19 เมษายน 2556

เพื่อนบาไฮที่รัก

(1) เราได้รับอีเมลของคุณลงวันที่ 24 กรกฏาคม 2552 เกี่ยวกับปัญหาของเยาวชนบาไฮทั้งชายและหญิงในประเทศทางซีกโลกตะวันตกในการยึดมั่นในคำสอนบางอย่างของพระบาฮาอุลลาห์ และเราก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่การตอบนี้ใช้เวลานานมาก สภายุติธรรมแห่งสากลได้พิจารณาคำถามของคุณอย่างรอบคอบแล้วและได้ให้เราเขียนให้คุณดังต่อไปนี้

(2) คุณเขียนมาว่ามีความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมเกี่ยวกับเพศของสังคมปัจจุปันทางตะวันตกและมาตรฐานของคำสอนของศาสนาบาไฮซึ่งคุณเขียนมาว่ามีความ “สอดคล้องกับประเพณีทางศีลธรรมของโลกตะวันออก” และความแตกต่างนี้เป็นสิ่งท้าทายมากสำหรับศาสนิกชนรุ่นเยาว์ในยุคปัจจุบัน ในเรื่องนี้คุณก็อธิบายว่าเนื่องจากในอดีตเรื่องเพศเป็นเรื่องที่น่าละอายในสังคมยุโรปและเมื่อก่อนนั้นได้มีความพยายามมากมายในการปกปิดและปราบปรามเรื่องนี้ จนในปัจจุบันการที่จะละเว้นเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงานดูจะเป็นการเคร่งศาสนาอย่างโอ้อวด นอกจากนี้คุณยังเขียนว่าในยุคนี้คนมักจะเลื่อนการแต่งงานกันออกไปหลังอายุสามสิบกว่าปีแล้วหลังจากที่เยาวชนได้เสร็จสิ้นการศึกษาและได้เก็บเงินสำหรับซื้อบ้าน และชีวิตสมรสมีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าในอดีตเนื่องจากคู่สมรสมักจะทำงานกันทั้งสองคน และคุณเขียนว่าคนที่ถือความบริสุทธิ์ทางเพศเป็นอุดมคติดังเช่นนักบวชก็มักจะตกเป็นเหยื่อของพฤติกรรมทางเพศที่ผิดศิลธรรม นอกจากนี้คุณบอกเป็นนัยว่าเยาวชนบาไฮจำนวนมากพยายามตรากตรำที่จะประพฤติตามมาตรฐานของความบริสุทธิ์ที่กำหนดไว้ในคำสอน และเยาวชนคนอื่นๆ อาจจะลังเลที่จะเข้าร่วมเป็นศาสนิกชนเพราะไม่เต็มใจที่จะรักษามาตรฐานนั้น สภายุติธรรมแห่งสากลตระหนักถึงความจริงใจของคุณในการแสดงความคิดและรับทราบว่าคุณรู้สึกกังวลอย่างแท้จริงในขณะที่ช่องว่างระหว่างหลักการที่วางไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์และการปฏิบัติที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปของสังคมขยายกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง

(3) เยาวชนบาไฮในยุโรปเผชิญกับความท้าทายเฉพาะอย่างในเรื่องดังกล่าว กล่าวคือวัฒนธรรมตะวันตกถูกค้ำจุนด้วยความสำเร็จทางวัตถุและสติปัญญา และด้วยความกล้าที่เกิดจากการอธิบายความเป็นมาของสภาพการในปัจจุปันซึ่งเน้นความสำเร็จผลและความเหนือชั้นที่ขจรขจายวัฒนธรรมของตน ประเทศทางตะวันตกจึงเสนอตัวเองโดยหลายวิธีทางให้ถูกพิจารณาเป็นแบบจำลองและเกณฑ์วัดสำหรับประเทศอื่นๆ แต่กระนั้นขอให้ไตร่ตรองถึงการวิเคราะห์อันเฉียบแหลมของพระอับดุลบาฮาเกี่ยวกับจุดอ่อนของอารยธรรมยุโรปในหนังสือเรื่อง เคล็ดลับแห่งอารยธรรมสวรรค์ หลังจากนั้นขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบถึงคำชี้แนะมากมายของพระองค์ให้กับบุคคลในหนังสือเรื่องเดียวกันที่จะ “กลายเป็นบ่อเกิดของประโยชน์ทางสังคม” และ “มุ่งมั่นอย่างสูงที่จะจับเครื่องมือทั้งหมดที่ส่งเสริมสันติภาพ ความผาสุกและความสุข ความรู้ วัฒนธรรมและอุตสาหกรรม เกียรติ ค่านิยมและสถานะของมวลมนุษยชาติ? แทนที่จะยอมให้ตัวเองคล้อยตามมาตรฐานของสังคมแล้ว บาไฮศาสนิกชนถูกเรียกร้องให้เป็นผู้เดินอยู่ในแนวหน้าและสนับสนุนอารยธรรมใหม่ ประเด็นสำคัญที่คุณยกขึ้นมาจึงจำเป็นต้องได้รับการพิจารณาไม่เพียงแต่ในบริบทของสภาพทางสังคมในปัจจุบันเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาถึงกฎข้อบังคับและคำสอนของพระบาฮาอุลลาห์และความรับผิดชอบที่สานุศิษย์ของพระองค์ทุกคนแบกรับอยู่ เช่นเดียวกันกับความรับผิดชอบของชุมชนและสถาบันของศาสนาบาไฮ สิ่งดังกล่าวก็จำเป็นหากศักยภาพในการบรรลุวัตถุประสงค์ของพระองค์สำหรับมนุษยชาติจะได้ปรากฏให้เห็น

(4) เราอยู่ในยุคที่บทบาทของศาสนาถูกปรับลดลงในเรื่องที่เกี่ยวกับการสร้างรูปแบบความคิดของมนุษย์และการให้แนวทางปฏิบัติแก่ทั้งแต่ละบุคคลและส่วนรวม ในสังคมที่ยอมจำนนต่อการกำหนดของวัตถุนิยมนั้นอิทธิพลของระบบศาสนามีขอบเขตที่แคบลงและมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตระดับบุคคลเท่านั้น ?บ่อยครั้งกฎระเบียบทางศาสนาได้ถูกพิจารณาว่าเป็นข้อบังคับที่มาจากอำนาจเบ็ดเสร็จซึ่งได้รับการเชื่อฟังอย่างงมงายโดยผู้ที่ไร้ความสามารถในการคิดอย่างเป็นอิสระ หรือเป็นกฎเกณฑ์ในการปฏิบัติที่เจ้าระเบียบเกินไปและล้าสมัยที่กำหนดให้คนอื่นแบบปากว่าตาขยิบโดยผู้สนับสนุนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านั้นได้เองด้วยซ้ำ คุณธรรมกำลังถูกนิยามใหม่ในสังคมดังกล่าว และสิ่งที่กำลังรับสถานภาพว่าเป็นความจริงอย่างกังขาไม่ได้คือสมมติฐานของวัตถุนิยม ค่านิยมของวัตถุนิยม และการปฏิบัติงานทางวัตถุนิยม ซึ่งทั้งหมดนี้มีความเกี่ยวข้องกับธรรมชาติของมนุษย์และชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคม

(5) แท้จริงแล้วการลงแรงอย่างมหาศาลและทรัพยากรจำนวนมากมายในการพยายามที่จะบิดงอความจริงเพื่อให้สอดคล้องกับความปรารถนาส่วนตัวในขณะนี้คือคุณลักษณะของสังคมร่วมสมัยหลายแห่ง ผลที่ได้มาคือวัฒนธรรมที่บิดเบือนธรรมชาติและวัตถุประสงค์ของมนุษย์ และดักจับมนุษย์ให้อยู่กับการแสวงหาความเพ้อฝันและจินตนาการอันไร้สาระและทำให้พวกเขากลายเป็นเป้าหมายที่โน้มน้าวได้ง่ายในมือของผู้มีอำนาจ แต่กระนั้นความสุขและความผาสุกของมนุษย์ขึ้นอยู่กับสิ่งตรงข้าม กล่าวคือการปลูกฝังลักษณะนิสัยมนุษย์และระเบียบสังคมอย่างสอดคล้องกับความเป็นจริง คำสอนของพระผู้เป็นเจ้าส่องแสงให้เห็นความเป็นจริง ซึ่งทำให้จิตวิญญาณทุกดวงคสามารถค้นคว้าหาความเป็นจริงนั้นอย่างถูกต้อง และด้วยการมีวินัยในตัวเองทุกจิตวิญญาณก็ได้มาซึ่งคุณลักษณะเหล่านั้นที่จะแสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของมนุษย์ พระบาฮาอุลลาห์ทรงตรัสว่า “มนุษย์ควรรู้จักตนเอง และตระหนักถึงสิ่งที่นำมาซึ่งความสูงส่งหรือความต่ำต้อย ความรุ่งโรจน์หรือความเสื่อมเสีย ความมั่งคั่งหรือความยากจน”

(6) พระบาฮาอุลลาห์ทรงประกาศว่า ?จุดประสงค์ของการเปิดเผยธรรมทุงครั้ง? คือ ?การทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในคุณลักษณะโดยรวมของมนุษยชาติอันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะแสดงปรากฏทั้งภายนอกและภายใน ที่จะมีผลต่อทั้งชีวิตภายในและสภาพภายนอกทั้งหลาย? การปรากฏตัวของพระองค์ส่งสัญญาณถึงการวิวัฒนาการของ ?มนุษย์พันธุ์ที่มีธรรมชาติซึ่งไม่อาจหยั่งรู้ได้ต่อทุกสิ่งนอกจากพระผู้เป็นเจ้า” เป็นมนุษย์พันธุ์ที่ถูกชำระให้บริสุทธิ์? จากมนทินของจิตนาการอันไร้สาระและความปรารถนาที่เสื่อมทราม” และที่จะแสดงให้เห็น “สัญญาณของอธิปไตยและอำนาจของพระองค์บนโลก” คำสอนของพระบาฮาอุลลาห์ให้ “วิธีการที่นำไปสู่การยกระดับความก้าวหน้า การศึกษา การคุ้มครอง และการฟื้นฟูของประชาชนบนโลก” ?ดังนั้นในการเปิดเผยธรรมของพระองค์มีแบบแผนของสังคมในอนาคตที่แตกต่างโดยมูลฐานจากที่เคยจัดตั้งขึ้นในอดีต และการส่งเสริมกฎและการนำทางของพระองค์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่แยกออกไม่ได้จากความพยายามที่จะวางรากฐานของสังคมดังกล่าว

(7) เป็นสิ่งที่ปรากฏชัดว่าถ้าร่างกายและจิตใจจะรักษาไว้ซึ่งสุขภาพที่ดีนั้นเราไม่สามารถเพิกเฉยต่อกฎที่ควบคุมการดำรงอยู่ทางกายภาพ ดังนี้เช่นเดียวกันหากประเทศใดจะดำเนินการอย่างถูกต้องก็จะมีประเพณีนิยมทางสังคมและกฎหมายบางอย่างที่ทุกคนยอมรับและปฏิบัติตาม ในทำนองเดียวกันมีกฎและหลักการที่ควบคุมชีวิตทางจิตวิญญาณของเราและการให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งหากบุคคลและสังคมโดยรวมจะพัฒนาไปในลักษณะที่สมบูรณ์และลงรอยกัน ในการยอมรับพระผู้แสดงธรรมของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับยุคนี้ศาสนิกชนก็ยอมรับว่ากฎข้อปฏิบัติและการนำทางของพระองค์นั้นแสดงถึงความเป็นจริงของธรรมชาติของมนุษย์และวัตถุประสงค์ของการดำรงอยู่ สิ่งเหล่านี้ยกระดับจิตสำนึกของมนุษย์ เพิ่มระดับความเข้าใจ ยกระดับมาตรฐานของความประพฤติส่วนบุคคล และให้สิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญก้าวหน้าของสังคม กล่าวโดยสรุปว่าคำสอนของพระองค์เสริมสร้างพลังความสามารถของมนุษย์ คำสอนเหล่านี้เป็นสิ่งที่เบิกทางสู่ความสุขของมนุษย์ และการเรียกร้องนั้นไม่ได้เป็นการบังคับให้เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งในระบบการปกครองของแบบแผนความประพฤติที่เบ็ดเสร็จและเผด็จการแต่กลับนำไปสู่อิสรภาพที่แท้จริง ?หากมนุษย์ปฏิบัติตามสิ่งที่เราส่งมาจากนภาแห่งการเปิดเผยพระธรรม ?แน่นอนว่าพวกเขาจะบรรลุถึงอิสรภาพที่สมบูรณ์ ความสุขจงมีแด่ผู้ที่เข้าใจจุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าในการเปิดเผยสิ่งใดก็ตามจากนภาแห่งพระประสงค์ของพระองค์ที่แทรกซอนทุกสรรพสิ่ง? ?อย่าคิดว่าสิ่งที่เราเปิดเผยต่อเจ้าเป็นเพียงประมวลกฎชุดหนึ่ง ไม่เลย ที่จริงแล้วเราได้เปิดผนึกของอมฤตชั้นเยี่ยมด้วยองคุลีแห่งอำนาจและอานุภาพ วจนะที่มาจากปากกาแห่งการเปิดเผยพระธรรมเป็นพยานต่อสิ่งนี้ ดูกร มนุษย์ผู้หยั่งเห็น! จงใคร่ครวญดู?

(8) ทั่วโลกในวัฒนธรรมที่หลากหลายบาไฮศาสนิกชนเผชิญหน้ากับค่านิยมและการปฏิบัติที่ตรงกันข้ามอย่างชัดเจนกับคำสอนของศาสนาบาไฮ บางอย่างฝังตัวอยู่ในโครงสร้างทางสังคมเช่นอคติทางเชื้อชาติและการเลือกปฏิบัติทางเพศ การหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นธรรม และการเมืองที่ทุจริต ค่านิยมและการปฏิบัติอื่นๆ ก็เกี่ยวข้องกับความประพฤติส่วนบุคคลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาเสพติดพฤติกรรมทางเพศและการหมกมุ่นอยู่กับตัวเองโดยทั่วไป หากบาไฮศาสนิกชนยอมจำนนต่อประเพณีของสังคมอย่างง่ายดายสภาพของสังคมจะเปลี่ยนได้อย่างไร โดยวิธีการใดที่ชาวโลกจะเห็นความแตกต่างระหว่างระบบอันย่ำแย่ของปัจจุปันกับอารยธรรมที่มนุษยชาติกำลังถูกเรียกไปหาโดยพระบาฮาอุลลาห์ ?อย่างที่สาสน์เรซวานของสภายุติธรรมแห่งสากลปี 2555 อธิบายไว้ว่า ?มนุษยชาติกำลังเหนื่อยหน่ายกับความต้องการรูปแบบวิถีชีวิตที่ตนเองปรารถนาอยากได้มา? และ ?จิตวิญญาณดวงนั้นจะสามารถค้ำชูมาตรฐานที่สูงส่งอย่างมากมายเหนือกว่าเกณฑ์อันต่ำต้อยที่โลกใช้วัดตนเองอยู่? โดยเฉพาะอย่างยิ่งบาไฮศาสนิกชนรุ่นหนุ่มสาวต้องระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นเกรงว่าพวกเขาอาจหลงคิดว่าเขาสามารถมีชีวิตอยู่ตามบรรทัดฐานของสังคมร่วมสมัยในขณะที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของบาไฮในระดับขั้นต่ำเพื่อที่จะบรรเทาความรู้สึกผิดหรือเพื่อทำให้ชุมชนพอใจ เพราะในไม่ช้าพวกเขาจะพบว่าตัวเองถูกครอบงำในการดิ้นรนที่จะเชื่อฟังแม้คำสอนทางศีลธรรมพื้นฐานที่สุดของศาสนาบาไฮ และจะพบว่าพวกเขาเองไร้พลังอำนาจที่จะเอาใจใส่กับเรื่องท้าทายที่สำคัญของคนรุ่นเดียวกันกับเขา พระบาฮาอุลลาห์ทรงเตือนไว้ว่า “ปีกที่เปรอะเปื้อนด้วยโคลนตมจะไม่สามารถทะยานได้” ความสุขภายในที่ทุกคนแสวงหาซึ่งแตกต่างจากอารมณ์ความรู้สึกชั่วแล่น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอิทธิพลภายนอกตัว แต่เป็นสภาพที่เกิดจากความเชื่อมั่นและความรู้อย่างมีสติและรับการบำรุงเลี้ยงโดยหัวใจที่บริสุทธิ์ซึ่งสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างสิ่งที่มีความคงทนและสิ่งที่เป็นเพียงผิวเผิน ?ต่อให้เจ้าเหินไปทั่วอวกาศที่ไพศาลอย่างรวดเร็ว และเดินทางไปสุดขอบฟ้า เจ้าก็หาความสงบไม่ได้ นอกเสียจากจะยอมจำนนต่อบัญชาของเราและถ่อมตัวต่อหน้าเรา?

(9) ดังนั้นหน้าที่ที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบซึ่งนำมาโดยพระบาฮาอุลลาห์สำหรับยุคใหม่นี้อยู่ที่ศาสนิกชนแต่ละบุคคล หน้าที่นี้ตั้งอยู่ในใจกลางของความสัมพันธ์ระหว่างคนรักและผู้เป็นที่รัก ?จงปฏิบัติตามบทบัญญัติด้วยรักในความงามของเรา? เป็นคำชี้แนะของพระบาฮาอุลลาห์ แต่สิ่งที่คาดหมายในการนี้คือความพยายามอย่างยั่งยืนด้วยความปรารถนาอย่างจริงจังซึ่งไม่ใช่การบรรลุถึงความสมบูรณ์แบบในทันทีทันใด คุณลักษณะและนิสัยการทางความคิดและการกระทำที่เป็นลักษณะชีวิตของบาไฮนั้นมีการพัฒนาจากการทุ่มเทในชีวิตประจำวัน พระบาฮาอุลลาห์ทรงลิขิตไว้ว่า ?จงสำรวจตัวเจ้าเองในแต่ละวัน? และ ?ขอให้ทุกรุ่งเช้าดีกว่าเมื่อเย็นวาน? ?และทุกวันใหม่อุดมคุณค่ายิ่งกว่าวันก่อน? เป็นคำแนะนำของพระองค์ เพื่อนศาสนิกชนไม่ควรท้อแท้ในการต่อสู้ในระดับส่วนบุคคลที่จะบรรลุถึงมาตรฐานของพระผู้เป็นเจ้าหรือถูกล่อลวงโดยความคิดที่ว่า ในเมื่อความผิดพลาดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และการเป็นคนที่สมบูรณ์แบบนั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับเราก็ย่อมเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ที่จะออกแรงและพยายาม พวกเขาควรหลีดหนีจากความผิดพลาดทางด้านหนึ่งที่เกิดจากการเสแสร้ง กล่าวคือการพูดอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่างหนึ่ง และการผิดพลาดอีกด้านหนึ่งคือความประมาท กล่าวคือการเพิกเฉยต่อกฎข้อปฏิบัติโดยการวางเฉยหรือการหาเหตุผลที่จะไม่ต้องปฏิบัติตาม เช่นเดียวกันการเป็นอัมพาตทางใจด้วยความรู้สึกผิดก็เป็นสิ่งที่จะต้องหลีกเลี่ยง แน่นอนบางครั้งการหมกมุ่นอยู่กับความล้มเหลวทางศีลธรรมข้อใดข้อหนึ่งจะทำให้การพิชิตข้อเสียนั้นยิ่งท้าทายมากขึ้น

(10) ในแง่นี้สิ่งที่เพื่อนศาสิกชนจำเป็นต้องจำไว้คือในความพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายในการเจริญเติบโตทางใจส่วนบุคคลของพวกเขาและการรักษาอุดมการณ์ของศาสนาบาไฮ พวกเขาไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวในการต่อสู้กับการโจมตีของกองกำลังแห่งการเสื่อมสลายทางศีลธรรมที่ดำเนินงานอยู่ในสังคม พวกเขาเป็นสมาชิกของชุมชนที่มีจุดประสงค์ มีขอบเขตครอบคลุมทั้งโลกและที่ดำเนินภารกิจอันแน่วแน่ทางจิตวิญญาณคือการสร้างแบบแผนของกิจกรรมและโครงสร้างการบริหารที่เหมาะสมสำหรับมนุษยชาติที่กำลังเข้าสู่วัยแห่งวุฒิภาวะ แผนงานระดับโลกของศาสนาบาไฮกำหนดกรอบการทำงานสำหรับการดำเนินการซึ่งทำให้ความพยายามของชุมชนออกเป็นรูปเป็นร่าง กรอบการทำงานนี้ช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงของแต่ละบุคคลร่วมกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างเป็นสองกระบวนการที่แยกจากกันไม่ได้ โดยเฉพาะหลักสูตรของสถาบันฝึกอบรมมีจุดประสงค์ที่จะพาแต่ละบุคคลไปสู่หนทางที่เขาจะได้ค่อยๆ สร้างคุณธรรม ทัศนคติ ทักษะ และความสามารถโดยการรับใช้ ซึ่งการรับใช้นั้นมุ่งหมายที่จะระงับอัตตาอันยืนหยัดและช่วยยกระดับแต่ละบุคคลให้ออกจากขอบเขตที่รัดตัวเขาและพาเขาหรือเธอเข้ามาในกระบวนการการเครื่องไหวของการสร้างชุมชน

(11) ดังนั้นในบริบทนี้ทุกคนพบว่าตัวเองอาศัยอยู่ในชุมชนที่ประกอบด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปลูกฝังคุณลักษณะเหล่านั้นที่เป็นเอกลักษณ์ของวิถีชีวิตแบบบาไฮมากขึ้นเรื่อยๆ ในสภาพแวดล้อมนี้บรรยากาศแห่งความสามัคคีดลใจทุกๆ คน ความสัมพันธ์ที่เกิดจากการคบค้าสมาคมผูกพันพวกเขาไว้ด้วยกัน ความผิดพลาดได้รับการตอบสนองด้วยความอดกลั้นและความกลัวการล้มเหลวลดน้อยลง คำวิจารณ์ต่อคนอื่นถูกหลีกเลี่ยงและการลอบกัดและการนินทาหลีกทางให้กับการสนับสนุนซึ่งกันและกันและการให้กำลังใจ เด็กและผู้ใหญ่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่โดยการศึกษาพระวจนะอันสร้างสรรค์ด้วยกันและการไปด้วยกันในความพยายามที่จะรับใช้ เด็กๆ ได้รับการเลี้ยงดูผ่านกระบวนการการศึกษาที่มุ่งมั่นที่จะเพิ่มความเฉียบแหลมให้กับปัญญาทางจิตวิญญาณของพวกเขาและปลูกฝังดวงจิตแห่งความศรัทธา คนรุ่นหนุ่มสาวได้รับความช่วยเหลือในการตรวจสอบข้อความเท็จที่แพร่กระจายโดยสังคมและตระหนักถึงความหมกมุ่นอันไร้ผลของสังคมนั้น ต่อต้านแรงกดดันของสังคม แต่กลับลงแรงของเขาให้กับความเจริญของสังคม ส่วนสถาบันของศาสนาก็มุ่งมั่นให้แน่ใจว่าสภาพแวดล้อมลักษณะดังกล่าวนั้นได้รับการเสริมสร้าง ?สถาบันเหล่านี้ ไม่ได้สอดรู้สอดเห็นในชีวิตส่วนตัวของศาสนิกชน และไม่รู้สึกพยาบาทและไม่วิพากษ์วิจารณ์พวกเขาหรือกระตือรือร้นที่จะลงโทษผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานบาไฮ ยกเว้นในกรณีที่มีการเพิกเฉยกฎข้อปฏิบัติอย่างเห็นได้ชัดและฉาวโฉ่ที่อาจเป็นอันตรายต่อศาสนาก็อาจต้องใช้การริดรอนสิทธิทางการบริหาร นอกจากนั้นสถาบันเพ่งความสนใจไปที่การให้กำลังใจการช่วยเหลือการให้คำปรึกษาและการศึกษา

(12) สภาพแวดล้อมดังกล่าวสร้างการขับเคลื่อนที่แตกต่างมากกับการขับเคลื่อนที่เห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมปัจเจกสูงของทุกวันนี้ เช่นการแต่งงานไม่จำเป็นต้องเลื่อนออกไปนานอย่างที่พบในบางส่วนของโลกที่วุฒิภาวะและความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับวัยผู้ใหญ่ถูกเลื่อนออกไปเพื่อการแสวงหาสิทธิพิเศษจากสังคมที่จัดการยืดช่วงเวลาของวัยรุ่นให้นานขึ้น สำหรับบุคคลที่ทั้งมีส่วนในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมนี้พร้อมด้วยการรับพลังใจจากสภาพแวดล้อมเดียวกันซึ่งก็คือชุมชนบาไฮ สำหรับบุคคลนั้นการยึดมั่นในกฎข้อปฏิบัติของศาสนาบาไฮมีความหมายแฝงอยู่ด้วย และแม้ว่าการยึดมั่นในกฎข้อปฏิบัตินั้นอาจจะยังคงเป็นเรื่องยากในบางครั้ง แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดความท้าทายที่ผ่านไม่ได้อย่างที่คุณกลัวจะเกิดขึ้น

(13) สภายุติธรรมแห่งสากลมีความประสงค์ที่จะให้เราฝากความมั่นใจว่าสภายุติธรรมแห่งสากลได้วิงวอนในนามของคุณเพื่อว่าการรับรองของพระผู้ทรงความงามอันอุดมพรจะได้ดูแลความพยายามทั้งหมดของคุณในหนทางของพระองค์

ด้วยความรักบาไฮ

สำนักเลขาธิการ