?แท้จริงแล้ว เรากล่าวว่า ยุคนี้คือยุคที่มนุษยชาติสามารถเห็นพระพักตร์และได้ยินสุรเสียงของพระผู้เสด็จมาตามพันธสัญญา การร้องเรียกของพระผู้เป็นเจ้าเปล่งขึ้นแล้วและแสงแห่งโฉมพระพักตร์ของพระองค์ได้ทอดรัศมีมายังมนุษย์แล้ว เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนที่จะลบร่องรอยของวาจาเหลวไหลทั้งหมดออกไปจากแผ่นจารึกของหัวใจ และพินิศดูสัญญาณต่างๆ ของการเปิดเผยธรรม ข้อพิสูจน์ทั้งหลายของภารกิจ และสัญลักษณ์ต่างๆ ของความรุ่งโรจน์ของพระองค์ด้วยจิตใจที่เปิดกว้างและปราศจากซึ่งอคติ?

?ยุคนี้เป็นยุคที่ความโปรดปรานอันวิศิษฏ์สุดของพระผู้เป็นเจ้าได้หลั่งไหลมาสู่มวลมนุษย์ เป็นยุคที่พระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์ได้ซึมซาบไปทั่วทุกสรรพสิ่ง เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนบนโลกที่จะปรองดองข้อขัดแย้งทั้งหลายและอาศัยอยู่ด้วยความสามัคคีและสันติภาพอันสมบูรณ์ภายใต้ร่มพฤกษาแห่งการดูแลเอาใจใส่และความเมตตารักใคร่ของพระองค์ ในยุคนี้เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะยึดถือสิ่งที่นำไปสู่ความเจริญและส่งเสริมประโยชน์ของตนได้ดีที่สุด?

?ยุคนี้เป็นยุคที่มหาสมุทรแห่งความปรานีของพระผู้เป็นเจ้าได้ปรากฏแก่มนุษย์ ดวงตะวันแห่งความเมตตารักใคร่ของพระองค์สาดรัศมีมายังพวกเขา เมฆแห่งพระกรุณาล้นพ้นของพระองค์ได้ทอดเงามาปกคลุมมนุษยชาติทั้งปวง บัดนี้เป็นเวลาสำหรับให้ความสดชื่นเบิกบานแก่ผู้ที่ตรอมใจ โดยอาศัยสายลมแห่งความรักและมิตรภาพ ธาราแห่งไมตรีและเมตตาจิต?

?โดยแท้แล้ว ยุคนี้ยิ่งใหญ่นัก!? คำกล่าวพาดพิงถึงยุคนี้ว่าเป็นยุคของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งกล่าวไว้ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ทุกเล่มยืนยันถึงความยิ่งใหญ่ของยุคนี้ ดวงวิญญาณของพระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าและธรรมทูตทุกพระองค์เฝ้าปรารถนาถึงยุคที่น่าพิศวงนี้ ? บรรดาเทือกเถาเหล่ากออันหลากหลายทั้งหมดของโลกก็ปรารถนาที่จะบรรลุถึงยุคนี้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ครั้นเมื่อดวงตะวันแห่งการเปิดเผยธรรมของพระผู้เป็นเจ้าได้ปรากฏขึ้นบนสวรรค์แห่งพระประสงค์ของพระองค์ ทุกคนเว้นแต่บรรดาผู้ที่พระผู้ทรงมหิทธานุภาพทรงโปรดให้การนำทางกลับตกอยู่ในความตะลึงงันและไม่เอาใจใส่?

?สมดุลของโลกถูกรบกวนโดยอานุภาพสั่นสะเทือนของระบบแห่งโลกใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ แบบแผนชีวิตของมนุษยชาติถูกปฏิวัติโดยปฏิบัติการของระบบที่พิเศษและอัศจรรย์นี้อย่างที่ไม่เคยปรากฏต่อสายตาของมนุษย์มาก่อน

“จงดำดิ่งลงสู่มหาสมุทรแห่งวจนะของเรา เพื่อเจ้าจะได้คลี่คลายความลับที่อยู่ในพระวจนะ? และค้นพบไข่มุกแห่งอัจฉริยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ในความล้ำลึกนั้น จงมีสติ เพื่อว่าเจ้าจะได้ยอมรับสัจธรรมของศาสนานี้อย่างไม่ลังเล? ซึ่งเป็นศาสนาที่เปิดเผยศักยภาพของอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า และสถาปนาอธิปไตยของพระองค์”

?ดูกร ผู้ที่เป็นที่รักของพระผู้เป็นนาย ยุคนี้เป็นยุคแห่งการรวมตัวกัน เป็นยุคแห่งการเข้ามาอยู่ร่วมกันของมนุษยชาติทั้งมวล ?แท้จริงแล้ว พระผู้เป็นเจ้าทรงรักบรรดาผู้ที่ดาหน้ากันเข้าต่อสู้เพื่อศาสนาของพระองค์ราวกับว่าพวกเขาเป็นกำแพงอันแข็งแกร่ง!? จงสังเกตว่า พระองค์ตรัสว่า ?ดาหน้ากัน? ซึ่งหมายความว่าเกาะกลุ่มและประชิดกันอยู่ คนหนึ่งยึดเกาะแน่นกับคนถัดไป แต่ละคนให้การสนับสนุนแก่เพื่อนๆ ของเขา การทำสงครามในยุคอันยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคของศาสนาทั้งหมดนี้ดังที่กล่าวไว้ในพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ มิได้หมายความว่า เป็นการออกไปต่อสู้ด้วยหอกและดาบ ด้วยทวนและศรอันแหลมคม แต่เป็นการพกอาวุธที่กอปรด้วยความตั้งใจอันบริสุทธิ์ ด้วยเจตจำนงที่เที่ยงธรรม ด้วยการหารือที่ให้ประโยชน์และให้ผล ด้วยคุณลักษณะอันดีงาม ด้วยการกระทำอันเป็นที่โปรดปรานของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ ด้วยคุณธรรมแห่งสวรรค์ การทำสงครามนี้เป็นเครื่องหมายของการให้การศึกษาแก่มนุษยชาติทั้งมวล การนำทางแก่คนทั้งปวง การแพร่กระจายไปกว้างไกลของสุคนธรสของจิตวิญญาณ การประกาศข้อพิสูจน์ของพระผู้เป็นเจ้า การอรรถาธิบายเหตุผลอันน่าเชื่อถือและสูงส่ง การกระทำกิจกรรมอันเป็นกุศล??

?จงวิงวอนต่อพระผู้ทรงจัดหาผู้ทรงความยิ่งใหญ่ เพื่อว่าพระองค์จะทรงกรุณาให้เจ้าได้บรรลุสู่ตำแหน่งของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงในเมืองหลวงนั้น และได้เข้าสู่คฤหาสน์ของพระผู้เป็นที่รัก มีความลับซ่อนเร้นอยู่ในนครนั้น เมื่อถูกเปิดเผยออกความลับนี้จะเปลี่ยนโลกให้เป็นสวรรค์ ความหวังของเราคือ การที่เจ้าจะมีส่วนได้รับพระกรุณาธิคุณและตระหนักในความสง่างามของความลับนี้?

??..พวกเขาทนทุกข์ทรมานกับความยากลำบากอันร้ายกาจที่สุดและการถูกทดสอบอย่างรุนแรง พวกเขาทนต่อการทดสอบเหล่านั้นด้วยพลังอันน่าอัศจรรย์ใจและด้วยความกล้าหาญอย่างสูงสุด หลายพันคนถูกจับขังคุก ถูกทำโทษ ถูกกลั่นแกล้งและถูกประหารชีวิต บ้านของพวกเขาถูกบุกเข้าปล้นและถูกทำลาย ทรัพย์สมบัติของพวกเขาถูกยึด พวกเขาสละชีวิตของตนอย่างเต็มใจที่สุดและตั้งมั่นอย่างไม่คลอนแคลนอยู่ในความศรัทธาจนถึงวินาทีสุดท้าย จิตวิญญาณที่ดีเลิศเหล่านั้นคือตะเกียงของพระผู้เป็นเจ้า เป็นดวงดาวแห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่ฉายแสงอย่างเรืองรองจากขอบฟ้านิรันดร์แห่งพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า?

?เราคือ เราคือ เราคือพระผู้เสด็จมาตามพันธสัญญา เราคือพระศาสดาผู้ที่เจ้าวิงวอนต่อพระนามของเรามาเป็นเวลาหนึ่งพันปี พระผู้ซึ่งเจ้าได้ลุกขึ้นยืนเมื่อกล่าวถึง พระผู้ซึ่งเจ้าเฝ้าปรารถนาจะเป็นพยานถึงการเสด็จมาของพระองค์ และชั่วโมงแห่งการเปิดเผยธรรมของพระองค์เป็นสิ่งที่เจ้าอธิษฐานขอพระผู้เป็นเจ้าให้มาถึงโดยเร็ว แท้จริงแล้ว เรากล่าวว่า เป็นหน้าที่ของประชาชนทั้งในทิศตะวันออกและตะวันตกที่จะต้องเชื่อฟังวจนะของเราและปฏิญาณถึงความจงรักภักดีต่อเรา?

“สำหรับพระบ๊อบ ขอวิญญาณของข้าพเจ้าสละเพื่อพระองค์ ขณะเมื่ออยู่ในวัยหนุ่ม กล่าวคือ เมื่อพระองค์อายุยี่สิบห้าพรรษาในช่วงพระชนม์ชีพอันอุดมพรของพระองค์? พระองค์ได้ทรงยืนหยัดขึ้นประกาศศาสนาของพระองค์?โดยลำพังด้วยวิธีการอันสุดที่จะจินตนาการได้ พระองค์ทรงยืนยันศาสนาท่ามกลางชาวเปอร์เซียนซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีถึงความคลั่งไคล้ในศาสนา? พระผู้เรืองนามผู้นี้ได้ทรงลุกขึ้นด้วยอานุภาพอันมากในระดับที่พระองค์ได้ทรงสั่นคลอนหลักที่ค้ำจุนศาสนา ศีลธรรม สภาพความเป็นอยู่ อุปนิสัยและธรรมเนียมต่างๆ ของเปอร์เซีย และทรงสถาปนากฎระเบียบใหม่? บทบัญญัติใหม่ต่างๆ และศาสนาใหม่ขึ้น แม้ว่าบุคคลสำคัญทั้งหลายของรัฐ นักบวชเกือบทั้งหมดและสาธารณชนต่างลุกฮือขึ้นเพื่อทำลายและกำจัดพระองค์ พระองค์ก็ทรงต้านทานพวกเขาโดยลำพังและทรงทำให้เปอร์เซียทั้งประเทศปั่นป่วน”

“นักบวชชั้นสูงและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลหลายคน รวมทั้งประชาชนอื่นอีกจำนวนมากต่างพากันสละชีวิตของตนด้วยความปีติเพื่อศาสนาของพระองค์และรีบรุดไปสู่การสละชีพ”

“รัฐบาล ประชาชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิทางศาสนศาสตร์และบุคคลสำคัญทั้งหลายต่างปรารถนาที่จะดับแสงของพระองค์? แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้ ในที่สุดดวงจันทร์ของพระองค์ได้ปรากฏขึ้น ดวงดาวของพระองค์ฉายแสงส่อง รากฐานของพระองค์ได้รับการสถาปนาอย่างมั่นคง และอรุโณทัยสถานของพระองค์เรืองรองสุกใส พระองค์ทรงถ่ายทอดการศึกษาแห่งพระผู้เป็นเจ้าแก่ฝูงชนที่อยู่ในความมืดมน และทรงก่อให้เกิดผลอันน่าพิศวงต่อความคิด ศีลธรรม ธรรมเนียม และสภาพความเป็นอยู่ของชาวเปอร์เซียน พระองค์ทรงประกาศต่อสาวกทั้งหลายถึงข่าวอันน่ายินดีของการแสดงปรากฏของดวงอาทิตย์แห่งบาฮาและเตรียมพวกเขาให้เชื่อในข่าวนี้”

?การปรากฏขึ้นของสัญลักษณ์อันน่าพิศวงและผลอันใหญ่หลวงดังกล่าว ผลกระทบที่มีต่อจิตใจของประชาชนและแนวคิดที่แพร่หลายอยู่ในขณะนั้น การสถาปนารากฐานของความก้าวหน้า และการจัดตั้งหลักธรรมแห่งความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองโดยวาณิชหนุ่มผู้หนึ่ง เหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์อันยิ่งใหญ่ที่สุดว่าพระองค์คือผู้ให้การศึกษาที่สมบูรณ์ ผู้ที่มีความเที่ยงธรรมย่อมไม่ลังเลที่จะเชื่อในสิ่งนี้?

?ดูกร ประชาชนรุ่นดื้อรั้น หากเจ้าได้เชื่อในเรา พวกเจ้าทุกคนคงจะทำตามอย่างเยาวชนผู้นี้ ผู้ซึ่งอยู่ในตำแหน่งเหนือกว่าส่วนใหญ่ของพวกเจ้า และย่อมจะสละชีพของตนอย่างเต็มใจในหนทางของเรา วันนั้นจะมาถึงคือวันที่เจ้าจะยอมรับเรา และในวันนั้นเราจะไม่ได้อยู่กับเจ้า?

?นี่คือรากฐานแห่งความเชื่อของประชาชนแห่งบาฮา (ขอชีวิตของข้าพเจ้าจงเป็นพลีแก่เขาเหล่านั้น) : ?พระผู้ทรงความศักดิ์สิทธิ์ พระผู้ทรงสูงส่ง (พระบ๊อบ) ทรงเป็นพระศาสดาแห่งความสามัคคีและความเป็นหนึ่งเดียวกันของพระผู้เป็นเจ้า และทรงเป็นพระผู้เตรียมทางสำหรับพระผู้ทรงความงามแต่โบราณกาล พระผู้ทรงความงามแห่งอาณาจักรอับฮาผู้ทรงความศักดิ์สิทธิ์ (ขอชีวิตของข้าพเจ้าจงเป็นพลีแก่บรรดาผองมิตรผู้จงรักภักดีอย่างไม่เสื่อมคลายของพระองค์) คือ พระศาสดาองค์สูงสุดของพระผู้เป็นเจ้า และคือรุ่งอรุณแห่งแก่นสาระอันทรงธรรมสูงสุดของพระผู้เป็นเจ้า ผู้อื่นทั้งหมดเป็นเพียงคนรับใช้ของพระองค์และกระทำตามพระบัญชาของพระองค์?

?พระบ๊อบ ดังที่ทรงได้รับการสรรเสริญโดยพระบาฮาอุลลาห์ว่าเป็น ?แก่นแท้ของแก่นสาระทั้งหลาย? ?ทะเลแห่งทะเลทั้งหลาย? ?จุดศูนย์กลางของการโคจรของการดำรงอยู่อย่างแท้จริงของพระศาสดาและศาสนทูตทั้งหลาย? ?พระผู้ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดให้เป็นผู้สืบเนื่องความรู้ทั้งที่ผ่านมาและที่จะเกิดขึ้น? พระผู้ซึ่งมี ?ตำแหน่งสูงกว่าพระศาสดาทั้งปวง? พระผู้ซึ่ง ?การเปิดเผยธรรมของพระองค์อยู่เหนือกว่าสติปัญญาและความเข้าใจของบรรดาผู้ที่ถูกเลือกสรรแล้วทั้งหมด? ได้ทรงส่งข่าวสารของพระองค์และได้ทรงปฏิบัติภารกิจของพระองค์ พระองค์ผู้ซึ่งตามคำกล่าวของพระอับดุลบาฮาทรงเป็น ?รุ่งอรุณแห่งสัจจะ? และเป็น ?พระผู้ประกาศการมาถึงของแสงสว่างอันยิ่งใหญ่ที่สุด? พระผู้ซึ่งการเสด็จมาของพระองค์ได้ให้สัญญาณถึงการสิ้นสุดลงของ ?วัฏจักรแห่งศาสนทำนาย? และการเริ่มขึ้นของ ?วัฏจักรแห่งการสมปรารถนา? ได้ทรงขับไล่เงามืดแห่งราตรีกาลที่ปกคลุมประเทศของพระองค์โดยการเปิดเผยธรรมของพระองค์ และได้ทรงประกาศถึงการใกล้ปรากฏขึ้นของแก้วมณีซึ่งจะสาดรัศมีครอบคลุมมนุษยชาติทั้งหมด?

?เหตุที่การเปิดเผยพระธรรมอันยิ่งใหญ่และน่าอัศจรรย์ครั้งนี้ และการเปิดเผยธรรมของเราเองในครั้งก่อนมีระยะเวลาห่างกันน้อยมากนั้น เป็นความลับที่ไม่มีผู้ใดสามารถคลี่คลายได้ และเป็นความลึกลับที่ไม่มีปัญญาใดหยั่งถึงได้??

?คุณสมบัติของพระองค์ในด้านความสูงส่งและความงดงามนั้นหาได้ยากยิ่ง บุคลิกภาพอันแสนอ่อนโยนแต่ทรงเปี่ยมไปด้วยพลังของพระองค์ และเสน่ห์โดยธรรมชาติของพระองค์ซึ่งรวมเข้ากับไหวพริบและวิจารณญาณอันมากมายยิ่งนัก เหล่านี้ทำให้พระองค์ได้กลายเป็นบุคคลผู้ได้รับความนิยมไปทั่วเปอร์เซียอย่างรวดเร็วหลังจากการประกาศศาสนาของพระองค์ พระองค์ชนะใจคนเกือบทุกคนที่พระองค์ได้พบด้วยพระองค์เอง บ่อยครั้งที่พระองค์ได้ทรงกลับใจผู้คุมขังของพระองค์ให้หันมานับถือศาสนาของพระองค์ และเปลี่ยนผู้ที่ประสงค์ร้ายให้เป็นมิตรผู้ชมชอบ?

?การปรากฏขึ้นของพระบ๊อบเปรียบเสมือนยามรุ่งสาง เพราะยามนั้นให้สัญญาเกี่ยวกับดวงอาทิตย์ การรุ่งขึ้นของพระบ๊อบสัญญาถึงการรุ่งขึ้นของดวงอาทิตย์แห่งสัจธรรมซึ่งจะครอบคลุมโลกทั้งหมด?

?มีผู้กำจัดความยุ่งยากอื่นใดอีกหรือนอกจากพระผู้เป็นเจ้า ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระผู้เป็นเจ้า พระองค์คือพระผู้เป็นเจ้า ทุกคนเป็นคนรับใช้ของพระองค์ และทุกคนปฏิบัติตามบัญชาของพระองค์?

?พระผู้เป็นเจ้าเพียงพอสำหรับทุกสิ่ง อยู่เหนือทุกสิ่ง ไม่มีสิ่งใดในสวรรค์หรือโลก? ? ? นอกจากพระผู้เป็นเจ้าที่เพียงพอ แท้จริงแล้ว พระองค์คือพระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงค้ำจุน พระผู้ทรงอำนาจสูงสุด?

?ดูกร มิตรสหายที่รักยิ่งของเรา พวกเจ้าคือผู้แสดงพระนามของพระผู้เป็นเจ้าในยุคนี้? ? พวกเจ้าได้ถูกเลือกให้เป็นคลังสำหรับเก็บความลึกลับของพระองค์ เป็นหน้าที่ของพวกเจ้า แต่ละคนที่จะแสดงคุณลักษณะทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้า และแสดงตนเป็นตัวอย่างด้วยการกระทำและคำพูดของพวกเจ้าถึงสัญลักษณ์ของธรรม อำนาจและความรุ่งโรจน์ของพระองค์ อวัยวะทั้งหลายของร่างกายเจ้าต้องเป็นพยานต่อความสูงส่งของจุดประสงค์ของเจ้า ต่อบูรณภาพของชีวิตของเจ้า ต่อการดำรงอยู่อันแท้จริงของความศรัทธาของเจ้า และต่อลักษณะอันประเสริฐของความอุทิศของเจ้า เพราะโดยแท้จริงแล้ว เรากล่าวว่า นี่คือยุคที่ตรัสถึงโดยพระผู้เป็นเจ้าในพระคัมภีร์ของพระองค์ว่า ?ในวันนั้นเราจะปิดผนึกที่ปากของพวกเขา กระนั้นมือของพวกเขาจะพูดกับเราและเท้าของพวกเขาจะเป็นพยานต่อสิ่งที่พวกเขาได้กระทำ? จงไตร่ตรองพระวจนะของพระเยซูที่ตรัสกับสาวกของพระองค์ในตอนที่พระองค์ทรงส่งพวกเขาไปเผยแพร่ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ? พระองค์ได้ทรงสั่งให้พวกเขาลุกขึ้นและบรรลุภาระหน้าที่ของพวกเขาว่าดังนี้ ?เจ้าเป็นดั่งไฟที่ถูกจุดขึ้นในความมืดแห่งเวลากลางคืนบนยอดสุดของภูเขา ขอให้แสงสว่างของเจ้าฉายส่องต่อจักษุของมนุษย์ทั้งหลาย ความบริสุทธิ์ของลักษณะนิสัยและระดับการสละตนของพวกเจ้าจะต้องสูงถึงขั้นที่โดยอาศัยพวกเจ้าคนในโลกจะยอมรับพระบิดาแห่งสวรรค์ผู้ทรงเป็นที่มาแห่งความบริสุทธิ์และความกรุณาและจะถูกดึงให้เข้าใกล้พระองค์ ทั้งนี้เพราะไม่มีผู้ใดได้เห็นพระบิดาผู้ทรงอยู่ในสวรรค์ พวกเจ้าผู้ซึ่งเป็นบุตรทางจิตวิญญาณของพระองค์ต้องแสดงเป็นตัวอย่างถึงคุณความดีของพระองค์ และเป็นพยานต่อความรุ่งโรจน์ของพระองค์ พวกเจ้าเป็นเกลือของแผ่นดิน หากเกลือนั้นสูญเสียรสของมันแล้วโลกจะเค็มได้ด้วยอะไร ระดับการละกิเลสของเจ้าต้องเป็นเช่นนั้น เพื่อว่าในเมืองใดก็ตามที่เจ้าเข้าไปประกาศและสอนศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า เจ้าจะไม่หวังเนื้อหรือรางวัลจากชาวเมืองนั้น ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อเจ้าออกจากเมืองนั้นเจ้าควรสลัดฝุ่นออกจากเท้าของเจ้า เนื่องด้วยเจ้าได้เข้าไปอย่างบริสุทธิ์และไร้มลทิน ดังนั้นเจ้าต้องออกจากเมืองนั้นในลักษณะเดียวกัน เพราะโดยแท้จริงแล้ว เรากล่าวว่า พระบิดาแห่งสวรรค์จะอยู่กับพวกเจ้าเสมอและจะคอยเฝ้าดูเจ้า ถ้าเจ้าซื่อสัตย์ต่อพระองค์ พระองค์ก็จะทรงมอบทรัพย์สมบัติของโลกให้แก่เจ้าอย่างแน่นอน และจะทรงยกย่องเจ้าเหนือผู้ปกครองและกษัตริย์ทั้งหมดของโลก? ดูกร พยัญชนะทั้งหลายของเรา แท้จริงแล้ว เรากล่าวว่า ยุคนี้สูงส่งกว่ายุคของพระศาสดาทั้งหลายในอดีตอย่างมากมาย ไม่เพียงเท่านั้น ความแตกต่างนี้มิอาจวัดได้ พวกเจ้าคือพยานของรุ่งอรุณของยุคตามพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า พวกเจ้าคือผู้ที่มีส่วนร่วมในถ้วยแห่งความลึกล้ำของการเปิดเผยศาสนาของพระองค์ จงเตรียมความพยายามไว้และจงเอาใจใส่ต่อวจนะทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงเปิดเผยไว้ในพระคัมภีร์ของพระองค์ว่า ?จงดูสิ พระผู้เป็นนาย ผู้ทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้าของเจ้าได้เสด็จมาแล้ว และกองทัพเทพธิดาได้เรียงแถวอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์? จงชำระล้างหัวใจของเจ้าจากความปรารถนาทางโลก และจงให้คุณธรรมแห่งเทพธิดาเป็นเครื่องประดับของเจ้า จงเพียรพยายามเพื่อว่าด้วยการกระทำของเจ้า เจ้าจะเป็นพยานต่อสัจจะของพระวจนะเหล่านี้ของพระผู้เป็นเจ้า และจงระวัง มิฉะนั้นด้วยการ ?หันหลังกลับ? พระองค์อาจจะ ?ทรงเลือกผู้อื่นแทนเจ้า? ผู้ซึ่ง ?จะไม่เป็นเหมือนเจ้า? และจะพรากอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าไปเสียจากเจ้า วันทั้งหลายที่การสักการะอันไร้ประโยชน์ได้รับการพิจารณาว่าเป็นสิ่งเพียงพอได้สิ้นสุดลงแล้ว เวลามาถึงแล้ว คือเวลาที่ไม่มีสิ่งใดนอกจากเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ที่สุด ซึ่งได้รับการหนุนด้วยการกระทำอันบริสุทธิ์ปราศจากความด่างพร้อยเท่านั้น ที่จะสามารถขึ้นไปสู่บัลลังก์ของพระผู้ทรงความสูงส่งที่สุด และเป็นที่ยอมรับของพระองค์ ?ปิยวาจาเหินขึ้นไปสู่พระองค์ และการกระทำอันชอบธรรมจะทำให้วาจานั้นสูงส่งต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์? พวกเจ้าเป็นผู้ต่ำต้อยซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกล่าวถึงไว้ในพระคัมภีร์ของพระองค์ว่า ?และเราปรารถนาที่จะแสดงความโปรดปรานต่อผู้ที่ต่ำต้อยในแผ่นดิน และทำให้พวกเขาเป็นผู้นำทางธรรมในหมู่มนุษย์? และทำให้พวกเขาเป็นทายาทของเรา? เจ้าได้ถูกร้องเรียกให้มาสู่สถานะนี้ เจ้าจะบรรลุถึงสถานะนี้ก็ต่อเมื่อเจ้าลุกขึ้นเหยียบย่ำความปรารถนาทางโลกทุกอย่างไว้ใต้ฝ่าเท้าของเจ้า และพยายามที่จะเป็น ?คนรับใช้ผู้มีเกียรติของพระองค์ผู้ที่จะไม่กล่าวสิ่งใดจนกว่าพระองค์จะตรัสก่อน และเป็นผู้ที่ทำตามบัญชาของพระองค์? พวกเจ้าคือพยัญชนะแรกที่ได้ก่อกำเนิดมาจากพระผู้ทรงเป็นจุดปฐม ผู้ทรงเป็นน้ำพุแรกที่พุ่งออกมาจากแหล่งที่มาของการเปิดเผยธรรมนี้ จงวิงวอนพระผู้เป็นนาย ผู้ทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้าของเจ้าให้ทรงอนุญาตว่า จะไม่มีสิ่งกีดขวางทางโลก ความใฝ่ฝันทางโลกหรือการแสวงหาทางโลกใดๆ มายังความมัวหมองให้แก่ความบริสุทธิ์หรือยังความขมให้แก่ความหอมหวานของพระกรุณาธิคุณที่หลั่งไหลลงมาทางเจ้า เรากำลังตระเตรียมพวกเจ้าสำหรับการมาถึงของยุคอันยิ่งใหญ่ จงเพียรพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อว่าในโลกหน้า เราผู้ซึ่งกำลังสั่งสอนเจ้าอยู่ในขณะนี้จะได้ปีติยินดีต่อการกระทำของเจ้าและภูมิใจในความสำเร็จของเจ้าต่อหน้าที่ประทับแห่งความปรานีของพระผู้เป็นเจ้า ความลับของยุคที่จะมาถึงนั้นยังคงถูกปกปิดอยู่ในขณะนี้ ความลับนี้ยังไม่สามารถถูกเปิดเผยหรือคาดคะเนได้ ทารกเกิดใหม่ในยุคนั้นจะล้ำเลิศกว่าผู้ที่ฉลาดที่สุดและผู้ที่น่านับถือที่สุดในยุคนี้ ผู้ที่ต่ำต้อยที่สุดและด้อยความรู้ที่สุดในยุคนั้นจะมีความเข้าใจเหนือกว่านักบวชที่คงแก่เรียนที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคนี้ จงแยกย้ายกันออกไปให้ทั่วดินแดนนี้ และด้วยเท้าอันมั่นคงและหัวใจอันบริสุทธิ์ จงเตรียมหนทางไว้สำหรับการเสด็จมาของพระองค์ จงอย่าเอาใจใส่ต่อความอ่อนแอและความเปราะบางของเจ้า จงเพ่งสายตาของเจ้าไปยังอำนาจอันไม่มีผู้ใดอาจเอาชนะได้ของพระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ ในอดีต มิใช่พระผู้เป็นเจ้าดอกหรือที่ทำให้พระอับราฮัมผู้ที่ดูเหมือนหมดหนทางกลับมีชัยชนะเหนือกองทัพของนิมรอด มิใช่พระผู้เป็นเจ้าดอกหรือที่ทำให้พระโมเสสผู้ซึ่งมีเพียงไม้เท้าเป็นเพื่อนคู่ใจมีชัยเหนือฟาโรห์และเหล่าบริวาร มิใช่พระผู้เป็นเจ้าดอกหรือที่ทรงสถาปนาสถานะอันทรงอำนาจของพระเยซูเหนือกลุ่มชาวยิวที่ผนึกกำลังกัน แม้ว่าพระเยซูจะทรงเป็นผู้ยากจนและต่ำต้อยในสายตาของมนุษย์ มิใช่พระผู้เป็นเจ้าดอกหรือที่ทรงทำให้ชนเผ่าอาหรับที่ป่าเถื่อนและกระหายสงครามยอมศิโรราบต่อพระธรรมอันทรงความศักสิทธิ์และทรงอำนาจในการเปลี่ยนแปลงของพระโมฮัมหมัด ผู้ทรงเป็นพระศาสดาของพระองค์ จงลุกขึ้นในนามของพระองค์ จงมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้แก่พระองค์ และจงมั่นใจในชัยชนะในท้ายสุด??

?พระผู้ทรงความสมบูรณ์อันอุดมพร พระบาฮาอุลลาห์ ทรงประสูติในตระกูลอันสูงศักดิ์ของเปอร์เซีย ตั้งแต่วัยเด็กพระองค์ทรงความโดดเด่นในท่ามกลางบรรดาญาติมิตรของพระองค์ พวกเขากล่าวกันว่า ?เด็กคนนี้มีอำนาจพิเศษ? ในด้านความเฉลียวฉลาด สติปัญญาและเป็นดั่งแหล่งที่มาของความรู้ใหม่ พระองค์ทรงก้าวหน้าเกินอายุและทรงอยู่เหนือกว่าสภาพแวดล้อมของพระองค์ ทุกคนที่รู้จักพระองค์ต่างประหลาดใจในความฉลาดเกินอายุของพระองค์ เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะกล่าวกันว่า ?เด็กเช่นนี้น่าจะอายุไม่ยืน? ทั้งนี้เพราะเป็นสิ่งที่เชื่อกันว่า เด็กที่โตเกินอายุมักจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงวัยผู้ใหญ่??

?นับจากวันนั้นเป็นต้นมา เครื่องประดับแห่งยศถาบรรดาศักดิ์ทั้งหมดของโลกในสายตาของเยาวชนผู้นี้ดูเหมือนจะคล้ายคลึงกับการแสดงนั้น สิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีและจะไม่มีวันมีน้ำหนักใดๆ แม้จะเทียบน้ำหนักนั้นเท่ากับเมล็ดผักกาดเขียวเมล็ดหนึ่งก็ตาม ? ในไม่ช้าเครื่องประดับแห่งยศถาบรรดาศักดิ์ที่เห็นภายนอกเหล่านี้ ทรัพย์สมบัติที่พอกพูนขึ้นเหล่านี้? ความฟุ้งเฟ้ออันไร้ค่าทางโลกเหล่านี้ กองทัพที่รวมพลอยู่เหล่านี้ เครื่องตกแต่งอันหรูหรานี้ บรรดาคนที่มีความภาคภูมิใจและทะนงตนเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ต้องผ่านเข้าไปสู่ขอบจำกัดของหลุมฝังศพเหมือนกับที่เข้าไปอยู่ในกล่องใบนั้น ในสายตาของผู้ที่มีความหยั่งรู้แล้ว ความขัดแย้ง ความร้าวฉานและความโอ้อวดตนทั้งหมดนี้ จะเคยเป็นและจะคงเป็นอยู่ต่อไปเสมือนดังการเล่นสนุกของเด็กๆ นั่นเอง??

?พระผู้ถูกประทุษร้ายผู้นี้ไม่ได้ไปโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งไม่เคยร่วมวงโต้เถียงของหมู่ผู้รู้ ชีวิตของเราจงเป็นพยาน มิใช่เป็นเจตนาของเราที่จะเปิดเผยตนเอง หากแต่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเปิดเผยเราโดยการเลือกสรรของพระองค์เอง?

?ไม่มีผู้ใดที่เข้าเฝ้าพระองค์ได้อย่างไม่รู้สึกพรั่นพรึงในอานุภาพของพระองค์ ผู้คงแก่เรียนที่ได้เข้าใกล้พระองค์ต่างอัศจรรย์ใจในความรอบรู้ของพระองค์ พระองค์ไม่เคยได้ศึกษาในโรงเรียนหรือได้เล่าเรียนกับผู้รู้คนใด บรรดาสหายและเครือญาติของพระองค์ต่างประจักษ์ในสิ่งนี้ แม้กระนั้นคำสอนของพระองค์คือวิญญาณแห่งยุคนี้?

?ดวงอาทิตย์ส่องแสงออกมาจากตนเองและไม่ได้รับแสงจากแหล่งอื่นใด บรรดาครูจากสวรรค์ทรงมีแสงติดตัวมาแต่กำเนิด ทุกพระองค์ทรงมีความรู้และความเข้าใจในทุกสิ่งในจักรวาล โลกทั้งโลกรับแสงจากพระองค์ ศิลปะและวิทยาศาสตร์ในแต่ละยุคได้รับการฟื้นฟูโดยผ่านทางครูเหล่านั้น?

?และขอให้เจ้าจงรู้ถึงสิ่งอันเป็นที่แน่นอนว่า สวรรค์นั้นหมายถึงการยอมรับและการยอมจำนนต่อพระผู้ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าจะแสดงให้ปรากฏ และไฟหมายถึงการสมาคมกับบรรดาจิตวิญญาณผู้เพิกเฉยที่จะยอมจำนนต่อพระองค์หรือไม่ยอมทำตนให้เป็นที่ปีติยินดีของพระองค์?

??..จงชำระล้างหูของเจ้าเพื่อว่าเจ้าจะไม่ได้ยินคำกล่าวถึงสิ่งอื่นใดนอกจากพระผู้เป็นเจ้า และจงชำระล้างตาของเจ้าเพื่อว่าตาของเจ้าจะไม่เห็นสิ่งอื่นใดนอกจากพระผู้เป็นเจ้า ? และจงชำระล้างมโนธรรมของเจ้าเพื่อว่ามโนธรรมของเจ้าจะไม่รับรู้ถึงสิ่งอื่นใดนอกจากพระผู้เป็นเจ้า และจงชำระล้างลิ้นของเจ้าเพื่อว่าลิ้นนั้นจะไม่ประกาศเกี่ยวกับสิ่งอื่นใดนอกจากพระผู้เป็นเจ้า และจงชำระล้างมือของเจ้าเพื่อว่ามือนั้นจะไม่เขียนสิ่งอื่นใดนอกจากพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า และจงชำระล้างความรู้ของเจ้าเพื่อว่าเจ้าจะไม่เข้าใจในสิ่งอื่นใดนอกจากพระผู้เป็นเจ้า และจงชำระล้างหัวใจของเจ้าเพื่อว่าหัวใจของเจ้าจะไม่เพลิดเพลินกับความปรารถนาใดนอกจากพระผู้เป็นเจ้า และในลักษณะเดียวกัน จงชำระล้างการกระทำและภารกิจทั้งหมดของเจ้าเพื่อว่าเจ้าจะได้รับการบำรุงเลี้ยงในสวรรค์แห่งความรักอันบริสุทธิ์ และเผื่อว่าบางทีเจ้าอาจจะได้เข้าเฝ้าพระผู้ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าจะแสดงให้ปรากฏ จะได้รับการประดับด้วยความบริสุทธิ์อันเป็นที่รักยิ่งของพระองค์ ? และจะได้รับการชำระให้ปลอดมลทินจากผู้ใดก็ตามที่หันเหไปจากพระองค์และไม่สนับสนุนพระองค์?

?จงกล่าวว่า แท้จริงแล้ว ความพึงพอพระทัยของพระผู้ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าจะแสดงให้ปรากฏก็คือความพึงพอพระทัยของพระผู้เป็นเจ้า ในขณะที่ความไม่พึงพอพระทัยของพระผู้ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าจะแสดงให้ปรากฏนั้นมิใช่อื่นใดนอกจากความไม่พึงพอพระทัยของพระผู้เป็นเจ้านั่นเอง?

?ดูกร ผู้ที่เดินไปบนหนทางของพระผู้เป็นเจ้า จงรับส่วนของเจ้าจากมหาสมุทรแห่งพระกรุณาธิคุณของพระองค์ และจงอย่ายอมขาดเสียซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่ในความล้ำลึกนั้น จงเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่มีส่วนได้รับสมบัติจากห้วงสมุทรนั้น น้ำจากมหาสมุทรนี้เพียงเท่าหยดน้ำค้างหากกระเซ็นไปทั่วสวรรค์และแผ่นดินก็ยังเพียงพอที่จะอำนวยความอุดมแก่สิ่งเหล่านั้นด้วยพระกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงอำนาจ พระผู้ทรงตรัสรู้ พระผู้ทรงปรีชาญาณ และด้วยมือที่สละแล้วซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างทางโลก จงวักน้ำที่ประสาทชีวิตจากมหาสมุทรแห่งนั้นและพรมสรรพสิ่งทั้งปวง เพื่อว่าสิ่งเหล่านั้นจะถูกชำระล้างจากความจำกัดที่มนุษย์สร้างขึ้น และจะได้เข้าใกล้บัลลังก์อันทรงอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งก็คือที่อันศักดิ์สิทธิ์และสุกสกาว”

?จงอย่าเศร้าโศกหากเจ้าปฏิบัติตามนี้โดยลำพังผู้เดียว จงให้พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นความเพียงพอในทุกสิ่งสำหรับเจ้า จงติดต่ออย่างใกล้ชิดกับพระวิญญาณของพระองค์ และจงเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่รู้คุณ จงประกาศศาสนาของพระผู้เป็นนายของเจ้ากับทุกคนที่อยู่บนสวรรค์และแผ่นดิน หากผู้ใดตอบสนองคำร้องเรียกของเจ้า จงเปิดเผยให้เขาเห็นไข่มุกแห่งอัจฉริยภาพของพระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า อันเป็นสิ่งที่พระวิญญาณของพระองค์ได้ส่งลงมาให้เจ้า และจงเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่เชื่ออย่างแท้จริง หากผู้ใดปฏิเสธข้อเสนอของเจ้า จงหันไปจากเขาเสียและมอบความไว้วางใจและความเชื่อมั่นของเจ้าไว้ในพระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งภพทั้งปวง?

?ศาสนาได้เจริญเติบโตจากเมล็ดแห่งความดำรงอยู่อันแท้จริง เป็นต้นไม้ใหญ่ซึ่งผลิใบและแตกแขนงออกดอกออกผล หลังจากเวลาผ่านล่วงเลยไปไม้ต้นนี้ก็เข้าสู่สภาพผุพัง ใบและดอกต่างเหี่ยวเฉาและมลายสูญไป ต้นไม้นั้นเป็นโรคและปราศจากผล ไม่เป็นการสมควรที่มนุษย์จะยังคงเก็บต้นไม้เก่านั้นไว้ โดยอ้างว่าพลังชีวิตของต้นไม้นั้นยังไม่เสื่อมถอย ผลยังคงดีหาอื่นใดเทียบไม่ได้ และไม้นั้นจะยืนต้นอยู่ชั่วนิรันดร เมล็ดแห่งความดำรงอยู่อันแท้จริงจะต้องถูกหว่านลงใหม่อีกครั้งหนึ่งในหัวใจของมนุษย์เพื่อว่าไม้ต้นใหม่จะเติบโตขึ้นจากเมล็ดนั้นและผลไม้แห่งสวรรค์จะทำให้โลกสดชื่นขึ้นอีกครั้ง ด้วยวิธีการนี้ประชาชาติและประชาชาวโลกทั้งหลายซึ่งปัจจุบันมีความหลากหลายในความเชื่อทางศาสนาจะถูกนำพามาสู่ความสามัคคี การลอกเลียนแบบกันจะถูกสลัดทิ้งไป ? และภราดรภาพระดับสากลในความดำรงอยู่อันแท้จริงนั้นจะถูกสถาปนาขึ้น การทำสงครามและการทะเลาะวิวาทกันในหมู่มนุษยชาติจะยุติลง และทุกคนจะปรองดองกันในฐานะเป็นผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า เพราะทุกคนต่างก็พักพิงอยู่ภายใต้ร่มเงาของพฤกษาแห่งการจัดหาและพระกรุณาของพระองค์ พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตาต่อทุกคน และทรงเป็นผู้ทรงประทานพระกรุณาธิคุณแก่ทุกคนในลักษณะเดียวกัน ดังที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงประกาศว่าพระผู้เป็นเจ้า ?ทรงหลั่งน้ำฝนให้แก่ผู้เที่ยงธรรมและผู้ที่ไม่เที่ยงธรรม? กล่าวคือ พระเมตตาของพระผู้เป็นเจ้าแผ่ไปทั่วจักรวาล มนุษยชาติทั้งหมดอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของความรักและความโปรดปรานของพระองค์ และพระองค์ทรงชี้แนวทางของคำสั่งสอนและหนทางสู่ความก้าวหน้าให้แก่ทุกคน?

?ไม่เคยมีแม้ชั่วขณะเดียวที่พระผู้ทรงถูกประทุษร้ายผู้นี้จะหลบซ่อนตน พระองค์กลับยืนหยัดอย่างมั่นคงและเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อหน้าคนทั้งปวงตลอดเวลา เราไม่เคยล่าถอยและเราไม่เคยแสวงหาการหลบหนี ที่จริงแล้ว ผู้เบาปัญญาต่างหากเล่าที่หลบหนีไปจากเรา?.ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระผู้เป็นเจ้า ศาสนาซึ่งมีพระผู้ทรงถูกประทุษร้ายผู้นี้เป็นผู้เชิดชูนามอยู่นี้สูงส่งเทียมเท่าสวรรค์และส่องสว่างเรืองรองประดุจดังดวงตะวัน ? การหลบซ่อนไม่มีทางเข้าสู่สถานะนี้ได้ และโอกาสสำหรับความกลัวหรือความเงียบก็ไม่มีเช่นเดียวกัน??

?อย่างไม่ปิดบังและโดยไม่ซ่อนเร้น พระผู้ถูกประทุษร้ายผู้นี้ได้ประกาศต่อหน้าประชาชนทุกคนบนโลกเสมอมาถึงสิ่งที่จะทำหน้าที่เป็นกุญแจสำหรับไขประตูแห่งวิทยาศาสตร์ ศิลปะ ความรู้แขนงต่างๆ ความผาสุก ความเจริญรุ่งเรือง และความมั่งคั่ง การกล่าวโทษทั้งหลายที่ก่อโดยบรรดาผู้กดขี่ไม่เคยประสบผลสำเร็จในการทำให้เสียงอันดังและคมชัดของพระผู้เป็นปากกาที่สูงส่งที่สุดนี้เงียบลงได้ และความสงสัยของบรรดาผู้ที่วิปริตหรือผู้ชอบยุยงปลุกปั่นก็ไม่สามารถขวางกั้นพระองค์จากการเปิดเผยพระวจนะอันสูงส่งที่สุดนี้ได้?

?ในตอนที่มาถึง เราถูกควบคุมตัวให้เดินไปตามช่องทางเดินที่มืดสนิทซึ่งนำเราไปสู่การลงบันไดชันสามทอดเพื่อเข้าไปสู่สถานที่คุมขังที่กำหนดไว้สำหรับเรา คุกใต้ดินแห่งนี้ปกคลุมด้วยความมืดสนิท และเพื่อนนักโทษของเรามีจำนวนเกือบหนึ่งร้อยห้าสิบคน ซึ่งมีทั้งขโมย ฆาตกร และโจรปล้นคนเดินทาง แม้จะเบียดเสียดยัดเยียดกันเช่นนั้น ก็ไม่มีปล่องอากาศใดอีกเลยนอกจากช่องทางที่เราเข้ามา ไม่มีปากกาด้ามใดสามารถพรรณนาถึงสถานที่แห่งนี้ได้ ไม่มีลิ้นใดสามารถอธิบายกลิ่นอันน่ารังเกียจของที่นั้นได้ ชายเหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่มีเสื้อผ้าหรือผ้าปูที่สำหรับนอน พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่ทรงทราบว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นกับเราในสถานที่อันมีกลิ่นเหม็นเน่าและมืดมนที่สุดแห่งนั้น?

?บรรดาผู้ที่ถูกกระหน่ำลงโดยพายุที่พัดโหมอยู่ในเตหะรานในระหว่างปีอันควรตราตรึงอยู่ในความทรงจำนั้น คือเพื่อนนักโทษของเราในคุกซียาห์-ชาลซึ่งเป็นที่ที่เราถูกขังอยู่ ? พวกเราถูกจัดให้เบียดเสียดกันอยู่ในห้องขังห้องหนึ่ง เท้าของพวกเราถูกใส่ขื่อ คอของพวกเราถูกล่ามด้วยโซ่ที่ก่อความทุกข์ทรมานอย่างที่สุด อากาศที่เราหายใจเต็มไปด้วยกลิ่นสกปรกอันเหม็นเน่าที่สุด ส่วนพื้นที่เรานั่งอยู่นั้นปกคลุมไปด้วยสิ่งปฏิกูลและเต็มไปด้วยเห็บหมัดและริ้นไร ไม่มีแสงใดๆ สามารถเล็ดลอดเข้ามายังคุกอันเต็มไปด้วยโรคระบาดแห่งนี้หรือเพื่อยังความอบอุ่นให้แก่ความหนาวเย็นดั่งน้ำแข็งนั้นได้บ้าง พวกเราถูกจัดให้เป็นสองแถว แต่ละแถวหันหน้าเข้าหากัน เราได้สอนพวกเขาให้ท่องพระวจนะบทหนึ่ง ซึ่งพวกเขาใช้สวดทุกคืนด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า แถวหนึ่งจะสวดว่า ?พระผู้เป็นเจ้าทรงความเพียงพอสำหรับข้าพเจ้า พระองค์ทรงความเพียงพอสำหรับทุกสิ่งอย่างแท้จริง? ในขณะที่อีกแถวหนึ่งจะสวดรับว่า ?ขอให้ผู้ที่เชื่อได้เชื่อถือในพระองค์?? เสียงประสานของน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความยินดีนี้ดังกระหึ่มต่อไปจนถึงตอนรุ่งสางของยามเช้า ??

?ทุกๆ วันผู้คุมจะเข้ามาในห้องขังของเรา แล้วขานชื่อสหายคนหนึ่งของเรา สั่งให้เขาลุกขึ้นและตามพวกเขาไปสู่ส่วนปลายสุดของลานตะแลงแกง ผู้เป็นเจ้าของชื่อจะขานรับการเรียกอันน่าขนลุกนั้นอย่างกระตือรือร้นยิ่งนัก หลังจากถูกปลดโซ่ออกแล้วเขาก็จะพรวดขึ้นยืน และในสภาวะอันปลื้มปีติอย่างควบคุมตนเองไม่ได้เขาจะเข้ามาหาและสวมกอดเรา เราจะพยายามที่จะปลอบโยนเขาให้วางใจในชีวิตนิรันดร์ในภพหน้า และทำให้หัวใจของเขาเปี่ยมไปด้วยความหวังและความปีติยินดี แล้วส่งเขาไปสู่การได้สวมมงกุฎแห่งความรุ่งโรจน์ เขาจะสวมกอดเพื่อนนักโทษที่เหลือทีละคน และจากนั้นเดินหน้าไปตายอย่างปราศจากความครั่นคร้ามเฉกเช่นเดียวกับที่เขาได้ใช้ชีวิตมา ไม่นานนักหลังจากการสละชีพเพื่อศาสนาของสหายเหล่านี้แต่ละคน เราจะได้รับการแจ้งจากเพชฌฆาตผู้ซึ่งได้ทวีความเป็นมิตรกับเราถึงสภาพการณ์ระหว่างการสละชีพของเหยื่อของเขา และบอกถึงความปีติยินดีที่เหยื่อผู้นั้นมีในระหว่างที่เขาทนรับความทุกข์ทรมานจนถึงวินาทีสุดท้าย??

?คืนวันหนึ่ง ในความฝัน พระวจนะอันสูงส่งเหล่านี้ดังแว่วไปทั่วทุกสารทิศว่า ? ? ? ? ?แท้จริงแล้ว เราจะช่วยให้เจ้าได้รับชัยชนะด้วยตัวของเจ้าและด้วยปากกาของเจ้า จงอย่าเศร้าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า และจงอย่ากลัว เพราะเจ้าอยู่ในความปลอดภัยแล้ว ? ในไม่ช้าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงเชิดชูสมบัติของโลกขึ้น ซึ่งก็คือบรรดาผู้ที่จะช่วยเจ้าโดยอาศัยตัวเจ้าเองและโดยอาศัยนามของเจ้า ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าจะทรงใช้ฟื้นฟูหัวใจของบรรดาผู้ที่ยอมรับพระองค์?

?ระหว่างเวลาที่เราอยู่ในคุกในเมืองเตหะราน แม้น้ำหนักของโซ่ที่กดทับจนทำให้เป็นแผลและกลิ่นเหม็นในอากาศจะทำให้เรานอนไม่ค่อยหลับ กระนั้นก็ตามในบางขณะแห่งการหลับไหลนั้น เรารู้สึกเหมือนมีบางอย่างไหลพุ่งจากกลางกระหม่อมของเราสู่ทรวงอกของเรา เสมือนดังกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากที่พุ่งตัวลงสู่พื้นดินจากยอดสูงของภูผาใหญ่ เป็นผลทำให้องคาพยพทุกส่วนของร่างกายเราร้อนดังไฟ ณ เวลาเหล่านั้น ลิ้นของเราบรรยายถ้อยวจนะที่ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถจะทนรับฟังได้?

?ระหว่างที่จมอยู่ในความทุกข์ทรมาน เราได้ยินเสียงที่แสนหวานและวิเศษสุดร้องเรียกอยู่เหนือศีรษะของเรา เมื่อเราหันหน้าไป เราเห็นเทพธิดาลอยอยู่ในอากาศเบื้องหน้าเรา เป็นผู้ที่มีรูปโฉมชวนให้ระลึกถึงพระนามของพระผู้เป็นนายของเรา วิญญาณของเธอปลาบปลื้มอย่างยิ่งจนใบหน้าของเธอเรืองรองด้วยเครื่องประดับแห่งความพึงพอพระทัยของพระผู้เป็นเจ้า และแก้มของเธอเปล่งปลั่งด้วยความสว่างแห่งพระผู้ทรงปรานี เธอกำลังเปล่งเสียงร้องเรียกระหว่างโลกและสวรรค์อย่างจับจิตจับใจมนุษย์ทั้งหลาย เธอกำลังแจ้งข่าวให้แก่ทั้งจิตวิญญาณภายในและรูปกายภายนอกของเรา อันเป็นข่าวที่ยังความปลาบปลื้มแก่จิตวิญญาณของเราและจิตวิญญาณของบรรดาผู้รับใช้ผู้ทรงเกียรติของพระผู้เป็นเจ้า เธอชี้นิ้วมายังศีรษะของเราและกล่าวต่อทุกคนที่อยู่ในสวรรค์และทุกคนที่อยู่บนโลกว่า ?ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพยาน นี่คือพระผู้เป็นที่รักยิ่งของภพทั้งปวง? แต่กระนั้นเจ้าหาเข้าใจไม่ นี่คือความงามของพระผู้เป็นเจ้าในท่ามกลางหมู่พวกเจ้า คืออานุภาพแห่งอธิปไตยของพระองค์ที่อยู่ในตัวเจ้า หากเจ้าเพียงแต่เข้าใจ นี่คือความลึกลับของพระผู้เป็นเจ้าและสมบัติล้ำค่าของพระองค์ คือศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าและความรุ่งโรจน์ของพระองค์สำหรับทุกคนที่อยู่ในอาณาจักรแห่งการเปิดเผยธรรมและการสร้างสรรค์ หากเจ้าจะเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่หยั่งเห็น?

?เช่นเดียวกับทุกๆ ศาสนาที่มาจากสวรรค์? ศาสนานี้จะไม่สามารถสถาปนาขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพถ้าศาสนานี้ไม่ได้เผชิญกับอำนาจต่อต้านที่รุมกระหน่ำโจมตีอยู่และมีชัยอย่างกล้าหาญเหนืออำนาจนั้น ประวัติของศาสนานี้เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างเพียงพอในสิ่งนี้ ความทุกข์ยากและการถูกประหัตประหารได้เคยเป็นและจะยังคงเป็นชะตาของบรรดาผู้ที่ถูกเลือกสรรโดยพระผู้เป็นเจ้าอยู่ต่อไป แต่พวกเขาควรจะพิจารณาว่าความทุกข์ยากและการถูกประหัตประหารเหล่านี้เป็นพระพรที่จำแลงมา ทั้งนี้เพราะโดยความทุกข์ยากและการประหัตประหารเหล่านี้ความศรัทธาของพวกเขาจะฟื้นชีวิตขึ้น จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์และถูกทำให้แข็งแกร่งขึ้น พระบาฮาอุลลาห์ทรงเปรียบเทียบการถูกทดสอบอันก่อความทุกข์ทรมานเหล่านี้เป็นดั่งน้ำมันที่หล่อเลี้ยงตะเกียงแห่งศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า?

?ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า พระผู้เป็นนายของข้าพเจ้า พระผู้เป็นที่ปรารถนาของข้าพเจ้า?..พระองค์ได้ทรงสร้างอณูแห่งธุลีนี้ด้วยพลังอันบริบูรณ์แห่งอานุภาพของพระองค์ และได้ทรงเลี้ยงดูเขาด้วยพระหัตถ์ที่ไม่มีผู้ใดสามารถล่ามไว้ได้?..พระศอซึ่งพระองค์ทรงให้คุ้นเคยกับสัมผัสของผ้าไหม ในที่สุด พระองค์กลับทรงให้ต้องถูกรัดด้วยโซ่อันแข็งแรง และพระวรกายซึ่งพระองค์ทรงให้สุขสบายด้วยอาภรณ์ที่มีลวดลายงดงามและแพรกำมะหยี่ ในตอนท้าย พระองค์กลับทำให้ต้องตกอยู่ในสภาพอันถูกเหยียดหยามในคุกมืด พระบัญชาของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้าต้องถูกตีตรวนนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งยังล่ามคอของข้าพเจ้าด้วยโซ่ที่ไม่มีผู้ใดตัดให้ขาดได้ หลายปีซึ่งได้ล่วงเลยไปล้วนมีแต่ความทุกข์โศกประหนึ่งดังสายฝนแห่งความเมตตาที่โปรยปรายมาสู่ข้าพเจ้า?..กี่ค่ำคืนเล่าที่น้ำหนักของโซ่ตรวนทำให้ข้าพเจ้าไม่ได้พักผ่อน กี่วันเล่าที่ข้าพเจ้าถูกปฏิเสธจากสันติและความสงบเงียบด้วยเหตุผลที่มาจากมือและลิ้นของบรรดาผู้ที่นำความทุกข์โศกมาสู่ข้าพเจ้า ทั้งขนมปังและน้ำซึ่งพระองค์ทรงประทานด้วยพระเมตตาที่ห้อมล้อมทุกสิ่งให้แก่ฝูงสัตว์ในทุ่งหญ้า? ครั้งหนึ่งกลับเป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตสำหรับคนรับใช้ผู้นี้ และพวกเขากลับให้สิ่งที่พวกเขาได้ปฏิเสธที่จะให้ก่อความทุกข์ยากแก่บรรดาผู้ที่ถอนตัวออกจากศาสนาของพระองค์มาก่อความทุกข์ยากแก่ข้าพเจ้า จนกระทั่งท้ายที่สุด ประกาศิตของพระองค์ได้ถูกกำหนดขึ้นอย่างเปลี่ยนแปลงไม่ได้และโองการของพระองค์ได้บัญชาให้คนรับใช้ผู้นี้ออกไปจากเปอร์เซีย โดยมีผู้ที่ร่างกายร่วงโรยและเด็กที่ยังเยาว์วัยจำนวนหนึ่งติดตามไป ในตอนนี้ที่อากาศหนาวเหน็บเสียจนไม่มีผู้ใดสามารถแม้แต่จะอ้าปากพูดได้ น้ำแข็งและหิมะนั้นหนามากเสียจนไม่อาจจะเคลื่อนไหวร่างกายได้?

?จุดหมายเดียวที่เราถอนตัวออกไป คือเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นประเด็นของความร้าวฉานในหมู่ผู้ที่ซื่อสัตย์ การเป็นมูลเหตุของความโกลาหลของบรรดามิตรสหายของเรา การเป็นหนทางในการทำร้ายจิตวิญญาณของผู้ใดก็ตาม หรือการเป็นเหตุแห่งความทุกข์โศกต่อหัวใจใดทั้งสิ้น?

?วันแห่งการทดสอบมาถึงแล้ว มหาสมุทรแห่งความร้าวฉานและความยากลำบากกำลังสาดซัดอยู่ และในทุกซอกทุกมุมบรรดาธงแห่งความสงสัยต่างกำลังง่วนอยู่กับการปลุกปั่นให้เกิดการกระทำอันก่ออันตรายและกับการนำมนุษย์ไปสู่ความหายนะ?.จงอย่ายอมให้เสียงของพวกทหารที่ทำการปฏิเสธคำสั่งบางคนก่อความสงสัยขึ้นในท่ามกลางพวกเจ้า และจงอย่าปล่อยให้ตัวเจ้าเมินเฉยต่อพระผู้ทรงเป็นสัจจะ ด้วยเหตุที่การชิงดีชิงเด่นเช่นนี้ถูกปลุกปั่นให้มีขึ้นในทุกยุคของศาสนา อย่างไรก็ตาม พระผู้เป็นเจ้าจะทรงสถาปนาศาสนาของพระองค์และจะทรงแสดงแสงของพระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์แม้ว่าผู้ปลุกปั่นความไม่สงบจะรังเกียจสิ่งนี้ก็ตาม?.ขอให้เจ้าจงเฝ้าดูศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าทุกวัน….ทุกสิ่งล้วนอยู่ในเงื้อมพระหัตถ์ของพระองค์? ไม่มีสถานที่ใดที่ผู้ใดจะหนีจากไปได้ จงอย่าคิดว่าศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าเป็นเพียงเรื่องเล่นๆ ที่ผู้ใดก็สามารถใช้เป็นเครื่องสนองความปรารถนาชั่วแล่นอันไร้สาระของตนเองได้ ในขณะนี้ในที่ต่างๆ ได้มีหลายคนกล่าวอ้างในทำนองเดียวกันนี้ เวลานั้นใกล้จะมาถึงแล้ว?.คือเวลาที่เขาเหล่านั้นทุกคนจะมอดมลายและสูญหายไป พวกเขาจะไปถึงศูนยภาพและจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดจดจำ เสมือนดังผงธุลีนั่นเอง?

? ?.เราเปิดเผยพระวจนะของเราดั่งสายฝนอันอุดมด้วยความช่วยเหลือของพระผู้เป็นเจ้าและพระเมตตากรุณาจากสวรรค์ของพระองค์? แล้วส่งวจนะเหล่านี้ไปยังส่วนต่างๆของโลก เราสั่งสอนมนุษย์ทุกคน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชาตินี้ ด้วยคำแนะนำและการตักเตือนอย่างรักใคร่? และห้ามปรามพวกเขามิให้วุ่นวายอยู่กับการปลุกปั่นเพื่อก่อความไม่สงบ การทะเลาะเบาะแว้ง การโต้เถียง และความขัดแย้ง ผลจากการกระทำเช่นนี้และด้วยพระกรุณาของพระผู้เป็นเจ้า ความเถลไถลและความโง่เขลาได้ถูกเปลี่ยนเป็นความศรัทธาอันแก่กล้าและความเข้าใจ? และเหล่าอาวุธถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือของสันติภาพ??

?ไม่มีมนุษย์คนใดบรรลุถึงฝั่งมหาสมุทรแห่งปัญญาที่แท้ได้ เว้นแต่ว่าเขาจะละความผูกพันจากทุกสรรพสิ่งในสวรรค์และบนโลก ดูกร ประชาชนทั้งหลายของโลก จงชำระวิญญาณของเจ้าให้บริสุทธิ์ เพื่อว่าบางทีเจ้าจะได้บรรลุถึงฐานะที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดไว้สำหรับเจ้าและได้เข้าไปยังเทพมณเทียรที่ถูกสถาปนาขึ้นในฟากฟ้าแห่งคัมภีร์บายันตามการลิขิตของพระผู้ทรงจัดหา?

?นี่คือวจนะจากอาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์ ที่ตรัสโดยพระชิวหาแห่งพลังและอำนาจ และเคยเปิดเผยต่อพระศาสดาทั้งหลายในอดีต เราได้นำแก่นสาระของวจนะเหล่านั้นมากลั่นเป็นโวหารอันรวบรัด เป็นสัญลักษณ์แห่งความกรุณาต่อผู้มีธรรม เพื่อว่าพวกเขาจะซื่อสัตย์ต่อพระปฏิญญาของพระผู้เป็นเจ้า จะดำเนินชีวิตตามที่พระองค์ทรงหวังไว้ และบรรลุถึงมณีแห่งคุณธรรมสวรรค์ในอาณาจักรของวิญญาณ??

?เรามองเห็นบรรดาพระศาสดาและศาสนทูตทั้งหลายมาชุมนุมกันและประทับอยู่รอบกายเรา พร้อมกับทรงคร่ำครวญ ร่ำไห้และทอดถอนใจออกมาดังๆ เราทูลถามด้วยความประหลาดใจถึงเหตุผลแต่กลับทำให้ยิ่งทรงคร่ำครวญและร่ำไห้มากขึ้นกว่าเดิม พระศาสดาเหล่านั้นตรัสแก่เราว่า ?พวกเราร่ำไห้ให้กับพระองค์ ดูกร พระผู้ทรงเป็นความลี้ลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ดูกร พระผู้เป็นสักการสถานแห่งความเป็นอมตะ? พระศาสดาเหล่านั้นทรงร่ำกรรแสงอย่างมากจนทำให้เราร่ำไห้ตามไปด้วย ครั้นแล้ว เหล่าเทพยดาเบื้องบนก็กล่าวกับเราว่า ?.?ในไม่ช้า พระองค์จะได้ประจักษ์ด้วยพระเนตรของพระองค์เองในสิ่งที่ไม่เคยมีพระศาสดาพระองค์ใดได้เคยประจักษ์มาก่อน?.ขอพระองค์จงอดทน จงอดทน? ….เหล่าเทพยดากล่าวคำเหล่านี้กับเราตลอดคืนจนกระทั่งใกล้รุ่ง?

?สรรพสิ่งที่ถูกสร้างสรรค์ทั้งมวลถูกจุ่มลงไปในทะเลแห่งการชำระให้บริสุทธิ์?

?ข้าแต่พระผู้ทรงเป็นปากกาอันสูงส่งที่สุด วสันตฤดูของพระผู้เป็นเจ้ามาถึงแล้ว ทั้งนี้เพราะเทศกาลของพระผู้ทรงพระเมตตากำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว ขอให้เจ้าจงกระวีกระวาดและจงสรรเสริญพระนามของพระผู้เป็นเจ้าต่อหน้าสรรพสิ่งทั้งปวง และจงเฉลิมฉลองการยกย่องสรรเสริญของพระองค์ ในลักษณะที่สรรพสิ่งที่ถูกสร้างสรรค์ทั้งหลายจะได้รับชีวิตใหม่และกลับใหม่ขึ้นอีกครั้ง จงพูดและอย่าได้รั้งสันติภาพของเจ้าไว้ ดวงตะวันแห่งความสุขฉายแสงอยู่เหนือขอบฟ้าแห่งพระนามของเรา พระผู้ทรงเป็นความสุขอันสมบูรณ์ เท่าที่อาณาจักรแห่งพระนามของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการประดับด้วยอลงกรณ์แห่งพระนามของพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงสร้างสรรค์สวรรค์ทั้งปวง? จงยืนหยัดขึ้นต่อหน้าประชาชาติทั้งหลายในโลก จงพกอำนาจของพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุดนี้เป็นอาวุธประจำตัวเจ้า และจงอย่าเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่รั้งรออยู่??..”

“ดูกร พระผู้ทรงเป็นปากกา ในยุคนี้ นอกจากเราแล้วเจ้าจะสามารถค้นพบผู้ใดได้อีก มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับสรรพสิ่งที่ถูกสร้างสรรค์และกับการประกาศต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น ? อะไรได้เกิดขึ้นกับนามทั้งหลายและอาณาจักรแห่งนาม สิ่งสร้างสรรค์ทั้งหลายทั้งที่มองเห็นได้และไม่สามารถมองเห็นได้ไปอยู่ที่ใดเสียแล้ว แล้วเกิดอะไรขึ้นเล่ากับความลึกลับอันซ่อนเร้นของจักรวาลและการเปิดเผยความลับเหล่านั้น จงดูซิ สิ่งสร้างสรรค์ทั้งหมดได้ล้มหายตายจากไปเสียแล้ว ไม่มีสิ่งใดคงเหลืออยู่นอกจากพระพักตร์ของเรา? พระผู้อยู่ยงคงกระพัน พระผู้ทรงความเรืองรอง พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์”

“ยุคนี้คือยุคที่ไม่สามารถเห็นสิ่งใดได้นอกจากความโชติช่วงของแสงที่ส่องมาจากพระพักตร์ของพระผู้เป็นนายของพระองค์ พระผู้ทรงการุณย์ พระผู้ทรงอารีที่สุด แท้จริงแล้วเราบันดาลให้วิญญาณทุกดวงสิ้นอายุขัยด้วยอธิปไตยที่กำราบทุกสรรพสิ่งและไม่มีผู้ใดต้านทานได้ จากนั้นเราได้สร้างสรรพสิ่งชุดใหม่ขึ้นประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความกรุณาของเราต่อมนุษย์ แท้จริงแล้ว เราคือพระผู้ทรงอารีที่สุด พระผู้ทรงดำรงอยู่ก่อนยุคสมัย?..”

“จงกล่าวว่า นี่คือสวรรค์ที่อมฤตแห่งวาทะได้ประทับคำรับรองไว้บนใบไม้ว่า ?พระผู้ทรงซ่อนเร้นจากสายตาของมนุษย์ได้ปรากฏองค์ขึ้นแล้วอย่างเพียบพร้อมด้วยอธิปไตยและอานุภาพ!? นี่คือสวรรค์ที่เสียงใบไม้เสียดสีประกาศว่า ?ดูกร ผู้ที่อาศัยอยู่ในสวรรค์และบนโลก สิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนได้ปรากฏขึ้นแล้ว พระผู้ซึ่งตั้งแต่นิรันดรกาลได้ทรงปกปิดพระพักตร์ไว้จากสายตาของสรรพสิ่งได้เสด็จมาแล้ว ณ บัดนี้? เสียงจากสายลมที่พัดแผ่วอยู่ท่ามกลางกิ่งไม้ร้องขึ้นว่า ?พระผู้ทรงเป็นนายสูงสุดของทุกคนได้ปรากฏองค์ขึ้นแล้ว อาณาจักรเป็นของพระผู้เป็นเจ้า? ขณะที่สายธารแห่งสวรรค์นั้นหลั่งไหลเป็นเสียงให้ได้ยินว่า ?นัยนาทุกดวงเบิกบานเพราะพระผู้ซึ่งไม่มีผู้ใดเคยเห็นและผู้ซึ่งความลับของพระองค์ไม่มีผู้ใดเคยค้นพบ ได้ทรงเปิดม่านแห่งความรุ่งโรจน์และเผยโฉมพระพักตร์แห่งความงามออกมาแล้ว”

“ในสวรรค์แห่งนี้และจากยอดสูงของห้องอันโอ่โถง เหล่าเทพธิดาแห่งสวรรค์ตะโกนร้องออกมาว่า ?จงยินดีปรีดาเถิด พวกเจ้าผู้อาศัยอยู่ในอาณาจักรเบื้องบน เพราะนิ้วพระหัตถ์ของพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ก่อนยุคสมัยกำลังลั่นระฆังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพระนามของพระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ ณ ใจกลางของสวรรค์ทั้งปวง พระหัตถ์แห่งความอารีได้โอบอุ้มถ้วยแห่งชีวิตนิรันดร์ไว้แล้ว จงรีบเข้ามาและดื่มให้เต็มอิ่ม ดูกร เจ้าผู้เป็นตัวอย่างอันสมบูรณ์ของความใฝ่หา เจ้าผู้เป็นตัวตนของความปรารถนาอันแรงกล้า จงดื่มอย่างสำราญเพื่อสุขอนามัย !”

?เจ้าจงรู้ไว้ว่าเมื่อเรามาถึง ณ ที่นี้ เราเลือกที่จะขนานนามสถานที่นี้ว่าเป็น ?คุกที่หฤโหดที่สุด? แม้ก่อนหน้านี้เราจะเคยถูกล่ามด้วยโซ่และพันธนาการในอีกดินแดนหนึ่งก็ตาม เราก็ยังปฏิเสธที่จะเรียกขานสถานที่นั้นด้วยชื่อนี้ จงกล่าวว่า ดูกร ผู้ที่อุดมด้วยความเข้าใจ จงพิจารณาดูเถิด?

?ในตอนที่เรามาถึง เราได้รับการต้อนรับด้วยธงแห่งแสงสว่าง ซึ่ง ณ ที่นั้น เสียงร้องแห่งพระจิตประกาศพระดำรัสว่า ?ในไม่ช้า ทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลกจะถูกเกณฑ์เข้ามาอยู่ภายใต้ธงเหล่านี้?

?ดูกร กษัตริย์แห่งปารีส จงบอกให้พระเลิกตีระฆัง โดยพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นหนึ่งโดยแท้จริง ระฆังอันทรงอำนาจที่สุดได้ปรากฏอยู่ในรูปของพระผู้ทรงเป็นพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุด??

?จงลุกขึ้นท่ามกลางมนุษย์ในนามของศาสนาที่บังคับทุกสรรพสิ่งนี้ และจงเรียกประชาชาติทั้งหลายมาสู่พระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงความสูงส่ง พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่?

?จงละวางความปรารถนาของเจ้าและจงตั้งจิตของเจ้าไปยังพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงดำรงอยู่ก่อนยุคสมัย เรากล่าวถึงเจ้าเพื่อเห็นแก่พระผู้เป็นเจ้าและปรารถนาว่านามของเจ้าจะถูกเชิดชูโดยการที่เจ้าระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงสร้างสรรค์โลกและสวรรค์??

?จงใส่ใจมิฉะนั้นความหยิ่งทะนงจะขวางกั้นเจ้าจากการยอมรับพระผู้ทรงเป็นรุ่งอรุณแห่งการเปิดเผยธรรมสวรรค์ มิฉะนั้นความปรารถนาทางโลกจะเป็นดั่งม่านปิดกั้นเจ้าจากพระผู้เป็นนายแห่งบัลลังก์สวรรค์เบื้องบนและแห่งโลกเบื้องล่าง?

?จงเปิดตาของเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะมองเห็นพระผู้ทรงเป็นภาพนิมิตอันรุ่งโรจน์ผู้นี้ และยอมรับพระองค์ผู้ซึ่งเจ้าวิงวอนร้องขอทั้งในยามกลางวันและยามค่ำคืน และจงเพ่งสายตาไปยังพระผู้เป็นแสงธรรมที่ส่องอยู่เหนือขอบฟ้าอันเรืองรองนี้?

?จงอย่าละวางความเกรงกลัวต่อพระผู้เป็นเจ้า และขอให้เจ้าเป็นหนึ่งในผู้ที่ปฏิบัติอย่างซื่อตรง จงรวบรวมบรรดารัฐมนตรีที่เจ้าสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นหอมของความศรัทธาและความยุติธรรมไว้รอบกายเจ้า จงปรึกษาหารือกับพวกเขาและจงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในสายตาของเจ้า และจงเป็นหนึ่งในผู้ที่ปฏิบัติอย่างเอื้อเฟื้อ?

?เราอธิษฐานว่า ขอความสูงส่งจงเป็นของพระผู้เป็นเจ้า ด้วยพระกรุณาธิคุณของพระองค์ ขอพระองค์ทรงปลดโซ่และพันธนาการทั้งหลายออกจากคอของมนุษย์ด้วยการจองจำนี้ และขอทรงทำให้พวกเขาหันหน้าที่มีความจริงใจไปสู่พระพักตร์ของพระองค์ พระผู้ทรงอานุภาพ พระผู้ประทานพร พระองค์ทรงพร้อมที่จะสนองตอบผู้ใดก็ตามที่ร้องขอต่อพระองค์และพระองค์จะทรงอยู่ใกล้กับผู้ที่ติดต่อกับพระองค์?

?จงเชื่อมสิ่งที่แตกหักแล้วด้วยมือแห่งความยุติธรรม และจงบดขยี้ผู้กดขี่ที่เฟื่องฟูด้วยคันไม้แห่งพระบัญญัติของพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงบัญญัติ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ?

?พระวจนะที่พระบุตรทรงซ่อนเร้นไว้ได้ถูกเปิดเผยออกแล้ว วจนะนี้ถูกส่งลงมาในรูปของวิหารแห่งมนุษย์ในวันนี้ ขอพระพรจงมีแด่พระผู้เป็นนายผู้ทรงเป็นพระบิดา แท้จริงแล้ว พระองค์ทรงเสด็จมาเบื้องหน้าประชาชาติทั้งหลายด้วยราชอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์?

?ดูกร คณะแห่งพระสงฆ์ทั้งหลาย จงอย่าแยกตนอยู่ตามลำพังในโบสถ์และวัด จงออกมาเบื้องหน้าตามบัญชาของเรา และจงยุ่งอยู่กับสิ่งซึ่งจะยังประโยชน์แก่จิตวิญญาณของเจ้าและจิตวิญญาณของมนุษย์ทั้งหลาย?

?ขณะที่เราสำรวจขอบข่ายอันกว้างใหญ่มหาศาลที่พระธรรมลิขิตเหล่านี้ครอบคลุมอยู่? พระธรรมลิขิตของพระบาฮาอุลลาห์ในช่วงเวลานี้ดูเหมือนจะแยกได้เป็นสามกลุ่มที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน กลุ่มแรกเป็นพระธรรมลิขิตที่เป็นองค์ประกอบของความสืบเนื่องของการประกาศภารกิจของพระองค์ในเมืองเอเดรียโนเปิล กลุ่มที่สองรวมเอากฎและบัญญัติทั้งหลายของยุคศาสนาของพระองค์ซึ่งส่วนใหญ่ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์
คีตาบี-อัคดัส อันเป็นคัมภีร์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระองค์ กลุ่มที่สามเป็นสาสนต่างๆ ที่ส่วนหนึ่งทรงแถลงและอีกส่วนหนึ่งทรงยืนยันอีกครั้งเกี่ยวกับหลักปฏิบัติและหลักคำสอนต่างๆ ที่เป็นรากฐานของยุคศาสนานี้?

“ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระผู้เป็นเจ้าที่ท่านได้มาถึงแล้ว?.ท่านได้มาพบกับนักโทษและผู้ถูกเนรเทศ เราปรารถนาแต่เพียงความดีงามของโลกและความผาสุกของประชาชาติ ? กระนั้นพวกเขากลับถือว่าเราเป็นผู้ปลุกปั่นการทะเลาะวิวาทและการต่อต้านรัฐบาล ควรแก่การตกเป็นทาสและการถูกเนรเทศ?.ชาติทั้งปวงควรมีความศรัทธาเป็นหนึ่งเดียวกันและมนุษย์ทั้งหมดควรเป็นพี่น้องกัน พันธะแห่งความรักและความสามัคคีระหว่างบุตรทั้งหลายของมนุษย์ควรแข็งแกร่งขึ้น ความหลากหลายทางศาสนาควรสิ้นสุดลงและความขัดแย้งทางเชื้อชาติควรล้มเลิก สิ่งนี้มีภัยอันใดหรือ?.กระนั้น จะเป็นไปตามนี้?.การทะเลาะวิวาทอันไร้ประโยชน์และสงครามที่ทำลายล้างเหล่านี้จะผ่านพ้นไป และสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุดจะบังเกิดขึ้น?.พวกท่านที่อยู่ในยุโรปมิได้ต้องการสิ่งนี้ด้วยหรอกหรือ มิใช่สิ่งนี้ดอกหรือที่พระคริสต์ทรงทำนายไว้?.กระนั้นแล้วเราได้เห็นบรรดากษัตริย์และผู้นำของพวกท่านทุ่มเททรัพย์สมบัติของพวกเขาอย่างอิสระในการทำลายล้างเผ่าพันธ์มนุษย์มากกว่าที่จะทุ่มเทไปในสิ่งที่จะนำมาซึ่งความผาสุกของมนุษยชาติ?.การทะเลาะเบาะแว้ง การหลั่งเลือด และความไม่ลงรอยกันเหล่านี้ต้องยุติลงและมนุษย์ทุกคนเป็นดั่งญาติพี่น้องและครอบครัวเดียวกัน?.มนุษย์ไม่ควรภูมิใจว่าเขารักประเทศของตน แต่เขาควรภูมิใจว่าตนรักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน?.”

?หน้าที่ประการแรกที่พระผู้เป็นเจ้าบัญญัติไว้สำหรับบรรดาคนรับใช้ของพระองค์คือ การยอมรับบรมศาสดาผู้เป็นอรุโณทัยแห่งการเปิดเผยพระธรรมของพระองค์ และเป็นแหล่งกำเนิดกฎของพระองค์ ผู้เป็นตัวแทนของความเป็นเจ้าทั้งในอาณาจักรธรรมะและสรรพภาวะ ผู้ใดที่ยอมรับพระองค์เท่ากับเข้าถึงความดีงามทั้งปวงและผู้ใดที่มาไม่ถึงการยอมรับนี้ก็เท่ากับว่าหลงทาง แม้ว่าเขาจะเป็นต้นตำรับของการกระทำที่ชอบธรรมทุกประการ เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนผู้ที่บรรลุถึงฐานะอันประเสริฐสุดนี้ ยอดสุดของความรุ่งโรจน์นี้ ที่จะต้องปฏิบัติตามทุกบัญญัติของบรมศาสดาผู้เป็นยอดปรารถนาของโลก หน้าที่สองประการนี้แยกจากกันไม่ได้ และจะไม่เป็นที่ยอมรับหากขาดข้อใดข้อหนึ่ง”

“บรรดาผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประสาทธรรมทรรศนะให้จะยอมรับอย่างเต็มใจในทันทีว่า บัญญัติที่พระผู้เป็นเจ้าวางไว้คือวิธีการสูงสุดสำหรับค้ำจุนระเบียบของโลกและความปลอดภัยของประชาชน ผู้ที่เมินบัญญัติเหล่านี้ถือว่าเป็นพวกโง่เขลาและน่าสังเวช ? แท้จริงแล้ว เราบัญชาเจ้ามิให้ปล่อยใจไปกับกิเลสตัณหาที่ชั่วร้ายโสมม และอย่าล่วงเกินเลยขอบเขตที่ปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่งกำหนดไว้ เพราะนี่คือลมหายใจแห่งชีวิตสำหรับทุกสรรพสิ่ง ชลธีแห่งพระวจนะและเมธาสวรรค์สาดซัดขึ้นมาด้วยสายลมของพระผู้ทรงปรานี ดูกร มนุษย์ผู้มีปัญญา จงรีบดื่มให้อิ่ม พวกที่ละเมิดปฏิญญาของพระผู้เป็นเจ้าโดยการฝ่าฝืนบัญญัติของพระองค์และสะบัดหน้าหนี คือผู้ที่หลงผิดอย่างร้ายแรงในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงครอบครองทุกสรรพสิ่ง พระผู้ทรงความสูงส่ง”

“ดูกร ประชาชนทั้งหลายของโลก จงรู้ไว้ว่าบัญญัติของเราคือตะเกียงแห่งความรักที่คอยบริบาลคนรับใช้ คือกุญแจแห่งความปรานีของเราสำหรับประชาชน ซึ่งมาจากนภาแห่งพระประสงค์ของพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งการเปิดเผยพระธรรม หากมนุษย์คนใดได้ลิ้มความหวานของวจนะที่ริมฝีปากของพระผู้ทรงปรานีเปล่งออกมา? แม้ว่าเขาครอบครองทรัพย์สมบัติทั้งหลายในพิภพ เขาก็จะละทิ้งสมบัตินั้นเพื่อจะได้พิสูจน์สัจธรรมของบัญญัติของพระองค์แม้เพียงข้อเดียว ซึ่งเรืองรองอยู่บนอรุโณทัยแห่งความดูแลเอาใจใส่และความเมตตารักใคร่ของพระองค์”

“สุคนธรสของภูษาขจรมาจากกฎของเรา และกฎเหล่านี้จะช่วยปักธงชัยบนยอดสุด จากนภาแห่งอำนาจอันรุ่งโรจน์ ชิวหาแห่งอานุภาพของเราตรัสต่อสรรพสิ่งทั้งปวงว่า: ?จงปฏิบัติตามบัญญัติด้วยรักในความงามของเรา? ความสุขจงมีแด่คนรักที่ได้สูดสุคนธรสของพระผู้เป็นที่รักยิ่งจากวจนะเหล่านี้ ซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของพระกรุณาที่ไม่มีวจีใดพรรณนาได้ ชีวิตของเราเป็นพยาน ผู้ที่ได้ดื่มอมฤตแห่งความเที่ยงธรรมจากพระหัตถ์ที่โอบอ้อมอารีของเราจะรายล้อมบัญญัติที่เรืองรองอยู่เหนืออรุโณทัยแห่งสรรพภาวะ”

“ความสรรเสริญที่รุ่งอรุณขึ้นมาจากอัตภาพอันเกรียงไกรที่สุดของพระองค์ และความรุ่งโรจน์ที่ฉายออกมาจากความงามอันโชติช่วงที่สุดของพระองค์ สถิตอยู่กับพระองค์ ข้าแต่พระผู้แสดงความโอฬารให้เป็นที่ประจักษ์ พระผู้เป็นราชันแห่งนิรันดรกาล พระผู้เป็นนายของทุกคนที่อยู่ในสวรรค์และบนโลก ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า อาณาจักร ราชศักดา และความโอฬารของพระผู้เป็นเจ้าเปิดเผยผ่านมาทางพระองค์ ดวงตะวันที่ชัชวาลมาแต่โบราณกาลได้สาดรัศมีอยู่บนนภาแห่งประกาศิตที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ของพระองค์ และความงามของพระผู้ที่เรามองไม่เห็นเรืองแสงอยู่เหนือขอบฟ้าของสรรพสิ่งทั้งปวง? ข้าพเจ้าขอยืนยันอีกด้วยว่า เพียงการขยับปากกาของพระองค์ บัญชาที่ว่า ?พระองค์จงเป็น? จึงบังเกิดผล ความลับของพระผู้เป็นเจ้าถูกเปิดเผย ทุกสรรพสิ่งถูกบันดาลขึ้นมา และธรรมวิวรณ์ทั้งหมดหลั่งลงมา”

“ข้าพเจ้าขอเป็นพยานอีกด้วยว่า ความงามของพระผู้เป็นที่บูชาเปิดเผยผ่านมาทางความงามของพระองค์ พระพักตร์ของพระผู้เป็นยอดปรารถนาสุกสกาวอยู่ในพระพักตร์ของพระองค์ และพระองค์ทรงตัดสินทุกสรรพสิ่งด้วยวจนะของพระองค์ โดยบันดาลให้ผู้ที่อุทิศตนต่อพระองค์ได้ขึ้นไปสู่สุดยอดของความรุ่งโรจน์ และผู้ที่ไร้ศรัทธาจมลงไปสู่ก้นบึ้งของอเวจี”

“ข้าพเจ้าขอเป็นพยานว่า ผู้ที่รู้จักพระองค์ได้รู้จักพระผู้เป็นเจ้า พระพรนั้นช่างยิ่งใหญ่สำหรับผู้ที่เชื่อในพระองค์และเครื่องหมายของพระองค์ ถ่อมตนต่ออธิปไตยของพระองค์ ได้รับเกียรติของการเข้าเฝ้าพระองค์ เป็นที่ยินดีตามพระประสงค์ของพระองค์ รายล้อมพระองค์ และยืนอยู่หน้าบัลลังก์ของพระองค์ ความหายนะบังเกิดกับผู้ที่ทำบาปต่อพระองค์ ปฏิเสธพระองค์ ปฏิเสธเครื่องหมายของพระองค์ ปฏิเสธอธิปไตยของพระองค์ ลุกขึ้นต่อต้านพระองค์ หยิ่งทะนงต่อพระพักตร์ของพระองค์ โต้แย้งพยานหลักฐานของพระองค์ หนีออกไปจากการปกครองและอาณาจักรของพระองค์ และได้รับการนับว่าเป็นพวกไม่มีศาสนา ซึ่งชื่อของพวกเขาถูกจารึกไว้ในธรรมจารึกศักดิ์สิทธิ์ด้วยดัชนีแห่งบัญชาของพระองค์”

“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า พระผู้เป็นที่รักยิ่งของข้าพเจ้า? จากมือขวาแห่งความปรานีและความเมตตารักใคร่ของพระองค์ ขอกรุณาธิคุณของพระองค์พัดลมหายใจอันบริสุทธิ์มายังข้าพเจ้า เพื่อว่าลมหายใจนั้นจะพัดให้ข้าพเจ้าหลุดพ้นจากตนเองและโลก และเข้าไปสู่ราชสำนักแห่งความใกล้ชิดและที่สถิตของพระองค์ พระองค์ทรงอำนาจในการกระทำสิ่งที่พระองค์ปรารถนา ความจริงแล้วพระองค์ทรงความยิ่งใหญ่เหนือสรรพสิ่งทั้งปวง”

“การระลึกถึงและการสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า ความรุ่งโรจน์และความวิภาของพระผู้เป็นเจ้า สถิตอยู่กับพระองค์ ข้าแต่พระผู้เป็นความงามของพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าขอเป็นพยานว่า ดวงตาของทุกสรรพสิ่งไม่เคยเห็นผู้ใดถูกประทุษร้ายเหมือนพระองค์ ตลอดชีวิตของพระองค์จมอยู่ในมหาสมุทรแห่งความทุกข์ทรมาน เวลาหนึ่งพระองค์ถูกล่ามด้วยโซ่ตรวน อีกเวลาหนึ่งพระองค์ถูกคุกคามด้วยดาบของศัตรู ถึงกระนั้นก็ตาม พระองค์ก็ได้บัญชามวลมนุษย์ให้ปฏิบัติตามบัญญัติที่พระองค์ได้รับมอบมาจากพระผู้เป็นผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ”

“ขอให้วิญญาณของข้าพเจ้าเป็นพลีแด่การถูกประทุษร้ายที่พระองค์ได้รับ และเป็นค่าไถ่สำหรับความทุกข์ยากของพระองค์ ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ต่อบรรดาผู้ที่มีใบหน้าเรืองรองด้วยวิภาจากพักตรากฤติของพระองค์ และผู้ที่ปฏิบัติตามบัญชาทุกอย่างด้วยความรักพระองค์? ขอทรงขจัดม่านที่ปิดกั้นระหว่างพระองค์และบรรดาผู้ที่พระองค์สร้างขึ้นมา ขอทรงประทานสิ่งที่ดีงามให้แก่ข้าพเจ้าในโลกนี้และโลกหน้า ความจริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงประเสริฐสุด พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ พระผู้ทรงอภัยเสมอ พระผู้ทรงเห็นใจ”

“ข้าแต่พระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ขอพระองค์ทรงประสาทพรให้กับพฤกษาสวรรค์นี้ ตลอดจนใบ คบไม้ กิ่งก้าน ลำต้น และหน่อของพฤกษานี้ ตราบนานเท่าที่อภิไธยอันวิศิษฎ์สุดและคุณลักษณะอันเกรียงไกรที่สุดของพระองค์ยังอยู่ ขอทรงคุ้มครองพฤกษานี้ให้ปลอดภัยจากการปองร้ายของผู้รุกรานและผู้กดขี่ แท้จริงแล้ว พระองค์คือพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงอานุภาพสูงสุด ข้าแต่พระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ขอพระองค์ทรงประสาทพรอีกด้วยให้กับบรรดาคนรับใช้ชายหญิงที่มาถึงเบื้องพระพักตร์ของพระองค์ ความจริงแล้วพระองค์คือพระผู้ทรงอารี และพระกรุณาของพระองค์ไม่มีขีดจำกัด ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดอีกนอกจากพระองค์ พระผู้ทรงอภัยเสมอ พระผู้ทรงเอื้อเฟื้อที่สุด