำให้สังคมปั่นป่วน?… อนิจจากระแสลมแห่งความสิ้นหวังกำลังพัดมาจากทุกทิศทาง และการทะเลาะวิวาทที่ร้าวรานและทรมานมนุษยชาติกำลังทวีขึ้นทุกวัน ความโกลาหลอลหม่านใกล้เข้ามาเต็มทีและมีสัญญาณส่อเค้าให้เห็นในปัจจุบัน เนื่องด้วยระบบที่มีอยู่ทั่วไปดูเหมือนบกพร่องอย่างน่าเศร้า เราวิงวอนพระผู้เป็นเจ้า ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ ขอพระองค์ทรงปลุกประชาชนทั้งหลายของโลก และให้ความประพฤติของพวกเขาลงเอยอย่างเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาเอง และโปรดช่วยให้ประชาชนบรรลุสิ่งที่เหมาะสมกับฐานะของพวกเขา

GWB CX, 215-217

  1. จงดูความโกลาหลที่รังควานโลกมาเป็นเวลาหลายปี และความอลหม่านที่ครอบงำประชาชน ซึ่งเกิดจากการล้างผลาญของสงคราม หรือความหายนะที่เกิดขึ้นทันใดอย่างคาดไม่ถึง แม้ว่าโลกจะถูก รุมล้อมด้วยความทรมานและทุกข์ระทม แต่ก็ไม่มีใครหยุดเพื่อตรึกดรองถึงสาเหตุหรือแหล่งที่มา เมื่อที่ปรึกษาที่แท้จริงเอ่ยวจนะเป็น การตักเตือน ดูซิ พวกเขาประณามพระองค์ว่าเป็นผู้ปลุกปั่นความ ชั่วร้ายและพากันปฏิเสธคำกล่าวร่างของพระองค์ พฤติกรรมเช่นนี้ ช่างน่าสับสนฉงนใจเพียงไร! หาไม่พบมนุษย์คู่ใดเลยที่กล่าวได้ว่าสามัคคีกันทั้งภายนอกและในจิตใจ หลักฐานของความร้าวฉานและ ประสงค์ร้ายเห็นได้ชัดทุกแห่งหน แม้ว่าทุกคนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ ความปรองดองและสามัคคี พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่กล่าวว่า : ดูกร บรรดาผู้เป็นที่รักยิ่ง เทพมณเฑียรแห่งเอกภาพรังสฤษฏ์ขึ้นแล้ว เจ้าอย่าถือกันและกันเป็นคนแปลกหน้า พวกเจ้าคือผลไม้บนต้น เดียวกันและใบไม้บนกึ่งเดียวกัน เราหวังว่าแสงแห่งความยุติธรรมจะส่องมายังโลก และชำระโลกให้ปลอดจากการกดขี่ หากผู้ปกครอง และกษัตริย์ทั้งหลายของโลก ผู้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งอานุภาพของ พระผู้เป็นเจ้า ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ ลุกขึ้นและมุ่งอุทิศตนต่อสิ่งที่จะส่งเสริมประโยชน์สูงสุดของมวลมนุษยชาติ ความยุติธรรมจะขึ้นปกครองหมู่มนุษย์อย่างแน่นอน และจะสาดแสง อันเจิดจ้าไปทั่วทั้งพิภพ พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่กล่าวว่า : รางวัล และการลงโทษคือสองเสาหลักที่ค้ำจุนและเป็นโครงสร้างของเสถียรภาพและระเบียบของโลก…ในอีกวรรคหนึ่งพระองค์ลิขิตไว้ว่า : ดูกรผู้ปกครองทั้งหลายของโลก! ไม่มีอำนาจใดในโลกมีอานุภาพพิชิตเทียบได้กับอำนาจแห่งความยุติธรรมและปัญญา… พระพรจงมีแด่กษัตริย์ที่เคลื่อนทัพโดยมีธงแห่งปัญญานำหน้า และมีทัพแห่งความ ยุติธรรมหนุนหลัง กษัตริย์องค์นั้นคืออาภรณ์ที่ประดับหน้าผากของสันติภาพและใบหน้าของความปลอดภัย ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า หากดวงตะวันแห่งความยุติธรรมที่ถูกก้อนเมฆแห่งความกดขี่บดบัง ได้สาดแสงมายังมนุษย์ พื้นพิภพจะเปลี่ยนโฉมอย่างสิ้นเชิง

GWB CXII, 218-219

  1. ดูกร กษัตริย์ทั้งหลายแห่งโลกคริสเตียน! เจ้าไม่ได้ยินวาทะของพระเยซูผู้เป็นพระจิตของพระผู้เป็นเจ้าหรือว่า “เราไปแล้วและจะกลับมาหาเจ้าอีก”? ดังนั้นเมื่อพระองค์กลับมาหาเจ้าแล้วในก้อนเมฆบนท้องฟ้า เหตุไฉนเจ้าจึงไม่มาหาพระองค์? เพื่อว่าเจ้าจะได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์และเป็นพวกที่ได้เข้าเฝ้าพระองค์ ในอีกวรรคหนึ่งพระองค์กล่าวว่า : “เมื่อพระองค์ผู้ซึ่งเป็นพระวิญญาณแห่งสัจธรรมเสด็จมา พระองค์จะนำเจ้าไปลู่สัจธรรมทั้งหมด” และกระนั้นจงดูซิว่า เมื่อพระองค์นำสัจธรรมมา เจ้ากลับไม่ยอมหันหน้ามาหาพระองค์ และยังคงเพลิดเพลินอยู่กับงานอติเรกและ ความเพ้อฝันอย่างไร เจ้ามิได้ต้อนรับพระองค์ จะขอเข้าเฝ้าพระองค์ ก็หาไม่ เพื่อว่าเจ้าจะได้ยินวจนะของพระผู้เป็นเจ้าจากโอษฐ์ของ พระองค์เอง และได้เรียนรู้อัจฉริยภาพอเนกอนันต์ของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ ความ ไม่เอาใจใส่ของเจ้าได้ขัดขวางลมหายใจของพระผู้เป็นเจ้ามิให้พัดมา ยังเจ้าเอง และทำให้วิญญาณของเจ้ามิได้รับสุคนธรสของลมหายใจนั้น เจ้ายังคงเร่ร่อนไปในหุบเขาแห่งกิเลสด้วยความหรรษา เจ้าและทุกสิ่งที่เจ้าครอบครองจะสูญสิ้นไป เจ้าจะกลับไปลู่พระผู้เป็นเจ้าอย่างแน่นอน และจะถูกเรียกให้ไปชี้แจงการกระทำของเจ้าต่อหน้า ของพระผู้ที่จะรวบรวมสรรพสิ่งทั้งปวง…

GWB CXVI, 246-247

  1. พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่ปรารถนาจะเปิดเผยเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับสันติภาพและความสงบของโลก ตลอดจนความก้าวหน้าของประชาชน จึงทรงลิขิตไว้ว่า : เวลานั้นต้องมาถึง คือเวลาที่ทั่วโลกจะตระหนักถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการจัดชุมนุมอย่างไพศาลและทั่วถึง ผู้ปกครองและกษัตริย์ทั้งหลายของโลกจำเป็นต้องเข้าร่วม การชุมนุมนี้ และต้องปรึกษาหารือเพื่อหาหนทางและวิธีการสำหรับ วางรากฐานของสันติภาพอันยิ่งใหญ่ของโลก สันติภาพดังกล่าว เรียกร้องให้บรรดามหาอำนาจมุ่งมั่นปรองดองกันอย่างไพบูลย์ เพื่อ เห็นแก่ความสงบของประชาชนบนโลก หากกษัตริย์องค์ใดใช้อาวุธ เข้ารุกรานอีกฝ่ายหนึ่ง ทุกคนต้องสามัคคีกันลุกขึ้นขัดขวางเขา หากทำได้ดังนี้ ชาติทั้งหลายของโลกจะไม่จำเป็นต้องมีอาวุธยุทธภัณฑ์อีกต่อไป นอกจากมีไว้เพื่ออภิรักษ์ความปลอดภัยในอาณาจักรและค้ำจุนระเบียบภายในดินแดนของตน สิ่งนี้จะรับประกันสันติภาพ และความสงบของประชาชน รัฐบาลและชาติทั้งปวง เราหวังว่ากษัตริย์และผู้ปกครองทั้งหลายของโลก ผู้ซึ่งเป็นกระจกสะท้อน พระนามอันการุณย์และยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าจะบรรลุถึงฐานะนี้ และปกป้องมนุษยชาติให้พ้นจากการกดขี่…วันนั้นกำลังใกล้เข้ามา คือวันที่ประชาชนทั้งหมดของโลกจะใช้ภาษาสากลเดียวกัน และใช้อักษรร่วมกัน เมื่อสิ่งนี้สัมฤทธิ์ผล ไม่ว่ามนุษย์จะเดินทางไป เมืองไหนก็ตาม จะเป็นเหมือนว่าเขากำลังเข้าไปในประเทศของ ตนเอง เรื่องนี้เป็นสิ่งจำเป็นทีเดียว เป็นหน้าที่ของมนุษย์ผู้รู้แจ้ง ทุกคนที่จะพยายามทำให้ธรรมลิขิตเป็นความจริง… บุคคลที่อุทิศตนต่อการรับใช้มวลมนุษยชาติในปัจจุบัน คือมนุษย์ที่แท้จริง พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่กล่าวว่า : พระพรและความสุขจงมีแด่ผู้ที่ลุกขึ้น ส่งเสริมประโยชน์สูงสุดของประชาชนและวงศ์ตระกูลบนพิภพ ในอีกวรรคหนึ่งพระองค์ทรงประกาศว่า : เขาไม่ควรภูมิใจว่ารักประเทศของตน แต่ควรภูมิใจว่ารักโลกทั้งหมด โลกนี้เป็นเพียงแผ่นดินเดียว และมนุษยชาติเป็นเพียงประชาชาติเดียวกัน

GWB CXVII, 249-250

  1. ดูกร ผู้ปกครองทั้งหลายของโลก! เหตุไฉนเจ้าจึงบดบังรัศมีของธรรมาทิตย์ไว้มิให้ส่องแสง? จงสดับฟังคำแนะนำจากปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่ง เพื่อว่าทั้งเจ้าเองและคนยากไร้จะได้พบกับความสงบและสันติภาพ เราวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าขอทรงช่วยกษัตริย์ทั้งหลายของโลกให้สถาปนาสันติภาพบนพิภพ แท้จริงแล้ว พระองค์กระทำตามที่พระองค์ปรารถนา

ดูกร กษัตริย์ทั้งหลายของโลก! เราเห็นเจ้าเพิ่มค่าใช้จ่ายของตนเองมากขึ้นทุกปี และสุมภาระนี้ไว้กับข้าแผ่นดิน สิ่งนี้เป็นความอยุติธรรมสิ้นดี จงเกรงกลัวเสียงถอนหายใจและชลเนตร ของพระผู้ถูกประทุษร้ายนี้ และอย่าสุมภาระที่เกินควรให้กับประชาชน อย่าปล้นพวกเขาเอามาสร้างวังสำหรับเจ้าเอง ไม่เพียง เท่านั้น จงเลือกสำหรับพวกเขาในสิ่งที่เจ้าเลือกให้กับตนเอง ดังนี้ เราเปิดเผยให้เจ้าเห็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้า หากเจ้าเพียงแต่เข้าใจ ประชาชนคือทรัพย์สมบัติของเจ้า จงระวังอย่าได้ละเมิดบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า และอย่ามอบเขตปกครองของเจ้าไว้ใน มือของโจร เพราะมีประชาชนเจ้าจึงได้ปกครอง เพราะสมบัติของ พวกเขาเจ้าจึงอยู่ได้ เพราะความช่วยเหลือจากพวกเขาเจ้าจึงมีชัย แต่ถึงกระนั้นเจ้าดูถูกพวกเขาเพียงไร! ช่างน่าประหลาดเพียงไร ช่างน่าประหลาดยิ่งเพียงไร!

ในเมื่อเจ้าปฏิเสธสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด ก็จงยึดมั่นอยู่กับสันติภาพรอง เพื่อว่าเจ้าจะได้ปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของเจ้าเอง และประชาชนให้ดีขึ้นมาบ้าง

ดูกร ผู้ปกครองทั้งหลายของโลก! จงปรองดองกันในหมู่พวกเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะไม่จำเป็นต้องสะสมอาวุธยุทธภัณฑ์อีกต่อไป นอกจากมีไว้เพียงเพื่อปกป้องดินแดนและอาณาจักรของเจ้า จงระวังอย่าได้เมินคำแนะนำของพระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงความซื่อสัตย์

ดูกร กษัตริย์ทั้งหลายของโลก จงสามัคคีกัน เพราะด้วยความสามัคคีนั้นจะทำให้พายุแห่งความร้าวฉานในหมู่พวกเจ้าสงบลง และประชาชนของเจ้าจะได้จะได้พักผ่อน หากเจ้าเป็นพวกที่เข้าใจ หากใครก็ตามในหมู่พวกเจ้าใช้อาวุธเข้ารุกรานอีกฝ่ายหนึ่ง พวกเจ้าทั้งหมดจงลุกขึ้นต่อต้านเขา เพราะนี่มิใช่อื่นใดแต่คือความยุติธรรมอันประจักษ์แจ้ง

GWB CXIX, 253-254

  1. ดูกร บรรดาผู้แทนของประชาราษฎร์ในทุกดินแดน! จงหารือกัน และใส่ใจเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติและการปรับสภาพความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น หากเจ้าเป็นพวกที่พินิจอย่างตั้งใจ จง พิจารณาโลกเป็นประดุจร่างกายมนุษย์ซึ่งแม้ว่าถูกสร้างขึ้นมาครบ ถ้วนสมบูรณ์ ก็ถูกรังควานด้วยโรคร้ายแรงจากสาเหตุต่าง ๆ ไม่มี สักวันเดียวที่มันได้ผ่อนคลาย ไม่เพียงเท่านั้น ความเจ็บป่วยของ มันยิ่งทรุดหนัก เนื่องด้วยมันอยู่ภายใต้การรักษาของแพทย์ผู้!ร้ วิชาทั้งหลาย ผู้ถูกครอบงำด้วยกิเลสและหลงผิดอย่างร้ายแรง และหากเวลาใดอวัยวะหนึ่งของร่างกายได้รับการรักษาจนหายโดยการดูแลของแพทย์ที่สามารถ อวัยวะอื่นที่เหลือยังคงเจ็บป่วยอยู่เหมือน เดิม ดังนี้พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ ขอแจ้งให้เจ้าทราบ

เราเห็นโลกในปัจจุบันตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้ปกครองทั้ง หลายที่มัวเมาด้วยความทะนง จนพวกเขาไม่สามารถเห็นคุณประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง และนับประสาอะไรที่พวกเขาจะยอมรับศาสนา ที่ฉงนปัญญาและท้าทายเช่นนี้ และเมื่อใดที่หนึ่งในพวกเขาพยายามจะปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของโลก แรงจูงใจของเขาก็มาจากความต้องการผลประโยชน์เพื่อตนเอง ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ และแรงจูงใจที่ไม่คู่ควรนี้ได้จำกัดความสามารถของพวกเขาในการรักษา สิ่งที่พระผู้เป็นนายบัญญัติไว้ให้เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ที่สุดและเครื่องมืออันทรงอำนาจสูงสุดคือ การประสานสามัคคีประชาชนทั้งหมดในความมุ่งหมายสากลและศาสนาเดียวกัน สิ่งนี้ สัมฤทธิ์ผลไม่ได้เว้นแต่โดยอำนาจของนายแพทย์ผู้ชำนาญ ผู้ทรงพลานุภาพและได้รับการดลใจ แท้จริงแล้วนี้คือสัจธรรม และนอกเหนือจากนี้ล้วนเป็นเพียงความผิดพลาด

GWB CXX, 254-255

  1. ดูกร ภราดรของเรา! เมื่อผู้แสวงหาที่แท้จริงมุ่งมั่นออกแสวงหาในหนทางที่นำไปสู่การรู้จักพระผู้ดำรงอยู่ก่อนยุคสมัย ก่อน อื่นใดเขาต้องประทินหัวใจของตน ซึ่งเป็นที่เปิดเผยความลึกสับของ พระผู้เป็นเจ้า ให้ปลอดจากวิชาทั้งปวงที่เป็นฝุ่นบังตาและคำพาดพิง ที่มาจากพวกที่เพ้อฝันอย่างชั่วร้าย ต้องชำระความรู้สึกนึกคิดซึ่งเป็นวิหารของความรักอนันต์ของพระผู้ทรงปรียา ให้ปลอดจากมลทินทุกอย่าง และชำระวิญญาณของตนให้บริสุทธิ์พ้นจากทุกสิ่งที่เกี่ยวพันกับน้ำและดิน และหลุดพ้นจากความผูกพันกับสิ่งที่ไม่จีรังและไร้แก่นสารทั้งปวง เขาต้องประทินหัวใจให้บริสุทธิ์จนไม่มีความรัก หรือความชิงชังหลงเหลืออยู่ เพื่อมิให้ความรักปิดตาและพาเขา หลงผิด หรือความชิงชังผลักเขาออกไปจากสัจธรรม ดังที่ เจ้าได้เห็นในยุคนี้แล้วว่า ประชาชนส่วนใหญ่ถูกพรากจากพระพักตร์อมรเพราะความรักและความชิงชังอย่างไร พวกเขาหลงทางไกลออกไปจากพรหมกายแห่งความลึกลับของพระผู้เป็นเจ้า และด้วยไร้ผู้นำทาง จึงเร่ร่อนไปในที่รกร้างอย่างหลงผิดจนถูกลืม

ผู้แสวงหาต้องวางใจในพระผู้เป็นเจ้าตลอดเวลา ต้องปล่อย วางจากประชาชนทั้งหลายของโลก ต้องตัดความผูกพันจากโลกธุลี และยึดถือพระผู้ทรงเป็นนายของนายทั้งหลาย เขาต้องไม่พยายามยกตัวเองเหนือผู้อื่น ต้องชะล้างร่องรอยแห่งความหยิ่งทะนงทั้งหมด ออกไปจากจารึกของหัวใจ ต้องยึดถือความอดทนและยอมจำนน สงบเงียบและละเว้นจากการพูดเหลวไหล เพราะลิ้นคือไฟที่คุกรุ่น และการพูดที่เกินควรคือพิษร้าย ไฟนั้นเผาผลาญร่างกาย แต่ผลที่เกิดจากไฟของลิ้นคงอยู่เป็นศตวรรษ

ผู้แสวงหาควรถือว่าการนินทาคือความผิดที่ร้ายแรงและควร ออกมาให้ห่าง เนื่องด้วยการนินทาดับแสงของหัวใจและดับชีวิตของวิญญาณ เขาควรมักน้อยและเป็นอิสระจากความต้องการที่เกินควร เขาควรถนอมมิตรภาพกับบรรดาผู้ปล่อยวางจากโลก และถือว่าการหลีกเลี่ยงโลกียชนคือประโยชน์อันล้ำค่า ทุกอรุณรุ่งเขา ควรสนทนากับพระผู้เป็นเจ้า และพากเพียรแสวงหาพระผู้ทรงปรียา ด้วยวิญญาณของเขา เขาควรเผาผลาญทุกข์ทุกอย่างของตนด้วย เปลวไฟที่เกิดจากการกล่าวถึงพระองค์ด้วยความรัก และเมินทุก สิ่งนอกจากพระองค์ด้วยความฉับไวประดุจสายฟ้า เขาควรช่วยเหลือผู้ที่สิ้นเนื้อประดาตัว และไม่ใจดำต่อผู้ที่ขาดแคลน เขาควรมีเมตตา ต่อสัตว์ ดังนั้นต้องยิ่งมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และผู้ที่มีวาจา มากกว่าเพียงไหน เขาไม่ควรลังเลที่จะสละชีวิตเพื่อผู้เป็นที่รักยิ่งของเขา หรือยอมให้คำตำหนิของประชาชนทำให้ตนหันหนีไปจากสัจธรรม เขาไม่ควรปรารถนาให้ผู้อื่นในสิ่งที่ตนไม่ปรารถนาให้ตัวเอง หรือสัญญาสิ่งที่ตนทำไม่ได้ เขาควรหลีกเลี่ยงมิตรภาพกับคนชั่วร้าย และอธิษฐานเพื่อขออภัยบาปแก่พวกเขา เขาควรให้อภัยคนบาปและ ไม่รังเกียจสถานภาพของเขา เพราะไม่มีใครรู้ว่าจุดจบของตนจะเป็นอย่างไร บ่อยแค่ไหนที่คนบาปได้เข้าถึงแก่นแท้ของความศรัทธาในชั่วโมงสุดท้ายของชีวิต และได้ดื่มน้ำอมฤตแล้วทะยานขึ้นไปหาหมู่เทวัญเบื้องบน! และบ่อยแค่ไหนที่ศาสนิกชนที่ศรัทธามั่นเมื่อถึง ชั่วโมงที่วิญญาณจะจากร่างไป กลับเปลี่ยนไปจนร่วงลงไปในเพลิงกาฬ!

จุดประสงค์ของเราที่เปิดเผยวาทะที่มีน้ำหนักเหล่านี้ ก็เพื่อ จะอบรมผู้แสวงหาว่าเขาควรถือว่าทุกสิ่งนอกจากพระผู้เป็นเจ้านั้นไม่จีรัง และนับทุกสิ่งเป็นศูนยภาพโดยสมบูรณ์ยกเว้นพระองค์ ผู้ทรงเป็นจุดหมายของการบูชาทั้งปวง

GWB CXXV, 264-266

  1. จงเที่ยงธรรมต่อเจ้าเองและผู้อื่น เพื่อว่าหลักฐานของความยุติธรรม จะเปิดเผยออกมาโดยการกระทำของเจ้าท่ามกลางคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเรา จงระวังอย่าละเมิดทรัพย์สินของเพื่อนบ้าน จงพิสูจน์ ตัวให้สมกับที่เขาวางใจและมั่นใจในตัวเจ้า และของขวัญที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้แก่เจ้าด้วยความกรุณานั้น จงมอบให้แก่คนยากไร้ แท้จริงแล้วพระองค์จะให้รางวัลผู้ที่ใจบุญ และตอบแทนสิ่ง ที่พวกเขาให้เป็นสองเท่า ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์จักรวรรดิของทุกสรรพสิ่งเป็นของพระองค์ พระองค์ประทานของขวัญให้ผู้ที่พระองค์ปรารถนา และจะไม่ประทานให้ก็ได้ตามที่พระองค์ต้องการ พระองค์คือพระผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ พระผู้ทรงเออเฟื้อที่สุด พระผู้ทรงเมตตา

ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา จงสอนศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระผู้เป็นเจ้าบัญญัติหน้าที่ให้ทุกคนประกาศพระธรรมของ พระองค์ และทรงถือว่าเป็นการกระทำที่มีกุศลสูงสุด การกระทำนี้ จะเป็นที่ยอมรับก็ต่อเมื่อผู้สอนศาสนาเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงคุ้มครองผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด พระผู้ทรงกรุณา พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระองค์ทรงบัญญัติอีกด้วยว่า ให้สอนศาสนาของพระองค์ด้วยอานุภาพของวาจา มิใช่ใช้ความรุนแรง ดังนี้คือบัญญัติของพระองค์ที่มาจากอาณาจักรของพระผู้เป็นผู้ทรงประเสริฐสุด พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ จงระวังอย่าโต้เถียงกับผู้ใด ไม่เพียงเท่านั้น จงพยายามทำให้เขาตระหนักในสัจธรรมด้วยกิริยาที่น่าดูและด้วยคำ แนะน่าที่มีน้ำหนัก หากผู้ฟังตอบสนอง เขาจะตอบสนองด้วยตัว เขาเอง และถ้าไม่จงไปจากเขาเสีย และหันมายังราชสำนักอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นตำหนักแห่งความวิสุทธิ์อำไพ

อย่าโต้แย้งกับผู้ใดในเรื่องโลกียวิสัย เพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงทิ้งสิ่งเหล่านั้นไว้ให้ผู้ที่มีใจเสน่หาในโลกีย์ ทั่วทั้งพิภพพระองค์ทรงเลือกไว้สำหรับพระองค์เองก็เพียงหัวใจของมนุษย์ ซึ่งเป็นหัวใจที่กำราบได้ด้วยการเปิดเผยพระธรรมและวจนะ ดังนี้คือสิ่งที่องคุลีของบาฮาบัญญัติไว้ในธรรมจารึกแห่งประกาศิตของพระผู้เป็นเจ้าที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ตามบัญชาของพระผู้ทรงบัญญัติสูงสุด พระผู้ทรงรอบรู้

GWB CXXVIII, 278-279

  1. จงโอบอ้อมอารีในยามเจริญรุ่งเรือง จงรู้คุณเมื่อถึงคราตกทุกข์ได้ยาก จงทำตัวให้สมกับที่เพื่อนบ้านไว้วางใจ และมอง เขาด้วยใบหน้าที่สดใสและไมตรีจิต จงเป็นคลังสมบัติสำหรับคนยากไร้ เป็นผู้เตือนสติคนที่รวย เป็นผู้ตอบเสียงร้องของผู้ขัดสน เป็นผู้รักษาคำมั่นสัญญา จงเที่ยงธรรมในการลงความเห็น และระมัดระวังคำพูด อย่าได้อยุติธรรมต่อผู้ใด และจงอ่อนโยนต่อทุกคน จงเป็นเสมือนตะเกียงนำทางสำหรับผู้ที่เดินอยู่ในความมืด เป็นความหรรษาแก่ผู้ที่ทุกข์โศก เป็นทะเลสำหรับผู้ที่กระหาย เป็นที่พึ่งสำหรับผู้ที่ ทุกข์ระทม จงเป็นผู้ปกป้องค้ำจุนผู้ที่ถูกกดขี่ ขอให้การกระทำของเจ้าซื่อดรงอยในศีลในธรรม จงเป็นบ้านสำหรับคนแปลกหน้า เป็นยาสำหรับผู้ที่ทุกข์ทรมาน เป็นปราการสำหรับผู้ลี้ภัย จงเป็นดวงตาแก่คนตาบอด เป็นแสงที่นำทางผู้หลงผิด จงเป็นเครื่องประดับบนโฉมหน้าของสัจธรรม เป็นมงกุฎที่ประดับหน้าผากของ ความซื่อสัตย์ เป็นหลักศิลาที่ค้ำจุนวิหารแห่งความชอบธรรม เป็นลมหายใจแห่งชีวิตสำหรับมนุษยชาติ เป็นธงประจำกองทัพธรรม เป็นอาภาบนขอบฟ้าแห่งคุณธรรม เป็นน้ำค้างที่ชุ่มฉ่ำหัวใจของมนุษย์ เป็นนาวาในมหาสมุทรแห่งปัญญา เป็นดวงตะวันบนนภาแห่งความ อารี เป็นมณีประดับมงกุฎแห่งอัจฉริยภาพ เป็นชุติมาบนเวหาสำหรับประชาชนในยุคของเจ้า เป็นผลไม้บนพฤกษาแห่งความเป็นมนุษย์

GWB CXXX, 285

  1. หน้าที่ประการแรกและสำคัญที่สุดที่บัญญัติไว้สำหรับมนุษย์ถัดจากการยอมรับพระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดร์ คือความมั่นคงอยู่ใน ศาสนาของพระองค์จงยึดถือสิ่งนี้และเป็นพวกที่มีจิตใจมั่นคงใน พระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าการกระทำใดแม้จะมีกุศลมากเพียงไร ก็เทียบ ไม่ได้กับสิ่งนี้ซึ่งเป็นราชันของการกระทำทั้งปวง และพระผู้เป็นนาย ของเจ้า พระผู้ทรงความสูงส่ง พระผู้ทรงอานุภาพสูงสุด จะเป็นพยานรับรอง…

GWB CXXXIV, 290

  1. ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน! โลกและสิ่งไร้สาระในโลก อีกทั้งความรุ่งโรจน์และความยินดีใด ๆ ก็ตามที่โลกให้ได้ ใน สายตาของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว ล้วนเป็นสิ่งไร้ค่าประดุจธุลีและเถ้าถ่าน ที่จริงแล้วไร้ค่ายี่งกว่านั้นเสียอีก ขอให้หัวใจของมนุษย์เข้าใจสิ่งนี้เถิด! ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา จงชำระตัวเจ้าเองให้ปราศจากมลทินทาง โลกและทุกสิ่งที่เกี่ยวพันกับโลก พระผู้เป็นเจ้าเองเป็นพยานให้เรา สรรพสิ่งในโลกนี้ไม่เหมาะกับเจ้า จงโยนทิ้งไปให้กับผู้ที่ต้องการมัน และเฝ้าดูจินตภาพที่ชัชวาลแสนวิสุทธิ์นี้

สิ่งที่เหมาะสำหรับเจ้าคือความรักของพระผู้เป็นเจ้า ความรัก ของพระผู้เป็นผู้สำแดงสาระของพระองค์ และการปฏิบัติตามสิ่งที่ พระองค์บัญญัติให้แก่เจ้า หากเจ้าเพียงแต่รู้

ขอให้วาจาสัตย์และมารยาทเป็นเครื่องประดับของเจ้า อย่าเปลื้องเสื้อคลุมแห่งความอดกลั้นและความยุติธรรมออกไป เพื่อว่าสุคนธรสแห่งความวิสุทธิ์จะได้ขจรจากหัวใจของเจ้าไปยังทุกสรรพสิ่ง ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา จงระวังอย่าเดินในวิถีทางของพวกที่ พูดอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่างหนึ่ง จงพยายามเพื่อว่าเจ้าจะได้รับการช่วยเหลือให้แสดงสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้าให้ปรากฏต่อประชาชนทั้งหลายของโลก และสะท้อนบัญญัติของพระองค์ ขอให้การกระทำของเจ้าเป็นเครื่องชี้นำมวลมนุษยชาติ เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงศักดิ์หรือคนต่ำต้อย มักประพฤติตนต่างจากคำพูด เจ้าจะเด่นต่างจากคนอื่นได้โดยการกระทำ ซึ่งจะทำให้แสงของเจ้า เจิดจ้าไปทั่วพิภพ ความสุขจงมีแด่ผู้ที่เอาใจใส่คำปรึกษาของเรา และปฏิบัติตามบัญญัติจากพระผู้เป็นผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ

GWB CXXXIX, 304-305

  1. หากเจ้าพบคนที่ตกต่ำหรือถูกกดขี่ อย่าเมินพวกเขาด้วยความดูถูก เพราะกษัตริย์แห่งความรุ่งโรจน์คุ้มครองพวกเขาอยู่เสมอด้วย ความเสน่หาอย่างไม่มีใครหยั่งรู้ได้ นอกจากบรรดาผู้ที่ยอมให้ความปรารถนาและความต้องการของตนเป็นหนึ่งเดียวกับพระประสงค์ ของพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงกรุณา ผู้พระทรงอัจฉริยภาพ ดูกร ผู้ร่ำรวยทั้งหลายบนพิภพ! อย่าหนีหน้าคนยากไร้ที่คลุกอยู่กับฝุ่น จงเป็นมิตรกับเขา และให้เขาเล่าเรื่องของความหายนะที่ ประกาศิตที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ของพระผู้เป็นเจ้าได้บันดาลให้บังเกิดกับเขา ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน! เมื่อเจ้าคบหากับเขา หมู่เทวัญเบื้องบนจะมองดูเจ้า จะวิงวอนเพื่อเจ้า จะ ยกย่องนามของเจ้าและสรรเสริญการกระทำของเจ้า พระพรจงมีแด่ผู้แก่วิชาที่มิได้ทะนงในความสำเร็จของตน และความสุขสวัสดี จงมีแด่ผู้ชอบธรรมที่ไม่เยาะเย้ยคนบาป แต่กลับปกปิดกรรมชั่วของเขา เพื่อว่าความบกพร่องของตนเองจะไม่ปรากฏต่อสายตาของมนุษย์

GWB CXLV, 314-315

  1. เราปรารถนาและต้องการให้พวกเจ้าทุกคนเป็นบ่อเกิดของความดี งามทั้งปวงสำหรับมนุษย์ เป็นตัวอย่างของความซื่อตรงสำหรับ มนุษยชาติ จงระวังอย่าถือว่าตัวเจ้าสำคัญกว่าเพื่อนบ้าน จงพิศ ดูพระผู้เป็นวิหารของพระผู้เป็นเจ้าในหมู่มนุษย์ พระองค์ได้สละ ชีวิตเป็นค่าไถ่สำหรับไถ่พิภพ แท้จริงแล้วพระองค์คือผู้ทรงอารี พระ-ผู้ทรงกรุณา พระผู้ทรงความสูงส่ง หากมีความขัดแย้งใด ๆ เกิดขึ้น ระหว่างพวกเจ้า จงมองเห็นเรากำลังยืนอยู่ต่อหน้า และมองข้าม ข้อบกพร่องของกันและกัน ประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ของเจ้าที่มีต่อศาสนาที่ประจักษ์แจ้งแสนอำไพของเรา เราอยากเห็นเจ้าคบหากันด้วยมิตรภาพและความปรองดองตลอดเวลาภายในสวรรค์แห่งอภิรดีของเรา อยากสูดสุคนธรสแห่งไมตรีจิตและความสามัคคี ความเมตตารักใคร่และมิตรภาพจากการกระทำของเจ้า ดังนี้ คือคำแนะนำจากพระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงความซื่อสัตย์ เราจะอยู่กับเจ้าเสมอ หากเราได้สูดสุคนธรสแห่งมิตรภาพของเจ้า หัวใจของเราจะเบิกบานอย่างแน่นอน เพราะไม่มิสิ่งอื่นใดทำให้เราพอใจได้ มนุษย์ทุกคนที่มีปัญญาเป็นพยานต่อสิ่งนี้

GWB CXLVI, 315-316

  1. เมื่อชัยชนะมาถึง มนุษย์ทุกคนจะประกาศตนเป็นบาไฮ และจะรีบไปยังที่กำบังของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ความสุขจงมีแด่ผู้ที่มั่นคงอยู่ในศาสนาในยามที่ความทุกข์ยากรุมล้อมโลก และไม่ยอมหันเหไปจากสัจธรรม

GWB CL, 319

  1. ผู้ที่ละทั้งประเทศของตนเพื่อไปสอนศาสนาของเรา อานุภาพของ พระวิญญาณที่ซื่อสัตย์จะเสริมพลังให้พวกเขา หมู่เทพธิดาที่เรา เลือกสรรจะตามพวกเขาไป ตามที่บัญชาโดยพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ พระพรที่รอคอยผู้ได้รับเกียรติของการรับใช้ พระผู้ทรงมหิทธานุภาพนั้นช่างยิ่งใหญ่เพียงไร! ชีวิตของเราเป็น พยาน! ไม่ว่าการกระทำใดแม้จะยิ่งใหญ่เพียงไหน ก็เทียบไม่ได้กับสิ่งนี้ นอกจากการกระทำที่บัญญัติไว้โดยพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงอานุภาพ พระผู้ทรงอำนาจสูงสุด แท้จริงแล้วการรับใช้ดังกล่าว คือเจ้าชายของการกระทำที่ดีงามทั้งปวง คือเครื่องประดับของกรรมดี ทุกอย่าง ดังนี้คือสิ่งที่บัญญัติไว้โดยพระผู้เป็นผู้เปิดเผยพระธรรมสูงสุด พระผู้ดำรงอยู่ก่อนยุคสมัย

ใครที่ลุกขึ้นสอนศาสนาของเราจำเป็นต้องตัดความผูกพันจากสรรพสิ่งทางโลก และตลอดเวลาต้องถือว่าชัยชนะของศาสนาของ เราคือวัตถุประสงค์สูงสุด แท้จริงแล้วนี่คือสิ่งที่ประกาศิตไว้ใน ธรรมจารึกที่อยู่ภายใต้อารักขาสวรรค์ และเมื่อเขาตั้งใจแน่วแน่ว่า จะออกจากบ้านเพื่อเห็นแก่ศาสนาของพระผู้เป็นนายของเขา ขอให้ เขาไว้ใจในพระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นการเตรียมตัวเดินทางอย่างดีที่สุต และสวมเสื้อคลุมแห่งคุณธรรมนี้คือสิ่งที่ประกาศิตไว้โดยพระผู้เป็น-เจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้เป็นที่สรรเสริญ

หากเขาลุกด้วยไฟแห่งความรักของพระองค์ หากเขาสละทุกสรรพสิ่ง วาจาของเขาจะทำให้ผู้ที่ได้ยินลุกเป็นไฟ แท้จริงแล้ว พระผู้เป็นนายของเจ้าคือพระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงรับทราบทุกอย่างความสุขจงมีแด่ผู้ที่ได้ยินสุรเสียงของเรา และตอบคำร้องเรียกของเรา แท้จริงแล้วเขาคือพวกที่จะได้ใกล้ชิดกับเรา

GWB CLVII, 334-335

  1. จงพิจารณาดูความคิดของมนุษย์ที่มองอะไรอย่างแคบ ๆ พวกเขาร้องขอสิ่งที่เป็นภัยต่อตนเอง และโยนทิ้งสิ่งที่เป็นประโยชน์ พวกเขาคือพวกที่หลงทางไปไกลอย่างแท้จริง เราพบว่ามนุษย์บางคนปรารถนาอิสรภาพและภูมิใจในอิสรภาพนั้น มนุษย์ดังกล่าวจมอยู่ในความโง่เขลาเบาปัญญา

ในที่สุดอิสรภาพจะนำไปสู่การปลุกปั่นความไม่สงบที่ไม่มีใครดับเปลวไฟนั้นได้ นี้คือคำเตือนจากพระผู้เป็นผู้คิดบัญชี พระผู้ทรง รอบรู้ เจ้าจงรู้ไว้ว่ารูปพรรณและสัญลักษณ์ของอิสรภาพคือสัตว์ สิ่งที่คู่ควรกับมนุษย์คือการหักห้ามใจเพื่อคุ้มครองตนเองให้พ้นจาก ความโง่เขลาเบาปัญญาและอันตรายของผู้ก่อกวน อิสรภาพทำให้ มนุษย์ล่วงเกินขอบเขตที่เหมาะสมและละเมิดเกียรติของความเป็นมนุษย์ ฉุดมนุษย์ลงสู่ระดับต่ำสุดของความเสื่อมโทรมและชั่วร้าย

จงพิจารณามนุษย์เป็นประหนึ่งฝูงแกะที่จำเป็นต้องมีผู้เลี้ยง แกะคอยคุ้มครอง แท้จริงแล้วนี่คือสัจธรรม และเป็นสัจธรรมที่เที่ยง แท้แน่นอน เรายอมให้มีอิสรภาพในบางสภาพแวดล้อม และไม่อนุญาตในบางสภาพแวดล้อมแท้จริงแล้วเราคือพระผู้ทรงรอบรู้

อิสรภาพที่แท้จริงของมนุษย์อยู่ที่การยอมจำนนต่อบัญญัติของเรา แม้ว่าเจ้าจะไม่ค่อยเข้าใจก็ตาม หากมนุษย์ปฏิบัติตาม บัญญัติที่เรานำมาจากสวรรค์แห่งการเปิดเผยพระธรรม พวกเขาจะบรรลุถึงอิสรภาพที่สมบูรณ์อย่างแน่นอน ความสุขจงมีแต่ผู้ที่เข้าใจจุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าในการเปิดเผยสิ่งใดก็ตามที่มา จากสวรรค์แห่งประสงค์ของพระองค์ที่ซึมซาบทุกสรรพสิ่ง อิสรภาพที่เป็นประโยชน์กับเจ้าจะไม่พบในที่ใดนอกจากในการเป็นทาสรับใช้ พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นสัจธรรมนิรันดร ใครก็ตามที่ได้ลิ้มความหวานของอิสรภาพดังกล่าว จะไม่ยอมแลกอิสรภาพนี้กับอาณาจักรทั้งหมดของโลกและสวรรค์

GWB CLIX, 335-336

  1. ใครก็ตามที่รางว่าเป็นผู้เปิดเผยพระธรรมสวรรค์โดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้าก่อนหนึ่งพันปีจะผ่านไป แน่ใจได้ว่าผู้นั้นเป็นคนหลอกลวง เราอธิษฐานขอให้พระผู้เป็นเจ้ากรุณาช่วยเขาให้คืนคำเสีย หากเขาสำนึกผิด พระผู้เป็นเจ้าจะให้อภัยเขาอย่างไม่มีข้อสงสัย แต่ถ้าเขายังคงขืนต่อไป วางใจได้ว่าพระผู้เป็นเจ้าจะส่งผู้ที่จะมาจัดการ กับเขาอย่างไร้ปรานี การลงโทษของพระผู้เป็นเจ้านั้นน่ากลัวจริง ๆ! ใครก็ตามที่ตีความพจนานี้นอกเหนือไปจากความหมายที่ชัดอยู่แล้ว คือผู้ที่ถูกพรากจากพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าและความปรานีของพระองค์ที่ห้อมล้อมทุกสรรพสิ่ง จงเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า และอย่าให้ความเพ้อฝันอันไร้สาระพาเจ้าไป ไม่เพียงเท่านั้น จงปฏิบัติตามบัญชาของพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ

GWB CLXV, 346

?

พระธรรมที่คัดมาจากโลเฮอัคดัส

(ธรรมจารึกที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด)

  1. พระพรจงมีแด่ผู้หลับใหลที่ตื่นขึ้นโดยสายลมของเรา พระพร จงมีแด่ผู้ไร้ชีวิตที่กลับมีชีวิตใหม่ด้วยลมหายใจฟืนชีวิตของเรา พระพรจงมีแด่ผู้ที่ได้พักสายตาด้วยการยลความงามของเรา พระพรจงมีแด่ผู้พเนจรที่สืบเท้าเข้าหาเทพมณเฑียรแห่งความรุ่งโรจน์และราช-ศักดาของเรา พระพรจงมีแด่ผู้ทุกข์ระทมที่แสวงหาที่พักพิงภายใต้ ร่มเงาของชายคาของเรา พระพรจงมีแด่ผู้กระหายที่รีบไปสู่ธาราไหลรินแห่งความเมตตารักใคร่ของเรา พระพรจงมีแด่ผู้ที่ไม่รู้จัก พอที่ได้สลัดกิเลสอันเห็นแก,ตัวเพื่อความรักของเรา และมาร่วมโต๊ะ อาหารที่เราส่งมาจากนภาแห่งความอารีสวรรค์ให้แก่ผู้ที่เราเลือกสรร พระพรจงมีแด่ผู้ต่ำต้อยที่ยึดเหนี่ยวสายใยแห่งความรุ่งโรจน์ของเรา และแด่ผู้ขัดสนที่ได้เข้ามาภายใต้ร่มเงาของเทพมณเฑียรแห่งความมั่งคั่งของเรา พระพรจงมีแด่ผู้เบาปัญญาที่แสวงหาแหล่งกำเนิดความรู้ของเรา และแด่ผู้ลืมสติที่ยึดเหนี่ยวสายใยแห่งการระลึกถึง เรา พระพรจงมีแด่ผู้ที่ได้รับชีวิตจากลมหายใจฟืนชีวิตของเรา และได้เข้าไปสู่อาณาจักรสวรรค์ของเรา พระพรจงมีแด่ผู้ที่สุคนธรส แห่งการกลับมาอยู่ร่วมกับเราได้ขยับและพาให้ใกล้เข้ามาหาอรุโณทัย แห่งการเปิดเผยพระธรรมของเรา พระพรจงมีแด่หูที่ได้ยิน ลิ้นที่เป็นพยาน และดวงตาที่ได้เห็นและยอมรับพระผู้เป็นนายในความรุ่งโรจน์ และราชศักดาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ซึ่งประสาทด้วยความโอฬาร และอธิปไตย พระพรจงมีแด่ผู้ที่ได้เข้าเฝ้าพระองค์ พระพรจงมี แด่ผู้ที่แสวงหาวิชชาจากธรรมาธิตย์ผู้เปิดเผยวจนะของพระองค์ พระพรจงมีแด่ผู้ที่สวมมงกุฎแห่งความรักของเราบนศีรษะของเขา พระเจ้าจงมีแด่ผู้ที่ได้ยินความเศร้าโศกของเรา และลุกขึ้นช่วยเหลือ เราท่ามกลางประชาชน พระพรจงมีแด่ผู้ที่สละชีวิตในหนทาง ของเรา และทนทุกข์ทรมานนานัปการเพื่อเห็นแก่พระนามของเรา พระพรจงมีแด่ผู้ที่มั่นใจในวจนะของเราแล้วลุกขึ้นมาจากกลุ่มคนตาย เพื่อสรรเสริญเรา พระพรจงมีแด่ผู้ที่อภิรมย์ในทำนองเสนาะของ เราและฉีกม่านกำบังขาดสะบั้นด้วยอานุภาพแห่งอำนาจของเรา พระพรจงมีแด่ผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อพระปฏิญญาของเรา และสรรพสิ่งทางโลกก็ไม่สามารถยับยั้งเขามิให้ไปถึงราชสำนักแห่งความวิสุทธิ์ ของเรา พระพรจงมีแต่ผู้ที่ตัดความผูกพันจากทุกสิ่งนอกจากเรา เหินในบรรยากาศแห่งความรักของเรา ได้เข้ามาสู่อาณาจักรของเรา พิศดูอาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์ของเรา ดื่มธาราแห่งความอารี ของเรา ดื่มชโลทรแห่งการบริบาลด้วยความรักของเราจนอิ่ม ทำความคุ้นเคยกับศาสนาของเรา เข้าใจสิ่งที่เราปกปิดไว้ในคลังแห่ง วจนะของเรา และเรืองแสงจากขอบฟ้าแห่งเมธาสวรรค์ด้วยการ สดุดีสรรเสริญเรา แท้จริงแล้วเขาเป็นของเรา ความปรานี ความเมตตารักใคร่ ความอารีและความรุ่งโรจน์ของเราสถิตอยู่กับเขา

Tablets of Baha’u’llah (TB) 16-17

เบชาราท

(ข่าวดี)

นี้คือสมโพธน์ของพระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ที่ประกาศออกมาจากขอบฟ้าสูงสุดในคุกเมืองอัคคา

  1. พระองค์คือพระผู้ทรงอรรถาธิบาย พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงรับทราบทุกอย่าง

พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นหนึ่งโดยแท้จริงขอยืนยัน และพระผู้เปิดเผยพระนามและคุณลักษณะของพระองค์ขอเป็นพยานว่า จุดประสงค์เพียงประการเดียวที่เราเปล่งสมโพธน์นี้ และประกาศพระวจนะอันประเสริฐสุดของพระองค์ ก็เพื่อว่าหูของสรรพสิ่งทั้งปวงจะ ได้รับการชะล้างให้ปลอดจากเรื่องโกหก และเงี่ยฟังพระวจนะที่รุ่งโรจน์ และวิสุทธิ์ประเสริฐที่มาจากคลังแห่งความรักของพระผู้สร้างสวรรค์และนาม ความสุขจงมีแด่ผู้ที่ลงความพินิจความเที่ยงธรรม ดูกร ประชาชนบนพิภพ!

ข่าวดีข้อแรก

ที่คัมภีร์แม่บทในการเปิดเผยพระธรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ขอแจ้งให้ ประชาชนทั้งปวงบนพิภพทราบคือ กฎการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ ถูกลบออกไปจากคัมภีร์แล้ว ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระผู้ทรงปรานี พระผู้เป็นนายผู้อุดมไปด้วยความกรุณา พระผู้บันดาลให้ประตูแห่งความอารีสวรรค์เปิดออกต่อหน้าทุกคนที่อยู่ในสวรรค์และบนโลก

ข่าวดีข้อที่สอง

อนุญาตให้ประชาชนและวงศ์ตระกูลทั้งหลายในปฐพีคบหาสมาคม กันด้วยใจเบิกบานและผ่องใส ดูกร ประชาชน! จงคบหากับศาสนิกชนทุกศาสนาด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ ดังนี้ดวงตะวันแห่งการอนุมัติ และอำนาจของพระองค์เรืองรัศมีอยู่บนขอบฟ้าแห่งประกาศิตของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งภพทั้งหลาย

ข่าวดีข้อที่สาม

เกี่ยวกับการศึกษาภาษาต่าง ๆ ประกาศิตนี้ได้หลั่งมาจากปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่งก่อนหน้านี้แล้ว : เป็นหน้าที่ของประมุขทั้งหลายของโลก ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเหลือพวกเขา หรือรัฐมนตรีทั้งหลายบนพิภพ ที่จะต้องหารือกันและเลือกภาษาหนึ่ง จากภาษาทั้งหลายที่มีอยู่ หรือคิดภาษาใหม่ แล้วนำมาสอนให้เด็ก ในโรงเรียนทั่วโลก และใช้อักษรเดียวกันด้วย ดังนี้แล้วทั่วโลกจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นประเทศเดียวกัน ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ผู้ที่สดับฟังสมโพธน์ของพระองค์ และปฏิบัติตามที่ตนได้รับบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งบัลลังก์อันทรงอำนาจ

?

ข่าวดีข้อที่สี่

หากกษัตริย์องค์ใด ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเหลือพวกเขา ลุกขึ้น ปกป้องและช่วยเหลือประชาชนที่ถูกกดขี่นี้ ทุกคนต้องแข่งขันกัน เพื่อจะรักและรับใช้กษัตริย์องค์นั้น เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของทุกคน ขอความสุขสวัสดีจงมีแต่ผู้ที่ปฏิบัติตามนี้

ข่าวดีข้อที่ห้า

ในทุกประเทศที่ประชาชนเหล่านี้อาศัยอยู่ พวกเขาต้องประพฤติต่อรัฐบาลของประเทศนั้นด้วยความจงรักภักดี สุจริตและวาจาสัตย์ นี้คือสิ่งที่เปิดเผยไว้ตามบัญญัติของพระผู้ทรงบัญญัติ พระผู้ดำรงอยู่ก่อนยุคสมัย

เป็นข้อผูกพันและหน้าที่ของประชาชนทั้งหลายของโลกทุกคน ที่จะต้องยื่นมือเข้าช่วยศาสนาแห่งยุคใหม่นี้ ที่มาจากนภาแห่งพระประสงค์ของพระผู้ทรงอนันต์ เพื่อว่าไฟแห่งความชิงชังที่ลุกอยู่ในหัวใจของประชาชนบางกลุ่ม จะดับลงด้วยธาราแห่งปัญญาและคำปรึกษาแนะนำจากสวรรค์ และแสงแห่งเอกภาพและความปรองดอง จะส่องรัศมีมายังโลก

เราหวังว่า โดยความพยายามอย่างจริงจังของบรรดาผู้ที่เป็น ตัวแทนของอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ อาวุธทั้งหลายที่ใช้ทำสงครามทั่วโลกจะถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือ สำหรับการปฏิสังขรณ์ และการทะเลาะวิวาทและความขัดแย้งจะ ถูกขจัดออกไปจากหมู่มนุษย์

ข่าวดีข้อที่หก

คือการสถาปนาสันติภาพรอง ซึ่งปากกาอันประเสริฐสุดของเราได้ เปิดเผยรายละเอียดไว้ให้แล้วก่อนหน้านี้ พระพรอันยิ่งใหญ่เป็นของผู้ที่สนับสนุนสันติภาพรองและปฏิบัติตามสิ่งที่บัญญัติไว้โดย พระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ

ข่าวดีข้อที่เจ็ด

รสนิยมด้านเสื้อผ้าและการโกนแต่งเคราให้เป็นไปตามวิจารณญาณของมนุษย์ ดูกร ประชาชน แต่จงระวังอย่าทำตัวเป็นเครื่องเล่นของคนเขลา

ข่าวดีข้อที่แปด

การบำเพ็ญพรตของพระและนักบวชที่นับถือพระจิต[1] ขอสันติสุข ของพระผู้เป็นเจ้าจงมีแด่พระองค์ ได้รับการจดจำไว้ ณ ที่สถิตของพระองค์ อย่างไรก็ตามในยุคนี้ ขอให้พวกเราเลิกชีวิตสันโดษแล้วก้าวไปสู่โลกกว้าง และประกอบกิจที่จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาเองและผู้อื่น เราอนุญาตให้พวกเขาสมรสได้ เพื่อว่าพวกเขาจะได้ให้ กำเนิดผู้ที่จะกล่าวถึงพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายของรูปธรรมและนามธรรม พระผู้เป็นนายแห่งบัลลังก์อันประเสริฐ

ข่าวดีข้อที่เก้า

เมื่อคนบาปพบว่าตนเองได้ตัดความผูกพันโดยสิ้นเชิงและหลุดพ้น จากทุกสิ่งนอกจากพระผู้เป็นเจ้าแล้ว เขาควรขออภัยจากพระองค์ การสารภาพบาปและอกุศลกรรมต่อมนุษย์ด้วยกันไม่เป็นที่อนุญาต เพราะการกระทำเช่นนั้นหาได้รับอภัยจากพระผู้เป็นเจ้าไม่ อีกทั้ง ยังก่อให้เกิดความอับอายและอดสู และพระผู้เป็นเจ้า ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ ไม่ต้องการให้คนรับใช้ของพระองค์ได้รับความอับอาย แท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงเห็นใจ พระผู้ทรงปรานี คนบาปควรวิงวอนสองต่อสองต่อพระผู้เป็นเจ้า เพื่อขอความปรานี จากมหาสมุทรแห่งความปรานี ขออภัยจากสวรรค์วทัญญูและกล่าวว่า :

ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า! ข้าพเจ้า ขอวิงวอนต่อเลือดของบรรดาคนรักที่แท้จริงของพระองค์ผู้อภิรมย์ ต่อมธุรสวาจาของพระองค์ จนพวกเขารีบไปสู่ยอดของความรุ่งโรจน์ นั่นคือการสละชีวิตอย่างรุ่งโรจน์ที่สุด ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อความลึกลับที่อยู่ในปัญญาของพระองค์ และต่อไข่มุกที่ถนอมไว้ในมหาสมุทรแห่งความอารีของพระองค์ ของทรงประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า แก่บิดามารดาของข้าพเจ้า ในบรรดาผู้ที่ปรานี พระองค์คือผู้ทรงปรานีที่สุด ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระผู้ทรง อภัยเสมอ พระผู้ทรงอารี

ข้าแด่พระผู้เป็นนาย! พระองค์ทรงเห็นแล้วว่าคนบาปหนา ผู้นี้หันมาหามหาสมุทรแห่งกรุณาธิคุณของพระองค์ คนอ่อนแอผู้นี้แสวงหาอาณาจักรแห่งอานุภาพสวรรค์ของพระองค์ คนยากไร้ผู้นี้มุ่งหาดวงตะวันแห่งความมั่งคั่งของพระองค์ ข้าแต่พระผู้เป็นนาย ด้วยความปรานีและความกรุณาของพระองค์ ขอทรงอย่าทำให้เขา ผิดหวัง อย่าปิดกั้นเขาจากความอารีที่หลั่งไหลมาในยุคของพระองค์ หรือผลักไสเขาไปจากประตูที่พระองค์เปิดกว้างไว้สำหรับทุกคนที่อาศัยอยู่ในสวรรค์และบนโลกของพระองค์

อนิจจา! อนิจจา! บาปของข้าพเจ้าได้ขัดขวางมิให้ข้าพเจ้า ใกล้เข้าหาราชสำนักแห่งความวิสุทธิ์ของพระองค์ และอกุศลกรรมของข้าพเจ้าได้พาข้าพเจ้าหลงไกลไปจากเทพมณเฑียรแห่งราชศักดาของพระองค์ ข้าพเจ้าได้กระทำสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม และละทิ้งสิ่งที่พระองค์บัญญัติให้ข้าพเจ้าปฏิบัติ

ข้าพเจ้าขออธิษฐานต่อพระผู้ซึ่งเป็นนายสูงสุดแห่งนาม ขอพระองค์ทรงจารึกด้วยปากกาแห่งความอารีของพระองค์ ในสิ่งที่จะช่วยให้ข้าพเจ้าใกล้เข้าหาพระองค์ และชำระข้าพเจ้าให้ปลอดจากอกุศลกรรมที่คั่นระหว่างข้าพเจ้าและการอภัยของพระองค์

แท้จริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงอารี ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใด นอกจากพระองค์ พระผู้ทรงอำนาจพระผู้ทรงกรุณา

ข่าวดีข้อที่สิบ

ประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความกรุณาจากพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ เปิดเผยการประกาศครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ เราได้ยกเลิกกฎในธรรมจารึกและคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ว่าด้วยการทำลายหนังสือ

ข่าวดีข้อที่สิบเอ็ด

เป็นที่อนุญาตให้ศึกษาวิทยาศาสตร์และศิลปะสาขาต่าง ๆ แต่ต้องเป็นศาสตร์ที่มีประโยชน์และส่งเสริมความก้าวหน้าและพัฒนาการของประชาชน ดังนี้คือบัญญัติจากพระผู้เป็นผู้ทรงบัญญัติ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ

ข่าวดีข้อที่สิบสอง

เป็นที่บัญชาไว้สำหรับทุกคนให้ประกอบอาชีพบางอย่างเช่น การฝีมือ การค้า และที่คล้ายกัน เราได้ยกการประกอบการงานดังกล่าว ขึ้นเทียบเท่าการบูชาพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นหนึ่งโดยแท้จริง จงตรึกตรองด้วยหัวใจเกี่ยวกับความกรุณาและพระพรของพระผู้เป็นเจ้า และขอบคุณพระองค์ทั้งเช้าค่ำ อย่าเสียเวลาไปกับความเกียจคร้าน เฉื่อยชา จงประกอบกิจที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าเองและผู้อื่น ดังนี้ คือสิ่งที่ประกาศิตไว้ในธรรมจารึก ซึ่งจากขอบฟ้าของธรรมจารึกนี้ ดวงตะวันแห่งปัญญาและวาทะฉายแสงอย่างเจิดจ้า

มนุษย์ที่น่ารังเกียจที่สุดในสายตาของพระผู้เป็นเจ้าคือ ผู้ที่นั่งอย่างเกียจคร้านและขอทาน จงยึดถือวิธีการหารายได้โดยวางใจในพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงจัดหาวิธีการทุกอย่าง เมื่อใครก็ตามยึดอาชีพการฝีมือหรือการค้า อาชีพดังกล่าวได้รับการพิจารณาจาก พระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นการบูชา และนี่มิใช่อื่นใดนอกจากเป็นสัญลักษณ์แห่งความอารีที่ไม่มีขีดจำกัดและซึมซาบไปทั่วทุกสรรพสิ่ง

ข่าวดีข้อที่สิบสาม

สมาชิกสภายุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้ามีหน้าที่ดูแลกิจการต่าง ๆ ของประชาชน ความจริงแล้วพวกเขาคือผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากพระผู้เป็นเจ้าให้ดูแลคนรับใช้ของพระองค์ และคืออรุโณทัยแห่งอำนาจในประเทศทั้งหลายของพระองค์

ดูกร ประชาชนของพระผู้เป็นเจ้า! สิ่งที่อบรมโลกคือความยุติธรรม เพราะความยุติธรรมได้รับการค้ำจุนโดยสองเสาหลัก นั่นคือ รางวัลและการลงโทษ สองเสาหลักนี้คือบ่อเกิดชีวิตของโลก เนื่องด้วยแต่ละวันมีปัญหาใหม่ และแต่ละปัญหามีการแก้ที่เหมาะสม กิจการดังกล่าวควรเสนอมายังสมาชิกสภายุติธรรม เพื่อว่าพวกเขา จะได้ดำเนินการให้สอดคล้องกับความจำเป็นและความต้องการในเวลานั้น บรรดาผู้ที่ลุกขึ้นรับใช้ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อเห็นแก่พระองค์ จะได้รับแรงดลใจจากอาณาจักรที่มองไม่เห็น เป็น หนาที่ของทุกคนที่จะต้องเชื่อฟังพวกเขา ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับรัฐ ควรเสนอมายังสภายุติธรรม แต่การบูชาต้องปฏิบัติตามที่พระผู้-เป็นเจ้าเปิดเผยไว้ในคัมภีร์ของพระองค์

ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา! เจ้าคืออุทัยสถานแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้าและอรุโณทัยแห่งความเมตตารักใคร่ของพระองค์ อย่าทำให้ลิ้นของเจ้าด่างพร้อยด้วยการสาปแช่งหรือถากถางผู้ใด และอย่ามองสิ่งที่ไม่ควรมอง จงแสดงสิ่งที่เจ้ามีอยู่ หากเป็นที่ยอมรับดี จุดมุ่งหมายของเจ้าก็สัมฤทธิผล หากไม่ การโต้เถียงเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ จงปล่อยวิญญาณดวงนั้นไว้กับตัวเขาเอง แล้วหันมาสู่พระผู้เป็นนาย พระผู้ทรงคุ้มครอง พระผู้ดำรงอยู่ด้วยตนเอง อย่าได้เป็นสาเหตุของความเศร้าโศก ความร้าวฉานหรือการทะเลาะวิวาท เป็นที่หวังว่าเจ้าจะได้รับการอบรมอย่างแท้จริงในที่กำบังของพฤกษาแห่งความเมตตารักใคร่ของพระองค์ และปฏิบัติตามที่พระผู้เป็นเจ้า ปรารถนา พวกเจ้าทุกคนคือใบไม้บนต้นเดียวกัน และหยดน้ำในมหาสมุทรเดียวกัน

ข่าวดีข้อที่สิบสี่

ไม่จำเป็นต้องเดินทางเพื่อไปเยี่ยมสุสานคนตายเป็นพิเศษ หากประชาชนผู้มั่งคั่งบริจาคค่าเดินนั้นให้แก่สภายุติธรรม ก็จะเป็นที่ยินดีและยอมรับ ณ ที่สถิตของพระผู้เป็นเจ้า ความสุขจงมีแด่ผู้ที่ปฏิบัติตามบัญญัตินี้

?

?

ข่าวดีข้อที่สิบห้า

แม้ว่าการปกครองระบอบสาธารณรัฐอำนวยประโยชน์แก่ประชาชนทั้งปวงในโลก กระนั้นก็ตามราชศักดาของกษัตริย์คือหนึ่งในสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้า เราไม่ต้องการให้ประเทศทั้งหลายไร้ซึ่งกษัตริย์ หากผู้ที่มีปัญญาหลักแหลมประสานสองรูปแบบนี้เข้าเป็นระบอบเดียวกัน เขาจะได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่ ณ ที่สถิตของพระผู้เป็นเจ้า

ในศาสนาก่อน ๆ บัญญัติต่าง ๆ เช่น การทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ การทำลายหนังสือ ห้ามการสมาคมหรือเป็นมิตรกับประชาชนบางพวก หรือห้ามการอ่านหนังสือบางอย่าง ได้กำหนดไว้ตามความจำเป็นของสมัยนั้น อย่างไรก็ตามในยุคแห่งการเปิดเผยพระธรรมครั้งยิ่งใหญ่นี้ การประกาศครั้งสำคัญนี้ กรุณาธิคุณอเนกอนันต์ ของพระผู้เป็นเจ้าได้ปกคลุมมนุษย์ทั้งมวล และจากขอบฟ้าแห่งพระประสงค์ของพระผู้เป็นผู้ทรงอนันต์ ประกาศิตที่ไม่มีผิดพลาด ของพระองค์ได้กำหนดสิ่งที่เราแถลงไว้ข้างบน

เราขอสดุดีพระผู้เป็นเจ้า ความศักดิ์สิทธิ์และความสรรเสริญจงมีแต่พระองค์ สำหรับสิ่งใดก็ตามที่พระองค์เปิดเผยในยุคที่อุดมพรรุ่งโรจน์และหาที่เปรียบไม่ได้นี้ แท้จริงแล้วหากทุกคนบนพิภพได้ รับการประสาทด้วยลิ้นจำนวนนับไม่ถ้วน และสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า และพระนามของพระองค์อย่างไม่หยุดหย่อนไปจนถึงอวสานที่ไม่มี จุดจบ การแสดงความขอบคุณของพวกเขาก็ยังไม่เพียงพอสำหรับ กรุณาธิคุณแม้เพียงอย่างเดียวตามที่เราได้กล่าวไว้ในธรรมจารึกนี้ มนุษย์ทุกคนที่มีปัญญา เห็นแจ้งและเข้าใจ เป็นพยานต่อสิ่งนี้

เราขอวิงวอนพระผู้เป็นเจ้า ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ ขอทรงช่วยเหลือผู้ปกครองและประมุขทั้งหลายผู้เป็นตัวแทนของอานุภาพและอรุโณทัยแห่งความรุ่งโรจน์ ให้นำกฎและบัญญัติของพระองค์มาบังคับใช้ให้จงได้ ความจริงแล้ว พระองค์คือพระผู้ทรงอำนาจสูงสุด พระผู้ทรงอานุภาพ พระผู้ทรงตอบคำเรียกร้องของ มนุษย์ทุกคนเสมอ

TB 21 -29

พระธรรมที่คัดมาจากทาราซาท

(เครื่องประดับ)

  1. ดูกร ผู้ได้ดื่มอมฤตแห่งวจนะจากถ้วยแห่งความรู้ของเรา! ปัจจุบันนี้ วจนะอันประเสริฐเหล่านี้ได้ยินมาจากเสียงลมพริ้วของพฤกษาสวรรค์ ที่พระผู้เป็นนายแห่งนามปลูกไว้ในพิมานชั้นสูงสุด ด้วยพระหัตถ์ แห่งอานุภาพสวรรค์ :

?

?

ทาราซข้อแรก

และรัศมีแรกที่รุ่งอรุณจากขอบฟ้าแห่งคัมภีร์แม่บทคือ มนุษย์ควร รู้จักตนเองรู้ว่าสิ่งใดนำไปสู่ความสูงส่งหรือความต่ำด้อย ความรุ่งเรืองหรือความตกต่ำ ความมั่งคั่งหรือความยากจน เมื่อมาถึงวัยสมบูรณ์และเข้าสู่วุฒิภาวะแล้ว มนุษย์จำเป็นต้องมีความมั่งคั่ง และความมั่งคั่งที่มนุษย์ได้มาโดยงานฝีมือหรือวิชาชีพ เป็นที่น่า ชมเชยและน่าสรรเสริญในทรรศนะของผู้มีปัญญา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายตาของคนรับใช้ที่อุทิศตนต่อการศึกษาของโลกและ การอบรมศีลธรรมแก่ประชาชน ในความจริงแล้วพวกเขาคือผู้ถือถ้วยน้ำแห่งชีวิตที่บรรจุความรู้ และคือผู้ชี้นำไปสู่หนทางที่สมบูรณ์เลิศ พวกเขาชี้นำประชาชนทั้งหลายของโลกไปสู่หนทางตรง และฝึกฝนประชาชนให้คุ้นเคยกับสิ่งที่ช่วยยกระดับจิตใจและฐานะของมนุษย์ หนทางตรงคือหนทางที่นำมนุษย์ไปสู่อรุโณทัยแห่งความเห็นแจ้งและอุทัยสถานแห่งความเข้าใจที่แท้จริง และนำมนุษย์ไปสู่สิ่งที่ส่งเสริมความรุ่งเรือง เกียรติและความยิ่งใหญ่

เราหวังว่าโดยความเมตตารักใคร่ของพระผู้ทรงอัจฉริยภาพ พระผู้ทรงรอบรู้ ธุลีที่บังตาจะถูกปัดเป่าออกไป และความสามารถในการมองเห็นจะทวีขึ้น เพื่อว่าประชาชนจะได้ค้นพบจุดประสงค์ ที่พวกเขาถูกสร้างขึ้นมา ในยุคนี้อะไรก็ตามที่ช่วยเปิดตาให้สว่างขึ้น คู่ควรที่จะได้รับการพิจารณา แท้จริงแล้วในทรรศนะของผู้มี ปัญญา ความเข้าใจที่เฉียบแหลมขึ้นอยู่กับสายตาที่เฉียบแหลม ในทุกสภาพแวดล้อม ประชาชนแห่งบาฮาต้องปฏิบัติตามสิ่งที่เหมาะสม และแนะนำประชาชนตามนั้น

ทาราซข้อที่สอง

คือการคบหาสมาคมกับศาสนิกชนของทุกศาสนาด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ และการประกาศสิ่งที่ประกาศกบนไซไนแถลงไว้ และใช้ความเที่ยงธรรมในทุกเรื่อง

บรรดาผู้ที่มีความจริงใจและซื่อสัตย์ควรคบหาสมาคมกับ ประชาชนและวงศ์ตระกูลทั้งปวงบนพิภพด้วยใจเบิกบานและผ่องใสเนื่องด้วยการคบหากับประชาชนจะส่งเสริมเอกภาพและความ ปรองดอง ซึ่งจะชักนำไปสู่การค้ำจุนระเบียบของโลกและการฟืน ชีวิตให้แก่ชาติทั้งหลาย พระพรจงมีแด่ผู้ที่ยึดเหนี่ยวสายใยแห่ง ความเมตตาปรานี และหลุดพ้นจากความเป็นปรปักษ์และเกลียดชัง

พระผู้ทรงถูกประทุษร้ายนี้แนะนำประชาชนทั้งหลายของโลก ให้มีความอดกลั้นและชอบธรรม ซึ่งเป็นสองดวงประทีปท่ามกลางความมืดมนบนพิภพ และเป็นผู้อบรมศีลธรรมให้แก่มนุษยชาติ ความสุขบังเกิดกับผู้ที่ได้บรรลุถึง และความหายนะบังเกิดกับผู้ที่ไม่เอาใจใส่

ทาราซข้อที่สาม

เกี่ยวกับอุปนิสัยใจคอที่ดี แท้จริงแล้วอุปนิสัยใจคอที่ดีคือเสื้อคลุมที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์จากพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ประดับวิหาร ของบรรดาผู้ที่พระองค์รักด้วยเสื้อนี้ ชีวิตของเราเป็นพยาน! แสงของอุปนิสัยใจคอที่ดีโชติช่วงกว่าแสงและความเจิดจ้าของดวงอาทิตย์ ใครก็ตามที่มีอุปนิสัยใจคอที่ดีจะได้รับการนับว่าเป็นอัญมณีในหมู่มนุษย์ ความเจริญรุ่งเรืองของโลกต้องอาศัยอุปนิสัยใจคอที่ดี อุปนิสัยใจคอที่ดีคือวิถีที่นำมนุษย์ไปสู่หนทางตรงและการประกาศครั้งยิ่งใหญ่ ความสุขสวัสดีจงมีแด่ผู้ที่ประดับด้วยอุปนิสัยใจคอของหมู่เทวัญเบื้องบน

เป็นหน้าที่ของเจ้าที่จะตั้งมั่นในความยุติธรรมและเที่ยงธรรม ในทุกสภาพการณ์ ในพระวจนะเร้นลับ ปากกาอันเกรียงไกรที่สุดของเราเปิดเผยพจนาอันประเสริฐนี้ :

‘ดูกร บุตรแห่งธรรม! สิ่งอันเป็นที่รักยิ่งที่สุดในสายตาของเราคือความยุติธรรม จงอย่าเมินสิ่งนี้หากเจ้าปรารถนาเรา และจงอย่าเพิกเฉยเพื่อว่าเราจะมอบธรรมะให้กับเจ้า ความยุติธรรม จะช่วยให้เจ้าเห็นด้วยตาของเจ้าเอง มิใช่ด้วยตาของผู้อื่น และรู้ด้วยปัญญาของเจ้าเอง มิใช่ด้วยปัญญาของเพื่อนบ้าน จงไตร่ตรองในหัวใจว่าสิ่งนี้จำเป็นอย่างไรสำหรับเจ้า แท้จริงแล้วความยุติธรรมคือของขวัญและเครื่องหมายแห่งความเมตตารักใคร่ของเรา ดังนั้นจงตั้งมั่นในความยุติธรรม’

บรรดาผู้ที่ยุติธรรมและมีใจเที่ยงธรรมในการลงความเห็น จะได้ครองฐานะและตำแหน่งอันประเสริฐ แสงแห่งความศรัทธาและซื่อตรงเรืองรองส่องสว่างมาจากดวงวิญญาณเหล่านี้ เราหวังอย่างยิ่งว่า ประชาชนและประเทศทั้งหลายของโลกจะไม่สิ้นแสงของประทีปสองดวงนี้

ทาราซข้อที่สี่

เกี่ยวกับความไว้วางใจได้ แท้จริงแล้วความไว้วางใจได้คือประตูแห่งความไร้กังวลสำหรับทุคนที่อาศัยอยู่บนโลก และเป็นสัญลักษณ์ แห่งความรุ่งโรจน์ของพระผู้ทรงปรานี ผู้ที่มีความไว้วางใจได้คือผู้ที่มีทรัพย์แห่งความมั่งคั่งและเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง ความไว้วางใจได้คือทวารสำคัญที่สุดที่นำไปสู่ความสงบและความไร้กังวลของประชาชน ความจริงแล้วเสถียรภาพของกิจการทุกอย่างขึ้น อยู่กับความไว้วางใจได้ อานุภาพ ความโอฬารและความมั่งคั่งทั้งปวงเรืองรองด้วยแสงแห่งความไว้วางใจได้

ไม่นานมานี้ปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่งได้เปิดเผยวจนะ อันประเสริฐเหล่านี้ :

บัดนี้เราจะกล่าวถึงความไว้วางใจได้และฐานะของคุณธรรมนี้ ในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งบัลลังก์อันทรงอำนาจ วันหนึ่งเราไปยังเกาะมรกตของเรา เมื่อไปถึงเราเห็นชลธารหลั่งไหลและพฤกษางอกงามอยู่ภายใต้แสงตะวัน เมื่อหันหน้าไปทางขวา เราเห็นสิ่งที่ปากกาไม่สามารถอธิบาย หรือจะพรรณนาภาพที่ดวงตาของพระผู้เป็นนายของมนุษยชาติได้เห็น ณ บริเวณที่พิสุทธิ์ ประเสริฐ อุดมพรและสูงส่งที่สุดนั้น เมื่อหันไปทางซ้าย เราได้พิศดูหนึ่งในความงามของพิมานอันประเสริฐสุด ซึ่งยืนอยู่บนเสาหลักแห่งอาภา และร้องเรียกอย่างกังวาลว่า : ‘ดูกร บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกและสวรรค์! จงดูความงาม ความจรัส การปรากฏ และความ’ชัชวาลของเรา พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็น หนึ่งโดยแท้จริงเป็นพยาน! เราคือความไว้วางใจได้ที่ปรากฏความ งามออกมา เราจะตอบแทนผู้ที่ยึดถือเรา ยอมรับตำแหน่งและ ฐานะของเรา และยึดชายผ้าของเราไว้มั่น เราคือเครื่องประดับ อันยิ่งใหญ่ที่สุดของประชาชนแห่งบาฮา คือภูษาแห่งความรุ่งโรจน์ สำหรับทุกคนที่อยู่ในอาณาจักรของสรรพภาวะ เราคือกลไกอัน สำคัญที่สุดสำหรับความเจริญรุ่งเรืองของโลก คือขอบฟ้าที่ให้ความมั่นใจแก่ทุกชีวิต ดังนี้คือวจนะที่เรามอบให้แก่เจ้า ซึ่งจะดึงดูดมนุษย์ ให้เข้ามาใกล้พระผู้เป็นนายแห่งสรรพภาวะ’

ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา! ความจริงแล้วความไว้วางใจได้ คือภูษาที่ดีที่สุดสำหรับวิหารของเจ้า คือมงกุฎที่รุ่งโรจน์ที่สุดสำหรับศีรษะของเจ้า จงยึดมั่นในความไว้วางใจได้ตามบัญญัติของพระผู้เป็น ผู้ทรงบัญญัติ พระผู้ทรงรับทราบทุกอย่าง

ทาราซข้อที่ห้า

เกี่ยวกับการปกป้องและอภิรักษ์ฐานะบรรดาคนรับใช้ของพระผู้เป็น-เจ้า มนุษย์ไม่ควรละเลยสัจจะในเรื่องใด ๆ แต่ควรยอมรับสิ่งที่ถูกต้องและเป็นความจริง ประชาชนแห่งบาฮาไม่ควรปฏิเสธการให้รางวัล แก่ผู้ที่ควรได้ ควรปฏิบัติต่อช่างฝีมือด้วยความเกรงใจ และอย่าเอาเยี่ยงประชาชนในสมัยก่อน นั่นคืออย่าทำให้ลิ้นด่างพร้อยด้วยคำพูดหยาบคาย

ในยุคนี้ดวงตะวันแห่งการฝีมือเรืองแสงอยู่เหนือขอบฟ้าของดินแดนตะวันตก และชลธารแห่งศิลปะกำลังหลั่งไหลมาจากทะเล ในดินแดนนั้น มนุษย์ต้องพูดด้วยความเที่ยงธรรมและเห็นคุณค่าของพระพรนี้ ชีวิตของพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน! คำว่า”เที่ยงธรรม” ฉายรัศมีอย่างเจิดจ้าประดุจดวงอาทิตย์ เราอธิษฐานถึงพระผู้เป็นเจ้าขอทรงสาดรัศมีแห่งความเที่ยงธรรมมายังทุกคน ความจริงแล้วพระองค์ทรงอานุภาพเหนือทุกสรรพสิ่ง และทรงตอบคำอธิษฐานของทุกคนเสมอ

ปัจจุบันนี้ วาจาสัตย์และความจริงใจถูกทรมานอย่างเจ็บปวด อยู่ในอุ้งมือของความโกหกหลอกลวง และความยุติธรรมถูกเฆี่ยน ด้วยแส้แห่งความอยุติธรรม ควันของความทุจริตปกคลุมไปทั่วพิภพจนมองไม่เห็นอะไรไม่ว่าทิศไหนนอกจากกองทหาร และไม่ได้ยินอะไรจากดินแดนไหนนอกจากเสียงดาบกระทบกัน เราวิงวอน พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นหนึ่งโดยแท้จริง ของทรงเสริมพลังให้ผู้ที่ใช้อำนาจของพระองค์ในการฟื้นฟูโลกและนำความสงบมาสู่ชาติทั้งหลาย

ทาราซข้อที่หก

ความรู้คือหนึ่งในของขวัญอันวิเศษจากพระผู้เป็นเจ้า เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะหาความรู้ ศิลปะและความก้าวหน้าทางวัตถุที่เห็น กันอยู่ในปัจจุบัน สัมฤทธิผลได้โดยความรู้และอัจฉริยภาพที่เปิดเผย ไว้ในสารและธรรมจารึกต่าง ๆ จากปากกาอันประเสริฐสุดของพระองค์ ซึ่งจากคลังของปากกานี้ ไข่มุกแห่งอัจฉริยภาพและวาทะ ศิลปะ และงานฝีมือในโลกได้ปรากฏออกมา

ในยุคนี้ความลับของพิภพถูกเปิดเผยต่อดวงตาของมนุษย์ หน้าหนังสือพิมพ์ทั้งหลายที่ตีพิมพ์ออกมาอย่างรวดเร็ว ที่จริงแล้วคือกระจกของโลกที่สะท้อนการกระทำและความพยายามของประชาชนและวงศ์ตระกูลทั้งหลาย เป็นทั้งการสะท้อนและเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก หน้าหนังสือพิมพ์คือกระจกที่มีการได้ยิน มีสายตาและ วาจานี้คือปรากฏการณ์ที่ทรงพลังและน่าพิศวง อย่างไรก็ตาม เป็นหน้าที่ของผู้เขียนหนังสือพิมพ์ที่จะต้องไม่ถูกชักจูงด้วยกิเลสตัณหาอันชั่วร้าย และสวมภูษาแห่งความยุติธรรมและความเที่ยงธรรม พวกเขาควรไต่ถามสถานการณ์ต่าง ๆให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หาข้อเท็จจริงที่แน่นอน แล้วจึงเขียนตามนั้น

TB 34-40

?

คาลิมาเทเฟรโดซิเย

(วจนะสวรรค์)

  1. ปัจจุบันนี้เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะยึดมั่นอยู่กับความสามัคคีปรองดอง และพากเพียรพยายามส่งเสริมศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อว่าดวงวิญญาณที่ถือทิฐิจะได้บรรลุถึงสิ่งที่นำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอันยั่งยืน

กล่าวโดยย่อ การพิพาทระหว่างนิกายด่าง ๆได้เปิดทางไปสู่ความอ่อนแอ แด่ละนิกายเลือกทางสำหรับตนเองและยึดอยู่กับเกณฑ์อย่างหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ตาบอดและโง่เขลาเบาปัญญา แต่พวกเขากลับทะนงว่าตนมีปัญญารอบรู้ หนึ่งในบรรดาบุคคล เหลานี้ คือพวกเข้าฌาณที่สวามิภักดิ์ต่อศาสนาอิสลาม พวกเขาบางคนปล่อยตัวไปกับสิ่งที่นำไปสู่ความเกียจคร้านและแยกตัวเอง เราขอปฏิญาณต่อพระผู้เป็นเจ้า! การกระทำเช่นนี้ทำให้มนุษย์ต่ำลงและหยิ่งทะนง มนุษย์ต้องให้ผลผลิตตามวาทะของพระจิต1ผู้ที่ไม่มีผลผลิตเป็นเสมือนต้นไม้ที่ไร้ผล และต้นไม้ที่ไร้ผลเหมาะสำหรับกองไฟเท่านั้น

TB 60

โลเฮดนยา

(ธรรมจารึกแห่งพิภพ)

  1. ดูกร ประชาชนของพระผู้เป็นเจ้า! เราขอตักเตือนให้เจ้ามีมารยาท เพราะเหนืออื่นใดมารยาทคือเจ้าชายของคุณธรรมทั้งปวง ความสุขสวัสดีจงมีแต่ผู้ที่เรืองรองด้วยแสงแห่งมารยาทและสวมภูษาแห่งความซื่อตรง ใครก็ตามที่มีมารยาทได้บรรลุถึงฐานะอันประเสริฐที่แท้ เป็นที่หวังว่าพระผู้ถูกประทุษร้ายนี้และทุกคนจะได้รับช่วย เหลือให้เป็นผู้ที่มีมารยาท ยึดถือปฏิบัติและตั้งมั่นอยู่ในมารยาท นี้คือบัญชาผูกมัดที่หลั่งมาจากปากกาของพระผู้เป็นพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุด

TB 88

  1. ดูกร ประชาชนของพระผู้เป็นเจ้า! บรรดาผู้ที่ชอบธรรมที่มีวิชา และอุทิศตนเพื่อนำทางผู้อื่น หลุดพ้นและปลอดภัยจากความโลภและธรรมชาติฝ่ายต่ำ ในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า คือดวงดาราบนนภาแห่งปัญญาที่แท้ และจำเป็นต้องปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเกรงใจ แท้จริงแล้วพวกเขาคือน้ำพุที่หลั่งน้ำไหลริน คือดวงดาราที่เรืองแสงสุกใส คือผลไม้บนพฤกษาที่อุดมพร คือตัวแทนของอานุภาพสวรรค์ และคือมหาสมุทรแห่งเมธาสวรรค์ ความสุขจงมีแด่ผู้ที่ปฏิบัติตามพวกเขา แท้จริงแล้วดวงวิญญาณดังกล่าวได้รับการนับว่าเป็นพวกที่จะได้ดีในคัมภีร์ของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งบัลลังก์อันทรงอำนาจ

TB 96-97

อิชรากาท

(วิภา)

  1. ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงเห็นแล้วว่า ข้าพเจ้าดิ้นด้วยความปวดร้าวประดุจปลาบนพื้นดิน ข้าแต่พระผู้ที่มนุษย์ ทุกคนวิงวอนขอความช่วยเหลือ ข้าแต่พระผู้กุมบังเหียนอำนาจปกครองบุรุษและสตรีทั้งปวง ขอทรงปลดเปลื้องข้าพเจ้า ปรานีต่อข้าพเจ้า เมื่อใดก็ตามที่ข้าพเจ้าตรึกตรองความบกพร่องที่ร้ายแรง และอกุศลกรรมอันใหญ่หลวงของข้าพเจ้า ความสิ้นหวังโจมตีข้าพเจ้า จากทุกสารทิศ และเมื่อข้าพเจ้าหยุดเพื่อใคร่ครวญถึงมหาสมุทรแห่งความอารี นภาแห่งความกรุณา และดวงตะวันแห่งความเห็นอก เห็นใจของพระองค์ ข้าพเจ้าได้สูดสุคนธรสแห่งความหวังที่ขจรมา จากขวาและซ้าย จากเหนือและใต้ ราวกับว่าทุกสรรพสิ่งแจ้งข่าว อันน่าปีติมายังข้าพเจ้าว่า เมฆบนนภาแห่งความปรานีของพระองค์จะหลั่งฝนมาให้ข้าพเจ้า อำนาจของพระองค์เป็นพยาน ข้าแต่พระผู้เป็นหลักค้ำจุนผู้ที่จริงใจ และเป็นยอดปรารถนาของบรรดา ผู้ที่ยินดีต่อการเข้าใกล้พระองค์! กรุณาธิคุณและพระพรอเนกอนันต์ของพระองค์ การเปิดเผยพระกรุณาและความเมตตารักใคร่ของ พระองค์ ได้ทำให้ข้าพเจ้าใจชั้น มิฉะนั้นแล้วศูนยภาพโดยสมบูรณ์ จะสรรเสริญพระนามของพระผู้สร้างสรรพภาวะโดยวจนะเดียวได้อย่างไร และจะเป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ที่ไม่จีรังจะสดุดีพระผู้ทรงสาธิต แล้วว่าไม่มีคำพรรณนาใดอธิบายพระองค์ได้ และไม่มีคำสรรเสริญ ใดสรรเสริญความรุ่งโรจน์ของพระองค์ได้! ตั้งแต่นิรันดรกาลพระองค์ทรงภิญโญภาพเหนือความเข้าใจของมนุษย์ และบริสุทธิ์พ้นจากความนึกคิดของคนรับใช้ของพระองค์

ข้าแต่พระผู้เป็นนาย! พระองค์ทรงเห็นคนไร้ชีวิตผู้นี้อยู่ ณ เบื้องพระพักตร์ของพระองค์ และด้วยความเอื้อเฟื้อและกรุณาธิคุณของพระองค์ ขออย่าให้เขาถูกพรากจากถ้วยน้ำแห่งชีวิตอมตะ พระองค์ทรงเห็นคนทุกข์ทรมานผู้นี้ยืนอยู่หน้าบังลังก็ของพระองค์ ขอทรงอย่าผลักไสเขาออกไปจากมหาสมุทรแห่งการรักษาของ พระองค์ ข้าพเจ้าวิงวอนพระองค์ขอทรงช่วยให้ข้าพเจ้าระลึกถึงพระองค์ทุกเวลาและในทุกสภาพการณ์ สรรเสริญพระนามของพระองค์ และรับใช้ศาสนาของพระองค์ แม้ว่าข้าพเจ้าตระหนักดีว่า อะไรก็ตามที่มาจากคนรับใช้ไม่สามารถข้ามพ้นข้อจำกัดของวิญญาณของเขา ไม่เหมาะสมกับอิสริยะของพระองค์ หรือคู่ควรกับราชสำนักแห่งความรุ่งโรจน์และราชศักดาของพระองค์

อำนาจของพระองค์เป็นพยานต่อข้าพเจ้า! หากมิใช่เพื่อสรรเสริญพระองค์ ลิ้นของข้าพเจ้าย่อมไม่มีประโยชน์ หากมิใช่เพื่อรับใช้พระองค์ การมีชีวิตอยู่หาเป็นประโยชน์ต่อข้าพเจ้าไม่ ถ้ามิใช่เพื่อความยินดีต่อการได้เห็นวิภาของอาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์ของพระองค์ ข้าพเจ้าจะถนอมสายตาไว้ทำไม และหากมิใช่เพื่อ ความปีติต่อการได้ฟังมธุรสวาจาของพระองค์ การได้ยินจะมีประโยชน์อะไร?

TB 112-113

?

อิชรากข้อแรก

  1. เมื่อดวงตะวันแห่งอัจฉริยภาพรุ่งอรุณขึ้นมาบนขอบฟ้าของยุคศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า ดวงตะวันเปล่งพจนาอันรุ่งโรจน์นี้ : บรรดาผู้ที่ครอบครองความมั่งคั่งและอยู่ในอำนาจต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อศาสนา ความจริงแล้วศาสนาคือประทีปที่สว่างไสวและที่มั่นอันปลอดภัยสำหรับความผาสุกและการคุ้มครอง ประชาชนทั้งหลายของโลก เพราะความกลัวพระผู้เป็นเจ้าผลักคัน ให้มนุษย์ยึดมั่นสิ่งที่ดีงามและหลีกหนีสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง หากตะเกียงของศาสนามืดมนลง ความโกลาหลและความสับสนจะตามมา และประทีปแห่งความเที่ยงธรรม ความยุติธรรม ความสงบและสันติภาพ จะหยุดส่องแสง มนุษย์ผู้มีปัญญาทุกคนจะเป็นพยานต่อสิ่งนี้

อิชรากข้อที่สอง

เราบัญชามวลมนุษย์ให้สถาปนาสันติภาพรองซึ่งเป็นวิถีทางอันแน่นอนที่สุดสำหรับคุ้มครองมนุษยชาติ ประมุขทั้งหลายของโลก ควรพร้อมใจยึดมั่นสิ่งนี้ เพราะนี้คือกลไกสำคัญที่สุดที่สามารถรับประกันความปลอดภัยและความผาสุกของประชาชาติทั้งปวง แท้จริงแล้วพวกเขาคือตัวแทนของอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าและอรุโณทัยแห่งอำนาจของพระองค์ เราวิงวอนพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ ขอทรงช่วยเหลือประมุขทั้งหลายในสิ่งที่นำไปสู่ความผาสุกของข้าแผ่นดิน คำอธิบายที่สมบูรณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แถลงไว้แล้วก่อนหน้านี้โดยปากกาแห่งความรุ่งโรจน์ ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ผู้ที่ปฏิบัติตามนี้

อิชรากข้อที่สาม

เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องปฏิบัติดามบัญญัติศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า เนื่องด้วยบัญญัติเหล่านี้คือบ่อเกิดแห่งชีวิตสำหรับโลก นภาแห่งเมธาสวรรค์เรืองรองด้วยตะวันสองดวงคือการปรึกษาหารือ และความเห็นอกเห็นใจ และชายคาแห่งระเบียบของโลกรังสฤษฏ์ อยู่บนสองเสาหลักคือรางวัลและการลงโทษ

อิชรากข้อที่สี่

ในการเปิดเผยพระธรรมสวรรค์ครั้งนี้ กองทัพที่สามารถนำชัยมาให้คือ กองทัพแห่งการกระทำที่นำสรรเสริญและอุปนิสัยใจคอที่ซื่อตรง ผู้นำและผู้บัญชาการของกองทัพเหล่านี้คือความกลัวพระผู้เป็นเจ้า เป็นความกลัวที่ห้อมล้อมและปกครองทุกสรรพสิ่ง

อิชรากข้อที่ห้า

รัฐบาลทั้งหลายควรทำความคุ้นเคยอย่างดีกับสภาพความเป็นอยู่ของบรรดาผู้ที่พวกเขาปกครอง และแต่งตั้งพวกเขาตามที่คู่ควร เป็นที่บัญชาไว้สำหรับผู้ปกครองและประมุขทุกคนให้พิจารณาเรื่องนี้ อย่างรอบคอบที่สุด เพื่อว่าคนทรยศจะไม่มาแย่งชิงตำแหน่งของ ผู้ที่ซื่อสัตย์ และโจรจะไม่มาปกครองแทนผู้ที่ไว้วางใจได้ บรรดา ข้าราชการในอดีตที่ปกครองคุกหฤโหดที่สุดนี้ บางคนประดับด้วยความยุติธรรม ความสรรเสริญจงมีแด่พระผู้เป็นเจ้า แต่สำหรับคนอื่น เราขอพระผู้เป็นเจ้าเป็นที่พึ่ง เราวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ขอทรงนำทางพวกเขาทุกคน เพื่อว่าพวกเขาจะได้เห็นผลของความศรัทธาและความไว้วางใจได้ และได้รับแสงแห่ง ความเที่ยงธรรมและยุติธรรม

อิชรากข้อที่หก

คือความสมัครสมานปรองดองในหมู่มนุษย์ ตั้งแต่เริ่มต้นของกาลเวลา แสงแห่งความสามัคคีสาดรัศมีมายังพิภพ และวิถีทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับส่งเสริมความสามัคคีนี้คือ ประชาชนทั้งหลายของโลกจะต้องเข้าใจข้อเขียนและคำพูดของกันและกัน ในสารฉบับก่อน ๆ เราได้บัญชาสมาชิกสภายุติธรรมให้เลือกภาษาหนึ่งจากภาษาที่มีอยู่แล้ว หรือคิดภาษาใหม่ และทำนองเดียวกันให้เลือกใช้อักษรเดียวกัน ทั้งภาษาและอักษรเดียวกันนี้ควรนำมาสอนในทุกโรงเรียนทั่วโลก ดังนี้แล้วโลกจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นประเทศเดียวกัน และบ้านเดียวกัน ผลอันรุ่งโรจน์ที่สุดของต้นไม้แห่งความรู้คือ วจนะอันประเสริฐนี้ : พวกเจ้าคือผลไม้บนต้นเดียวกันและใบไม้ บนกิ่งเดียวกัน มนุษย์ไม่ควรถามใจว่าเขารักประเทศของตน แต่ควรปลื้มใจว่าเขารักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เกี่ยวกับเรื่องนี้เราได้ เปิดเผยวิถีทางสำหรับการปฏิบัติสังขรณ์โลกและความสามัคคีของ ชาติทั้งหลายไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พระพรจงมีแต่ผู้ที่เข้าถึงพระพร จงมีแต่ผู้ที่ปฏิบัติตามนี้

อิชรากข้อที่เจ็ด

ปากกาแห่งความรุ่งโรจน์ให้คำปรึกษาแก่ทุกคนเกี่ยวกับการสั่งสอน และอบรมเด็ก จงดูสิ่งที่พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าเปิดเผยไว้ เมื่อเรามาถึงเมืองคุกนี้ และบันทึกไว้ในคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุด บิดาทุกคนได้รับบัญชาให้สั่งสอนบุตรและธิดาเกี่ยวกับศิลปะการอ่านเขียน และทุกสิ่งที่กำหนดไว้ในธรรมจารึกศักดิ์สิทธิ์ สำหรับผู้ที่ละเลยบัญชาที่มีต่อเขา สภายุติธรรมต้องนำทรัพย์สินจากเขา มาใช้สำหรับการสั่งสอนบุดรธิดาของเขาหากว่าเขามั่งคั่ง ถ้าไม่ เช่นนั้น ภาระนี้จะตกทอดมาสู่สภายุติธรรม แท้จริงแล้วเราให้บัญชานี้ไว้เป็นที่กำบังสำหรับผู้ยากไร้และขัดสน ผู้ที่อบรมเลี้ยงดูบุตรของตนเองหรือของผู้อื่น เปรียบเสมือนได้อบรมเลี้ยงดูบุตรของเรา และความรุ่งโรจน์ ความเมตตารักใคร่ และความปรานีของเรา ที่ห้อมล้อมโลก จะสถิตอยู่กับเขา

อิชรากข้อที่แปด

วรรคนี้ซึ่งบัดนี้ลิขิตโดยปากกาแห่งความรุ่งโรจน์ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด : สมาชิกสภายุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้า มีหน้าที่ดูแลกิจการต่าง ๆ ของประชาชน ความจริงแล้วพวกเขาคือผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากพระผู้เป็นเจ้าให้ดูแลคนรับใช้ของพระองค์ และคืออรุโณทัยแห่งอำนาจในประเทศทั้งหลายของพระองค์ ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา! เจ้าคืออุทัยสถานแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้าและอรุโณทัยแห่งความเมตตารักใคร่ของพระองค์ อย่าทำให้ลิ้นของเจ้าด่างพร้อยด้วยการสาปแช่งหรือถากถางผู้!ด และอย่ามองสิ่งที่ไม่ควรมอง จงแสดงสิ่งที่เจ้ามีอยู่ หากเป็นที่ยอมรับดี จุดมุ่งหมายของเจ้าก็สัมฤทธิ์ผล หากไม่การโต้เถียงเป็นสิ่งไร้ ประโยชน์ จงปล่อยวิญญาณดวงนั้นไว้กับตัวเขาเอง แล้วหันมาสู่ พระผู้เป็นนาย พระผู้ทรงคุ้มครอง พระผู้ทรงดำรงอยู่ด้วยตนเอง อย่าได้เป็นสาเหตุของความเศร้าโศก ความร้าวฉานหรือการทะเลาะวิวาท เป็นที่หวังว่าเจ้าจะได้รับการอบรมอย่างแท้จริงในที่กำบังของพฤกษาแห่งความเมตตารักใคร่ของพระองค์ และปฏิบัติตามที่พระผู้เป็นเจ้าปรารถนา พวกเจ้าทุกคนคือใบไม้บนต้นเดียวกัน และหยดน้ำในมหาสมุทรเดียวกัน

อิชรากข้อที่เก้า

จุดประสงค์ของศาสนาที่เปิดเผยจากนภาแห่งพระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า คือเพื่อจะสถาปนาความสามัคคีปรองดองในหมู่ประชาชนทั้งหลายของโลก อย่าทำให้ศาสนาเป็นเหตุของการพิพาทและทะเลาะวิวาท ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าและกฎของพระองค์ คือกลไกที่ทรงอำนาจที่สุดและวิถีทางอันแน่นอนที่สุด สำหรับการรุ่งอรุณของแสงแห่งความสามัคคีในหมู่มนุษย์ ควา ก้าวหน้าของโลก การพัฒนาของชาติทั้งหลาย ความสงบของประชาชน และสันติภาพสำหรับทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลก คือหลักธรรม และบัญญัติส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้า ศาสนาให้ของขวัญอันล้ำค่าที่สุดแก่มนุษย์ ให้ถ้วยแห่งความเจริญรุ่งเรือง ประสาทชีวิตนิรันดร และหลั่งประโยชน์อมรมาให้มนุษยชาติ เป็นหน้าที่ของผู้นำและผู้ปกครองทั้งหลายของโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกสภายุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้า ที่จะต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อป้องกันฐานะของศาสนา ส่งเสริมประโยชน์และยกฐานะของศาสนา ต่อสายตาของโลก ในทำนองเดียวกัน เป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะไต่ถามสภาพความเป็นอยู่ของข้าแผ่นดิน และทำความคุ้นเคยกับกิจการและกิจกรรมของชุมชนทั้งหลายในอาณาจักรของตน เราเรียกร้องบรรดาผู้เป็นตัวแทนของอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า นั่นคือ ประมุขและผู้ปกครองทั้งหลายของโลก ขอให้ตื่นตัวขึ้นและทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อว่าพวกเขาจะได้ขับไล่ความร้าวฉานไปจากพิภพนี้ และโลกจะเรืองรองด้วยแสงแห่งความปรองดอง…

TB 125-130

โลเฮเฮมาท

(ธรรมจารึกแห่งอัจฉริยภาพ)

  1. ดูกร ประชาชนทั้งหลายของโลก! จงละทิ้งความชั่วร้ายทั้งปวง และยึดมั่นสิ่งที่ดีงาม จงพยายามเป็นตัวอย่างอันเรืองรองสำหรับมนุษยชาติ และเป็นเครื่องเตือนใจในหมู่มนุษย์ให้คิดถึงคุณธรรมของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่ลุกขึ้นรับใช้ศาสนาของเราควรแสดงออกซึ่งอัจฉริยภาพของเราและมุ่งมั่นพยายามขับไล่ความโง่เขลาไปจากพิภพนี้ จงสามัคคีกันในการหารือและมีความคิดเป็นหนึ่งเดียวกัน ขอให้รุ่งเข้าแต่ละวันดีกว่าค่ำวันวาน และพรุ่งนี้อุดมกว่าเมื่อวานนี้ คุณค่าของมนุษย์อยู่ที่การรับใช้และคุณธรรม มิใช่ความหรูหราของความมั่งคั่งร่ำรวย จงมิสติเพื่อว่าถ้อยคำของเจ้า จะปลอดจากกิเลสและความเพ้อฝันอันไร้สาระ และการกระทำของเจ้าจะสะอาดปราศจากเล่ห์หรือเป็นที่สงสัย อย่าละลายความมั่งคั่งของชีวิตอันมีค่าของเจ้าไปกับการไขว่คว้าหรือหลงใหลในสิ่งชั่วร้าย และอย่าใช้ความพยายามไปกับการส่งเสริมประโยชน์ของตนเอง จงเอื้อเฟื้อในวันที่มั่งมีและอดทนในชั่วโมงแห่งการสูญเสีย ความตกทุกข์ได้ยากตามมาด้วยความสำเร็จและความหายนะตามมาด้วยความปีติ จงระวังความเกียจคร้านและเฉื่อยชา และยึดถือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มหรือแก่ คนสูงศักดิ์ หรือต่ำต้อย จงระวังอย่าหว่านวัชพืชแห่งการพิพาทในหมู่มนุษย์ หรือปลูกหนามแห่งความสงสัยในหัวใจที่บริสุทธิ์และผ่องใส

ดูกร ผู้เป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นนาย! อย่ากระทำสิ่งที่ทำให้ลำธารแห่งความรักสกปรก หรือทำลายสุคนธรสแห่งมิตรภาพ ความชอบธรรมของพระผู้เป็นนายเป็นพยาน! เจ้าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแสดงความรักต่อกันและกัน มิใช่แสดงความวิปริตหรือเจ็บแค้นอย่าภูมิใจในความรักตนเอง แต่จงภูมิใจในความรักต่อมวลมนุษยชาติ ขอให้ดวงตาของเจ้าบริสุทธิ์ มือของเจ้าซื่อสัตย์ วาจาของเจ้ามีสัจจะ และหัวใจของเจ้าเรืองรอง อย่าลดฐานะของผู้รู้ในบาฮา และอย่าดูแคลนตำแหน่งของบรรดาผู้ปกครองที่ใช้ความยุติธรรมในหมู่พวกเจ้า จงฝากความหวังไว้กับกองทัพแห่งความยุติธรรม และสวมเกราะแห่งปัญญา ขอให้การให้อภัยและความปรานี และสิ่งที่ประโลม หัวใจของผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าโปรดปราน เป็นเครื่องประดับของเจ้า

TB 138-139

?

อัสเลคุลลุลเคล

(วจนะแห่งอัจฉริยภาพ)

ในนามของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงภิญโญภาพ พระผู้ทรงความสูงส่ง)

  1. บ่อเกิดของความดีงามทั้งปวงคือการวางใจในพระผู้เป็นเจ้า ยอมจำนนต่อบัญชาของพระองค์ และพอใจในพระประสงค์และความยินดีของพระองค์

แก่นของอัจฉริยภาพคือความกลัวพระผู้เป็นเจ้า หวาดหวั่นโทษทัณฑ์และอาญาของพระองค์ พรั่นพรึ่งความยุติธรรมและประกาศิตของพระองค์

แก่นของศาสนาคือการยืนยันพระธรรมที่พระผู้เป็นนายเปิดเผย และปฏิบัติตามที่พระองค์บัญญัติไว้ในคัมภีร์ที่ทรงอำนาจ

บ่อเกิดของความรุ่งโรจน์ทั้งปวงคือการยอมรับสิ่งใดก็ตามที่ พระผู้เป็นนายประทานมา และพอใจกับสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าบัญญัติ

แก่นของความรักคือการที่มนุษย์มอบหัวใจให้กับพระผู้เป็นที่รักยิ่ง ตัดขาดจากทุกสิ่งนอกจากพระองค์ และไม่ปรารถนาสิ่งใด นอกจากความปรารถนาของพระผู้เป็นนายของเขา

การระลึกถึงที่แท้จริงคือการกล่าวถึงพระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นที่สรรเสริญ และลืมทุกสิ่งนอกจากพระองค์

การฝากความหวังที่แท้จริงคือการที่คนรับใช้ประกอบวิชาชีพ และอาชีพในโลกนี้ ยึดมั่นในพระผู้เป็นนาย ไม่แสวงหาสิ่งใดนอกจากพระกรุณาของพระองค์ เพราะชะตาของคนรับใช้ทุกคนอยู่ในมือของพระองค์

แก่นของความไม่ผูกพันคือการที่มนุษย์หันหน้าเข้าหาราชสำนักของพระผู้เป็นนาย เข้าเฝ้าพระองค์ เห็นพักตรากฤติของพระองค์ และเป็นพยานต่อหน้าพระองค์

แก่นของความเข้าใจคือการยืนยันความยากไร้ของตนเอง และยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นประมุข พระผู้ทรงกรุณา พระผู้ทรงอานุภาพ

บ่อเกิดของความกล้าหาญและพลังคือการส่งเสริมพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า และมั่นคงในความรักของพระองค์

แก่นของกุศลคือการที่คนรับใช้สาธยายพระพรของพระผู้เป็นนายของเขา ขอบคุณพระองค์ทุกเวลาและในทุกสภาพการณ์

แก่นของความศรัทธาคือพูดน้อยและทำมาก ผู้ที่พูดมากกว่า ทำจงรู้ไว้ว่าแท้จริงแล้วความตายของเขาดีกว่าชีวิต

แก่นของความปลอดภัยที่แท้จริงคือการสงบเงียบ มองดูจุดหมายของสิ่งต่าง ๆ และปล่อยวางจากโลก

จุดเริ่มต้นของความใจกว้างคือการที่มนุษย์ใช้จ่ายความมั่งคั่งของตนสำหรับตนเอง สำหรับครอบครัวของตน และสำหรับคนยากไร้ที่เป็นเพื่อนร่วมศาสนา

แก่นของความมั่งคั่งคือความรักที่มีต่อเรา ใครก็ตามที่รักเรา คือผู้ครอบครองทุกสิ่ง และผู้ที่ไม่รักเราคือผู้ยากไร้และขัดสนโดยแท้จริง นี้คือสิ่งที่ดัชนีแห่งความรุ่งโรจน์และวิภาเปิดเผยไว้

บ่อเกิดของความชั่วร้ายทั้งปวงคือการที่มนุษย์เมินพระผู้เป็นนายของเขา และฝักใฝ่ในสิ่งที่ไร้ศีลธรรม

ไฟที่ร้อนแรงที่สุดคือการตั้งข้อสงลัยในสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้า โต้แย้งพระธรรมที่พระองค์เปิดเผยอย่างไร้สาระ ปฏิเสธพระองค์ และเย่อหยิ่งต่อพระองค์

บ่อเกิดของวิชาทั้งปวงคือการรู้จักพระผู้เป็นเจ้า ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ และการรู้จักพระผู้เป็นเจ้าเป็นไปไม่ไต้นอกจากจะรู้จักพระผู้แสดงธรรมของพระองค์

แก่นของความตกต่ำคือการออกไปนอกร่มเงาของพระผู้ทรงปรานี และแสวงหาที่กำบังของมารร้าย

บ่อเกิดของความหลงผิดคือความไม่เชื่อในพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ฝากความหวังไว้กับคนอื่นนอกจากพระองค์ และหนีไปจากประกาศิตของพระองค์

ความสูญเสียที่แท้จริงคือการที่มนุษย์ใช้ชีวิตไปโดยไม่รู้จักตนเอง แก่นของทุกสิ่งที่เราเปิดเผยสำหรับเจ้าคือความยุติธรรม คือการที่มนุษย์หลุดพ้นจากความเพ้อฝันและการลอกเลียนอันไร้สาระ หยั่งเห็นงานฝีมืออันรุ่งโรจน์ของพระองค์ด้วยตาแห่งเอกภาพ และมองดูทุกสิ่งด้วยสายตาที่แสวงหา

ดังนี้เราขอสั่งสอนเจ้า แสดงวจนะแห่งอัจฉริยภาพต่อเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะรู้คุณพระผู้เป็นนายพระผู้เป็นเจ้าของเจ้า และปลื้มใจในสิ่งนี้ท่ามกลางประชาชนทั้งปวง

TB 155-157

โลเฮมัคสุด

(ธรรมจารึกถึงมัคสุด)

  1. มนุษย์ผู้มีปัญญาไม่สามารถสาธิตความรู้ของเขาไต้นอกจากอาศัยถ้อยคำ นี้แสดงถึงความสำคัญของพระวจนะดังที่ยืนยันอยู่ในคัมภีร์ทุกเล่ม ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์ในอดีตหรือเมื่อไม่นานมานี้ เพราะโดยอาศัยอานุภาพและพลังกระตุ้นชีวิตของพระวจนะ ประชาชนบนพิภพจึงได้บรรลุถึงตำแหน่งอันสูงส่ง นอกจากนี้ถ้อยคำและวาจาทั้งหลายควรจับใจและลึกซึ้ง อย่างไรก็ตามไม่มีถ้อยคำใดมีสองคุณสมบัตินี้ไต้นอกจากจะเปล่งออกมาเพื่อเห็นแก่พระผู้เป็นเจ้า และคำนึงถึงกาละเทศะและผู้ฟัง

พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่กล่าวว่า : วาจาของมนุษย์คือสาระที่ใฝ่ฝันจะโน้มน้าวใจและจำเป็นต้องรู้จักความพอประมาณ และสิทธิพลของวาจาขึ้นกับการขัดเกลาซึ่งขึ้นกับหัวใจที่บริสุทธิ์และไม่ผูกพัน ความพอประมาณในวาจานั้นต้องผสมผสานกับไหวพริบ และปัญญา ตามที่บัญญัติไว้ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และธรรมจารึก

ทุกถ้อยคำมีพลัง ดังนั้นผู้พูด หรือผู้อรรถาธิบายควรเปล่งถ้อยคำออกมาอย่างรอบคอบให้ถูกกาละเทศะ เพราะความรู้สึกที่แต่ละถ้อยคำก่อให้เกิดนั้นเป็นที่ประจักษ์และเห็นได้ พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่กล่าวว่า : ถ้อยคำหนึ่งอาจเป็นเสมือนไฟอีกถ้อยคำ

หนึ่งเสมือนแสงสว่าง และอิทธิพลที่เกิดจากถ้อยคำทั้งสองเป็นที่ประจักษ์แจ้งในโลก ดังนั้นมนุษย์ผู้เห็นแจ้งและมีปัญญาควรใช้ถ้อยคำที่อ่อนประดุจนมในเบื้องต้น เพื่อว่าบุตรหลานของมนุษย์จะได้รับการอบรมเลี้ยงดูและบรรลุถึงเป้าหมายสุดท้ายของความเป็นมนุษย์ นั่นคือ ความประเสริฐและความเข้าใจที่แท้จริง และทำนองเดียวกันพระองค์ทรงกล่าวว่า : ถ้อยคำหนึ่งเป็นเสมือนวสันตฤดูที่ทำให้ต้นอ่อนในสวนกุหลาบแห่งความรู้งอกงามเขียวขจี ขณะที่อีกถ้อยคำหนึ่งเป็นเสมือนพิษร้าย เป็นหน้าที่ของผู้สุขุม รอบคอบที่จะพูดด้วยความอ่อนโยนและความอดกลั้นที่สุด เพื่อว่าความหวานของถ้อยคำของเขาจะชักนำให้ทุกคนบรรลุถึงฐานะที่เหมาะกับมนุษย์…???????????????????????????????????????????????? TB 172-173

สุลิเยวาฟฮ

(ธรรมจารึกถึงวาฟอ)

  1. ผู้ที่สามารถช่วยเราและคุ้มครองเราให้พ้นจากดาบของพวกที่ไม่น่าไว้วางใจ อยู่ที่ไหนเล่า? ผู้มีธรรมทรรศนะที่มองเห็นพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าด้วยตาของเขาเอง และละทิ้งความคิดเห็นของประชาชนทั้งหลายของโลก อยู่ที่ไหนเล่า?

ดูกร คนรับใช้! จงเตือนบรรดาคนรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า มิให้ปฏิเสธสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจ จงวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าขอทรงเปิดอานนแห่งความเข้าใจที่แท้จริงให้แก่หัวใจของเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะได้ทราบสิ่งที่ไม่มีใครทราบ แท้จริงแล้วพระองค์คือผู้ให้ พระผู้ทรงอภัย พระผู้ทรงเห็นใจ…

TB 188

?

?

?

โลเฮเซยิดเมดีเยดาฮาจี

(ธรรมจารึกถึงเซยิดเมดิเยดาฮาจี)

  1. ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์ควรตรึกตรองทำสมาธิในใจเกี่ยวกับวิธีการสอนต่าง ๆ พวกเขาควรจดจำวลีและวรรคของพระธรรมที่เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ที่อยู่โนคัมภีร์สวรรค์ เพื่อว่าในระหว่างการพูด พวกเขาจะได้เอ่ยออกมาเมื่อโอกาสมาถึง เนื่องด้วยวจนะศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นน้ำทิพย์ที่ชะงัดที่สุด เป็นยันต์ที่ยิ่งใหญ่และทรงอำนาจที่สุด อิทธิพลของวจนะมีอำนาจมากอย่างที่ผู้ฟังจะลังเลไม่ได้ เราขอปฏิญาณด้วยชีวิต! การเปิดเผยพระธรรมครั้งนี้ได้รับการประสาท ด้วยอานุภาพที่ดึงดูดชาติและวงศ์ตระกูลทั้งหลายบนพิภพ หากใครหยุดใคร่ครวญดู เขาจะยอมรับว่าไม่มีที่ใดสำหรับให้ใครหนีไปหา…

TB 200

?

พระธรรมที่คัดมาจากธรรมจารึกอื่น

  1. ดูกร ผู้ปกครอง ผู้แก่วิชาและผู้ชาญฉลาดทั้งหลาย! วันแห่งพันธสัญญามาถึงแล้ว และพระผู้เป็นนายแห่งกองทัพสวรรค์มาปรากฏแล้ว จงยินดีปรีดาต่อความสุขเกษมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ ดังนั้นจงช่วยเหลือพระองค์ด้วยอานุภาพของปัญญาและวาจา ดังนี้ คือบัญชาจากพระผู้ทรงประกาศว่า “แท้จริงแล้วไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากเรา พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ”

ขอให้ความรุ่งโรจน์ของพระองค์สถิตอยู่กับเจ้า สถิตอยู่กับบรรดาผู้ที่อยู่กับเจ้า ผู้ที่ห่วงใยเจ้าและเงี่ยหูฟังวาจาที่เจ้าสดุดีการ เปิดเผยพระธรรมสวรรค์ครั้งยิ่งใหญ่นี้

TB 239-249

  1. มนุษย์เป็นเสมือนต้นไม้ หากเขาประดับด้วยผลไม้ เขาก็คู่ควรที่จะได้รับการสรรเสริญและชมเชย มิฉะนั้นแล้ว ต้นไม้ที่ไร้ผล เหมาะสำหรับกองไฟเท่านั้น ผลของต้นไม้มนุษย์นั้นวิจิตร น่าปรารถนาและถนอมไว้อย่างยิ่ง เช่น อุปนิสัยใจคอที่ซื่อตรง การกระทำที่ดีงามและวาจาที่ไพเราะ วสันตฤดูสำหรับต้นไม้เวียนมาปีละครั้ง แต่วสันตฤดูสำหรับมนุษย์มาปรากฏในยุคต่าง ๆ ของพระผู้เป็นเจ้า ความรุ่งโรจน์ของพระองค์จงเจริญ หากต้นไม้แห่งความเป็นมนุษย์ประดับด้วยผลไม้ที่กล่าวไว้ในวสันตฤดูนี้ ความโชติช่วงของแสงแห่งความยุติธรรมจะส่องทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลกอย่างแน่นอน และทุกคนจะอาศัยอยู่อย่างสงบและพอใจภายใต้ร่มเงาของพระผู้เป็นจุดหมายของมวลมนุษยชาติ น้ำสำหรับต้นไม้เหล่านี้ คืออมฤตแห่งพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งโดยพระผู้เป็นที่รักยิ่งของโลก ในเวลาหนึ่งต้นไม้ดังกล่าวใต้รับการปลูก และในเวลาต่อมาโดยอาศัยการหลั่งความปรานีจากสวรรค์ กิ่งของต้นไม้จะงอกงามสูงเทียมฟ้า แต่ต้นไม้ที่แห้งตายไม่คู่ควรจะได้รับการกล่าวถึง

ความสุขจงมีแต่ผู้ชื่อสัตย์ที่สวมภูษาแห่งความพยายามอันสูงส่ง และลุกขึ้นรับใช้ศาสนานี้ ดวงวิญญาณดังกล่าวบรรลุถึงเป้าหมายอันเป็นที่ปรารถนาโดยแท้จริง และเข้าใจจุดหมายที่ตนถูกสร้างขึ้นมา แต่อนิจจา ผู้ถือทิฐิเป็นเสมือนใบไม้แห้งตายที่ร่วงลงดิน ในไม่ข้าลมมรณะจะพัดพวกเขาไปยังที่ที่กำหนดไว้ พวกเขา มาถึงความโง่เขลา อ้อยอิ่งอยู่กับความโง่เขลา และกลับไปที่อาศัยอย่างโง่เขลา

โลกกำลังประกาศวจนะเหล่านี้อยู่ตลอด : จงระวังตัวข้านั้น ไม่จีรัง รูปโฉมและสีสันทั้งหมดของข้าก็ไม่จีรังเช่นกัน จงสังเกตการเปลี่ยนแปลงและความบังเอิญที่อยู่ในตัวข้า แล้วจงตื่นจากความหลับใหล กระนั้นก็ตามไม่มีดาที่จะเห็นหรือหูที่จะฟัง…

TB 257-258

คำอธิบายศัพท์

กังขา???? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? สงสัย

ขจร?????? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ฟังไป

จิรันดร? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? เวลาสืบเนื่องมานาน

ชลเนตร ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? น้ำตา

ชโลทร? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? แม่น้ำ, ทะเล

ชุติมา???? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ผู้มีความรุ่งเรือง

ธรรมจักษุ?????????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? ดวงตาที่รู้เห็นธรรม

ธรรมทรรศนะ??? ?????????????????????????? ?????????????????????????? ความเห็นชัดเจนในธรรม

ธรรมเทศก????????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? ผู้แสดงธรรม

ธรรมธาดา????????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? ผู้ทรงธรรม

ธรรมวิวรณ์???????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? การเปิดเผยพระธรรม

ธรรมาทิตย์???????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? ดวงอาทิตย์แห่งธรรม (พระศาสดา)

ธารา????? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? สายน้ำ

ธำรง????? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ทรงไว้, ดำรง

นรชน?? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? คน

นาวา???? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? เรือ

บรรพชน??????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ผู้เกิดมาก่อน

บริบาล? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ดูแลรักษา

ประทิน ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ทำให้สะอาดหมดจด

ปรียา???? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? เป็นที่รัก

พินิศ????? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? เพ่งดู

พิมาน???????????????????????????????????????????? ????????????? ????????????? ที่อยู่ของเทวดา

พิสุทธิ์?? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? บริสุทธิ์

ภิญโญภาพ???????????????????????????????????? ????????????? ????????????? ความยิ่งขึ้นไป

มธุรา???? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ความหวาน

มธุรสวาจา????????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? เสียงหวาน

มหิทธานุภาพ???? ?????????????????????????? ?????????????????????????? มีฤทธิ์มาก

มัธยันห์ ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? เที่ยงวัน

เมธา????? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ปัญญา ความรู้ ความฉลาด

ระโหย? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? อิดโรย

รังสฤษฏ์???????????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? แต่งตั้ง สร้าง

ราชศักดา??????????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? อำนาจของกษัตริย์

รุจิรา????? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? แสง ความงาม

วทัญญู? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ความเอื้อเฟื้อ

วรกาย?? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? กายอันประเสริฐ

วสันตฤดู??????????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? ฤดูใบไม้ผลิ

วาทะ???? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ถ้อยคำ

วาริท???? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? เมฆ

วิชชา???? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ความรู้แจ้ง

วิศิษฎ์??? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? เลิศ ยอดเยี่ยม

วิสุทธิ์??? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? บริสุทธิ์

เวหา????? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ฟ้า อากาศ

ศูนยภาพ???????????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? ความไม่มีอะไร ว่างเปล่า

สถาพร?????????????????????????????????????????? ????????????? ????????????? ยืนยง มั่นคง

สมุฏฐาน??????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ที่เกิดเหตุ

สรณะ?? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ที่พึ่ง

สรรพภาวะ???????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? ธรรมชาติทั้งปวง

สรรเพชุดา????????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? ความเป็นผู้รู้ทุกสิ่ง พระพุทธเจ้า

สาธุชน? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? คนดี

สุคนธรส??????????? ?????????????????????????? ????????????? ????????????? กลิ่นหอม

องคุลี??? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? นิ้วมือ

อนันต์?? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ไม่มีสิ้นสุด

อนันตกาล????????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? กาลเวลาที่ไม่มีสิ้นสุด

อเนกอนันต์??????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? มากมาย

อภิรดี??? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ยินดียิ่ง

อมฤต??? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? น้ำทิพย์

อวิชชา?? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ความไม่รู้ ความเขลา

อันธการ????????????? ?????????????????????????? ????????????? ????????????? ความมืด

อำไพ???? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? สว่าง สุกใส งาม

อิทธิ????? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ฤทธิ์ อำนาจ

อิสริยะ? ???????????????????????????????????????? ?????????????????????????? ความเป็นเจ้า

อุทัยสถาน????????? ?????????????????????????? ?????????????????????????? สถานที่พระอาทิตย์ขึ้น

[1] พระเยซู

1 พระเยซู