?ดูกร บรรดาผู้เป็นที่รักของพระอับดุลบาฮา! ชีวิตของมนุษย์นั้นมีช่วงเวลาของฤดูใบไม้ผลิและได้รับการประสิทธิ์ประสาทด้วยความรุ่งโรจน์อันน่าพิศวงยิ่ง? ช่วงเวลาของการเป็นเยาวชนนั้นแสดงลักษณะเฉพาะด้วยความแข็งแรงและพละกำลัง เป็นช่วงเวลาที่แลเห็นเด่นชัดในฐานะช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตมนุษย์ ดังนั้นท่านจึงควรพยายามทั้งวันและคืน? เพื่อว่าเมื่อท่านได้รับการประสิทธิ์ประสาทด้วยความแข็งแรงจากสวรรค์ ได้รับการบันดาลใจจากแรงจูงใจอันหลักแหลม และได้รับการช่วยเหลือโดยพลังแห่งสวรรค์ การรับรองและกรุณาธิคุณแห่งสวรรค์แล้ว ท่านจะกลายเป็นเครื่องประดับของโลกมนุษย์ และโดดเด่นอยู่ท่ามกลางบรรดาผู้ที่ได้รับการนำเข้าสู่การเรียนรู้ที่แท้จริงและความรักของพระผู้เป็นเจ้า ท่านจะต้องเด่นอยู่ท่ามกลางมนุษย์ทั้งหลายด้วยความน่าเคารพและความไม่ผูกพัน ความสูงส่งของเจตนา ความใจกว้าง ความตั้งใจมั่น ความคิดอันประเสริฐ ความยืนหยัด การยกระดับของเป้าหมายและคุณลักษณะทางธรรมของท่าน? ทั้งนี้เพื่อว่าท่านจะกลายเป็นหนทางสู่ความสูงส่งและความรุ่งโรจน์ให้แก่ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า และเป็นอรุโณทัยสถานแห่งของประทานจากสวรรค์ของพระองค์ เพื่อที่ว่าท่านจะประพฤติตนอย่างสอดคล้องกับคำแนะนำและคำสั่งสอนของพระผู้ทรงความงามอันอุดมพร ขอชีวิตของข้าพเจ้าเป็นพลีแก่บรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์ และโดยการส่องสะท้อนคุณลักษณะและคุณสมบัติทั้งหลายของบาไฮ ท่านนั้นจะแตกต่างอย่างโดดเด่นจากผู้อื่น พระอับดุลบาฮาคาดหวังอย่างกระตือรือร้นว่าท่านแต่ละคนจะเป็นเหมือนดังราชสีห์ที่ปราศจากความกลัว ผู้เยื้องย่างไปในทุ่งหญ้าแห่งความสมบูรณ์พร้อมของมนุษย์ และเป็นดังสายลมที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมที่พัดผ่านท้องทุ่งแห่งคุณธรรม?

?ทารกที่ยังไม่อดนมก้าวผ่านระยะต่างๆ ทางกายภาพ เติบโตและพัฒนาขึ้นในทุกระยะ จนกระทั่งร่างกายของเขาก้าวเข้าสู่วัยแห่งวุฒิภาวะ เมื่อมาถึงระยะนี้เขาจะได้มาซึ่งความสามารถในการแสดงปรากฏซึ่งความสมบูรณ์พร้อมทางจิตวิญญาณและสติปัญญา ? แสงสว่างแห่งความเข้าใจ สติปัญญา และความรู้จะปรากฏชัดในบุคคลนั้นและพลังต่างๆ ของจิตวิญญาณของเขาก็จะเป็นที่เปิดเผยออกมา??

?พรจงมีแด่ผู้ที่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการเป็นเยาวชนและเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดของชีวิตของเขา ได้ลุกขึ้นเพื่อรับใช้ศาสนาของพระผู้เป็นนายแห่งการเริ่มต้นและการสิ้นสุด และได้ตกแต่งหัวใจของเขาด้วยความรักของพระองค์ การแสดงปรากฏของความสง่างามเช่นนี้ยิ่งใหญ่กว่าการสร้างสรรค์สวรรค์และโลก ขอพรจงมีแด่ผู้ที่มั่นคงและขอความสวัสดีจงมีแด่ผู้ที่หนักแน่น??

?บาไฮที่เยาว์วัยและขยันขันแข็ง เช่นเดียวกับท่าน เป็นผู้ที่ท่านศาสนภิบาลฝากความหวังทั้งหมดของท่านเกี่ยวกับความเจริญก้าวหน้าและการขยายตัวของศาสนาในอนาคตไว้ และท่านได้มอบความรับผิดชอบทั้งหมด ให้พวกเขาแบกรับภาระในการบำรุงรักษาดวงจิตแห่งการรับใช้อย่างไม่เห็นแก่ตัวในหมู่เพื่อน ศาสนิกชนของพวกเขา หากไม่มีดวงจิตนี้ก็ไม่มีงานใดที่จะสามารถประสบความสำเร็จได้ แต่เมื่อมีดวงจิตนี้แล้ว ชัยชนะซึ่งแม้ว่าจะได้มาโดยยากก็จะกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้??

?ความทนทานของเยาวชนภายใต้สภาพที่ยากลำบาก พละกำลังและความกระฉับกระเฉงของพวกเขา ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในระดับท้องถิ่น ในการเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ และการให้ความอบอุ่นและความกระตือรือร้นแก่ผู้ที่พวกเขาไปเยี่ยม เมื่อรวมกันเข้ากับมาตรฐานความประพฤติที่เยาวชนบาไฮยึดถือ ทำให้พวกเขาเป็นเครื่องมือที่มีอำนาจสำหรับการทำให้โครงการต่างๆ? ที่ไตร่ตรองไว้สำเร็จ ที่จริงแล้ว โดยอาศัยคุณลักษณะอันโดดเด่นเหล่านี้ พวกเขาสามารถเป็นหัวหอกของกิจการใดก็ตามและเป็นพลังขับเคลื่อนของภารกิจใดก็ตามที่พวกเขาเข้ามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นในระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ สายตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเราจับจ้องอยู่ที่เยาวชนบาไฮ?

??เยาวชนควรแยกตนเองออกจากทุกสิ่งทางโลก และได้รับการเติมเต็มด้วยพลังขับเคลื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ลุกขึ้นแพร่กระจายข่าวสารของพระผู้เป็นเจ้าและปลุกหัวใจทั้งหลายให้ตื่นขึ้น?

?เช่นเดียวกันกับมิตรสหายทั้งหลาย ความหวังของท่านก็คือ การที่พวกท่านควรเพิ่มพูนทั้งในด้านจำนวนและความผ่องแผ้วทางธรรม อนาคตของศาสนานี้ซึ่งเป็นที่รักยิ่งของพวกเราทุกคน ขึ้นอยู่กับพละกำลังและการอุทิศตนของชนรุ่นที่กำลังเจริญเติบโตขึ้นมา อีกไม่นานพวกท่านก็จะได้รับการร้องเรียกให้แบกรับความรับผิดชอบทั้งหลายของศาสนาและปฏิบัติภารกิจในการเผยแผ่ศาสนา? อย่างไรก็ตาม การจะทำเช่นนั้นได้ พวกท่านจะต้องมีความเพียบพร้อม พวกท่านจะต้องให้มีการพัฒนาที่เท่าเทียมกันทั้งทางด้านสติปัญญาและด้านจิตวิญญาณของท่าน?

?จุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวในการปรากฏองค์ก็เพื่อร้องเรียกให้มนุษยชาติทั้งหมดมาสู่วาจาสัตย์และความจริงใจ ความเคร่งครัดในศาสนาและความไว้วางใจได้ ความละทิ้งตนและความยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ความอดกลั้นและความเมตตากรุณา ความเที่ยงธรรมและความสุขุมรอบคอบ จุดมุ่งหมายของพระองค์ก็คือ การแต่งกายให้มนุษย์ทุกคนด้วยเสื้อคลุมแห่งลักษณะนิสัยเยี่ยงนักบุญ และเพื่อตกแต่งพวกเขาด้วยเครื่องประดับแห่งการกระทำที่ดีงามและศักดิ์สิทธิ์?

?ศิลาฤกษ์ของชีวิตที่ใช้ในวิถีของพระผู้เป็นเจ้า คือการแสวงหาความดีเลิศทางศีลธรรมและการได้มาซึ่งลักษณะนิสัยที่มีคุณลักษณะทางธรรมซึ่งเป็นที่ทรงพอพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์?

?เป็นสิ่งที่กำหนดให้มนุษย์ต้องได้มาซึ่งความรู้ ต้องบรรลุสู่ความสมบูรณ์พร้อมทางจิตวิญญาณ ต้องค้นพบสัจธรรมที่ซ่อนเร้นอยู่ และต้องแสดงออกให้ทัดเทียมกับคุณลักษณะทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้า….??

?จุดประสงค์ในการสร้างสรรค์มนุษย์ของพระผู้เป็นเจ้าที่เคยเป็นมาและจะคงเป็นเช่นนั้นตลอดไป ก็คือการช่วยให้เขารู้จักพระผู้สร้างของเขาและบรรลูสู่ที่ประทับของพระองค์?

?พระผู้ทรงถูกประทุษร้ายผู้นี้ขอเป็นพยานว่าจุดประสงค์ที่มนุษย์ผู้ต้องมลายไปมี นับตั้งแต่ก้าวจากศูนยภาพมาสู่อาณาจักรแห่งการดำรงอยู่ ก็คือการที่พวกเขาจะทำงานเพื่อความเจริญของโลกและอาศัยอยู่ด้วยกันด้วยความปรองดองและความกลมเกลียว?

?เกียรติและความโดดเด่นของบุคคลผู้หนึ่งประกอบอยู่ในสิ่งนี้ นั่นคือ พวกเขาต้องกลายเป็นแหล่งกำเนิดของความดีงามทางสังคมทั้งปวงในท่ามกลางฝูงชนจำนวนมากมายของโลก จะมีพระกรุณาธิคุณใดที่นึกเห็นได้ที่ยิ่งใหญ่ได้มากกว่านี้ ที่บุคคลผู้หนึ่งเมื่อมองเข้าไปในตนเองแล้วควรพบว่า โดยความโปรดปรานที่ให้การรับรองของพระผู้เป็นเจ้า เขาจึงได้กลายเป็นต้นเหตุของสันติภาพและความผาสุก ของความสุขและประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ของเขา โดยพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวแล้ว ไม่มีความสุขสำราญใดยิ่งใหญ่กว่านี้ ไม่มีความยินดีใดที่สมบูรณ์มากกว่านี้?

?มนุษย์จะดีเลิศและมีเกียรติเพียงใดถ้าเขาลุกขึ้นเพื่อทำให้บรรลุความรับผิดชอบของตน ? เขาจะร้ายกาจและน่าตำหนิเพียงใดถ้าเขาปิดตาของตนเองจากความปลอดภัยของสังคม และหมดเปลืองชีวิตอันมีค่าของเขาไปกับการดำเนินตามความสนใจที่เห็นแก่ตัวและผลประโยชน์ส่วนตน?

?จงอย่าสาละวนตัวเจ้ากับธุระของตนเอง ขอให้ความคิดของเจ้ามุ่งไปยังสิ่งที่จะฟื้นฟูโชคชะตาของมนุษยชาติ และทำให้หัวใจและจิตวิญญาณของมนุษย์บริสุทธิ์?

?พวกเขาผู้เป็นประชาชนของพระผู้เป็นเจ้าจะไม่มีความทะเยอทะยานใด นอกเสียจากการฟื้นฟูโลก การทำให้วิถีชีวิตของโลกมีความประเสริฐ และการให้ชีวิตใหม่แก่ชาวโลก?

?ชนชาติมนุษย์ผู้มีลักษณะที่ไม่มีใครเปรียบปานได้จะได้รับการบำรุงเลี้ยงขึ้นมา ด้วยเท้าที่ไม่ผูกพัน ชนชาตินี้จะเดินอยู่ภายใต้ทุกคนที่อยู่ในสวรรค์และบนโลก และจะกางแขนเสื้อแห่งความศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือทุกสิ่งที่ได้รับการสร้างสรรค์จากน้ำและดินเหนียว?

?จงกล่าวว่า เขาผู้นั้นไม่ถูกนับเป็นประชาชนแห่งบาฮา ผู้ที่ปล่อยใจไปตามความปรารถนาทางโลกของตนเองหรือผู้ที่ปักใจอยู่กับสิ่งต่างๆ ทางโลก เขาผู้นั้นเป็นสาวกที่แท้จริงของเรา หากเขาเดินมาถึงหุบเขาแห่งทองคำบริสุทธิ์ เขาจะเดินผ่านไปอย่างเมินเฉยดังเช่นก้อนเมฆ และจะไม่หันหลังกลับหรือหยุดชะงัก เขาผู้นั้นเป็นคนของเราอย่างแน่นอน เหล่าเทพเทวัญเบื้องบนจะสามารถสูดดมกลิ่นหอมหวานแห่งความศักดิ์สิทธิ์จากเสื้อผ้าอาภรณ์ของเขาได้?

?บรรดาสหายของพระผู้เป็นเจ้า คือ ก้อนน้ำตาลที่ต้องใช้หมักแป้งขนมปังแห่งประชาชาติของโลกนั้นให้ฟูขึ้น พวกเขาต้องแสดงออกถึงความไว้วางใจได้ วาจาสัตย์และความมานะบากบั่น ด้วยการกระทำและลักษณะนิสัยในแบบอย่างที่มนุษยชาติทั้งหลายจะได้รับประโยชน์จากการทำตนเป็นตัวอย่างของพวกเขา?

?ภายในลมหายใจของจิตวิญญาณดังกล่าว ผู้ซึ่งมีความบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์นั้นมีศักยภาพที่ทรงอิทธิพลยิ่งซ่อนเร้นอยู่ ศักยภาพเหล่านี้ยิ่งใหญ่มากจนถึงขั้นที่มีอิทธิพลต่อทุกสรรพสิ่งที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมา?

?ดูกร สหายของพระผู้เป็นเจ้า จงแสดงให้เห็นถึงความพยายามเพื่อว่าทุกประชาชาติและชุมชนทั้งหมดในโลก แม้กระทั่งผู้เป็นศัตรูจะมีความไว้วางใจ ความเชื่อมั่นและความหวังในตัวท่าน นั่นคือ ถ้าบุคคลผู้หนึ่งกระทำสิ่งผิดพลาดนับแสนครั้ง เขาก็จะยังหันหน้ามาหาท่านอย่างเปี่ยมด้วยความหวังว่าท่านจะให้อภัยในความ ผิดผลาดทั้งหลายของเขา เพราะเขาต้องไม่สิ้นหวัง ไม่เศร้าโศกหรือหดหู่ใจ นี่คือความประพฤติและกิริยามารยาทของประชาชนแห่งบาฮา นี่คือรากฐานของวิถีทางอันสูงส่งที่สุด ท่านควรทำความประพฤติและมารยาทให้สอดคล้องกับคำแนะนำของพระอับดุลบาฮา?

?เราขอเป็นพยาน วันเวลานั้นใกล้มาถึงแล้วอันเป็นเวลาที่เราจะม้วนเก็บโลกและทุกสิ่งที่อยู่ภายใน แล้วกางระบบใหม่ออกมาแทนที่?

?สมดุลของโลกถูกรบกวนโดยอานุภาพสั่นสะเทือนของระบบแห่งโลกใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ แบบแผนชีวิตของมนุษยชาติถูกปฏิวัติโดยปฏิบัติการของระบบที่พิเศษและอัศจรรย์นี้อย่างที่ไม่เคยปรากฏต่อสายตาของมนุษย์มาก่อน?

??ความยุติธรรมและความจริงจะครอบคลุมโลก? ความเป็นศัตรูกันและความเกลียดชังจะสาบสูญไป สาเหตุทั้งหมดของการแบ่งแยกระหว่างผู้คน เผ่าพันธุ์และชนชาติจะหายไป และสาเหตุของการรวมกัน ความกลมเกลียวและความปรองดองจะปรากฏขึ้น ผู้ที่ไม่เอาใจใส่จะตื่นขึ้น ผู้ที่ตาบอดจะมองเห็น ผู้ที่หูหนวกจะได้ยิน ผู้ที่เป็นใบ้จะพูด ผู้ที่เจ็บป่วยจะได้รับการรักษา ผู้ที่ตายแล้วจะลุกขึ้นมา สงครามจะหลีกทางให้สันติภาพเข้ามาแทนที่ ความเป็นศัตรูกันจะถูกพิชิตโดยความรัก สาเหตุของการโต้แย้งและการถกเถียงกันจะถูกขจัดไปจนหมดสิ้น และความสุขหรรษาอย่างแท้จริงจะเป็นสิ่งที่บรรลุถึง? โลกจะกลายเป็นภาพสะท้อนของอาณาจักรสวรรค์ มนุษยชาติจะเป็นบัลลังก์ของทวยเทพจากสวรรค์??

?สิ่งที่ตอบสนองได้ต่อความต้องการของมนุษย์ระหว่างช่วงแรกของประวัติศาสตร์ของชนชาติจะไม่สามารถตอบสนองหรือเป็นที่พึงพอใจแก่ความต้องการของยุคนี้และช่วงเวลาของความใหม่และความบริบูรณ์ มนุษยชาติได้ก้าวพ้นจากข้อจำกัด ที่มีมาแต่ก่อนและการฝึกฝนเบื้องต้นแล้ว ในตอนนี้มนุษย์ต้องเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและพลังอำนาจใหม่ ศีลธรรมใหม่ และความสามารถใหม่ พระพรใหม่ ของประทานใหม่ และความสมบูรณ์พร้อมใหม่กำลังรอคอยอยู่และกำลังลงมาสู่เขาแล้ว?

?…. เราต้องมานะพยายามด้วยหัวใจและวิญญาณเพื่อว่าความมืดมนของโลกอันไม่แน่นอนนี้จะถูกปัดเป่าไป เพื่อที่แสงสว่างแห่งอาณาจักรสวรรค์จะสาดส่องอยู่เหนือทุกขอบฟ้า โลกแห่งมนุษยชาติจะได้รับการส่องสว่าง ภาพสะท้อนของพระผู้เป็นเจ้าปรากฏขึ้นบนกระจกของมนุษย์ กฎของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการสถาปนาขึ้นอย่างมั่นคง และทุกภูมิภาคของโลกจะได้รับความพึงพอใจจากสันติภาพ ความสบายและความสงบภายใต้การปกป้องอันยุติธรรมของพระผู้เป็นเจ้า??

?ดูกร บุตรแห่งปฐพี แท้จริงแล้ว จงรู้เถิดว่า หัวใจที่ยังมีความริษยาเหลืออยู่แม้เพียงน้อยที่สุด จะไปไม่ถึงอาณาจักรนิรันดร์ของเรา และจะไม่ได้สูดสุคนธรสแห่งความบริสุทธิ์ที่โชยมาจากอาณาจักรอันวิสุทธิ์ของเรา??

?ดวงจิตแห่งความรักและความเมตตารักใคร่นั้นต้องแรงกล้าอย่างมากจนคนแปลกหน้ายังพบว่าตนเองกลายเป็นเพื่อน ศัตรูกลายเป็นพี่น้องที่แท้จริง จนไม่มีความแตกต่างใดๆ อยู่เลยระหว่างพวกเขา??

?ดูกร บุตรแห่งธุลี ผู้ยากไร้ถอนหายใจในยามค่ำคืน จงบอกคนร่ำรวยให้รู้ไว้ เพื่อมิให้พวกเขาประมาทจนหลงทางไปสู่ความหายนะและถูกพรากจากพฤกษาสวรรค์แห่งความมั่งคั่ง การให้และความเอื้อเฟื้อคือคุณลักษณะของเรา ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ผู้ที่ประดับตนเองด้วยคุณธรรมของเรา??

?จงเป็นผู้ออกหมายเรียกให้คนรักกันและจงเมตตากรุณาต่อมนุษยชาติทั้งหมด จงรักบุตรหลานของมนุษย์และร่วมรับความโศกเศร้ากับพวกเขา จงเป็นหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนสันติภาพ จงหยิบยื่นมิตรภาพของท่าน จงเป็นผู้ควรค่าแก่การไว้วางใจ? จงเป็นยาสมานสำหรับทุกบาดแผล จงเป็นยารักษาสำหรับทุกโรค จงเชื่อมโยงจิตวิญญาณเข้าด้วยกัน จงท่องสวดถ้อยวจนะแห่งการนำทาง จงยุ่งอยู่กับการบูชาพระผู้เป็นนายของท่านและจงลุกขึ้นเพื่อนำประชาชนไปในทางที่ถูกต้อง จงเปล่งวาจาของท่านและสอน และจงให้ใบหน้าของท่านเปล่งปลั่งด้วยเพลิงแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า จงอย่าหยุดแม้แต่ขณะเดียว จงอย่าแสวงหาที่จะถอนหายใจอย่างสบายอารมณ์ ดังนี้ ขอให้ท่านกลายเป็นเครื่องหมายและสัญลักษณ์แห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้าและเป็นธงชัยแห่งกรุณาธิคุณของพระองค์?

?วันเวลาที่การบูชาโดยไร้การปฏิบัติถูกพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่เพียงพอนั้นหมดลงแล้ว ? เวลานั้นมาถึงแล้ว อันเป็นเวลาที่ไม่มีสิ่งใดนอกจากเจตนาอันบริสุทธิ์ที่สุด ที่ได้รับการเสริมแรงด้วยการกระทำอันบริสุทธิ์อย่างไร้มลทิน จะขึ้นไปสู่บัลลังก์ของพระผู้ทรงความสูงส่งที่สุดและเป็นที่ยอมรับได้ของพระองค์??

?จงคบหาสมาคมกับผู้คนทุกเชื้อชาติและศาสนาของโลกด้วยวาจาสัตย์ ความเที่ยงธรรม ความเชื่อถือ ความเมตตากรุณา ความปรารถนาดี และไมตรีจิตอย่างที่สุด เพื่อว่าโลกแห่งการดำรงอยู่ทั้งหมดจะเต็มไปด้วยความปีติยินดีอย่างเหลือล้นอันศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุณาธิคุณบาฮา? เพื่อว่าอวิชชา ความเป็นศัตรู ความเกลียดชัง และความแค้นจะสูญสิ้นไปจากโลก และความมืดมนของความบาดหมางกันท่ามกลางหมู่ประชาชนและพี่น้องทั้งหลายของโลกจะหลีกทางให้กับแสงสว่างแห่งความสามัคคี หากประชาชนผู้ใดหรือประชาชาติใดแสดงความไม่ซื่อสัตย์ต่อท่าน จงแสดงความจงรักภักดีของท่านต่อเขา? หากพวกเขาอยุติธรรมกับท่านก็ขอให้ท่านแสดงความยุติธรรมต่อพวกเขา หากพวกเขาปลีกตัวห่างจากท่านก็จงดึงดูดพวกเขามายังท่าน หากพวกเขาแสดงความเป็นศัตรูก็จงมีไมตรีจิตกับพวกเขา หากพวกเขาวางยาพิษแก่ชีวิตของท่านก็จงให้ความหอมหวานแก่จิตวิญญาณของพวกเขา หากพวกเขาทำให้ท่านมีบาดแผลก็จงเป็นยารักษาแผลแก่พวกเขา เหล่านี้เป็นคุณสมบัติของผู้มีความจริงใจ เหล่านี้เป็นคุณสมบัติของผู้มีวาจาสัตย์?

??ข้าพเจ้าหวังว่า ท่านแต่ละคนจะกลายเป็นผู้มีความยุติธรรม และมุ่งความคิดของท่านไปสู่ความสามัคคีของมนุษยชาติ ว่าท่านจะไม่ทำอันตรายต่อเพื่อนบ้านของท่านเลย และจะไม่กล่าวในสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับผู้ใด ว่าท่านจะเคารพในสิทธิของมนุษย์ทุกคน และมีความเอาใจใส่ต่อประโยชน์สำหรับผู้อื่นมากกว่าตนเอง?

?พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงประกาศว่า ด้วยเหตุที่อวิชชาและการขาดการศึกษาเป็นอุปสรรคที่แบ่งแยกมนุษย์ออกจากกัน ทุกคนต้องได้รับการฝึกอบรมและการสั่งสอน ? โดยการจัดหานี้ การขาดความเข้าใจซึ่งกันและกันจะได้รับการเยียวยา และความสามัคคีของมนุษยชาติจะได้รับการส่งเสริมและจะก้าวหน้าไป การศึกษาสากลเป็นกฎสากล?

??แต่อารยธรรมจากสวรรค์กลับให้การอบรมแก่สมาชิกทุกคนในสังคมว่า ไม่มีผู้ใด ยกเว้นคนเพียงจำนวนน้อยมากจนสามารถละเลยได้ ที่จะเข้าทำการก่ออาชญากรรม ? ดังนั้น จึงมีความแตกต่างอย่างมากอยู่ระหว่างการป้องกันอาชญากรรมโดยอาศัยมาตรการที่รุนแรงและอาศัยการตอบโต้ กับการฝึกอบรมประชาชนให้พวกเขาได้รับความสว่าง และทำให้พวกเขามีจิตใจที่บริสุทธิ์ ในลักษณะที่พวกเขาจะรังเกียจการกระทำที่เป็นความผิดทางอาญาทั้งหมดโดยปราศจากซึ่งความกลัวต่อการลงโทษหรือการแก้แค้นที่จะตามมา ที่จริงแล้ว พวกเขาจะพิจารณาว่าการลงมือกระทำอาชญากรรมนั้นเป็นความเสื่อมเสียอย่างใหญ่หลวงและในตัวมันเองแล้วเป็นการลงโทษที่รุนแรงที่สุด??

?เราไม่สามารถแยกหัวใจของมนุษย์ออกจากสิ่งแวดล้อมภายนอกของเรา แล้วกล่าวว่าเมื่อใดมีการปฏิรูป ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง มนุษย์เป็นน้ำหนึ่งเดียวกันกับโลก จิตใจของมนุษย์ปั้นแต่งสิ่งแวดล้อมและถูกกระทบอย่างลึกซึ้งโดยสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน ทั้งคู่มีผลต่อกันและกัน และการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่ยั่งยืนในชีวิตของมนุษย์คือผลที่มาจากปฏิกิริยาต่อกันและกันนี้?

?…. ด้วยการดำเนินไปอย่างได้รับพลังขับเคลื่อนมากขึ้นในทุกๆ วันที่ผ่านไป พร้อมกับการรื้อถอนสิ่งกีดขวางในทุกท้องที่ การขยายขอบเขตปฏิบัติการที่เป็นประโยชน์อย่างไม่อาจต้านทานได้ท่ามกลางประชาชนและเชื้อชาติที่มีความหลากหลาย และการเปิดเผยสัญลักษณ์ที่จับใจมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ของความแข็งแรงที่แฝงเร้นอยู่ภายใน แผนงานนี้กำลังก้าวไปสู่การพิชิตจิตวิญญาณของทั้งโลกนี้??

?ขั้นตอนสุดท้ายและสูงสุดในวิวัฒนาการของแผนงานที่ได้รับการหล่อหลอมขึ้นมาโดยองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อมนุษยชาตินั้นจะได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นสัญญาณของการถือกำเนิดของอารยธรรมโลกที่ไม่มีสิ่งใดเปรียบปานได้มาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติในเรื่องของขอบเขต ลักษณะ และศักยภาพ เป็นอารยธรรมที่ชนรุ่นหลังจะกล่าวอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นผลไม้ที่งามเลิศที่สุดของยุคทองของการประสิทธิ์ประสาทธรรมของพระบาฮาอุลลาห์??

?ทุกคนต้องเข้ามีส่วนร่วม ไม่ว่าแหล่งที่มาของพวกเขาจะต่ำต้อยเพียงใดก็ตาม ไม่ว่าประสบการณ์ของพวกเขาจะมีอยู่น้อยเพียงใดก็ตาม ไม่ว่าหนทางของพวกเขาจะจำกัดเพียงใดก็ตาม ไม่ว่าการศึกษาของพวกเขาจะไม่เพียงพออย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสิ่งที่พวกเขาต้องเอาใจใส่หรือกิจที่พวกเขาต้องกระทำก่อนจะเร่งรัดเพียงใดก็ตาม ไม่ว่าสภาพแวดล้อมของความเป็นอยู่ของพวกเขาจะไม่เอื้ออำนวยเพียงใดก็ตาม??

?สนามนั้นกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งอย่างแท้จริง ช่วงเวลาก็ช่างวิกฤติเหลือเกิน ศาสนานี้ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกินและผู้ที่ทำงานให้ก็มีอยู่น้อยเหลือเกิน เวลานั้นสั้นนัก และสิทธิพิเศษนั้นช่างล้ำค่ายิ่งเสียจนไม่มีสาวกคนใดของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ที่ควรค่าพอต่อการแสดงออกถึงพระนามของพระองค์จะสามารถยอมให้มีช่วงเวลาของการลังเลใจได้แม้เพียงชั่วขณะเดียว??

?หลังจากหลายต่อหลายทศวรรษที่ผ่านพ้นไป การลงทุนลงแรงในระดับที่ครอบคลุมทั่วทั้งโลกของชุมชนที่แผ่ไปกว้างไกลนี้ เพื่อที่จะได้มาซึ่งความเข้าใจที่มากเพียงพอยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเปิดเผยพระธรรมของพระบาฮาอุลลาห์ และเพื่อที่จะประยุกต์ใช้หลักคำสอนทั้งหลายที่สถิตอยู่ในการเปิดเผยธรรมนี้ ได้บรรลุถึงจุดสูงสุดโดยการปรากฏขึ้นของโครงร่างเพื่อการปฏิบัติอันทรงพลัง ซึ่งโครงร่างนี้ได้รับการปรับแต่งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นโดยอาศัยประสบการณ์ พวกคุณโชคดีที่ได้มีความคุ้นเคยกับวิธีการและแนวทางการดำเนินงานต่างๆ ที่ปัจจุบันได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นเป็นอย่างดีแล้ว โดยอาศัยความมานะบากบั่นในการนำเอาวิธีการและแนวทางการดำเนินงานเหล่านี้ไปใช้ พวกคุณหลายคนก็คงจะได้เห็นด้วยตนเองแล้วถึงสัญญาณต่างๆ ของพลังอำนาจในการสร้างสังคมของพระธรรมคำสอนจากสวรรค์ ในการประชุมที่พวกคุณเข้าร่วมนี้ คุณกำลังได้รับการเชิญชวนให้พิจารณาถึงการเข้ามีส่วนสนับสนุนที่สามารถจะกระทำได้โดยคนรุ่นเยาว์ผู้ใดก็ตามซึ่งปรารถนาที่จะตอบสนองต่อหมายเรียกของพระบาฮาอุลลาห์ และที่จะช่วยปลดปล่อยพลังอำนาจในการสร้างสังคมนั้นออกมา?

?ความเป็นไปได้ต่างๆ ที่นำเสนอขึ้นมาโดยการกระทำร่วมกันนั้นเป็นสิ่งที่เด่นชัดเป็นพิเศษในงานของการสร้างชุมชน อันเป็นกระบวนการที่กำลังเพิ่มพลังขับเคลื่อนขึ้นในหลายต่อหลายกลุ่มชุมชน ตลอดจนในละแวกบ้านและหมู่บ้านต่างๆ ทั่วโลกที่ได้กลายเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมอย่างเข้มข้น เยาวชนมักจะอยู่ที่แนวหน้าของการทำงานในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ ?ซึ่งมิใช่เพียงเยาวชนบาไฮเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบรรดาเยาวชนที่มีความคิดคล้ายคลึงกัน ผู้ซึ่งมองเห็นอิทธิพลในแง่บวกของสิ่งที่ชาวบาไฮได้ริเริ่มขึ้น อีกทั้งได้รู้ซึ้งในวิสัยทัศน์ที่เป็นพื้นฐานของความสามัคคีและการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณ ในที่ดังกล่าว ความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ของการแบ่งปันการเปิดเผยธรรมของพระบาฮาอุลลาห์กับหัวใจทั้งหลายที่เปิดกว้าง ตลอดจนการสำรวจความหมายโดยนัยของข่าวสารของพระองค์สำหรับโลกในปัจจุบันนั้นเป็นสิ่งที่รู้สึกได้อย่างเด่นชัด ในยามที่สังคมส่วนมากเชิญชวนให้ไปสู่ความเฉื่อยชาและความไม่แยแส หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือ สนับสนุนให้มีพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดผลร้ายต่อตนเองและผู้อื่น จึงได้เกิดข้อเปรียบเทียบที่แตกต่างอย่างเด่นชัดขึ้นมาโดยผู้ที่กำลังเสริมสร้างศักยภาพของกลุ่มประชากรเพื่อที่จะบำรุงเลี้ยงและค้ำจุนแบบแผนของวิถีชีวิตของชุมชนที่เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ทางจิตวิญญาณ?

?มีโอกาสอยู่สำหรับศาสนิกชนผู้เยาว์วัยทุกรุ่นในการเข้ามีส่วนสนับสนุนแก่โชคชะตาของมนุษยชาติ ซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นอย่างยิ่งในช่วงชีวิตของพวกเขา สำหรับคนในรุ่นปัจจุบัน เวลาสำคัญมาถึงแล้วในการไตร่ตรอง ผูกมัด และทำตนเองให้แกร่งกล้าเพื่อชีวิตแห่งการรับใช้ซึ่งจะมีพระพรหลั่งไหลมาให้อย่างมากมาย ในการอธิษฐานของเรา ณ ธรณีประตูอันศักดิ์สิทธิ์ เราวิงวอนต่อพระผู้ทรงความงามแต่โบราณกาลว่า จากมนุษยชาติที่สับสนและงุนงงอย่างที่สุดนั้น พระองค์จะทรงกลั่นกรองจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ซึ่งได้รับการประสิทธิ์ประสาทด้วยสายตาที่ชัดเจนออกมา ซึ่งก็คือ เยาวชนผู้ซึ่งความหนักแน่นและความเที่ยงธรรมของเขาจะไม่ถูกลดทอนลงโดยการคำนึงถึงความผิดพลาดของผู้อื่น และเป็นผู้ที่จะไม่ถูกตรึงไว้กับที่เพราะความบกพร่องใดๆ ของตนเอง เยาวชนผู้ที่จะมองไปที่ท่านนายและ ?นำเอาบรรดาผู้ที่ถูกแยกออกไปให้กลับเข้ามาสู่แวดวงมิตรสหายที่ใกล้ชิดกัน? เยาวชนผู้ซึ่งความตระหนักของพวกเขาเกี่ยวกับความล้มเหลวทั้งหลายของสังคมจะผลักดันให้พวกเขาทำงานเพื่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมนั้นมิใช่ผลักดันให้ตนเองห่างไกลออกไป เยาวชนผู้ที่ไม่ว่าจะต้องสูญเสียมากเท่าใด จะปฏิเสธที่จะย่างกรายผ่านเลยความไม่เท่าเทียมกันที่ปลอมแปลงมาในหลายรูปแบบ และแทนที่จะเป็นเช่นนั้น จะตรากตรำเพื่อว่า ?แสงแห่งความยุติธรรมจะฉายส่องรัศมีไปปกคลุมทั้งโลก??

“ในขณะที่เยาวชนรุ่นนี้กำลังแบกรับความรับผิดชอบของการดำเนินกิจการของสังคม พวกเขาจะประสบกับภูมิทัศน์ที่มีความแตกต่างกันอย่างน่างงงวย ในทางหนึ่งภูมิภาคนี้สามารถโอ้อวดได้คู่ควรเกี่ยวกับความสำเร็จทั้งหลายในแวดวงด้านสติปัญญา เทคโนโลยี และเศรษฐกิจ? แต่ในอีกทางหนึ่งภูมิภาคนี้ล้มเหลวในการลดความยากจนที่แพร่ระบาดไปทั่ว ล้มเหลวในการหลีกเลี่ยงการเพิ่มขึ้นอย่างมากมายของทะเลแห่งความรุนแรงซึ่งกำลังคุกคามที่จะฉุดให้ประชาชนในภูมิภาคนี้จมดิ่งลงไป คำถามที่จะต้องถามอย่างตรงๆ ก็คือ แม้ว่าจะมีความมั่งคั่งอยู่อย่างมาก เพราะเหตุใดกันสังคมนี้จึงไร้สมรรถภาพในการขจัดความอยุติธรรมที่กำลังฉีกทำลายสายใยของสังคมให้ขาดสะบั้นลง”

?ดังที่เห็นประจักษ์ชัดอย่างมากพอในหลายทศวรรษของการโต้แย้งกัน คำตอบสำหรับคำถามนี้ไม่สามารถพบได้ในแรงหลงใหลทางการเมือง การแสดงออกอย่างขัดแย้งของความสนใจของชนชั้นต่างๆ หรือตำหรับทางเทคนิคใดๆ? สิ่งที่ถูกเรียกร้องให้มีคือ การฟื้นชีวิตทางจิตวิญญาณ ในฐานะสิ่งที่จำเป็นต้องกระทำก่อนของการประยุกต์ใช้อย่างประสบความสำเร็จของเครื่องมือทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และเทคโนโลยี แต่มีความจำเป็นที่จะต้องมีตัวเร่งปฏิกิริยา? ขอให้ท่านมั่นใจว่า แม้ว่าพวกท่านจะมีจำนวนน้อย พวกท่านนั้นคือช่องทางที่จะทำให้มีตัวเร่งปฏิกิริยาขึ้นมา?

?เมื่อเราสำรวจดูฉากเหตุการณ์ขององก์แรกของบทละครอันสูงส่งนี้ ภาพของพระผู้เป็นตัวเอกของเรื่อง คือพระบ๊อบนั้น ทรงปรากฏขึ้นเสมือนดาวตกอยู่เหนือขอบฟ้าเมืองชีราซ พาดผ่านท้องฟ้าอันมืดมนของเปอร์เซียจากทิศใต้ไปจรดทิศเหนือ ตกลงมาด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเศร้าใจ และสิ้นสูญไปด้วยแสงอันช่วงโชติแห่งความรุ่งโรจน์? เราเห็นดาวบริวารของพระองค์ ซึ่งเป็นกลุ่มดาวกาแล็กซีของเหล่าวีรชนผู้หลงใหลในพระผู้เป็นเจ้าขึ้นอยู่เหนือขอบฟ้าเดียวกันนั้น แผ่รัศมีอยู่ในแสงอันโชติช่วงเดียวกันนั้น เผาไหม้ตนเองอยู่ในความรวดเร็วนั้น และได้ให้แรงกระตุ้นเพิ่มเติมแก่พลังแห่งการเคลื่อนไหวที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่องของศาสนาที่เพิ่งเกิดของพระผู้เป็นเจ้า….

“เหล่าวีรชนผู้ซึ่งการกระทำส่องสว่างอยู่เหนือบันทึกแห่งการต่อสู้ทางจิตวิญญาณที่ดุเดือดซึ่งมีประชาชน? นักบวช กษัตริย์ และรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนี้ ก็คือสานุศิษย์ที่พระบ๊อบทรงเลือกสรร คือบรรดาพยัญชนะแห่งชีวิต พร้อมด้วยมิตรสหายของพวกเขา เป็นผู้เบิกทางของยุคใหม่ ผู้ต่อต้านเล่ห์กระเท่ห์ อวิชชา ความเลวทราม ความอำมหิต ความเชื่อที่ผิด และความขี้ขลาดทั้งหลาย ด้วยเจตนารมณ์อันสูงส่งอย่างไม่มีวันดับลงได้และน่าเกรงขาม? ความรู้อันลึกซึ้งอย่างน่าประหลาด คำพูดที่มีพลังโน้มน้าวอย่างกว้างขวาง ความศรัทธาในศาสนาอันแรงกล้าอย่างไม่มีใครเหนือกว่า ความกล้าหาญที่ดุดันดังราชสีห์ การละทิ้งตนเองอย่างบริสุทธิ์เยี่ยงนักบุญ ความตั้งใจมั่นที่มั่นคงดั่งหินอัคนี วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลอย่างใหญ่หลวง ความเคารพยำเกรงต่อพระศาสดาและนักบวชของพระองค์ที่ทำให้เหล่าศัตรูอึกอัก พลังอำนาจในการจูงใจที่ทำให้ปรปักษ์ตื่นกลัว มาตรฐานของความศรัทธาและความประพฤติที่ท้าทายและปฏิวัติวิถีชีวิตของเพื่อนร่วมชาติของพวกเขา”

?เพราะเมื่อคนรักที่แท้จริงและสหายผู้อุทิศตนเข้ามาถึงที่ประทับของพระผู้เป็นที่รักยิ่ง ความงามอันส่องประกายของพระผู้เป็นที่รักและเพลิงในหัวใจของคนรักจะช่วยจุดไฟและเผาผลาญม่านกั้นและเปลือกหุ้มห่อทั้งปวง ใช่แล้ว ทุกสิ่งที่เขามีอยู่ ตั้งแต่หัวใจไปจนถึงผิวหนัง จะลุกเป็นไฟ เพื่อว่าจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยนอกจากพระผู้เป็นสหายเท่านั้น?

“ดูกร สหาย? จงอย่าละทิ้งความงามนิรันดร์เพื่อความงามที่จะต้องมลายไป และจงตัดเสน่หากับโลกแห่งธุลีนี้”

?เจ้าจงรู้ไว้เถิดว่า ผู้ที่เป็นผู้รู้แจ้งนั้นคือผู้ที่ยอมรับการเปิดเผยธรรมของเรา และดื่มจากมหาสมุทรแห่งความรู้ของเรา และทะยานขึ้นไปในห้วงบรรยากาศแห่งความรักของเรา และละทิ้งทุกสิ่งนอกจากเรา และยึดมั่นอยู่กับสิ่งที่ส่งลงมาจากอาณาจักรแห่งถ้อยวจนะอันอัศจรรย์ของเรา? แท้จริงแล้ว เขาเป็นดังดวงตาของมนุษยชาติ และเป็นดังจิตวิญญาณของชีวิตแห่งร่างกายของการสร้างสรรค์ทั้งปวง ขอความรุ่งโรจน์จงมีแด่พระผู้ทรงความปรานีผู้ทรงให้ความสว่างแก่เขาและทรงทำให้เขาลุกขึ้นและรับใช้ศาสนาอันยิ่งใหญ่และทรงอานุภาพของพระองค์ แท้จริงแล้ว มนุษย์ผู้นั้นได้รับพรจากเหล่าเทพเทวัญเบื้องบนและจากผู้ที่อาศัยอยู่ในมณเฑียรสถานแห่งความโอฬาร ผู้ซึ่งได้ดื่มน้ำอมฤตแห่งพระนามของเรา พระผู้ทรงศักดานุภาพ พระผู้ทรงพลานุภาพ?

??ดูกร กองทัพของพระผู้เป็นเจ้า! เมื่อใดก็ตามที่ท่านมองเห็นบุคคลผู้หนึ่ง ซึ่งทุ่มเทความเอาใจใส่ทั้งหมดของเขาไปยังศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า; ผู้ซึ่งเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวของเขาคือสิ่งนี้ นั่นคือ การทำให้พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าก่อให้เกิดผล; ผู้ซึ่งกำลังถวายการรับใช้แก่ศาสนาด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ทั้งกลางวันและกลางคืน; ผู้ซึ่งไม่อาจเป็นที่รับรู้ได้เลยจากความประพฤติของเขาถึงร่องรอยแม้เพียงน้อยนิดของการมีอัตตา; ผู้ซึ่งแทนที่จะเป็นเช่นนั้น ได้พเนจรไปด้วยความเพลิดเพลินในพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า และเป็นผู้ที่ดื่มจากถ้วยแห่งความรู้ของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น และมีใจจดจ่ออย่างเต็มที่อยู่ในการแพร่กระจายสุคนธรสอันหอมหวานของพระผู้เป็นเจ้า และเป็นผู้ที่หลงรักในบทกลอนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า? จงรู้ความจริงไว้เป็นแน่แท้ว่าบุคคลผู้นี้จะได้รับการสนับสนุนและการเสริมกำลังจากสวรรค์; ว่าประดุจดั่งดาวประกายพรึกเขาจะส่องแสงอย่างเจิดจ้าจากฟากฟ้าแห่งกรุณาธิคุณอนันต์ แต่หากเขาแสดงจุดด่างพร้อยแม้เพียงเล็กน้อยที่สุดแห่งความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวและการรักตนเองแล้ว ความพยายามของเขาจะนำไปสู่ความว่างเปล่าและเขาจะถูกทำลายและเหลือเพียงความสิ้นหวังในท้ายสุด?

?”ขอให้ท่านจงรู้ไว้เถิดว่า แท้จริงแล้ว พระหัตถ์ของพระผู้ทรงจัดหาแห่งสวรรค์ได้ดึงดูดท่านมาสู่บัลลังก์แห่งอาณาจักรสวรรค์ และข่าวอันน่ายินดีแห่งสวรรค์ได้สร้างความปีติยินดีและความสุขให้กับท่าน ด้วยท่านได้ขจัดสิ่งห่อหุ้มและได้เปิดผ้าคลุมออกจากโฉมพระพักตร์ของพระผู้ทรงความงามแห่งสวรรค์ ได้มองเห็นพระพักตร์อันสุกใสด้วยความหยั่งรู้ของท่าน และได้กลายเป็นผู้ตระหนักในความเร้นลับแห่งความบริสุทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาแห่งสวรรค์ศาสนานี้!”

?ในตอนนี้ ด้วยหัวใจที่ท่วมท้นด้วยความรักของพระผู้เป็นเจ้า จงวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าด้วยความปีติยินดี และจงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าสำหรับการนำทางและของขวัญอันสูงส่งนี้ และจงรู้ไว้ว่า แท้จริงแล้ว กองระวังหน้าของพรสวรรค์ทั้งปวงของพระผู้เป็นนายจะนำหน้าท่านไปในทุกๆ ด้านหากเท้าของท่านมั่นคงอยู่ในวิถีของพระผู้เป็นเจ้า?

“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า คนรับใช้ผู้นี้ได้มุ่งหน้ามายังพระองค์ กำลังท่องไปด้วยใจปรารถนาในทะเลทรายแห่งความรักของพระองค์ เดินอยู่ในวิถีของการรับใช้ของพระองค์ คาดหมายความโปรดปรานของพระองค์ หวังในกรุณาธิคุณของพระองค์ วางใจในอาณาจักรของพระองค์ และดื่มด่ำอยู่กับเหล้าองุ่นแห่งของขวัญของพระองค์? ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ขอทรงเพิ่มพูนความแรงกล้าแห่งความเสน่หาของคนรับใช้ผู้นี้ต่อพระองค์ ความสม่ำเสมอในการสรรญเสริญพระองค์ของเขา และความกระตือรือร้นอย่างยิ่งในความรักของเขาต่อพระองค์”

?แท้จริงแล้ว พระองค์คือพระผู้ทรงเอื้อเฟื้ออย่างที่สุด พระผู้เป็นนายแห่งความกรุณาอันอุดม ไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดอีกนอกจากพระองค์ พระผู้ทรงให้อภัย พระผู้ทรงปรานี?

?หลังจากระยะเวลาหนึ่งได้ผ่านไป เขาจะเข้าสู่ช่วงเวลาของการเป็นเยาวชน ซึ่งสภาวะและความต้องการที่จำเป็นทั้งหลายก่อนหน้านี้จะได้รับการแทนที่ด้วยความจำเป็นใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้กับความก้าวหน้าในระดับใหม่ของเขา ความสามารถในการสังเกตของเขากว้างและลึกซึ้งมากขึ้น ความสามารถทางสติปัญญาของเขาได้รับการฝึกฝนและตื่นตัวขึ้น ข้อจำกัดและสภาพแวดล้อมของวัยเด็กไม่สามารถจำกัดพละกำลังและความสำเร็จทั้งหลายของเขาได้อีกต่อไป?

?เป็นการยากอย่างยิ่งยวดที่จะสอนบุคคลและขัดเกลาอุปนิสัยของเขาเมื่อผ่านพ้นภาวะวัยแตกหนุ่มสาวไปแล้ว? ตามที่ประสบการณ์ได้แสดงให้เห็นมา เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว แม้จะใช้ความพยายามทุกอย่างเพื่อปรับแต่งความโน้มเอียงบางอย่างของเขา ความพยายามทั้งหมดนั้นก็จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ เลย ? เขาอาจจะดีขึ้นบ้างในวันนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสองสามวัน เขาก็จะลืมและหันหลังกลับไปสู่สภาพที่เป็นนิสัยและวิถีที่คุ้นเคยของเขา?

?ลักษณะเฉพาะของสรรพสิ่งสร้างสรรค์แต่ละอย่างนั้นมีพื้นฐานอยู่บนความภูมิปัญญาแห่งสวรรค์ เพราะในการสร้างสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้านั้นไม่มีความบกพร่องใด ๆ ? ? อย่างไรก็ตาม บุคลิกภาพนั้นไม่มีองค์ประกอบของความถาวรอยู่ บุคลิกภาพเป็นคุณลักษณะในมนุษย์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยซึ่งสามารถหันเหไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่งได้? เพราะถ้าหากเขาได้มาซึ่งคุณธรรมอันน่าสรรเสริญทั้งหลาย คุณธรรมเหล่านี้ก็จะเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ลักษณะเฉพาะของมนุษย์และดึงเอาพลังที่ซ่อนเร้นทั้งหลายของเขาออกมา แต่ถ้าเขาได้มาซึ่งข้อบกพร่องต่างๆ ความงดงามและความเรียบง่ายของลักษณะเฉพาะนั้นก็จะสูญหายไปจากเขา และคุณลักษณะทั้งหลายที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานมาก็จะถูกกลบอยู่ในบรรยากาศอันเหม็นเน่าของอัตตา?

?ดูกร คนรับใช้ของเรา ? หากเจ้าสามารถเข้าใจได้ว่าเราได้มอบหมายความน่าอัศจรรย์ใดของความเอื้ออารีและความกรุณาของเราให้แก่จิตวิญญาณของเจ้าแล้ว? เจ้าย่อมกำจัดความผูกพันกับสิ่งสร้างสรรค์ทั้งหมดอย่างแท้จริง และย่อมจะได้รับความรู้ที่แท้จริงเกี่ยวกับตัวเจ้าเอง ซึ่งก็คือความรู้ที่เป็นสิ่งเดียวกันกับความเข้าใจเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของเราเอง ? เจ้าย่อมจะพบตนเองเป็นอิสระจากทุกสิ่งนอก จากเรา และจะมองเห็นได้ด้วยดวงตาทั้งภายในและภายนอกของเจ้า ถึงมหา สมุทรแห่งความเมตตารักใคร่และกรุณาธิคุณของเราที่กำลังสาดซัดอยู่ภายในเจ้า ได้อย่างประจักษ์แจ้งเช่นเดียวกับการเปิดเผยนามอันเรืองรองของเรา?

?ไกลแสนไกลจากความรุ่งโรจน์ของพระองค์? คือสิ่งที่มนุษย์ผู้ต้องมลายไปสามารถยืนยันได้เกี่ยวกับพระองค์ หรืออ้างถึงคุณสมบัติของพระองค์ หรือคำสรรเสริญที่เขากล่าวเพื่อสดุดีพระองค์ ? หน้าที่ใดก็ตามที่พระองค์ทรงกำหนดให้คนรับใช้ของพระองค์ในการสรรเสริญอย่างถึงที่สุดเกี่ยวกับความสง่างามและความรุ่งโรจน์ของพระองค์นั้น เป็นเพียงเครื่องหมายของความกรุณาของพระองค์ต่อพวกเขา ? เพื่อว่าพวกเขาจะถูกทำให้สามารถขึ้นไปสู่สถานะที่ทรงประทานให้แก่การดำรงอยู่ภายในที่สุดของพวกเขาเอง ซึ่งก็คือสถานะของความรู้เกี่ยวกับตัวตนของพวกเขาเอง?

?ทาราซข้อแรกและรัศมีแรกที่เริ่มปรากฏขึ้นมาจากขอบฟ้าแห่งคัมภีร์แม่บทคือ การที่มนุษย์ควรรู้จักตัวตนของตนเอง และรู้ว่าสิ่งใดนำไปสู่ความสูงส่งหรือความต่ำต้อย ความรุ่งโรจน์หรือความตกต่ำ ความมั่งคั่งหรือความยากจน?

?ดูกร บุตรแห่งธรรม เราสร้างเจ้าขึ้นมาล้ำค่า เหตุไฉนเจ้าจึงลดค่าตัวเอง เรานฤมิตเจ้าขึ้นมาประเสริฐ? เหตุไฉนเจ้าจึงทำตัวเองให้ต่ำลง เราให้ชีวิตของเจ้ากำเนิดมาจากสาระแห่งความรู้ เหตุไฉนเจ้าจึงแสวงหาวิชชาจากผู้อื่นนอกไปจากเรา? เราปั้นเจ้าขึ้นมาจากดินแห่งความรัก เจ้ากลับสาละวนอยู่กับผู้อื่นได้อย่างไร จงพิศดูตัวเจ้าเอง เพื่อว่าเจ้าจะเห็นเราดำรงอยู่ภายในเจ้าด้วยตนเองอย่างทรงอำนาจและทรงพลานุภาพ?

?จิตวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์พร้อมทุกดวงนั้นเอาตนเองเป็นศูนย์กลางและคิดถึงแต่เพียงความผาสุกของตนเอง?

?แต่ถ้าเขาแสดงออกแม้เพียงร่องรอยที่น้อยนิดที่สุดของความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวและความรักตนเองแล้ว ความพยายามของเขาจะไม่นำไปสู่สิ่งใดเลย และเขาจะถูกทำลายและถูกทิ้งให้หมดหวังในที่สุด?

?โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว ท่านต้องการได้รับการปลดปล่อยจากความทะนงตน คุณลักษณะนี้ ซึ่งก็คือ ความหยิ่งยโส ได้ทำให้เกิดความพินาศแก่ผู้คนที่มีความสำคัญในโลกนี้หลายคนแล้ว หากบุคคลหนึ่งครอบครองคุณลักษณะที่น่าสรรเสริญทุกประการแต่กระนั้นเป็นผู้ที่ยึดอัตตาของตนเองเป็นสำคัญแล้ว? คุณธรรมและคุณลักษณะอันดีงามทั้งหลายเหล่านั้นจะสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย และในที่สุดจะถูกเปลี่ยนไปเป็นข้อบกพร่องที่เลวร้ายที่สุด?

?ความสิ้นหวัง ทั้งในตอนนี้และต่อไปข้างหน้า คือสิ่งที่ท่านจะได้รับจากการทำตามใจตนเอง? สิ่งที่น่ารังเกียจและความทุกข์ยากจะเป็นทั้งหมดที่ท่านจะเก็บเกี่ยวได้จากความคลั่งไคล้ จากการเชื่อในคนโง่เขลาและคนไร้ความคิด?

?วันนี้ ประชาชนทุกคนบนโลกกำลังหมกมุ่นอยู่กับประโยชน์ส่วนตนและใช้ความพยายามอย่างที่สุดที่จะส่งเสริมประโยชน์ทางวัตถุของตนเอง? ? พวกเขากำลังบูชาตนเอง ไม่ใช่การดำรงอยู่ที่แท้จริงแห่งสวรรค์หรือโลกแห่งมนุษยชาติ?

?ดังที่ท่านได้เขียนมาเล่าให้ฟัง การทดสอบเหล่านี้เป็นการชำระล้างรอยเปื้อนของอัตตาออกไปจากกระจกแห่งหัวใจจนกว่าดวงอาทิตย์แห่งสัจธรรมจะสามารถฉายแสงส่องลงบนกระจกนั้น ? ? เพราะว่าไม่มีม่านใดจะกั้นขวางได้มากเท่าอัตตา และไม่ว่าม่านนั้นจะบางเพียงใด ในที่สุดก็จะปิดกั้นบุคคลผู้นั้นออกไปโดยสิ้นเชิงและพรากเขาจากการได้รับส่วนแบ่งของเขาจากกรุณาธิคุณอันไม่รู้สิ้น?

?จงสังเกตดูว่าดวงอาทิตย์ส่องแสงมายังสรรพสิ่งแห่งการสร้างสรรค์ทั้งมวลอย่างไร? แต่เฉพาะพื้นผิวที่บริสุทธิ์และได้รับการขัดเงาแล้วเท่านั้นที่จะสามารถสะท้อนความรุ่งโรจน์และแสงสว่างของดวงอาทิตย์ได้? จิตวิญญาณที่มืดมนไม่มีส่วนแบ่งของการเปิดเผยแสงเจิดจ้าอันรุ่งโรจน์แห่งการดำรงอยู่ที่แท้จริง และดินแห่งอัตตาซึ่งไม่สามารถได้รับประโยชน์จากแสงนั้นก็ไม่ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตใด ๆ …?

?ช่างเป็นความตกต่ำเพียงใดสำหรับจิตวิญญาณที่สามารถพบความหรรษาได้ในความมืดมนนี้ หมกมุ่นอยู่กับตนเอง เป็นนักโทษของอัตตาและกิเลส และกลิ้งเกลือกอยู่ในโคลนตมของโลกวัตถุ?

?วันนี้ การรับรองของอาณาจักรอับฮาอยู่กับผู้ที่สละตนเอง ลืมความเห็นของตนเอง โยนบุคลิกลักษณะทิ้งไป และกำลังคิดถึงสวัสดิภาพของผู้อื่น ? ผู้ใดก็ตามที่ได้สูญเสียตนเองไปย่อมได้ค้นพบจักรวาลและผู้อาศัยในนั้น ผู้ใดก็ตามที่หมกมุ่นอยู่กับตนเองย่อมเป็นผู้ที่กำลังพเนจรไปในทะเลทรายของความประมาทและความปวดร้าว? ?กุญแจดอกหลัก?สู่การควบคุมตนเองก็คือการลืมตนเอง ถนนสู่พระราชวังแห่งชีวิตนั้นต้องเข้าไปโดยทางวิถีของการละทิ้ง?1

?พระองค์ทรงประสิทธิ์ประสาทพวกเราด้วยพลังอำนาจในการมองเห็นสภาวะที่แท้จริงของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง? แต่เราต้องเป็นผู้ที่ละทิ้งตนเอง เราต้องมีดวงจิตที่บริสุทธิ์ เจตนาที่บริสุทธิ์ และพยายามด้วยหัวใจและวิญญาณในขณะที่ยังอยู่ในโลกมนุษย์เพื่อบรรลุสู่ความรุ่งโรจน์อันไม่รู้สิ้น?

?ด้วยเหตุฉะนี้ ม่านแห่งอัตตาอันเลวทรามต้องถูกเผาทิ้งไปด้วยเพลิงแห่งความรัก เพื่อว่าดวงจิตจะได้รับการทำให้บริสุทธิ์และได้รับการชำระล้าง? และเพื่อว่าจะทราบเกี่ยวกับสถานะของพระผู้เป็นนายแห่งภพทั้งปวง?

?จงละทิ้งความคิดทั้งหมดเกี่ยวกับอัตตา และพยายามเพื่อจะเชื่อฟังและยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น ? โดยวิธีนี้เท่านั้นที่เราจะได้กลายเป็นพลเมืองของอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าและบรรลุสู่ชีวิตนิรันดร์?

?จงทำทุกสิ่งที่สามารถกระทำได้เพื่อกลายเป็นคนที่เบื่อหน่ายในอัตตา และจงผูกมัดตนเองกับพักตรากฤติแห่งความงดงาม? และเมื่อท่านได้บรรลุถึงระดับความสูงของการรับใช้นั้น ท่านจะพบสรรพสิ่งแห่งการสร้างสรรค์ทั้งมวลรวมกันอยู่ภายใต้เงาของท่าน ? นี่เป็นพระกรุณาธิคุณอันไร้ขอบเขต นี่เป็นอำนาจอธิปไตยอันสูงสุด นี่เป็นชีวิตที่ไม่มีวันตาย ทุกสิ่งนอกจากสิ่งนี้จะแสดงปรากฏซึ่งการสูญสิ้นและความเสียหายอย่างใหญ่หลวง?

?ดูกร สหาย ด้วยเหตุนี้ จงละทิ้งตนเองเพื่อว่าเจ้าจะค้นพบพระผู้ไม่มีผู้ใดเปรียบปานได้? จงก้าวผ่านโลกที่จะต้องมลายไปนี้เพื่อว่าเจ้าจะค้นหาบ้านในรังแห่งสวรรค์ จงเป็นดังศูนยภาพเพื่อว่าเจ้าจะจุดเพลิงแห่งการดำรงอยู่ขึ้นและเป็นผู้ที่คู่ควรกับวิถีแห่งความรัก?2

?ขอให้พวกเราละทิ้งความคิดถึงอัตตาทั้งหมด? ขอให้พวกเราปิดตาของเราจากทุกสิ่งบนโลก ขอพวกเราอย่าประกาศความทุกข์ทรมานของเราหรือบ่นถึงความผิดพลาดของเรา ? แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ขอให้พวกเราลืมตัวตนของเราเอง และขณะที่ดื่มเหล้าองุ่นแห่งกรุณาธิคุณสวรรค์ ขอให้พวกเราจงเปล่งเสียงร้องแห่งความปีติยินดีออกมาและหลงลืมตนเองไปในความงามของพระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ทั้งปวง?

?ดูกร ประชาชนชาวโลก จงอย่าทำตามการกระตุ้นของอัตตา เพราะอัตตานั้นเรียก ร้องอย่างยืนกรานสู่ความเลวทรามและตัณหา ? แทนที่จะเป็นเช่นนั้น จงปฏิบัติตามพระผู้ทรงครอบครองสรรพสิ่งสร้างสรรค์ทั้งปวง ผู้ทรงบัญชาให้พวกเจ้าแสดงออกซึ่งความเคร่งครัดในศีลธรรม และแสดงให้เห็นถึงความเกรงกลัวต่อ? พระผู้เป็นเจ้า?

?ผู้คนจำนวนมากกำลังหมกมุ่นอยู่กับอัตตาและความปรารถนาทางโลก และกำลังจมดิ่งลงไปในมหาสมุทรของโลกที่ต่ำกว่า และเป็นนักโทษของโลกแห่งธรรมชาติ? ยกเว้นแต่จิตวิญญาณที่ได้เป็นอิสระจากโซ่ตรวนและพันธนาการแห่งโลกวัตถุ ที่เป็นดังนกซึ่งโผบินขึ้นอย่างรวดเร็วในอาณาจักรอันไม่มีขีดจำกัดนี้ พวกเขาตื่นตัวและเฝ้าระวังระไว พวกเขาหลบหลีกการบดบังของโลกแห่งธรรมชาติ ความปรารถนาสูงสุดของพวกเขามีศูนย์กลางอยู่ที่การขจัดการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อการดำรงอยู่ให้หมดไปจากหมู่มนุษย์ การส่องสว่างให้เห็นถึงความผ่องแผ้วทางธรรมและความรักแห่งอาณาจักรเบื้องบน การมีความเมตตากรุณาอย่างที่สุดในท่ามกลางประชาชน การตระหนักในความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดและแน่นแฟ้นระหว่างศาสนาต่าง ๆ กับการปฏิบัติตามแนวทางแห่งการสละอัตตา? เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วโลกแห่งมนุษยชาติจึงจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า?

?ดูกร กองทัพของพระผู้เป็นเจ้า? ปัจจุบัน ในโลกนี้ทุกคนกำลังร่อนเร่หลงทางไปในทะเลทรายของตน? เคลื่อนไปทางโน้นบ้างทางนี้บ้างตามที่ความคิดฟุ้งซ่านและอำเภอใจบงการ เพื่อดำเนินไปตามความหุนหันพลันแล่นของตน? ในหมู่ฝูงชนที่คับคั่งของโลกนั้น มีเพียงชุมชนแห่งพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุดชุมชนนี้ ที่เป็นอิสระและอยู่ห่างไกลจากเล่ห์เพทุบายของมนุษย์ และไม่มีจุดประสงค์อันเห็นแก่ตัวใดให้ส่ง เสริม? คนเหล่านี้ได้ลุกขึ้นอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางคนทั้งหมด ด้วยจุดมุ่งหมายที่บริสุทธิ์ปราศจากอัตตา เพื่อปฏิบัติตามคำสอนของพระผู้เป็นเจ้า กระตือรือร้นอย่างที่สุดที่จะทำงานหนักและพยายามให้บรรลุเป้าหมายหนึ่งเดียว ซึ่งก็คือการเปลี่ยนโลกที่ต่ำกว่านี้ให้เป็นสวรรค์เบื้องบน การทำให้โลกนี้เป็นกระจกให้กับอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า การเปลี่ยนโลกนี้ให้เป็นโลกที่แตกต่างออกไป และการทำให้มนุษยชาติทั้งหมดเริ่มใช้วิถีแห่งความเที่ยงธรรมและแบบอย่างใหม่ของชีวิต?

?ดูกร เจ้าผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้า ในยุคศาสนาบาไฮนี้ ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าเป็นเจตนารมณ์ที่ไม่มีสิ่งใดเจือปน ? ศาสนาของพระองค์ไม่ได้เป็นของโลกวัตถุ ศาสนานี้มิได้มาเพื่อการต่อสู้หรือสงคราม การกระทำที่ประสงค์ร้ายหรือน่าละอาย ศาสนานี้มิได้มาเพื่อทะเลาะเบาะแว้งกับศาสนาอื่นๆ หรือขัดแย้งกับประชาชาติทั้งหลาย? กองทัพเดียวที่ศาสนานี้มีอยู่คือความรักของพระผู้เป็นเจ้า ความปีติยินดีเดียวที่มีคือเหล้าองุ่นอันใสสะอาดของความรู้ของพระองค์ การต่อสู้เดียวของศาสนานี้คือการอธิบายสัจธรรมแห่งสวรรค์ สงครามเดียวที่มีก็คือการต่อต้านอัตตาที่ยืนกราน ซึ่งก็คือแรงกระตุ้นอันชั่วร้ายของหัวใจของมนุษย์? ชัยชนะของศาสนานี้คือการยอมจำนนและยอมแพ้ และการไม่เห็นแก่ตัวคือความรุ่งโรจน์อันไม่รู้สิ้นของศาสนานี้?

?ข้าแต่พระผู้เป็นนาย ? ขอทรงบันดาลใจพวกเขาด้วยความสำนึกถึงความไร้ซึ่งอำนาจของตนอยู่เบื้องหน้าพระผู้ทรงเป็นผู้เปิดเผยตัวตนของพระองค์ และขอทรงสอนพวกเขาให้ตระหนักในความยากไร้ของธรรมชาติของพวกเขาต่อหน้าเครื่องหมายนานาของความเพียงพอในตัวพระองค์เองและความมั่งคั่งของพระองค์ เพื่อว่าพวกเขาจะมาชุมนุมกันรอบศาสนาของพระองค์ และยึดเหนี่ยวอยู่กับชายภูษาแห่งความปรานีของพระองค์ และเกาะติดกับสายใยแห่งความยินดีแห่งพระประสงค์ของพระองค์?

?ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า? ดังนั้นขอพระองค์ทรงเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์แห่งอัตตาและความปรารถนาไปจากคนรับใช้ของพระองค์? หรือขอทรงโปรดให้สายตาของประชาชนของพระองค์ถูกยกขึ้นไปสู่ระดับสูงที่พวกเขาจะไม่สังเกตเห็นสิ่งใดในความปรารถนาของตนนอกเสียจากการพัดมาของสายลมอันอ่อนโยนของความรุ่งโรจน์อนันต์ของพระองค์ และจะตระหนักในตนเองถึงแต่เพียงการเปิดเผยของตัวตนที่ทรงปรานีของพระองค์เท่านั้น เพื่อว่าโลกและทุกสิ่งที่อยู่ในโลกจะได้รับการชำระล้างจากสิ่งใดก็ตามที่แตกต่างจากพระองค์และสิ่งที่แสดงปรากฏเฉพาะแต่ตัวตนของพระองค์เท่านั้น?

?เป็นความหวังของพระอับดุลบาฮาว่าจิตวิญญาณหนุ่มสาวที่อยู่ในห้องเรียนแห่งความรู้ระดับลึกจะได้รับการดูแลจากผู้ที่ฝึกฝนให้พวกเขามีความรัก ? โดยทั่วขอบเขตที่เอื้อมถึงของจิตวิญญาณ ขอให้พวกเขาทุกคนเรียนรู้ให้ดีเกี่ยวกับความเร้นลับต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ จนถึงขั้นที่เมื่ออยู่ในอาณาจักรของพระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ทั้งปวง พวกเขาแต่ละคนซึ่งเป็นเหมือนดังนกไนติงเกลที่สามารถพูดได้ จะเปล่งเสียงร้องบอกความลับแห่งอาณาจักรสวรรค์ และเหมือนดังคนรักผู้ปรารถนาที่จะพร่ำออกมาถึงความต้องการอย่างปวดร้าวและอย่างเหลือแสนในพระผู้เป็นที่รักยิ่ง?

?ประการแรก จงพร้อมที่จะสละชีวิตของท่านให้กันและกัน ที่จะเลือกความผาสุกของคนทั่วไปแทนความผาสุกของตนเอง จงสร้างความสัมพันธ์ที่ไม่มีสิ่งใดมาสั่นคลอนได้ จงก่อตั้งสมาคมที่ไม่มีสิ่งใดมาทำให้แตกแยกได้? จงมีความคิดที่ไม่เคยหยุดการไขว่คว้าให้ได้มาซึ่งทรัพย์ที่ไม่มีสิ่งใดมาทำลายได้ หากไม่มีความรักอยู่แล้วจะมีการดำรงอยู่ใดที่คงอยู่ได้ เพลิงแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้าเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์เหนือกว่าสัตว์ จงเสริมความแข็งแรงให้แก่พลังที่สูงส่งกว่านี้ ซึ่งเป็นหนทางสู่การบรรลุความเจริญก้าว หน้าทั้งหมดในโลก?

?แท้จริงแล้ว ข้าพเจ้ากล่าวขอบคุณต่อพระผู้เป็นเจ้าที่พระองค์ทรงช่วยเหลือท่านให้รับใช้ศาสนาของพระองค์ในไร่องุ่นอันยิ่งใหญ่ของพระองค์?

?แท้จริงแล้ว ข้าพเจ้าสรรเสริญพระผู้เป็นนายสูงสุดของข้าพเจ้าที่ทรงเลือกท่านให้เปล่งเสียงร้องเรียกในพระนามของพระองค์ในท่ามกลางหมู่ประชาชน ที่ทรงดึงดูดท่านมาสู่ความงามของพระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ทั้งปวง และที่ทรงเสริมความแข็งแรงแก่ท่านให้ทำให้ศาสนาของพระองค์ประสบความสำเร็จ?

?แท้จริงแล้ว พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงชำระท่านให้บริสุทธิ์พ้นจากบาปเมื่อพระองค์ทรงดำดิ่งท่านลงไปในทะเลแห่งความปรานีของพระองค์และทรงโปรดให้ท่านดื่มจากถ้วยแห่งความศรัทธาและดื่มเหล้าองุ่นอันบริสุทธิ์แห่งการยอมรับ ทำได้ดี! ทำได้ดี! เพราะท่านได้ปรารถนาที่จะยอมจำนนความประสงค์ของท่านต่อพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า และได้เฝ้าปรารถนาที่จะเพิ่มพูนความรักของท่านที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า ได้ประเทืองความรู้เกี่ยวกับพระองค์ และได้มั่นคงอยู่ในวิถีของพระองค์?

?ดูกร ผู้เป็นที่รักยิ่งทางจิตวิญญาณของข้าพเจ้า? ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระผู้เป็นเจ้า ท่านได้รั้งม่านทั้งหลายออกไปและได้ยอมรับพระผู้เป็นที่รักผู้ทรงกรุณา และได้เร่งรีบไปจากที่อาศัยนี้เพื่อไปสู่อาณาจักรอันไร้สถานที่ ท่านได้ปักเต๊นท์ในภพของพระผู้เป็นเจ้าและสรรเสริญพระองค์ พระผู้ทรงดำรงอยู่ด้วยตนเอง? ท่านได้เปล่งเสียงอันไพเราะและร้องเพลงที่ทะลุทะลวงหัวใจ ดีมาก ดีมากเป็นพันเท่า เพราะท่านได้เห็นพระผู้เป็นแสงสว่างที่ปรากฏขึ้น และในร่างที่เกิดใหม่ของท่านนั้นท่านได้เปล่งเสียงร้องขึ้นว่า ?ขอพรจงมีแด่พระผู้เป็นนาย พระผู้ทรงสร้างสรรค์ที่ดีที่สุด?

?ดูกร ท่านผู้มีความจริงใจ? ท่านผู้มีความปรารถนา ท่านผู้เข้ามาดังถูกแม่เหล็กดึงดูด ท่านผู้ได้ลุกขึ้นเพื่อรับใช้ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อเชิดชูพระวจนะของพระองค์ และแพร่กระจายสุคนธรสของพระองค์ไปกว้างไกล? ข้าพเจ้าได้อ่านจดหมายอันดีเลิศของท่าน ที่เรียบเรียงอย่างสวยงาม มีข้อความจับใจ มีความหมายลึกซึ้งและข้าพเจ้าสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าและขอบคุณพระองค์ที่ทรงให้การช่วยเหลือท่านและช่วยให้ท่านสามารถรับใช้พระองค์ในไร่องุ่นอันกว้างขวางของพระองค์?

?จดหมายของท่านเป็นเสมือนช่อดอกไม้ที่หอมหวน ซึ่งแพร่กระจายกลิ่นหอมของความศรัทธาและความมั่นใจไปกว้างไกล ทำได้ดี! ทำได้ดี! ท่านได้หันหน้าของท่านไปยังอาณาจักรที่มองไม่เห็น? ดีเลิศ! ดีเลิศ! ที่ท่านได้รับการดึงดูดอยู่กับความงามของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ วิเศษมาก! วิเศษมาก! ท่านช่างโชคดีเพียงใดที่ได้บรรลุสู่พระพรอันสูงสุดนี้?

?ความหรรษามอบปีกให้แก่เรา? ในยามที่เรามีความหรรษา เรี่ยวแรงของเรากระปรี้กระเปร่ามากขึ้น? ความฉลาดของเราก็หลักแหลมขึ้นและความเข้าใจของเราก็ไม่มืดมน ดูเหมือนว่าเราสามารถจะจัดการกับโลก? และสามารถจะหาความสามารถของเราจนพบ?

?ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์ คือ ความรักอย่างเป็นสากล ซึ่งเป็นแม่เหล็กที่ทำให้การดำรงอยู่นั้นเป็นนิรันดร์ ความรักอย่างเป็นสากลนี้ดึงดูดสภาพความเป็นจริงทั้งหลายและทำให้ชีวิตถูกเติมเต็มไปด้วยความสุขหรรษาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หากความรักนี้ทะลุทะลวงเข้าไปในหัวใจของมนุษย์ พลังทั้งหลายในจักรวาลจะกลายเป็นจริงขึ้นมาในตัวเขา เนื่องจากสิ่งนี้เป็นพลังแห่งสวรรค์ซึ่งนำพาเขาไปสู่สถานะที่สูงส่ง และเขาจะไม่ก้าวหน้าไปจนกว่าเขาจะได้รับการส่องสว่างจากสิ่งนี้แล้วเท่านั้น จงเพียรพยายามที่จะเพิ่มพลังแห่งความรักของสภาพความเป็นจริง ที่จะทำให้หัวใจของเจ้าทั้งหลายกลายเป็นศูนย์รวมที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ของการดึงดูดและการสร้างอุดมคติและความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ?

?พระผู้ทรงสร้างสรรค์ได้ทรงสร้างมนุษย์ทุกคนมาจากสาระเดียวกัน และได้ทรงทำให้การดำรงอยู่อันแท้จริงของพวกเขาสูงส่งเหนือสรรพสิ่งสร้างสรรค์ทั้งหมดของพระองค์ ดังนั้น ความสำเร็จหรือความล้มเหลว การได้มาหรือสูญเสีย จึงขึ้นอยู่กับความพยายามของมนุษย์เอง ยิ่งเขาพยายามมากเท่าใด ความเจริญก้าวหน้าของเขาก็ยิ่งมากเท่านั้น?

“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงเห็นว่าข้าพเจ้าในยามที่มีความต่ำต้อยและอ่อนแอ ได้ใช้เวลาอยู่กับภารกิจอันยิ่งใหญ่ด้วยความตั้งใจที่จะเชิดชูพระวจนะในท่ามกลางมวลชน และแพร่กระจายพระธรรมคำสอนของพระองค์ไปในหมู่ประชาชนของพระองค์ ข้าพเจ้าจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรหากพระองค์ไม่ทรงช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยลมหายใจแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ โปรดทรงช่วยให้ข้าพเจ้ามีชัยชนะด้วยเหล่าเทวัญแห่งอาณาจักรอันรุ่งโรจน์ของพระองค์? และขอทรงโปรยปรายการรับรองของพระองค์ให้แก่ข้าพเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่สามารถเปลี่ยนให้ริ้นกลายเป็นนกอินทรี น้ำหยดหนึ่งกลายเป็นแม่น้ำและทะเล และทำให้อะตอมกลายเป็นแสงสว่างและดวงอาทิตย์ ข้าแต่พระผู้เป็นนาย ขอทรงช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยชัยชนะและมหิทธานุภาพอันทรงประสิทธิภาพของพระองค์ เพื่อว่าลิ้นของข้าพเจ้าจะเปล่งคำสรรเสริญและคุณลักษณะของพระองค์ในท่ามกลางประชาชนทั้งปวง และเพื่อว่าจิตวิญญาณของข้าพเจ้าจะท่วมท้นด้วยน้ำองุ่นแห่งความรักและความรู้ของพระองค์ “

?พระองค์คือ พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงกระทำในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์?

?ขอให้พวกเขาสร้างความเจริญก้าวหน้าอย่างมากที่สุดในช่วงเวลาที่สั้นที่สุด ขอให้พวกเขาเปิดตาออกกว้างและเปิดเผยการดำรงอยู่ที่แท้จริงภายในของทุกสิ่ง เป็นผู้เชี่ยวชาญในทักษะและศิลปะทุกแขนง และเรียนรู้ที่จะเข้าใจความเร้นลับของทุกสิ่งราวกับว่าพวกเขาเป็นสิ่งเหล่านั้น ความสามารถนี้เป็นหนึ่งในผลกระทบที่เด่นชัดของการรับใช้ ณ เบื้องธรณีประตูอันศักดิ์สิทธิ์?

?เป็นที่ชัดเจนว่าในขณะที่มนุษย์มีพลังที่เหมือนกันกับสัตว์ เขาก็แตกต่างจากสัตว์เพราะการบรรลุทางด้านสติปัญญา การรับรู้ทางจิตวิญญาณ การได้มาซึ่งคุณลักษณะทางธรรม ความสามารถในการรับพระกรุณาธิคุณสวรรค์ พระพรของพระผู้เป็นนายและรัศมีของความปรานีแห่งสวรรค์ เหล่านี้เป็นเครื่องประดับของมนุษย์ เป็นเกียรติและความล้ำเลิศของเขา มนุษยชาติต้องพยายามอย่างมากไปสู่สถานะอันสูงสุดนี้?

?พระองค์ได้ทรงประทานของขวัญที่เป็นวัตถุและกรุณาธิคุณทางจิตวิญญาณแก่เรา? ทรงให้สายตาภายนอกเพื่อให้เห็นแสงของดวงอาทิตย์ และการมองเห็นภายในเพื่อให้เรารับรู้ความรุ่งโรจน์ของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงออกแบบหูภายนอกเพื่อให้เราเพลิดเพลินกับท่วงทำนองของเสียงและการได้ยินภายในเพื่อที่เราจะได้ยินสุรเสียงของพระผู้สร้างของเรา?

?การรับรู้ทางจิตวิญญาณ สายตาภายในของเราต้องเปิดออก เพื่อว่าเราจะสามารถเห็นสัญลักษณ์และร่องรอยของดวงจิตของพระผู้เป็นเจ้าในทุกสิ่ง ทุกสิ่งสามารถสะท้อนให้เราเห็นแสงของพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า?

?แนวความคิดเรื่องการทำลายล้างเป็นปัจจัยหนึ่งของความเสื่อมถอยของมนุษย์ เป็นสาเหตุของการลดค่าและความตกต่ำของมนุษย์ เป็นที่มาของความกลัวและความสังเวชใจ เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความกระจัดกระจายและความอ่อนแอของความคิดของมนุษย์ ในขณะที่การตระหนักถึงการดำรงอยู่และความต่อเนื่องได้ยกระดับมนุษย์ขึ้นสู่ความล้ำเลิศของอุดมการณ์ ก่อตั้งรากฐานของความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์ และกระตุ้นพัฒนาการของคุณธรรมแห่งสวรรค์ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่จะละทิ้งเสียซึ่งความคิดเกี่ยวกับความไม่มีตัวตนอยู่และความตายซึ่งเป็นภาพฝันอย่างแท้จริง และให้มองว่าตนเองมีชีวิตอยู่ตลอดไปและคงอยู่ชั่วนิรันดร์ในจุดประสงค์แห่งสวรรค์ที่สร้างเขาขึ้นมา เขาต้องหันไปจากความคิดที่บั่นทอนจิตวิญญาณของมนุษย์ เพื่อว่าวันแล้ววันเล่าและชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าเขาจะก้าวหน้าสูงขึ้นและสูงขึ้นไปสู่การรับรู้ทางจิตวิญญาณแห่งความต่อเนื่องของการดำรงอยู่อย่างแท้จริงของมนุษย์?

?ยิ่งหัวใจของมนุษย์บริสุทธิ์และได้รับการชำระมลทินมากเพียงใด หัวใจนั้นก็จะยิ่งเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากเท่านั้น และแสงแห่งดวงอาทิตย์แห่งการดำรงอยู่อย่างแท้จริงก็จะปรากฏโฉมขึ้นภายในหัวใจนั้น แสงนี้ทำให้หัวใจเรืองรองด้วยเพลิงแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า เปิดประตูแห่งความรู้ขึ้นภายในหัวใจเหล่านั้นและเปิดผนึกของความเร้นลับแห่งสวรรค์ออก เพื่อว่าการค้นพบทางจิตวิญญาณจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้?

?เพราะในความรู้ที่มีอยู่เกี่ยวกับการดำรงอยู่ที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ นั้นมีประโยชน์ทางวัตถุอยู่? และโดยความรู้นี้อารยธรรมภายนอกก็เจริญก้าวหน้าไป แต่ความรู้ของพระผู้เป็นเจ้าเป็นต้นเหตุของความเจริญก้าวหน้าและการดึงดูดทางจิตวิญญาณ และความรู้นี้ทำให้ได้มาซึ่งการรับรู้สัจธรรม ความสูงส่งของมนุษยชาติ อารยธรรมแห่งสวรรค์ ความถูกต้องของหลักศีลธรรมและความสว่างไสว?

?ดูกร สหายของเรา! จงแสดงความขอบคุณของเจ้าต่อพระผู้เป็นเจ้าที่ได้ทรงส่องสว่างสายตาของเจ้าด้วยรัศมีอันโชติช่วงจากดวงอาทิตย์แห่งสัจธรรม และทรงฟื้นฟูเจ้าและชำระล้างเจ้าด้วยน้ำแห่งชีวิตและเพลิงแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า?

?ความรักของพระผู้เป็นเจ้านั้นถูกกล่าวว่าเป็นดั่งไฟอันเป็นสิ่งที่เผาผลาญม่านให้สิ้นไป และเป็นดั่งน้ำอันเป็นแหล่งกำเนิดแห่งชีวิต โดยย่อแล้วความรักของพระผู้เป็นเจ้าคือความเป็นจริงที่อยู่ก้นบึ้งของคุณธรรมแห่งโลกของมนุษยชาติ ด้วยสิ่งนี้ธรรมชาติของมนุษย์จะได้รับการทำให้บริสุทธิ์ ด้วยความรักของพระผู้เป็นเจ้าบุคคลหนึ่งสามารถที่จะได้รับการปลดปล่อยจากข้อบกพร่องของโลกมนุษย์ ด้วยความรักของพระผู้เป็นเจ้าบุคคลหนึ่งสามารถที่จะก้าวหน้าในอาณาจักรของคุณธรรม ความรักของพระผู้เป็นเจ้าคือแหล่งของการส่องสว่างในโลก?

?บางครั้ง ของขวัญทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้าที่ได้ปรากฎขึ้นในชีวิตอันหัศจรรย์ทุกชีวิตนั้นถูกปิดบังโดยม่านกั้นของดวงตาทางจิตที่จะต้องดับสูญไป ซึ่งทำให้มนุษย์ตาบอดและไร้ความสามารถทางจิตวิญญาณ แต่เมื่อเปลือกนอกถูกเอาออกไปและม่านที่กั้นถูกฉีกลง เมื่อนั้นสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าจะเป็นที่ประจักษ์ได้ และเขาจะเห็นแสงสว่างอันเป็นนิรันดร์สาดส่องทั้งโลก ของขวัญของพระผู้เป็นเจ้าทั้งหมดนั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดเสมอ คำสัญญาแห่งสวรรค์นั้นคงอยู่ตลอดเวลา? ความโปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้านั้นครอบคลุมทุกสิ่ง แต่ถ้าสายตาแห่งความตระหนักของจิตวิญญาณของมนุษย์ยังคงถูกปิดกั้นให้มืดมิดเพราะม่านต่างๆ แล้ว เขาก็จะถูกนำไปสู่การปฏิเสธสัญลักษณ์อันเป็นสากลทั้งหลาย และถูกกีดกันไปเสียจากการแสดงปรากฏของกรุณาธิคุณแห่งสวรรค์ ดังนั้น เราจึงต้องพยายามด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ เพื่อว่าม่านที่ปิดดวงตาของสายตาภายในจะถูกเอาออกไป และเราจะสังเกตเห็นการแสดงปรากฏของสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้า มองเห็นกรุณาธิคุณอันเร้นลับของพระองค์ และตระหนักว่าเครื่องอำนวยความสุขทางวัตถุนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับความกรุณาทางจิตวิญญาณแล้วก็ไม่มีค่าอะไรเลย?

?คำอธิษฐานของข้าพเจ้าสำหรับท่าน คือขอให้ความสามารถและความใฝ่ฝันทางจิตวิญญาณของท่านเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน และขอให้ท่านไม่มีวันยอมให้การรับรู้ทางวัตถุมาปิดบังความรุ่งโรจน์ของการส่องสว่างแห่งสวรรค์ไปจากดวงตาของท่าน?

?หนึ่งในม่านเหล่านั้นคือการตีความตามตัวอักษร การหยั่งถึงนัยสำคัญภายในนั้นจำเป็นต้องมีความพยายามอย่างมหาศาล?

?ขอความสรรเสริญจงมีแด่พระผู้เป็นเจ้าที่ท่านได้พบหนทางของท่านไปสู่อาณาจักรแห่งความงดงามอันวิเศษทั้งหลายและได้ฉีกม่านแห่งจินตนาการอันไร้สาระลง และได้รู้จักแก่นแท้ของความเร้นลับภายใน?

?ข้าพเจ้าขอวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าอย่างแรงกล้าให้ทรงปลดเปลื้องม่านที่ปกคลุมสายตาภายในของท่าน ขอทรงแสดงสัญลักษณ์อันทรงอำนาจที่สุดของพระองค์ และขอทรงทำให้ท่านเป็นธงแห่งการนำทาง แยกตนเองออกจากทุกสิ่งนอกจากพระองค์อย่างสิ้นเชิง ลุกโชติช่วงด้วยเพลิงแห่งความรักของพระองค์ ยุ่งอยู่กับการระลึกถึงพระองค์ และตระหนักในความเป็นจริงของทุกสรรพสิ่ง เพื่อว่าท่านจะเห็นด้วยตาของท่านเอง ได้ยินด้วยหูของท่านเอง และปราศจากการลอกเลียนแบบบรรพบุรุษของท่าน จงมองด้วยสายตาที่หยั่งรู้ไปยังศาสนาของพระผู้เป็นนายของท่าน เพราะประชาชนถูกปกคลุมไปด้วยม่านอันมืดมิดทั้งหลาย?

?… เพราะไม่มีม่านใดจะใหญ่หลวงกว่าอัตตา และไม่ว่าม่านนั้นจะบางเพียงใดก็ตามมันก็จะปกคลุมมนุษย์ไว้จนหมดในที่สุดและกีดกันเขาจากการรับส่วนแบ่งจากกรุณาธิคุณแห่งสวรรค์?

?กระนั้น การไล่ไขว่คว้าตามกิเลสและความปรารถนาจะปกคลุมดวงตาไว้ในม่านกั้นนับพันที่ผุดขึ้นมาจากหัวใจเพื่อจะปิดกั้นทั้งสายตาและความหยั่งรู้?

?แท้จริงแล้ว ท่านจงรู้ไว้เถิดว่า มีม่านอยู่มากมายที่ปกคลุมสัจธรรมอยู่ ซึ่งเป็นม่านที่มืดมน กระนั้นเป็นม่านบางเบาและโปร่งใส กระนั้นเป็นสิ่งปกคลุมแสงธรรมสวรรค์ เป็นภาพที่ทำให้ตาพร่ามัว? ดังเช่นดวงอาทิตย์ที่ถูกปกคลุมด้วยแสงของตนเองเมื่อเรามองที่ดวงอาทิตย์นั้นสายตาของเราก็มืดบอดและดวงตาของเราก็พร่ามัวไปชั่วขณะ?

?ข้าพเจ้าวอนขอพระผู้เป็นเจ้าขอทรงปลดม่านทั้งหมดและทำให้ดวงตาทุกดวงคุ้นเคยกับแสง เพื่อว่ามนุษย์จะไม่ถูกปิดกั้นจากการได้เห็นดวงอาทิตย์แห่งสัจธรรม?

?มีเสาหลักบางอันที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นแล้วในฐานะเครื่องค้ำจุนอันไม่มีวันสั่นคลอนได้ของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า? เสาหลักที่มีพลังมากที่สุดในบรรดาเสาหลักเหล่านี้ก็คือการเรียนรู้และการใช้สติปัญญา การขยายจิตสำนึก ความหยั่งรู้ในเรื่องการดำรงอยู่อย่างแท้จริงของจักรวาลและความเร้นลับที่ถูกปิดบังอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า?

?ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา? แหล่งกำเนิดของหัตถกรรม วิทยาศาสตร์และศิลปะทั้งหลายคือพลังแห่งการไตร่ตรอง? จงพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ไข่มุกแห่งปัญญาและถ้อยคำเหล่านี้ส่องแสงแวววาวออกไปจากเหมืองอันดีเลิศนี้ เพื่อที่จะส่งเสริมความผาสุกและความปรองดองของพี่น้องชาวโลก?

?พระองค์ทรงเสด็จมาเพื่อความรอดพ้นของเจ้า และทรงแบกรับความลำบากยากแค้นทั้งหลายเพื่อให้เจ้าขึ้นไปสู่ยอดสูงสุดของความเข้าใจโดยบันไดแห่งถ้อยคำ…?

?โดยได้รับอนุญาตจากพระผู้ทรงบัญญัติกฎผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง ด้วยการเคลื่อนไหวของปากกาแห่งความรุ่งโรจน์ เราได้ให้ชีวิตใหม่แก่มนุษย์ทุกคน และได้มอบศักยภาพใหม่ให้แก่ทุกถ้อยคำ สรรพสิ่งสร้างสรรค์ทั้งปวงป่าวประกาศหลักฐานพยานของการให้ชีวิตใหม่ทั่วโลกนี้?

?ขอให้จิตวิญญาณของท่านได้รับการส่องสว่างด้วยแสงแห่งพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า และขอให้ท่านกลายเป็นคลังเก็บความเร้นลับของพระผู้เป็นเจ้า เพราะไม่มีความสบายใดจะมากกว่าและไม่มีความสุขใดจะหอมหวานกว่าการมีความเข้าใจทางจิตวิญญาณในคำสอนแห่งสวรรค์? หากมนุษย์เข้าใจความหมายที่แท้จริงของกาพย์กลอนของกวีอย่างเช่น บทกวีของเชคสเปียร์ เขาย่อมรู้สึกพึงพอใจและยินดี ความปีติยินดีและความพึงพอใจของเขาจะยิ่งมากกว่าเพียงใดเมื่อเขารับรู้ในการดำรงอยู่อย่างแท้จริงของธรรมลิขิตศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นผู้รู้แจ้งเกี่ยวกับความเร้นลับทั้งหลายของอาณาจักรสวรรค์!?

?เรากล่าวว่า วาจาของมนุษย์คือสาระที่ใฝ่ฝันจะโน้มน้าวใจและจำเป็นต้องมีความพอประมาณ เกี่ยวกับเรื่องอิทธิพลของวาจานั้น นี่เป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับการขัดเกลาซึ่งในทางกลับกันขึ้นอยู่กับหัวใจที่บริสุทธิ์และไม่ผูกพัน?

?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้อยคำและการพูดควรทั้งประทับใจและทะลุทะลวง อย่างไรก็ตาม ไม่มีถ้อยคำใดที่จะเปี่ยมด้วยสองคุณลักษณะนี้เว้นเสียแต่ว่าถ้อยคำนั้นจะเปล่งออกมาทั้งหมดเพื่อพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น และด้วยความคำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วนของโอกาสและผู้ฟัง?2

?ข้าพเจ้าขอพระผู้เป็นเจ้าให้ทรงประดับศีรษะของท่านด้วยไข่มุกแห่งความโปรดปรานของพระองค์ ขอทรงจุดประกายเพลิงแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้าขึ้นในหัวใจของท่าน ขอทรงปลดปล่อยลิ้นของท่านในการพูดด้วยถ้อยคำที่จับใจและความหมายดีเลิศและความเร้นลับในที่ชุมนุมของผู้มีศรัทธาแก่กล้า ขอทรงทำให้ท่านเป็นดอกกุหลาบในสวรรค์ของเอล-อับฮา เป็นเทวาแห่งสวรรค์ มีความสามัคคีในความเห็น มีความกลมเกลียวในความคิด และแสดงออกถึงสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรสวรรค์ไว้บนใบหน้าของท่านในท่ามกลางประชาชนทั้งหลาย?

?หากท่านปรารถนาให้การพูดและวาจาของท่านมีผลกับหัวใจที่แข็งกระด้าง ท่านต้องแยกตนเองออกจากความผูกพันทั้งหมดกับโลกนี้และหันไปหาอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า?

?ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่จะชำระล้างตัวเจ้าให้สะอาดด้วยน้ำแห่งความไม่ผูกพันซึ่งหลั่งไหลออกมาจากปากกาสูงสุด และเป็นเวลาที่จะครุ่นคิดถึงสิ่งต่างๆ ซึ่งหลายครั้งหลายคราได้ถูกส่งลงมาหรือแสดงปรากฏทั้งหมดเพื่อพระผู้เป็นเจ้า? และจากนั้นจงพยายามให้มากเท่าที่มีอยู่ในตัวเจ้า ในการดับเพลิงแห่งความเป็นศัตรูและความเกลียดชังที่คุกรุ่นอยู่ในหัวใจของประชาชนชาวโลกด้วยพลังอำนาจแห่งปัญญาและด้วยพลังแห่งวาจาของเจ้า?

?คนรับใช้ผู้นี้ขออุทธรณ์ต่อจิตวิญญาณที่ขยันขันแข็งและใจป้ำทุกดวง ให้ใช้ความพยายามอย่างที่สุดและลุกขึ้นฟื้นฟูสภาพในทุกภูมิภาค และปลุกผู้ที่ตายแล้วให้ฟื้นขึ้นด้วยน้ำอันให้ชีวิตแห่งปัญญาและวาจา และโดยคุณธรรมแห่งความรักที่เขาเทอดทูนสำหรับพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นหนึ่ง พระผู้ไม่มีผู้ใดเปรียบปานได้ พระผู้ทรงมหิทธานุภาพ และพระผู้ทรงเกื้อกูลทุกถ้อยคำมีพลัง ดังนั้นผู้พูดหรือผู้อรรถาธิบายควรเปล่งถ้อยคำออกมาอย่างรอบคอบให้ถูกกาลเทศะ เพราะความรู้สึกที่แต่ละถ้อยคำก่อให้เกิดนั้นเป็นที่ประจักษ์และรับรู้ได้ ? พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่กล่าวว่า ถ้อยคำหนึ่งอาจเป็นเสมือนไฟ อีกถ้อยคำหนึ่งเหมือนแสงสว่าง และอิทธิพลที่เกิดจากถ้อยคำทั้งสองเป็นที่ประจักษ์แจ้งในโลก?

?ดังนั้นมนุษย์ผู้รู้แจ้งและมีปัญญาควรใช้ถ้อยคำที่อ่อนโยนประดุจนมในเบื้องต้น เพื่อว่าบุตรหลานของมนุษย์จะได้รับการอบรมเลี้ยงดูและบรรลุถึงเป้าหมายสุดท้ายของการดำรงอยู่ของมนุษย์ ซึ่งก็คือ สถานะของความประเสริฐและความเข้าใจที่แท้จริง ? และในทำนองเดียวกัน พระองค์กล่าวว่า ถ้อยคำหนึ่งเป็นเสมือนวสันตฤดูที่ทำให้ต้นอ่อนในสวนกุหลาบแห่งความรู้งอกงามเขียวขจี ขณะที่อีกถ้อยคำหนึ่งเป็นเสมือนพิษร้าย เป็นหน้าที่ของผู้มีความสุขุมรอบคอบที่จะพูดด้วยความอ่อนโยนและความอดกลั้นอย่างที่สุด เพื่อว่าความหวานของถ้อยคำของเขาจะชักนำให้ทุกคนบรรลุถึงสิ่งที่เหมาะสมกับสถานะของมนุษย์?

?ดวงตะวันแห่งวาจา ซึ่งฉายส่องอย่างช่วงโชติจากอรุโณทัยสถานแห่งการเปิดเผยธรรมสวรรค์ ได้แผ่ความเรืองรองให้กับม้วนพระธรรมและธรรมสารทั้งหลาย เพื่อว่าอาณาจักรแห่งวาจาและอาณาจักรอันสูงส่งแห่งความเข้าใจจะสั่นไหวด้วยความปีติยินดีและความปลาบปลื้มอย่างเหลือล้น และจะส่องแสงออกมาด้วยความรุ่งโรจน์แห่งแสงธรรมของพระองค์?

?จงกล่าวว่า เราได้ทำให้แม่น้ำแห่งวาจาสวรรค์ไหลออกมาจากบัลลังก์ของเรา เพื่อว่าต้นพืชอ่อนแห่งปัญญาและความเข้าใจจะงอกงามขึ้นมาจากผืนดินแห่งหัวใจของเจ้า?

?ด้วยลมหายใจของวาจาของพระองค์ สวรรค์แห่งความเข้าใจก็ได้รับการประดับประดา? และด้วยการหลั่งไหลของหมึกจากปลายปากกาของพระองค์กระดูกที่กำลังผุพังทุกชิ้นก็กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมา?

?ดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนและประจักษ์แจ้งว่า ของประทานสิ่งแรกของพระผู้เป็นเจ้าคือพระวจนะ และผู้ค้นพบและผู้รับของประทานนี้ก็คือพลังแห่งความเข้าใจ? พระวจนะนี้เป็นผู้สอนคนสำคัญที่สุดในโรงเรียนแห่งการดำรงอยู่ และเป็นผู้เปิดเผยพระองค์ผู้ทรงมหิทธานุภาพ ทุกสิ่งที่มองเห็นนั้นเป็นที่ประจักษ์ได้ก็เพียงด้วยแสงแห่งปัญญาของพระวจนะนี้ ? ทุกสิ่งที่ปรากฏออกมาเป็นเพียงหลักฐานของความรู้ของพระวจนะนี้? นามทุกนามเป็นนามของพระวจนะนี้ จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของวัตถุทั้งหมดต้องขึ้นกับพระวจนะนี้?

?…ในอาณาจักรทางจิตวิญญาณของเชาวน์ปัญญาและการยึดมั่นในอุดมการณ์นั้น จะต้องมีศูนย์กลางของแสงสว่างอยู่ และศูนย์กลางนั้นก็คือพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงอยู่เสมอและคงอยู่ตลอดไป ? แสงของพระวจนะนี้เป็นแสงของการดำรงอยู่อย่างแท้จริงซึ่งฉายส่องมายังมนุษยชาติ ให้ความสว่างแก่อาณาจักรแห่งความคิดและหลักศีลธรรม และให้กรุณาธิคุณทั้งหลายแห่งภพสวรรค์แก่มนุษย์?

?คำแนะนำประการแรกของเราคือ จงมีหัวใจที่บริสุทธิ์ เมตตา และผ่องใส เพื่อว่าเจ้าจะได้อยู่ในอาณาจักรที่ยั่งยืนชั่วนิรันดร์?

??สิ่งแรกในวิถีชีวิตของมนุษย์ต้องเป็นความบริสุทธิ์ จากนั้นจึงเป็นความสดชื่น ความสะอาด และความเป็นอิสระของจิตวิญญาณ ประการแรกก้นลำธารต้องได้รับการชำระให้สะอาด จากนั้นจึงค่อยปล่อยให้สายน้ำอันหอมหวานไหลเข้ามา?

?ข้าพเจ้าขออธิษฐานต่อพระองค์ ข้าแต่พระผู้ทรงเป็นนายแห่งนามทั้งปวงและพระผู้ทรงปกครองทั้งโลกและสวรรค์? ขอทรงโปรดให้ผู้เป็นที่รักทุกคนของพระองค์กลายเป็นถ้วยแห่งความปรานีในยุคสมัยของพระองค์ เพื่อว่าพวกเขาจะฟื้นชีวิตแก่หัวใจของคนรับใช้ของพระองค์ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ขอทรงประทานอำนาจแก่พวกเขาด้วย ให้เป็นเหมือนดังสายฝนที่หลั่งไหลลงมาจากเมฆแห่งความกรุณาของพระองค์ และเป็นสายลมที่พัดพาสุคนธรสแห่งฤดูใบไม้ผลิของความเมตตารักใคร่ของพระองค์? เพื่อว่าโดยสิ่งเหล่านี้ผืนดินแห่งหัวใจของสิ่งสร้างสรรค์ของพระองค์จะปกคลุมด้วยความเขียวชอุ่ม และจะก่อให้เกิดสิ่งต่างๆ ที่จะส่งกลิ่นหอมหวานไปทั่วอาณาจักรของพระองค์ เพื่อว่าทุกคนจะสามารถรับรู้ถึงความหอมหวานของเสื้อคลุมแห่งการเปิดเผยธรรมของพระองค์ พระองค์ทรงมีอำนาจในการกระทำสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์?

?ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ขอทรงเสริมความสามารถแก่พวกเราในการแพร่กระจายสัญลักษณ์ของพระองค์ออกไปกว้างไกลในท่ามกลางสิ่งสร้างสรรค์ของพระองค์ และในการอารักขาศาสนาของพระองค์ในอาณาจักรของพระองค์?

??ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ขอทรงเสริมความสามารถให้แก่ข้าพเจ้า ให้ข้าพเจ้าถูกนับเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่ยึดเหนี่ยวอยู่กับกฎและบัญญัติของพระองค์เพียงเพื่อเห็นแก่พระองค์เท่านั้น และสายตาของพวกเขาเพ่งมองที่พระพักตร์ของพระองค์?

?ขอทรงประทานอำนาจแก่พวกเรา ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า เพื่อที่เราจะละทิ้งตนเองและเกาะติดอย่างมั่นคงกับพระผู้ทรงเป็นผู้แสดงปรากฏตัวตนของพระองค์ พระผู้ทรงความสูงสุด พระผู้ทรงสูงส่งที่สุด?

?ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อพระองค์ โดยพระผู้ทรงเป็นอรุโณทัยสถานแห่งพระนามของพระองค์ และพระผู้ทรงเบิกอรุณแห่งคุณลักษณะของพระองค์ ขอทรงประทานสิ่งที่จะทำให้ข้าพเจ้าสามารถลุกขึ้นรับใช้พระองค์และกล่าวสรรเสริญคุณธรรมทั้งหลายของพระองค์?

?ขอทรงช่วยให้ข้าพเจ้าสามารถเป็นหนึ่งในคนรับใช้ที่ได้บรรลุถึงความพึงพอพระทัยของพระองค์?

?ขอทรงคุ้มครองเด็กเหล่านี้ ขอทรงกรุณาช่วยเหลือพวกเขาให้ได้รับการศึกษา และขอทรงช่วยให้พวกเขาสามารถทำการรับใช้โลกแห่งมนุษยชาติ?

?ข้าแต่พระผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า ขอทรงโปรดประทานสิ่งต่างๆ ที่จะช่วยให้ข้าพเจ้ามั่นคงในศาสนาของพระองค์แก่ข้าพเจ้า? เพื่อว่าความสงสัยของผู้ที่ไม่เชื่อจะไม่ขัดขวางข้าพเจ้าไปจากการหันไปหาพระองค์?

?ขอทรงโปรดช่วยให้ข้าพเจ้าได้บรรลุถึงที่นั่งแห่งสัจธรรม ณ เบื้องที่ประทับของพระองค์? ขอทรงประทานเครื่องหมายแห่งความปรานีของพระองค์ และขอทรงให้ข้าพเจ้าได้อยู่ร่วมกับคนรับใช้ของพระองค์อย่างไม่มีความกลัวใดๆ และไม่มีความเสียใจใดๆ?

??ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ขอทรงช่วยเหลือคนรับใช้ของพระองค์ให้เชิดชูพระวจนะ พิสูจน์สิ่งที่ไร้สาระและไม่จริงให้ประจักษ์? สถาปนาสัจธรรม แพร่กระจายบทกลอนศักดิ์สิทธิ์ออกไปกว้างไกล เปิดเผยความรุ่งโรจน์และทำให้แสงอรุณปรากฏขึ้นในหัวใจของผู้ที่ชอบธรรม?

?ขอทรงทำให้พวกเขาโดดเด่นอยู่ท่ามกลางประชาชนของพระองค์ เพื่อว่าพวกเขาจะสรรเสริญพระวจนะของพระองค์และส่งเสริมศาสนาของพระองค์ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ขอทรงช่วยให้พวกเขาทำตามพระประสงค์และความพึงพอพระทัยของพระองค์?