?ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา? จงสอนศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า? เพราะพระผู้เป็นเจ้าบัญญัติหน้าที่ให้ทุกคนประกาศพระธรรมของพระองค์ และทรงถือว่าเป็นการกระทำที่มีกุศลสูงสุดในบรรดาการกระทำทั้งปวง?

?ดูกร คนรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า จงยินดีปรีดาเพราะข่าวอันน่ายินดีของพระผู้เป็นเจ้า? จงเป็นสุขด้วยการพัดผ่านของสุคนธรสของพระผู้เป็นเจ้า และจงยึดเหนี่ยวกับอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าในลักษณะที่การยึดเหนี่ยวนั้นทำให้ท่านแยกตนเองออกจากโลกและจุดเพลิงแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้าขึ้นในหัวใจของท่านในระดับที่ผู้ใดก็ตามที่เข้าใกล้ท่านจะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของเพลิงนั้น และถ้าหากท่านปรารถนาที่จะบรรลุถึงสถานะนี้ ท่านควรหันหน้าของท่านไปสู่พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น เพื่อว่าบางทีแสงสว่างจะสาดส่องมายังท่าน โดยแสงนี้สุคนธรสทั้งหลายของพระผู้เป็นเจ้าจะซึมซาบไปทั่วทุกภูมิภาคและแว่นแคว้น และท่านจะเป็นตะเกียงแห่งการนำทาง ที่ฉายส่องแสงแห่งความรู้แผ่ครอบคลุมไปยังประเทศและดินแดนต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไป?

?แต่ข้าพเจ้าหวังว่าการพบกันครั้งนี้จะกลายเป็นเช่นไส้ตะเกียงกับเปลวไฟ คือเมื่อไส้ตะเกียงสัมผัสกับเปลวไฟมันก็ติดไฟในทันที ข้าพเจ้ากำลังคาดหวังในผลของการพบกันครั้งนี้ว่าข้าพเจ้าจะได้เห็นท่านถูกจุดให้สว่างขึ้นดังเช่นเทียน และเผาไหม้ตัวท่านเองดุจดังผีเสื้อกลางคืนที่อยู่ในเพลิงแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า ร่ำไห้ดังเช่นเมฆฝนร่ำไห้เพราะความยิ่งใหญ่แห่งความรักและแรงดึงดูด หัวเราะดังเช่นทุ่งหญ้า และสั่นไหวด้วยความรื่นเริงยินดีดังเช่นต้นไม้อ่อนสั่นไหวโดยการพัดผ่านของสายลมจากสวรรค์แห่ง
อับฮา?

?คนรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้าต้องขึ้นไปสู่สถานะที่พวกเขาจะเข้าใจในความหมายที่ซ่อนเร้นเหล่านี้ได้ด้วยตนเองอย่างมิได้รับการช่วยเหลือและสามารถที่จะอรรถาธิบายทุกถ้อยคำได้อย่างถี่ถ้วน อันเป็นสถานะที่สายน้ำพุแห่งอัจฉริยภาพจะผุดขึ้นมาจากสัจจะของแก่นแท้ภายในที่สุดของพวกเขา และฉีดพุ่งขึ้นดั่งน้ำพุที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากแหล่งกำเนิดของมัน?

?โลกกำลังอยู่ในความยุ่งเหยิงอย่างใหญ่หลวง และปัญหาต่างๆ ของโลกดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่ควรเฉื่อยชา มิฉะนั้นเราคงจะล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของเรา พระบาฮาอุลลาห์มิได้ทรงประทานพระธรรมคำสอนของพระองค์แก่เราเพื่อให้เราถนอมและซ่อนไว้สำหรับความปีติยินดีและความพึงพอใจของเราเอง พระองค์ทรงให้คำสอนแก่เราเพื่อว่าเราจะส่งผ่านจากปากหนึ่งไปสู่อีกปากหนึ่งจนกว่าทั้งโลกจะคุ้นเคยกับคำสอนเหล่านั้น และพึงพอใจกับพรและอำนาจในการก่อความอิ่มเอมใจของคำสอนเหล่านั้น?

?ดูกร ท่านผู้เป็นตะเกียงซึ่งถูกจุดขึ้นด้วยเพลิงแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า แท้จริงแล้ว ข้าพเจ้าได้อ่านจดหมายของท่านที่แสดงถึงความรักอันแข็งแกร่งของท่าน ถึงการที่ท่านลุกโชนเจิดจ้าด้วยเพลิงแห่งความรักของพระผู้เป็นนายของท่าน พระผู้ทรงอำนาจ พระผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ และถึงการที่ดวงวิญญาณแห่งสัจธรรมได้ซึมซาบเข้าไปในแขนขา เส้นประสาท เส้นโลหิต กระดูก โลหิต และเนื้อหนังของท่านจนกระทั่งได้เข้ายึดอำนาจครอบครองไปจากมือของท่าน และเคลื่อนไหวตัวท่านตามที่ดวงวิญญาณนั้นตั้งใจ และทำให้ท่านกล่าวในสิ่งที่ดวงวิญญาณแห่งสัจธรรมนั้นต้องการ และดึงดูดท่านดังที่ดวงวิญญาณนั้นประสงค์ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับหัวใจดวงใดก็ตามที่ถูกเติมเต็มด้วยพลังแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้า ท่านจะมองเห็นร่องรอยอันน่าอัศจรรย์ใจและจะค้นพบสัญลักษณ์ทั้งหลายของพระผู้เป็นนายผู้ทรงอานุภาพอย่างแน่นอน?

?จงกล่าวว่า การช่วยเหลือเราคือการสอนศาสนาของเรา นี่คือหัวข้อสำคัญที่บรรจุอยู่ในพระธรรมสารทั้งหมด นี่คือพระบัญชาที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงของพระผู้เป็นเจ้าอันเป็นนิรันดร์ทั้งในอดีตและในอนาคต?

?ดูกร ประชาชนทั้งหลายของโลก อย่าได้ตระหนกใจเมื่อดวงตะวันแห่งความงามของเราลับฟ้าไป และนภาแห่งเทพมณเฑียรของเราเลือนหายไปจากสายตาของเจ้า จงลุกขึ้นส่งเสริมศาสนาและเชิดชูพระวจนะของเราในหมู่มนุษย์ เราอยู่กับเจ้าตลอดเวลาและจะเสริมพลังของเจ้าด้วยอานุภาพของสัจธรรม?

?พระผู้ทรงเป็นปากกาของพระผู้ทรงความสูงส่งที่สุดได้ทรงบัญชาและกำหนดหน้าที่ในการสอนศาสนาของพระองค์ให้แก่ทุกคน?. พระผู้เป็นเจ้าจะทรงดลใจแก่ผู้ใดก็ตามที่ละตนเองจากทุกสิ่งนอกจากพระองค์และจะทรงทำให้สายน้ำอันบริสุทธิ์แห่งอัจฉริยภาพและวาจาพุ่งออกมาและหลั่งไหลอย่างอุดมสมบูรณ์ออกจากหัวใจของเขาอย่างแน่นอน?

?พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดหน้าที่ในการสอนศาสนาของพระองค์แก่ทุกคน ผู้ใดก็ตามที่ลุกขึ้นปฏิบัติหน้าที่นี้จำเป็นจะต้องตกแต่งตนเองด้วยอลงกรณ์แห่งบุคลิกภาพที่ซื่อตรงและน่าสรรเสริญก่อนที่เขาจะประกาศข่าวสารของพระองค์ เพื่อว่าถ้อยคำของเขาจะดึงดูดหัวใจของผู้ที่ตอบสนองต่อการร้องเรียกของเขา?

?ดูกร ผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้า จงอย่าเอนกายของเจ้าบนที่นอน แต่จงทำตนให้กระฉับกระเฉงขึ้นในทันใดที่เจ้ายอมรับพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงสร้างสรรค์ และจงฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับพระองค์ แล้วจงรีบรุดไปทำการช่วยเหลือพระองค์ จงเปล่งวาจาของเจ้าและประกาศศาสนาของพระองค์อย่างไม่หยุดหย่อน สิ่งนี้จะดีสำหรับเจ้ายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติทั้งปวงในอดีตและอนาคต หากเจ้าจะเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่เข้าใจสัจธรรมนี้?

?หากเป็นความพึงพอใจของเราแล้ว เราจะทำให้ศาสนานี้ประสบชัยชนะด้วยอำนาจของวจนะเพียงคำเดียวจากการประทับอยู่ของเรา แท้จริงแล้ว พระองค์คือพระผู้ทรงอำนาจเหนือทุกสิ่ง พระผู้ทรงอำนาจบังคับบัญชาเหนือทุกสิ่ง หากเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว ราชสีห์ผู้มีกำลังอันทรหดย่อมจะปรากฏออกมาจากป่าแห่งมหิทธานุภาพจากสวรรค์ เสียงร้องของราชสีห์นี้เหมือนดังเสียงฟ้าร้องอันกังวานที่สะท้อนก้องอยู่ท่ามกลางภูผา อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยการดูแลเอาใจใส่ด้วยความรักของเราดีเลิศเหนือกว่าทุกสิ่ง เราจึงได้บัญญัติไว้ว่าชัยชนะอันสมบูรณ์ควรจะได้มาโดยผ่านทางวาจาและการพูด และด้วยวิธีนี้คนรับใช้ของเราทั่วโลกจะกลายเป็นผู้รับคุณประโยชน์จากสวรรค์ นี่มิใช่สิ่งอื่นใดนอกจากเครื่องหมายแห่งพระกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงประทานมาให้แก่พวกเขา?

?หากบุคคลผู้หนึ่งสอนคนที่เขารักด้วยเหตุเพราะความรักที่เขามีต่อคนนั้น ถ้าเช่นนั้นเขาย่อมจะไม่สอนผู้ที่เขาไม่รัก และการกระทำเช่นนี้มิใช่การกระทำของพระผู้เป็นเจ้า หากบุคคลหนึ่งสอนผู้อื่นเพื่อหวังผลประโยชน์สำหรับตัวเขาเอง นี่ก็มิใช่การกระทำที่มาจากพระผู้เป็นเจ้าเช่นกัน หากเขาสอนเพราะพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะทรงเป็นที่รู้จักและสอนด้วยเหตุผลนี้เพียงประการเดียวเท่านั้น เขาก็จะได้รับความรู้และความเฉลียวฉลาด? และถ้อยคำของเขาซึ่งถูกเสริมให้มีอำนาจโดยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็จะมีผลและจะฝังรากอยู่ในจิตวิญญาณของบรรดาผู้ที่อยู่ในสภาพอันเหมาะสมที่จะรับถ้อยคำเหล่านั้น ในกรณีดังกล่าวประโยชน์ที่เกิดขึ้นแก่การเจริญเติบโตของผู้สอนจะมีค่าเท่ากับร้อยละเก้าสิบในขณะที่ผู้ฟังจะได้รับประโยชน์ร้อยละสิบ เพราะผู้สอนจะกลายเป็นเหมือนดังต้นไม้ที่ออกผลด้วยอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า?

?สิ่งซึ่งพระองค์ทรงสำรองไว้สำหรับพระองค์เองคือนครแห่งหัวใจของมนุษย์ และ? ? ? ? ? ลูกกุญแจสำหรับบรรดานครเหล่านี้ในยุคสมัยนี้ คือ บรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์ พระผู้ทรงเป็นสัจธรรมสูงสุด ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดให้พวกเขาทั้งหมดสามารถไขเปิดประตูของนครเหล่านี้โดยอาศัยอานุภาพแห่งพระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุด?

?สิ่งซึ่งพระองค์ทรงสำรองไว้สำหรับพระองค์เองคือนครแห่งหัวใจของมนุษย์ เพื่อว่าพระองค์ทรงชำระหัวใจเหล่านั้นให้สะอาดจากมลทินทางโลก และให้สามารถเข้าไปใกล้ตำแหน่งอันศักดิ์สิทธิ์ที่เงื้อมมือของผู้ที่ไร้ศรัทธาไม่สามารถทำลายได้ ดูกร ประชาชน จงเปิดนครแห่งหัวใจมนุษย์ออกด้วยลูกกุญแจแห่งถ้อยคำของเจ้า ด้วยประการฉะนี้เราได้บัญญัติหน้าที่แก่เจ้าตามเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า?

?จงกล่าวว่า นี่คือม้วนพระธรรมที่เร้นลับและถูกปิดผนึกไว้? เป็นแหล่งรวมประกาศิตอันมิอาจเปลี่ยนแปลงได้ของพระผู้เป็นเจ้า บรรจุถ้อยวจนะที่นิ้วพระหัตถ์อันทรงความศักดิ์สิทธิ์ลิขิตไว้ เป็นม้วนพระธรรมที่ห่อหุ้มอยู่ภายในม่านแห่งความเร้นลับที่มิอาจหยั่งรู้ได้ ซึ่งขณะนี้ถูกประทานลงมาเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งพระกรุณาของพระองค์ผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงดำรงอยู่ก่อนยุคสมัย ในม้วนพระธรรมนี้เราได้บัญชาจุดหมายให้แก่ผู้อาศัยอยู่บนโลกและผู้ที่อยู่ในสวรรค์ทั้งหมด และได้บันทึกความรู้เกี่ยวกับทุกสิ่งนับแต่สิ่งแรกจนถึงสิ่งสุดท้ายไว้?

?ความเชื่อในพระผู้เป็นเจ้ากำลังสิ้นสูญไปในทุกดินแดน ไม่มีสิ่งใดที่ปราศจากซึ่งทิพยโอสถของพระองค์จะสามารถฟื้นคืนชีวิตให้แก่ความเชื่อนี้ได้ ความผุกร่อนแห่งความไร้ศีลธรรมกำลังกัดกินลึกเข้าไปถึงหัวใจของสังคมมนุษย์ จะมีสิ่งอื่นใดอีกหรือนอกจากน้ำอมฤตแห่งการเปิดเผยธรรมอันทรงอำนาจของพระองค์ที่จะสามารถชำระล้างและฟื้นชีวิตให้ได้ ดูกร ฮาคิม เป็นสิ่งที่อยู่ในข่ายความสามารถของมนุษย์หรือที่จะทำให้องค์ประกอบของอนุภาคที่เล็กมากและแบ่งแยกมิได้ใดๆ ก็ตามเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างสมบูรณ์จนเปลี่ยนรูปของธาตุนั้นให้กลายเป็นทองคำบริสุทธิ์ได้ แม้สิ่งนี้จะแลดูน่าฉงนและยากลำบากก็ตาม การเปลี่ยนพลังแห่งความชั่วร้ายให้กลายเป็นพลังแห่งสวรรค์ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากกว่านั้นกลับเป็นสิ่งที่เราได้รับอำนาจมาเพื่อจะทำให้สำเร็จ พลังที่สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้อยู่เหนืออานุภาพของน้ำอมฤตแห่งการเปิดเผยธรรมนี้ไปอีก พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่จะสามารถกล่าวอ้างความโดดเด่นของการได้รับการประสาทด้วยอานุภาพที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ไพศาลดังกล่าว?

?นอกจากนี้ จงรู้ไว้ว่า พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือและสูงส่งกว่าสิ่งที่ประสาทสัมผัสจะรับรู้ได้เพราะพระวจนะบริสุทธิ์พ้นจากคุณสมบัติหรือสสารใดๆ ขอความสูงส่งจงมีแด่ความรุ่งโรจน์ของพระผู้เป็นเจ้า พระวจนะอยู่เหนือขีดจำกัดของธาตุอันเป็นที่รู้จักและเหนือสสารที่ยอมรับกันว่าสำคัญทั้งหมด พระวจนะเปล่งออกมาโดยปราศจากพยางค์หรือเสียงใดๆ และมิใช่สิ่งอื่นใดนอกจากบัญชาของพระผู้เป็นเจ้าที่ซึมซาบสรรพสิ่งทั้งปวง พระวจนะไม่เคยถูกยับยั้งไปจากโลกแห่งการดำรงอยู่ เป็นพระกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้าที่ซึมซาบทุกสรรพสิ่ง ซึ่งความกรุณาทั้งปวงถือกำเนิดมาจากพระกรุณาธิคุณนี้ พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือทุกสรรพสิ่งที่เป็นมาและจะเป็นไป?

?ถ้าเช่นนั้นแล้ว มนุษย์จะกล่าวถ้อยคำให้เหมาะสมได้อย่างไรเพื่อที่จะสรรเสริญพระองค์ผู้ทรงทำให้นามทุกนามและอาณาจักรของนามถือกำเนิดขึ้นและคุณลักษณะทั้งปวงพร้อมด้วยอาณาจักรของคุณลักษณะเหล่านั้นถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยการเคลื่อนไหวนิ้วพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ผู้ทรงเชื่อมโยงอักษร ?จง? และ ?เป็น?เข้าด้วยกันด้วยการเคลื่อนไหวของนิ้วพระหัตถ์เดียวกันนั้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นการแสดงปรากฏของสิ่งที่ความคิดอ่านอันสูงส่งที่สุดของผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรซึ่งเป็นผู้ที่ปีติยินดีกับการเข้าใกล้พระองค์ก็มิอาจเอื้อมถึง และเป็นสิ่งที่อัจฉริยภาพอันล้ำลึกที่สุดของบรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์ที่อุทิศตนจนหมดสิ้นต่อพระองค์ก็ไร้ซึ่งอำนาจที่จะหยั่งถึง?

?ทุกวจนะที่เปล่งออกจากโอษฐ์ของพระผู้เป็นเจ้านั้นได้รับการประสาทด้วยอานุภาพที่สามารถให้ชีวิตใหม่แก่มนุษย์ทุกคน หากเจ้าจะเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่เข้าใจสัจธรรมนี้?

?ดูกร สหายของเรา พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าเป็นกษัตริย์แห่งถ้อยคำและอิทธิพลอันซึมซาบของพระวจนะนี้มิอาจประมาณได้ พระวจนะเคยครอบครองอาณาจักรแห่งการดำรงอยู่และจะครอบครองต่อไป พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่ตรัสว่า พระวจนะคือลูกกุญแจดอกสำคัญที่ใช้ไขทั้งโลก ด้วยเหตุที่ด้วยอานุภาพของลูกกุญแจนี้ประตูแห่งหัวใจของมนุษย์ซึ่งโดยแท้แล้วคือประตูแห่งสวรรค์จะถูกไขเปิดออก?

?นี่คือวันสำหรับการพูด เป็นหน้าที่ของประชาชนแห่งบาฮาที่จะพยายามด้วยความอดทนและความบากบั่นอย่างที่สุด ในการนำทางแก่ประชาชาติของโลกไปสู่ขอบฟ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ทุกคนส่งเสียงดังเพื่อเรียกหาจิตวิญญาณ จิตวิญญาณจากสวรรค์ต้องได้รับการทำให้มีชีวิตขึ้นด้วยลมหายใจแห่งพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า ร่างที่ไร้ชีวิตต้องถูกทำให้ฟื้นขึ้นด้วยวิญญาณใหม่?

?จิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ควรใคร่ครวญและไตร่ตรองในหัวใจของพวกเขาเกี่ยวกับวิธีการสอนศาสนา พวกเขาควรจดจำวลีและตอนต่างๆ จากข้อความในพระคัมภีร์อันน่าพิศวงแห่งสวรรค์ที่เกี่ยวโยงกับหลายๆ กรณี เพื่อว่าในระหว่างการพูดของเขา เขาจะสามารถท่องพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ในเวลาใดก็ตามที่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น ด้วยเหตุที่วจนะศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นน้ำอมฤตที่ชะงัดที่สุด เป็นเครื่องรางที่ยิ่งใหญ่และขลังที่สุด อิทธิพลของวจนะนี้แรงกล้ามากจนทำให้ผู้ฟังไม่อาจหาเหตุผลอันสมควรได้สำหรับการโอนไปเอนมา?

?แน่นอนทีเดียวที่แนวทางในอุดมคติของการสอนศาสนาคือการพิสูจน์ข้อคิดเห็นของเราโดยการอ้างอิงอย่างสม่ำเสมอถึงวจนะของพระบาฮาอุลลาห์และท่านนายในลักษณะตรงตามตัวอักษร การทำเช่นนี้จะช่วยรักษาศาสนาให้รอดพ้นจากการตีความในทางที่ผิดโดยแต่ละบุคคล สิ่งที่ผู้เป็นแสงสว่างจากสวรรค์กล่าวนั้นเป็นสัจธรรม ดังนั้นท่านเหล่านี้จึงควรเป็นต้นตำรับของคำกล่าวของเรา

อย่างไรก็ตาม นี่มิได้หมายความว่าอิสรภาพในการแสดงออกของเราถูกจำกัด เราสามารถหาวิธีการใหม่ๆ ได้เสมอในการเริ่มกล่าวถึงสัจธรรมหรืออธิบายว่าสัจธรรมเหล่านั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของเราอย่างไร ยิ่งเราศึกษาให้ลึกซึ้งมากขึ้นเท่าใดเราก็จะยิ่งมีความเข้าใจในความสำคัญของพระธรรมคำสอนของศาสนามากขึ้นเท่านั้น?

?การมีความลึกซึ้งในศาสนาหมายถึงการอ่านพระธรรมลิขิตของพระบาฮาอุลลาห์และท่านนายอย่างละเอียดถี่ถ้วนจนสามารถที่จะแบ่งปันธรรมลิขิตนั้นกับผู้อื่นได้ในรูปแบบที่บริสุทธิ์ มีหลายคนที่มีความคิดอย่างผิวเผินเกี่ยวกับสิ่งที่ศาสนาสนับสนุน ด้วยเหตุนี้เขาจึงนำเสนอสิ่งเหล่านั้นปนเปไปกับแนวความคิดหลากหลายทั้งหมดที่เป็นของเขาเอง เนื่องจากศาสนายังอยู่ในระยะเริ่มแรก เราจึงต้องระมัดระวังอย่างที่สุด มิฉะนั้นแล้วเราจะตกอยู่ในความผิดพลาดและก่อความเสียหายให้แก่ขบวนการที่เรารักใคร่ยิ่งนี้ไม่มีขีดจำกัดสำหรับการศึกษาศาสนา ยิ่งเราอ่านพระธรรมลิขิตมากเท่าใดเราก็จะพบสัจธรรมในพระธรรมลิขิตมากขึ้นเท่านั้น? และเราจะยิ่งมองเห็นมากขึ้นว่าความคิดเห็นแต่ก่อนมาของเรานั้นผิดพลาด?

?ถ้าข้าพเจ้ารักท่าน ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องพูดถึงความรักที่มีต่อท่านอยู่ตลอดเวลา ท่านจะทราบได้โดยปราศจากคำพูดใดๆ ในทางตรงกันข้ามถ้าข้าพเจ้าไม่รักท่าน ท่านก็จะทราบได้เช่นเดียวกัน และท่านก็คงจะไม่เชื่อแม้ว่าข้าพเจ้าจะบอกรักท่านด้วยถ้อยคำนับพันคำก็ตาม?

?เมื่อท่านรักสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมชาติของท่านขอให้ความรักนั้นเป็นไปด้วยรัศมีแห่งความรักอันไม่มีที่สิ้นสุด ขอให้เป็นความรักในพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อพระผู้เป็นเจ้าเถิด ไม่ว่าในที่ใดที่ท่านพบคุณลักษณะของพระผู้เป็นเจ้าจงรักผู้นั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นคนในครอบครัวของท่านหรือครอบครัวอื่น จงสาดแสงแห่งความรักอันไร้ขอบเขตให้แก่มนุษย์ทุกคนที่ท่านได้พบ…?

?ดูกร ท่านผู้เป็นบุตรแห่งอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า ทุกสิ่งล้วนมีคุณประโยชน์หากเชื่อมโยงเข้ากับความรักของพระผู้เป็นเจ้า และถ้าปราศจากความรักของพระองค์แล้วทุกสิ่งล้วนก่อโทษและเป็นเหมือนม่านปิดกั้นระหว่างมนุษย์กับพระผู้เป็นนายแห่งอาณาจักรสวรรค์ เมื่อความรักของพระองค์อยู่ในที่นั้น ความขมขื่นทุกชนิดก็แปรเปลี่ยนเป็นความหวานและความกรุณาทุกประการจะมอบความพึงพอใจอันมีประโยชน์ให้ ตัวอย่างเช่น ท่วงทำนองที่ไพเราะเสนาะหูนำมาซึ่งแก่นแท้ของชีวิตให้กับหัวใจที่มีความรักต่อพระผู้เป็นเจ้า แต่ถ้าหากท่วงทำนองนั้นแปดเปื้อนด้วยกิเลสตัณหาแล้วจิตวิญญาณก็จะหมกมุ่นอยู่กับความปรารถนาทางกาย ทุกสาขาของการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงเข้ากับความรักในพระผู้เป็นเจ้านั้นเป็นที่ยอมรับและควรค่าแก่การสรรเสริญ แต่หากขาดเสียซึ่งความรักของพระองค์แล้วการเรียนรู้นั้นก็ปราศจากผล และโดยแท้แล้วจะนำมาซึ่งความบ้าคลั่ง ความรู้ทุกประเภท วิทยาศาสตร์ทุกแขนงเป็นดั่งเช่นต้นไม้ หากผลของต้นไม้นั้นคือ ความรักในพระผู้เป็นเจ้าไม้ต้นนั้นก็จะได้รับพระพร แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นไม้ต้นนั้นก็จะเป็นเพียงไม้แห้งเฉาและเพียงแต่จะเป็นเชื้อให้ไฟเท่านั้น?

?ขอความเที่ยงธรรมของพระผู้เป็นเจ้าจงเป็นพยาน ในยุคนี้ผู้ใดก็ตามที่เปิดปากและกล่าวถึงพระนามของพระผู้เป็นนายของเขา เหล่าแรงดลบันดาลใจอันเป็นทิพย์จะหลั่งไหลลงมาสู่เขาจากสวรรค์แห่งพระนามของเรา พระผู้ทรงตรัสรู้ พระผู้ทรงปรีชาญาณเหนือสรรพสิ่งทั้งปวง หมู่เทวัญเบื้องบนต่างก็จะอัญเชิญถ้วยแห่งแสงอันบริสุทธิ์ลงมาหาเขาอีกด้วย เช่นนี้เป็นสิ่งที่เป็นไปตามที่ได้บัญญัติไว้ล่วงหน้าในอาณาจักรแห่งการเปิดเผยธรรมของพระผู้เป็นเจ้าโดยพระบัญชาของพระองค์ผู้ทรงความรุ่งโรจน์ทั้งปวง พระผู้ทรงอานุภาพสูงสุด?

??ผู้ที่ละทิ้งประเทศของตนเพื่อการสอนศาสนาของเรา อานุภาพของพระวิญญาณที่ซื่อสัตย์จะเสริมพลังให้แก่พวกเขา หมู่เทพธิดาที่เราเลือกสรรจะเดินทางไปกับพวกเขาดังที่บัญชาไว้โดยพระผู้ทรงมหิทธานุภาพ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ พระพรที่รอคอยผู้ที่ได้รับเกียรติของการรับใช้พระผู้ทรงมหิทธานุภาพนั้นช่างยิ่งใหญ่เพียงใด?

?โดยแท้แล้ว พระองค์จะทรงช่วยเหลือทุกคนที่ช่วยเหลือพระองค์ และจะทรงจดจำทุกคนที่จดจำพระองค์ ธรรมลิขิตที่ได้สำแดงความงดงามอันโอฬารแห่งความเมตตารักใคร่ของพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ทั้งปวง พระผู้ทรงอำนาจในการบังคับ เป็นพยานต่อสิ่งนี้?

?จงกล่าวว่า ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา จงระวัง มิฉะนั้นผู้ที่แข็งแรงของโลกจะปล้นความแข็งแรงไปจากเจ้า หรือผู้ที่ปกครองโลกจะทำให้เจ้ากลัว จงวางใจในพระผู้เป็นเจ้าและมอบกิจธุระของเจ้าไว้ในความคุ้มครองของพระองค์ โดยแท้แล้ว พระองค์จะทรงทำให้เจ้ามีชัยชนะด้วยพลังแห่งสัจธรรม และพระองค์ทรงอำนาจในการกระทำสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ และบังเหียนแห่งอานุภาพอันทรงพลังเหนือทุกสรรพสิ่งอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ของพระองค์?

?ขอพระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้นทรงเป็นพยาน หากผู้ใดลุกขึ้นเพื่อชัยชนะของศาสนาของเรา พระผู้เป็นเจ้าจะทรงให้เขามีชัยแม้ว่าศัตรูนับหมื่นจะรวมกำลังต่อต้านเขา และหากความรักของเขาที่มีต่อเราทวีความแข็งแรงขึ้น พระผู้เป็นเจ้าจะทรงบันดาลให้เขามีอานุภาพเหนืออำนาจทั้งปวงบนโลกและสวรรค์ ด้วยประการฉะนี้เราได้ดลบันดาลวิญญาณแห่งอานุภาพให้แก่ทุกดินแดน?

?พระองค์จะทรงมาช่วยเหลือท่านพร้อมด้วยเหล่าเทวัญที่ท่านไม่สามารถมองเห็น และจะทรงหนุนกำลังท่านด้วยกองทัพแห่งแรงบันดาลใจจากที่ชุมนุมเบื้องบน พระองค์จะทรงส่งเครื่องหอมจากสวรรค์ชั้นสูงสุดมาให้ท่าน และจะทรงให้สายลมอันบริสุทธิ์ที่มาจากสวนกุหลาบของหมู่ทวยเทพเบื้องบนพัดผ่านมายังท่าน พระองค์จะทรงให้พลังแห่งชีวิตแก่หัวใจของท่าน จะทรงทำให้ท่านเข้าไปในเรือแห่งความรอดพ้น และจะทรงเปิดเผยเครื่องหมายและสัญลักษณ์อันเด่นชัดของพระองค์ต่อท่าน นี่คือพระกรุณาอันอุดมโดยแท้ นี่คือชัยชนะที่ไม่มีผู้ใดปฏิเสธได้โดยแท้?

?ดูกร พวกท่านผู้เป็นคนรับใช้แห่งธรณีประตูอันศักดิ์สิทธิ์ เหล่าผู้มีชัยชนะแห่งที่ชุมนุมของสวรรค์เข้าแถวและจัดขบวนอยู่ในอาณาจักรเบื้องบน ยืนอยู่อย่างพร้อมและคาดหวังที่จะช่วยเหลือและรับประกันชัยชนะให้แก่ผู้ควบคุมม้าผู้กล้าหาญ ผู้ซึ่งกระตุ้นให้ม้าศึกของเขาเข้าสู่สมรภูมิแห่งการรับใช้ ขอความสวัสดีจงมีแด่นักรบผู้ปราศจากความกลัวผู้นั้นที่พกพลังแห่งความรู้อันแท้จริงเป็นอาวุธ แล้วรีบรุดเข้าสู่สนามรบ โจมตีกองทัพแห่งความโง่เขลาให้กระเจิงไป และขับไล่เจ้าบ้านแห่งความผิดพลาดออกไป นักรบผู้นี้เป็นผู้เชิดธงแห่งการนำทางสวรรค์และเป่าแตรยาวแห่งชัยชนะ ขอความเที่ยงธรรมของพระผู้เป็นนายจงเป็นพยาน เขาผู้นี้ได้บรรลุสู่ชัยชนะอันรุ่งโรจน์และเป็นผู้มีชัยอันแท้จริง?

?เป้าหมายเป็นเช่นนี้ คือ เจตนาของผู้สอนต้องบริสุทธิ์ หัวใจของเขาต้องเป็นอิสระ จิตวิญญาณของเขาต้องได้รับการดึงดูด ความคิดของเขาต้องสงบ ความตั้งใจของเขาต้องแน่วแน่ ความใจกว้างของเขาต้องสูงส่ง และเป็นคบเพลิงที่โชติช่วงด้วยความรักของพระผู้เป็นเจ้า?

?…..จงเป็นผู้ได้รับการทำให้ศักดิ์สิทธิ์และการชำระให้บริสุทธิ์พ้นจากโลกนี้และชาวโลกทั้งหลาย จงบากบั่นเจตนาของท่านในการทำงานเพื่อประโยชน์สุขของทุกคน จงตัดความผูกพันของท่านกับโลก และจงผ่องใสและประณีตดั่งแก่นแท้ของจิตวิญญาณ ? จากนั้นจงผูกมัดเวลาของท่านในการประกาศหลักธรรมจากสวรรค์ด้วยความตั้งใจที่ แน่วแน่ หัวใจที่บริสุทธิ์ จิตวิญญาณที่เบิกบาน และวาจาที่คมคาย?..?

?ท่านนายให้ความมั่นใจแก่เราว่า เมื่อใดที่เราลืมตนเองและพยายามอย่างสุดกำลังที่จะรับใช้และสอนศาสนา เราจะได้รับการช่วยเหลือจากสวรรค์ เรามิได้เป็นผู้ที่ทำงานแต่เราเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้ในเวลานั้นเพื่อจุดมุ่งหมายในการสอนศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า?

?จิตวิญญาณที่มีวุฒิภาวะเพียงดวงเดียวที่มีความเข้าใจทางธรรมและความรู้อันลึกซึ้งเกี่ยวกับศาสนาสามารถจะทำให้ทั้งประเทศสว่างรุ่งโรจน์ อานุภาพของศาสนาในการปฏิบัติงานโดยอาศัยช่องทางที่บริสุทธิ์และไม่เห็นแก่ตนนั้นช่างยิ่งใหญ่ยิ่งนัก?

?จงยกหัวใจของท่านขึ้นเหนือความเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ และมองด้วยสายตาแห่งความศรัทธาไปยังอนาคต ปัจจุบันเมล็ดพันธุ์ได้รับการเพาะหว่านและเมล็ดพืชได้ตกลงบนพื้นแผ่นดิน แต่จงดูสิ เวลานั้นจะมาถึง เมื่อเมล็ดนั้นงอกขึ้นเป็นต้นที่สูงสง่าและกิ่งก้านของต้นนั้นจะออกผล จงชื่นชมและยินดีที่วันนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว จงพยายามตระหนักในอานุภาพของวันนี้ เพราะเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์โดยแท้ พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสวมมงกุฎแห่งเกียรติยศแก่ท่าน และทรงประดับประกายดาวอันแจ่มจรัสไว้ในหัวใจของท่าน แน่แท้เหลือเกินว่าแสงสว่างนั้นจะส่องทั้งโลกให้สว่างไสว?

?ดังนั้น ท่านควรพยายามให้ดีที่สุดที่จะให้คบเพลิงแห่งความศรัทธาลุกโชนอยู่ภายในตัวท่าน เพราะโดยอาศัยคบเพลิงนี้ท่านจะพบการนำทาง ความเข้มแข็ง และความสำเร็จในท้ายสุดอย่างแน่นอน?

?ดังนั้น จงพูดและจงพูดด้วยความกล้าหาญในที่ประชุมทุกแห่ง ก่อนที่ท่านจะเริ่มกล่าวคำพูดของท่านนั้น ลำดับแรกจงหันไปหาพระบาฮาอุลลาห์ แล้วขอการรับรองจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จากนั้นจึงเอ่ยปากแล้วกล่าวสิ่งที่ผุดขึ้นในใจของท่าน อย่างไรก็ดี การพูดนี้ต้องทำด้วยความกล้าหาญ เกียรติและความเชื่อมั่นอย่างที่สุด?

?ครูบาไฮต้องมีความมั่นใจอย่างที่สุด เพราะในความมั่นใจนั้นจะมีความเข้มแข็งและความลับสู่ความสำเร็จของเขา แม้ด้วยมือเปล่าและไม่ว่าผู้คนโดยรอบท่านจะไม่แยแสเพียงใดก็ตาม ท่านก็ควรจะมีความศรัทธาว่าเหล่าเทพเทวัญแห่งอาณาจักรสวรรค์จะอยู่ข้างท่าน และด้วยการช่วยเหลือของพวกเขาเหล่านั้น ท่านจะสามารถเอาชนะแรงกดดันแห่งความมืดที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้น จงพากเพียร มีความสุขและมั่นใจ?

?งานสอนศาสนาต้องกระทำโดยศาสนิกชนอย่างกระตือรือร้นในทุกสภาพการณ์ เพราะการรับรองจากสวรรค์ขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ หากบาไฮละเว้นจากการเข้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับงานสอนศาสนาอย่างเต็มที่ อย่างแข็งขัน และอย่างสุดหัวใจแล้ว เขาก็จะถูกตัดขาดจากพระพรของอาณาจักรอับฮาอย่างแน่นอน แม้กระนั้นก็ตาม กิจกรรมนี้ต้องกระทำให้เหมาะสมด้วยความสุขุมรอบคอบ ซึ่งมิใช่ความสุขุมรอบคอบที่บังคับให้ผู้นั้นต้องเงียบและลืมหน้าที่ดังกล่าว แต่เป็นความสุขุมรอบคอบที่บังคับให้ผู้นั้นต้องแสดงออกซึ่งความใจกว้างที่มาจากสวรรค์ ความรัก ความเมตตากรุณา ความอดทน ลักษณะนิสัยที่ดี และการกระทำอันศักดิ์สิทธิ์?

?มิใช่ทุกสิ่งที่มนุษย์รู้จะสามารถถูกเปิดเผยได้ มิใช่ทุกสิ่งที่เขาสามารถเปิดเผยได้จะถูกนับว่าเหมาะสมแก่เวลา และมิใช่ทุกคำกล่าวอันเหมาะสมแก่เวลาจะได้รับการพิจารณาว่าเหมาะสมแก่ความสามารถของผู้ฟัง? เช่นนี้เป็นความสุขุมรอบคอบอย่างเต็มที่ที่ท่านจะต้องถือปฏิบัติในการงานของท่าน จงอย่าลืมสิ่งนี้หากท่านปรารถนาที่จะเป็นผู้เต็มไปด้วยการกระทำในทุกสภาพการณ์ ประการแรก จงวินิจฉัยโรคและระบุความเจ็บป่วย จากนั้นจึงให้คำสั่งการรักษา เพราะนี่เป็นวิธีที่ดีเลิศของนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ?

?หากผู้ใดในท่ามกลางพวกเจ้าไม่สามารถเข้าใจในสัจธรรมใดหรือกำลังพยายามทำความเข้าใจสัจธรรมนั้นอยู่ เมื่อเจ้าสนทนากับเขา จงแสดงดวงจิตแห่งความเมตตาและไมตรีจิตอย่างยิ่ง จงช่วยให้เขาเห็นและยอมรับสัจธรรมนั้นโดยไม่ถือว่าตัวเจ้าเหนือกว่าเขา หรือมีพรสวรรค์มากกว่าเขาแม้แต่เพียงเล็กน้อยที่สุด?

?ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา จงคบหากับศาสนิกชนทุกศาสนาด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ หากเจ้าตระหนักในสัจธรรมข้อหนึ่ง หากเจ้าครอบครองเพชรเม็ดหนึ่งที่ผู้อื่นไม่ได้รับ จงแบ่งปันสิ่งนั้นกับพวกเขาด้วยถ้อยคำแห่งความเมตตากรุณาและความปรารถนาดีอย่างที่สุด หากสิ่งนั้นเป็นที่ยอมรับ หากสิ่งนั้นบรรลุวัตถุประสงค์ เจ้าก็บรรลุความมุ่งหมายแล้ว หากผู้ใดปฏิเสธ จงทิ้งเขาไว้โดยลำพังและวิงวอนขอพระผู้เป็นเจ้าทรงนำทางแก่เขา ? จงระวังอย่าปฏิบัติต่อเขาอย่างปราศจากความเมตตา ลิ้นที่อ่อนโยนคือแม่เหล็กที่ดึงดูดหัวใจของมนุษย์ คืออาหารของจิตวิญญาณ ซึ่งสวมถ้อยคำด้วยความหมาย คือบ่อเกิดของแสงสว่างแห่งอัจฉริยภาพและความเข้าใจ?

?หากพวกเขาลุกขึ้นเพื่อสอนศาสนาของเรา พวกเขาต้องยอมให้ลมหายใจของพระผู้ทรงอยู่เหนืออำนาจบังคับใดๆ ขับเคลื่อนตัวเขา พวกเขาต้องแผ่ขยายศาสนานี้ไปอย่างกว้างขวางบนโลกด้วยความตั้งใจอย่างสูง ด้วยจิตใจที่ถือพระองค์เป็นศูนย์กลางเท่านั้น ด้วยหัวใจที่ไม่ผูกพันและไม่ขึ้นกับทุกสิ่งโดยสิ้นเชิง และด้วยจิตวิญญาณที่ได้รับการทำให้ศักดิ์สิทธิ์พ้นจากโลกและสิ่งไร้สาระของโลก เป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะเลือกเอาการวางใจในพระผู้เป็นเจ้าเป็นเสบียงที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางของตนเอง และแต่งกายของตนด้วยความรักของพระผู้เป็นนายของเขา พระผู้ทรงความสูงส่ง พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์ทั้งปวง หากพวกเขาทำเช่นนี้แล้ว ถ้อยคำของพวกเขาก็จะมีอิทธิพลต่อผู้ฟัง?

?เขาเหล่านี้จะตรากตรำอย่างไม่หยุดหย่อนทั้งวันและคืน จะไม่เอาใจใส่กับการทดสอบหรือความเศร้าโศก จะไม่ยอมรับการหยุดพักในความพยายามของพวกเขา จะไม่แสวงหาการพักผ่อน จะไม่คำนึงถึงความสะดวกและความสุขสบายทั้งปวง จะไม่ผูกพันและไม่แปดเปื้อน จะอุทิศทุกโมงยามที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วของชีวิตของพวกเขาให้กับการแพร่กระจายสุคนธรสแห่งสวรรค์และการเชิดชูพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้
เป็นเจ้า?

?ด้วยความปรารถนาและความศรัทธาอย่างแรงกล้าในระดับที่สามารถทำให้มนุษย์ทุกคนลุกโชนเป็นไฟโดยเจ้า จงป่าวร้องออกไปและเรียกให้ประชาชนทั้งหลายมาหาพระองค์ พระผู้ทรงเป็นนายสูงสุดแห่งภพทั้งปวง?

?….ขอให้พวกเราลุกขึ้นสอนศาสนาของพระองค์ด้วยความมีธรรม ความเชื่อมั่น ความเข้าใจและความกระฉับกระเฉง ขอให้สิ่งนี้เป็นหน้าที่ที่มีความสำคัญสูงสุดและมีความเร่งด่วนที่สุดของบาไฮทุกคน ขอให้เราทำให้หน้าที่นี้เป็นแรงปรารถนาที่โดดเด่นของชีวิตของเรา?

?ผู้สอนศาสนาจะต้องลุกด้วยเพลิงแห่งความรักของพระผู้เป็นเจ้าอย่างเต็มที่ในขณะที่ทำการสอนศาสนา เพื่อว่าคำพูดของเขาซึ่งเป็นเหมือนเปลวเพลิงจะมีอิทธิพลและเผาไหม้ม่านกั้นแห่งอัตตาและความปรารถนา เขายังต้องมีความถ่อมตนและความต่ำต้อยอย่างที่สุดเพื่อว่าคนอื่นจะได้รับการอบรม เขาต้องค่อยๆ จางหายไปและไม่เรียกร้องความสนใจในตัวเขาโดยสิ้นเชิง เพื่อว่าเขาจะสอนศาสนาด้วยท่วงทำนองของเหล่าเทวัญเบื้องบน มิฉะนั้นแล้วการสอนศาสนาของเขาก็จะไร้ผล??

?ในลักษณะที่สอดคล้องกับคำสอนแห่งสวรรค์ในยุคศาสนาอันรุ่งโรจน์นี้ เราไม่ควรดูแคลนผู้ใดและเรียกเขาว่าผู้โง่เขลา โดยกล่าวว่า ?ท่านไม่ทราบแต่ข้าพเจ้าทราบดี? ยิ่งไปกว่านั้นเราควรมองดูผู้อื่นด้วยความนับถือ และเมื่อพยายามที่จะอธิบายหรือสาธิตสิ่งใด เราควรพูดในลักษณะที่เรากำลังค้นหาความจริง โดยกล่าวว่า ?นี่คือสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเรา ขอให้เรามาสอบสวนดูว่าเราจะค้นพบความจริงได้ที่ไหนและในลักษณะใด? ผู้สอนไม่ควรพิจารณาว่าตนเองเป็นผู้รู้และคนอื่นเป็นผู้โง่เขลา ความคิดเช่นนั้นจะเพาะความหยิ่งทะนง และความหยิ่งทะนงไม่นำมาซึ่งอิทธิพลใด ผู้สอนไม่ควรมองเห็นความเหนือกว่าใดๆ ในตนเอง เขาควรกล่าวด้วยความเมตตากรุณา ความต่ำต้อยและความถ่อมตนอย่างที่สุด เพราะคำกล่าวเช่นนั้นจะมีอิทธิพลและจะให้การศึกษาแก่จิตวิญญาณทั้งหลาย?

?บางทีเหตุผลที่ท่านไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าใดนักในสนามของการสอนศาสนาอาจจะเป็นระดับที่ท่านพิจารณาเกี่ยวกับความอ่อนแอและการไร้ความสามารถของท่านเองในการแพร่กระจายข่าวสารของพระผู้เป็นเจ้า พระบาฮาอุลลาห์และท่านนายได้เร่งเร้าเราอยู่เสมอให้ละเลยข้อบกพร่องต่างๆ ของเราและวางใจในพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง พระผู้เป็นเจ้าจะทรงให้การช่วยเหลือแก่เรา ถ้าเราเพียงแต่จะลุกขึ้นและ? ? ? กลายเป็นช่องทางที่คล่องแคล่วให้แก่กรุณาธิคุณของพระองค์ ท่านคิดว่าผู้สอนศาสนานั้นเป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงความเชื่อและจิตใจของมนุษย์เองหรือ ไม่ใช่อย่างแน่นอน พวกเขาเป็นเพียงจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ที่ก้าวเดินไปเป็นคนแรกแล้วปล่อยให้พระวิญญาณของพระบาฮาอุลลาห์ขับเคลื่อนและใช้งานพวกเขา ถ้าหากคนใดคนหนึ่งในหมู่พวกเขาพิจารณาว่าความสำเร็จของเขาเกิดขึ้นจากความสามารถของตนเองแม้เพียงวินาทีเดียวแล้ว การทำงานของเขาก็จะสิ้นสุดลงและการตกต่ำของเขาจะเริ่มต้นขึ้น นี่เป็นเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมจิตวิญญาณที่มีความสามารถหลายดวงจึงพบว่าตนเองไร้สิ้นซึ่งความสามารถโดยสิ้นเชิงในทันทีทันใดภายหลังจากการรับใช้ที่วิเศษ และบางครั้งก็ถูกโยนทิ้งไปอย่างจิตวิญญาณที่ไร้ประโยชน์โดยพระวิญญาณแห่งศาสนา บรรทัดฐานก็คือระดับความพร้อมของเราที่จะให้พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าปฏิบัติการผ่านทางเรา?

?จงหยุดการตระหนักถึงความอ่อนแอของท่านเอง ด้วยเหตุนี้ จงมีความวางใจโดยสมบูรณ์ในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงให้หัวใจของท่านลุกไหม้ด้วยความปรารถนาที่จะรับใช้ภารกิจของพระองค์และป่าวประกาศเสียงร้องเรียกของพระองค์ แล้วท่านจะสังเกตเห็นว่าความคมคายและอำนาจในการเปลี่ยนแปลงหัวใจของมนุษย์จะปรากฏขึ้นเมื่อถึงเวลา?

ท่านโชกิ เอฟเฟนดิจะอธิษฐานให้กับความสำเร็จของท่านถ้าท่านจะลุกขึ้นและเริ่มต้นสอนศาสนา ที่จริงแล้วเพียงด้วยการลุกขึ้นนั้นก็จะทำให้ท่านได้รับการช่วยเหลือและพระพรจากพระผู้เป็นเจ้าแล้ว?

?พวกเขาต้องไม่ยั่วโทโสหรือเฉื่อยชา? ต้องไม่คลั่งไคล้หรือเสรีนิยมจนเกินควรในการแสดงเหตุผลเกี่ยวกับแนวความคิดพื้นฐานและลักษณะที่โดดเด่นของศาสนา? พวกเขาจำต้องระวังระไวหรืออาจหาญ พวกเขาจำต้องกระทำอย่างรวดเร็วหรือย่ำอยู่กับที่ พวกเขาจำต้องใช้วิธีตรงหรือวิธีอ้อม พวกเขาต้องท้าทายหรืออ่อนข้อ เพื่อให้สอดคล้องอย่างแท้จริงกับความเปิดกว้างต่อธรรมของจิตวิญญาณที่พวกเขาติดต่อด้วย ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้สูงศักดิ์หรือคนสามัญ ชาวเหนือหรือชาวใต้ คนธรรมดาหรือนักบวช นายทุนหรือนักสังคมนิยม รัฐบุรุษหรือเจ้าชาย ช่างฝีมือหรือขอทาน ในการนำเสนอข่าวสารของพระบาฮาอุลลาห์ของพวกเขานั้นพวกเขาจะต้องไม่ลังเลใจหรือกล่าวอย่างอึกอัก พวกเขาจะต้องไม่ดูถูกคนยากจนหรือกระดากอายต่อหน้าผู้ยิ่งใหญ่ ในการแสดงเหตุผลของหลักความจริงของศาสนานั้น พวกเขาจะต้องไม่เน้นย้ำหลักการเหล่านั้นจนเกินควรหรือลดทอนความจริงที่พวกเขาสนับสนุน ไม่ว่าผู้ฟังของเขาจะเป็นราชตระกูล หรือหัวหน้านักบวช หรือนักการเมือง หรือพ่อค้า หรือคนเดินถนน ณ โมงยามที่วิกฤติยิ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนชั้นต่ำหรือสูง ร่ำรวยหรือยากจน พวกเขาต้องเต็มใจหยิบยื่นถ้วยแห่งการรอดพ้นให้แก่คนเหล่านั้นเหมื่อนๆ กันด้วยมือที่เปิดกว้าง ด้วยหัวใจที่ผ่องใส ด้วยวาจาที่คมคาย ด้วยความอดทนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยความภักดีที่แน่วแน่ ด้วยความสุขุมรอบคอบอย่างยิ่ง และด้วยความกล้าหาญอย่างไม่สั่นคลอน….?

?ขอให้เราจดจำตัวอย่างที่ท่านนายผู้เป็นที่รักของเราได้ทำไว้ให้เราเห็นอย่างชัดเจน ? วิธีการของท่านนั้นสุขุมรอบคอบและมีกาลเทศะ การติดต่อในครั้งแรกของท่านนั้นมีความตื่นตัวและเอาใจใส่ การพูดในที่ชุมชนของท่านทุกครั้งนั้นเปิดกว้างและมีความเป็นเสรีนิยม การเปิดเผยหลักความจริงที่สำคัญทั้งหลายของศาสนานั้นเป็นไปอย่างระมัดระวังและค่อยเป็นค่อยไป ท่านใส่อารมณ์ในการเรียกร้องของท่านแต่กระนั้นท่านกลับมีสติยับยั้งในการโต้แย้งด้วยเหตุผล น้ำเสียงของท่านมีความมั่นใจ ความเชื่อมั่นของท่านไม่เปลี่ยนทิศทาง กิริยาท่าทางของท่านสง่าผ่าเผย เหล่านี้เป็นลักษณะอันโดดเด่นของการนำเสนออันทรงเกียรติของท่านผู้เป็นที่รักของเราเกี่ยวกับศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์?

?สำหรับท่านแล้ว ดูกร ท่านผู้เป็นคนรักของพระผู้เป็นเจ้า จงทำให้ย่างก้าวของท่านมั่นคงในศาสนาของพระองค์ ด้วยความตั้งใจอย่างที่ท่านจะไม่ถูกสั่นคลอนแม้ว่าความหายนะที่ร้ายกาจที่สุดจะโจมตีโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดหรือสภาพการณ์ใดๆ ทำให้ท่านกระวนกระวายใจ ? ท่านจะทอดสมออย่างหนักแน่นเหมือนดังภูผาสูง เป็นดวงดาวที่รุ่งขึ้นเหนือขอบฟ้าแห่งชีวิต เป็นตะเกียงอันเจิดจ้าในการชุมนุมแห่งความสามัคคี เป็นจิตวิญญาณที่ถ่อมตนและต่ำต้อยในท่ามกลางหมู่มิตร เป็นผู้มีหัวใจที่ซื่อบริสุทธิ์ ขอให้ท่านจงเป็นเครื่องหมายแห่งการนำทางและแสงสว่างแห่งความเคร่งครัดในศีลธรรม แยกตนออกจากโลก ยึดเหนี่ยวมือไว้กับห่วงที่แข็งแรงและมั่นใจได้ แผ่ขยายพลังแห่งชีวิตออกไปกว้างไกล และอยู่บนเรือแห่งการรอดพ้น จงเป็นการรุ่งอรุณของความเอื้อเฟื้อ เป็นจุดเริ่มต้นของความเร้นลับแห่งการดำรงอยู่ เป็นตำแหน่งที่สามารถพบแรงบันดาลใจ เป็นสถานที่ที่ความรุ่งโรจน์ปรากฏขึ้น? เป็นจิตวิญญาณที่ได้รับการค้ำจุนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นที่รักใคร่ของพระผู้เป็นนายและปลีกตนออกจากทุกสิ่งนอกจากพระองค์ เป็นผู้ควรแก่การเคารพซึ่งสูงส่งกว่าบุคลิกภาพทั้งหลายของมนุษย์ และเป็นผู้แต่งกายด้วยคุณลักษณะของเทพยดาแห่งสวรรค์ เพื่อว่าตัวท่านเองจะได้รับของขวัญอันสูงค่าที่สุดในกาลสมัยใหม่อันเป็นยุคที่น่าพิศวงนี้?

?ในท่ามกลางพวกเจ้า ผู้ใดก็ตามที่ลุกขึ้นสอนศาสนาของพระผู้เป็นนาย ก่อนสิ่งอื่นใดทั้งปวงขอให้เขาสอนตนเอง เพื่อว่าคำพูดของเขาจะดึงดูดหัวใจของผู้ที่ได้ยิน ถ้อยคำจากปากของเขาจะไม่มีอำนาจโน้มน้าวจิตใจของผู้แสวงหาจนกว่าเขาจะสอนตนเอง?

?สิ่งเดียวและเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะรับประกันชัยชนะอย่างแน่นอนของศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้อย่างไม่สิ้นสุดและโดยไม่ต้องอาศัยสิ่งอื่น สิ่งนั้นก็คือระดับที่แง่มุมต่างๆ ของชีวิตภายในและลักษณะนิสัยส่วนตัวของเราเองส่องสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ของหลักคำสอนอันเป็นนิรันดร์ที่พระบาฮาอุลลาห์ทรงประกาศไว้?

?ในยุคนี้ ผู้ใดก็ตามที่ลุกขึ้นช่วยเหลือศาสนาของเรา และร้องเรียกให้หมู่เทวัญแห่งลักษณะนิสัยอันควรแก่การสรรเสริญและความประพฤติที่ซื่อตรงมาช่วยเหลือเขา ? อิทธิพลที่หลั่งไหลออกมาจากการกระทำเช่นนี้จะแผ่ซ่านไปทั่วโลกอย่างแน่นอน?

“ขอให้การกระทำของท่านป่าวร้องอย่างดังก้องแก่โลกว่าท่านเป็นบาไฮโดยแท้จริง เพราะการกระทำคือสิ่งที่กล่าวกับโลกและเป็นต้นเหตุแห่งความก้าวหน้าของมนุษยชาติ”

?หากเราเป็นบาไฮที่แท้จริงแล้ว คำพูดก็ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น การกระทำของเราจะช่วยโลกนี้ จะช่วยแผ่กระจายอารยธรรม จะช่วยให้วิทยาศาสตร์เจริญ ก้าวหน้า และทำให้ศิลปะพัฒนา หากปราศจากซึ่งการกระทำแล้ว ก็จะไม่มีสิ่งใดประสบความสำเร็จได้ในโลกแห่งวัตถุ และคำพูดโดยเพียงลำพังก็ไม่สามารถทำให้มนุษย์ก้าวหน้าไปในอาณาจักรแห่งธรรม มิใช่เพราะการรับใช้ด้วยเพียงคำพูดที่ทำให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกโดยพระผู้เป็นเจ้าบรรลุถึงสถานะอันควรแก่การเคารพ หากแต่เป็นเพราะการดำเนินชีวิตอย่างอดทนด้วยการรับใช้อย่างขยันขันแข็งที่ทำให้เขานำแสงสว่างมาสู่โลกนี้?

?เป็นช่วงเวลาดังเช่นนั้นที่มิตรสหายของพระผู้เป็นเจ้าใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ ยึดครองโอกาสนั้น รีบเร่งไปข้างหน้า และได้มาซึ่งรางวัล หากภารกิจของพวกเขาจำกัดอยู่แค่เพียงความประพฤติและคำแนะนำที่ดี ก็จะไม่มีสิ่งใดประสบความสำเร็จ พวกเขาต้องกล่าวออกมา อธิบายข้อพิสูจน์ทั้งหลาย บรรยายเหตุผลที่ชัดเจนต่างๆ และชักนำข้อสรุปที่แย้งไม่ได้ เพื่อสถาปนาความจริงของการเปิดเผยธรรมของดวงอาทิตย์แห่งความดำรงอยู่อย่างแท้จริง?

?ดังนั้น จงอย่างมองที่ระดับความสามารถของท่าน จงมองดูที่พระพรอันไม่มีขีดจำกัดของพระบาฮาอุลลาห์ ความอารีของพระองค์นั้นปกคลุมทุกสรรพสิ่ง ความกรุณาของพระองค์นั้นสมบูรณ์เลิศยิ่ง?

?จงหันหน้าของท่านไปยังอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า จงร้องขอการประทานให้จากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จงพูด แล้วการรับรองจากพระวิญญาณจะมาถึงท่าน?

?ดูกร ผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้า จงอย่าเอนกายของเจ้าบนที่นอน แต่จงทำตนให้กระฉับกระเฉงขึ้นในทันใดที่เจ้ายอมรับพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงสร้างสรรค์ และจงฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับพระองค์ แล้วจงรีบรุดไปทำการช่วยเหลือพระองค์ จงเปล่งวาจาของเจ้าและประกาศศาสนาของพระองค์อย่างไม่หยุดหย่อน สิ่งนี้จะดีสำหรับเจ้ายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติทั้งปวงในอดีตและอนาคต หากเจ้าจะเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่เข้าใจสัจธรรมนี้?

?หากมิตรสหายรอคอยอยู่ตลอดจนกระทั่งพวกเขาจะมีคุณวุฒิอย่างเต็มที่ในการทำภารกิจใดๆ ก็ตาม งานของศาสนาก็ย่อมเกือบหยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่การกระทำด้วยความพยายามที่จะรับใช้ ซึ่งไม่ว่าเขาผู้นั้นจะรู้สึกว่าไร้คุณค่าเพียงใดก็ตาม กลับดึงดูดพระพรของพระผู้เป็นเจ้าและช่วยให้เขากลายเป็นผู้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นต่อภารกิจนั้น

ในปัจจุบันนี้ ความจำเป็นที่มนุษยชาติจะต้องได้ยินข่าวสารแห่งสวรรค์นั้นใหญ่หลวงยิ่งนัก จนถึงขั้นที่ศาสนิกชนทั้งหลายจะต้องกระโดดเข้าสู่งานนี้ไม่ว่าจะเป็นในที่ใดหรือในลักษณะใดก็ตามที่พวกเขาสามารถทำได้ โดยไม่ใส่ใจกับข้อ บกพร่องของตนเอง แต่ให้ความสนใจอยู่เสมอกับความต้องการอันเรียกร้องของเพื่อนมนุษย์ของพวกเขาที่อยากจะฟังพระธรรมคำสอนในชั่วโมงอันมืดมิดที่สุดของความเจ็บปวด?

?โอกาสต่างๆ ที่ความสับสนอลหม่านของยุคปัจจุบันหยิบยื่นให้ พร้อมๆ กับความเศร้าโศกที่ความสับสนนี้ปลุกเร้าขึ้นมา ความกลัวทั้งหลายที่ถูกกระตุ้นขึ้น การที่ความสับสนอลหม่านนี้ได้ก่อให้เกิดสภาวะของการเห็นความเป็นจริงขึ้น ความงง งวยที่ถูกสร้างขึ้น? ความขุ่นเคืองที่ได้รับการปลุกขึ้นมา การจลาจลที่ได้รับการยุแหย่ขึ้น ความขัดข้องใจทั้งหลายที่ถูกเพาะขึ้น และในลักษณะเดียวกัน ความรู้สึกอยากค้นหาอย่างกระวนกระวายที่ความสับสนอลหม่านนี้ปลุกขึ้นนั้น ต้องถูกนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อจุดมุ่งหมายในการแผ่กระจายความรู้เกี่ยวกับพลังอำนาจในการปลดเปลื้องให้รอดพ้นของศาสนาของพระบาฮาอุลลาห์ออกไปอย่างกว้างไกล และต้องนำ ไปใช้ในการรวบรวมรายชื่อของผู้เป็นสมาชิกใหม่ของกองทัพศาสนิกชนของพระองค์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โอกาสเช่นนี้มีค่ายิ่ง? การบังเกิดขึ้นพร้อมกันของสถานการณ์ที่อำนวยประโยชน์อันหาได้ยากยิ่งนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง?

?ตะเกียงแห่งความรักที่คอยบริบาลคนรับใช้ของเรา และคือกุญแจแห่งความปรานีของเราสำหรับประชาชน?

?สิ่งที่พระผู้เป็นนายทรงบัญญัติไว้ให้เป็นยาที่ได้ผลชะงัดและเครื่องมือที่มีอำนาจมากที่สุดสำหรับการรักษาทั้งโลกก็คือ การประสานสามัคคีประชาชนทั้งหมดไว้ภายใต้ความมุ่งหมายอันเป็นสากลและภายใต้ศาสนาเดียวกัน?

?ดูกร บุตรแห่งมนุษย์ เรารักเจ้า เราจึงสร้างเจ้าขึ้นมา ดังนั้นจงรักเรา เพื่อว่าเราจะกล่าวถึงนามของเจ้าและประสาทพลังชีวิตให้แก่วิญญาณของเจ้า?

?ยุคนี้เป็นยุคที่ความโปรดปรานอันวิศิษฏ์สุดของพระผู้เป็นเจ้าได้หลั่งไหลมาสู่มวลมนุษย์ เป็นยุคที่พระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์ได้ซึมซาบไปทั่วทุกสรรพสิ่ง เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนบนโลกที่จะปรองดองข้อขัดแย้งทั้งหลายและอาศัยอยู่ด้วยความสามัคคีและสันติภาพอันสมบูรณ์ภายใต้ร่มพฤกษาแห่งการดูแลเอาใจใส่และความเมตตารักใคร่ของพระองค์?

?พระบาฮาอุลลาห์ได้ทรงวาดวงกลมแห่งความสามัคคีไว้ พระองค์ทรงร่างแบบเพื่อการสมานสามัคคีแก่คนทั้งหมด และเพื่อการรวบรวมพวกเขาทั้งหลายไว้ภายใต้ร่มเงาของกระโจมแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอันเป็นสากล นี่เป็นงานของพระกรุณาธิคุณแห่งสวรรค์ ซึ่งเราทั้งหลายต้องพยายามด้วยจิตใจและวิญญาณจนกว่าเราจะมีความสามัคคีอย่างแท้จริงในหมู่พวกเรา และเราจะได้รับกำลังวังชาในขณะที่เราทำงานนี้?

?จงจดจำวันที่เราอยู่กับเจ้า ความทุกข์ระทมของเรา และการถูกเนรเทศมา ยังคุกที่ห่างไกลนี้ และขอให้เจ้ามั่นคงในความรักของเรา เพื่อว่าหัวใจของเจ้าจะไม่หวั่นไหวแม้ว่าดาบของศัตรูจะกระหน่ำฟันเจ้า อีกทั้งโลกและสวรรค์ทั้งหมดจะลุกขึ้นต่อต้านเจ้า?

?พระผู้ทรงความงามมาแต่โบราณกาลทรงยอมถูกล่ามด้วยโซ่ตรวน เพื่อว่ามนุษยชาติจะได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นทาส? และทรงยอมตกเป็นนักโทษในป้อมปราการอันแข็งแกร่งนี้เพื่อว่าทั่วทั้งพิภพจะบรรลุสู่อิสรภาพอันแท้จริง พระองค์ทรงดื่มจนถึงก้นถ้วยของความทุกข์โศกเพื่อว่าประชาชาติทั้งปวงจะบรรลุสู่ความสุขหรรษาอันยืนนานและเต็มไปด้วยความยินดี นี่คือความปรานีของพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงเห็นใจ พระผู้ทรงปรานีที่สุด ดูกร ผู้ที่เชื่อในเอกภาพของพระผู้เป็นเจ้า เรายอมถูกหยามเกียรติเพื่อเจ้าจะได้รับการเชิดชู และยอมทนรับความทรมานนานับประการเพื่อให้เจ้าเจริญรุ่งเรืองและเฟื่องฟู จงดูเถิดว่า พวกเขาผู้ที่เคยอยู่เคียงข้างพระผู้เป็นเจ้าได้ทำเช่นใด เพื่อบังคับให้พระผู้เสด็จมาเพื่อสร้างสรรค์โลกใหม่อาศัยอยู่ในเมืองอันว่างเปล่าที่น่าหดหู่อย่างที่สุด?

?จงปฏิบัติตามบัญญัติของเราด้วยรักในความงามของเรา?

?ดูกร สหายแห่งบัลลังก์ของเรา อย่าได้ฟังหรือมองสิ่งชั่วร้าย อย่าทำตัวเองให้ตกต่ำ อย่าถอนหายใจหรือร่ำไห้ จงอย่าพูดสิ่งชั่วร้าย เพื่อว่าผู้อื่นจะไม่พูดสิ่งชั่วร้ายกับเจ้า และอย่าขยายข้อบกพร่องของผู้อื่น เพื่อว่าข้อบกพร่องของเจ้าเองจะไม่ใหญ่ขึ้น อย่าปรารถนาความตกต่ำให้แก่ผู้อื่น เพื่อว่าความตกต่ำของเจ้าเองจะไม่ถูกเผย ? วันเวลาของเจ้าคงอยู่เพียงชั่วแล่น ดังนั้นจงดำเนินชีวิตด้วยจิตใจที่ไม่ด่างพร้อย ด้วยหัวใจที่ไร้มลทิน ด้วยความคิดและอุปนิสัยที่วิสุทธิ์ เพื่อว่าเจ้าจะเป็นอิสระและพอใจที่จะละทิ้งร่างกายที่ต้องมลายไปนี้ไปสู่สวรรค์อันเร้นลับ และอาศัยอยู่ในอาณาจักรอนันต์ไปชั่วนิรันดร์?

?ดูกร บุตรแห่งธรรม เราสร้างเจ้าขึ้นมาล้ำค่า เหตุไฉนเจ้าจึงลดค่าตัวเอง เรานฤมิตเจ้าขึ้นมาประเสริฐ เหตุไฉนเจ้าจึงทำตัวเองให้ต่ำลง เราให้ชีวิตของเจ้ากำเนิดมาจากสาระแห่งความรู้ เหตุไฉนเจ้าจึงแสวงหาวิชชาจากผู้อื่นนอกไปจากเรา เราปั้นเจ้าขึ้นมาจากดินแห่งความรัก เจ้ากลับสาละวนอยู่กับผู้อื่นได้อย่างไร จงพิศดูตัวเจ้าเอง เพื่อว่าเจ้าจะเห็นเราดำรงอยู่ภายในเจ้าด้วยตนเองอย่างทรงอำนาจและทรงพลานุภาพ?

?ดังนั้น ผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้า และคนรับใช้ของพระผู้ทรงปรานีจะต้องฝึกฝนบุตรหลานของตนด้วยชีวิตและจิตใจ และสอนพวกเขาในโรงเรียนแห่งคุณธรรมและความสมบูรณ์พร้อม พวกเขาจะต้องไม่หย่อนยานหรือขาดประสิทธิภาพในการนี้ โดยแท้แล้ว หากทารกไม่มีชีวิตอยู่เลยจะเป็นการดีเสียกว่าที่จะให้ทารกนั้นเติบโตขึ้นอย่างโง่เขลา? เพราะเด็กทารกที่ไร้เดียงสานั้น เมื่อโตขึ้นจะกลายเป็นผู้มีข้อบกพร่องเหลือคณานับที่ทารกนั้นต้องรู้สึกรับผิดชอบต่อพระผู้เป็นเจ้าและถูกไต่สวนโดยพระองค์ และเป็นผู้ถูกตำหนิและปฏิเสธโดยประชาชน นี่ช่างเป็นบาปและการละเลยเพียงใด!?

หน้าที่แรกของผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้า และคนรับใช้ของพระผู้ทรงปรานีคือสิ่งนี้ : พวกเขาจะต้องพยายามในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ที่จะให้การศึกษาแก่ทั้งสองเพศ บุรุษและสตรี เด็กหญิงและเด็กชาย ไม่มีความแตกต่างใดๆ อยู่ระหว่างสองเพศนี้ ความโง่เขลาของทั้งสองกลุ่มควรได้รับการตำหนิ และการไม่เอาใจใส่ในทั้งสองกรณีนี้ควรได้รับการประณาม ?ผู้ที่รู้กับผู้ที่ไม่รู้นั้นเท่าเทียมกันหรือไม่?

“ดูกร ผู้ที่เดินไปบนหนทางของพระผู้เป็นเจ้า จงรับส่วนของเจ้าจากมหาสมุทรแห่งพระกรุณาธิคุณของพระองค์ และจงอย่ายอมขาดเสียซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่ในความล้ำลึกนั้น จงเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่มีส่วนได้รับสมบัติจากห้วงสมุทรนั้น น้ำจากมหาสมุทรนี้เพียงเท่าหยดน้ำค้างหากกระเซ็นไปทั่วสวรรค์และแผ่นดิน ก็ยังเพียงพอที่จะอำนวยความอุดมแก่สิ่งเหล่านั้นด้วยพระกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงอำนาจ พระผู้ทรงตรัสรู้ พระผู้ทรงปรีชาญาณ และด้วยมือที่สละแล้วซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างทางโลก จงวักน้ำที่ประสาทชีวิตจากมหาสมุทรแห่งนั้น และพรมสรรพสิ่งทั้งปวง เพื่อว่าสิ่งเหล่านั้นจะถูกชำระล้างจากความจำกัดที่มนุษย์สร้างขึ้น และจะได้เข้าใกล้บัลลังก์อันทรงอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งก็คือที่อันศักดิ์สิทธิ์และสุกสกาว”

?จงอย่าเศร้าโศกหากเจ้าปฏิบัติตามนี้โดยลำพังผู้เดียว จงให้พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นความเพียงพอในทุกสิ่งสำหรับเจ้า จงติดต่ออย่างใกล้ชิดกับพระวิญญาณของพระองค์ และจงเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่รู้คุณ จงประกาศศาสนาของพระผู้เป็นนายของเจ้ากับทุกคนที่อยู่บนสวรรค์และแผ่นดิน หากผู้ใดตอบสนองคำร้องเรียกของเจ้า จงเปิดเผยให้เขาเห็นไข่มุกแห่งอัจฉริยภาพของพระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า อันเป็นสิ่งที่พระวิญญาณของพระองค์ได้ส่งลงมาให้เจ้า และจงเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่เชื่ออย่างแท้จริง หากผู้ใดปฏิเสธข้อเสนอของเจ้า จงหันไปจากเขาเสียและมอบความไว้วางใจและความเชื่อมั่นของเจ้าไว้ในพระผู้เป็นนาย พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งภพทั้งปวง??

?ด้วยความแน่วแน่ที่จะลุกขึ้นและตอบสนองต่อการร้องเรียกให้สอนศาสนา ด้วยการมีความคิดริเริ่มของเขาเองอย่างไม่ย่อท้อเพราะอุปสรรคใดๆ ที่ไม่ว่ามิตรหรือศัตรูจะนำมาขัดขวางทางของเขาโดยไม่ตั้งใจหรือโดยเจตนาก็ตาม ขอให้เขาพิจารณาอย่างระมัดระวังถึงทุกวิถีทางของการดำเนินการที่เขาจะใช้ในความพยายามส่วนบุคคลของตนในการดึงดูดความเอาใจใส่ รักษาไว้ซึ่งความสนใจของบรรดาผู้ที่เขาแสวงหาที่จะนำเข้ามาสู่ศาสนา และทำให้ศาสนาเป็นที่เข้าใจแก่คนเหล่านั้น ขอให้เขาสำรวจดูความเป็นไปได้ต่างๆ ที่สภาพการณ์อันเฉพาะเจาะจงทั้งหลายที่วิถีชีวิตหยิบยื่นให้แก่เขา? ประเมินข้อดีของความเป็นไปได้เหล่านั้น และดำเนินการต่อไปอย่างใช้สติปัญญาและอย่างเป็นระบบ เพื่อนำข้อดีเหล่านั้นมาใช้ในการบรรลุถึงเป้าหมายที่เขามีอยู่ในใจ?

?ขอให้เขาพยายามคิดค้นวิธีการต่างๆ อย่างเช่น การเข้าร่วมกับชมรม นิทรรศการ และแวดวงสังคมต่างๆ การบรรยายในหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวโยงกันกับคำสอนและอุดมการณ์ของศาสนา เช่น การเลิกดื่มสุรา ความมีศีลธรรม สวัสดิการสังคม ความใจกว้างทางเชื้อชาติและศาสนา ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ศาสนาอิสลาม และศาสนาเปรียบเทียบ หรือการเข้ามีส่วนร่วมในองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ด้านวัฒนธรรม มนุษยธรรม การกุศลและการศึกษาในขณะเดียวกันกับที่เขาอารักขาความมั่นคงของศาสนา การทำเช่นนี้จะเป็นการเปิดหนทางจำนวนมากมายให้กับเขา ที่จะทำให้เขาสามารถประสบความสำเร็จในการได้มาซึ่งความเห็นอกเห็นใจ การสนับสนุน และความจงรักภักดีในที่สุดจากบรรดาผู้ที่เขาติดต่อด้วย?

?ในขณะที่เขาทำการติดต่อดังกล่าวนั้น ขอให้เขาจดจำถึงการเรียกร้องต่างๆ ที่ศาสนามีต่อเขาอยู่อย่างต่อเนื่องให้เขารักษาเกียรติยศและสถานะของศาสนา อารักขาความสมบูรณ์ของกฎและหลักการต่างๆ ของศาสนา? แสดงให้เห็นถึงความครอบคลุมและความเป็นสากลของศาสนา และปกป้องผลประโยชน์อันจำเป็นและมากมายของศาสนาอย่างไม่หวั่นกลัว ขอให้เขาพิจารณาถึงระดับของการเปิดใจกว้างต่อการยอมรับของผู้ฟังของเขา และตัดสินใจด้วยตนเองว่าวิธีการสอนศาสนาโดยตรงหรือโดยอ้อมจะเป็นวิธีการที่เหมาะสม ในการที่เขาจะใช้สร้างให้ผู้แสวงหาเกิดความประทับใจในความสำคัญอันจำเป็นต่อชีวิตของข่าวสารแห่งสวรรค์? และชักชวนให้เขาเข้าร่วมกับผู้ที่ได้โอบกอดศาสนานี้ไว้แล้ว?

?ขอให้เขาจดจำตัวอย่างที่ให้ไว้โดยพระอับดุลบาฮา และการตักเตือนอย่างต่อเนื่องของท่านเกี่ยวกับการให้ความเมตตาอย่างมากมายแก่ผู้แสวงหาและการปฏิบัติตามคำสอนให้เห็นเป็นตัวอย่างจนถึงระดับที่เขาคาดหวังจะให้ค่อยๆ ซึมซาบเข้าไปในตัวผู้แสวงหา จนทำให้ผู้เป็นฝ่ายรับรู้สึกได้รับแรงโน้มน้าวใจด้วยตนเอง ที่จะพิจารณาว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของศาสนาที่ประมวลเอาหลักคำสอนดังกล่าวไว้? ในระยะเริ่มแรกขอให้เขาละเว้นจากการยืนกรานเกี่ยวกับกฎและการปฏิบัติตามต่างๆ เพราะอาจทำให้เกิดความตึงเครียดที่มากเกินไปแก่ความศรัทธาที่เพิ่งได้รับการกระตุ้นขึ้นใหม่ของผู้แสวงหา และขอให้เขาพยายามดูแลผู้แสวงหาอย่างอดทน อย่างมีไหวพริบ และอย่างตั้งใจ เพื่อให้บรรลุสู่วุฒิภาวะอย่างสมบูรณ์ และให้การช่วยเหลือแก่เขาในการประกาศการยอมรับของเขาในสิ่งใดก็ตามที่พระบาฮาอุลลาห์ทรงบัญญัติไว้แม้ว่าเขาจะยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ?

?ในทันทีที่บรรลุสู่ขั้นตอนนั้น ขอให้เขาแนะนำให้ผู้แสวงหารู้จักกับเพื่อนศาสนิกชนคนอื่นๆ และให้พยายามช่วยเหลือเขาโดยอาศัยการคบหาสมาคมอย่างต่อเนื่อง และการมีส่วนร่วมอย่างขยันขันแข็งในกิจกรรมทั้งหลายของชุมชนท้องถิ่น เพื่อที่เขาจะสามารถมอบส่วนแบ่งของตนให้กับการทำให้ชีวิตของชุมชนนั้นดีขึ้น การทำให้ภารกิจของชุมชนก้าวหน้า การทำให้ผลประโยชน์ของชุมชนมั่นคง และการประสานงานกิจกรรมต่างๆ ของชุมชนร่วมกับชุมชนพี่น้องอื่นๆ?

?ขอให้เขาจงอย่ารู้สึกพึงพอใจจนกว่าเขาจะได้ซึมซาบความปรารถนาอย่างลึกซึ้งยิ่งให้แก่บุตรทางจิตวิญญาณของเขา จนถึงขั้นที่ผู้นั้นได้รับการโน้มน้าวให้ลุกขึ้นยืนได้ด้วยขาของตนเอง และทำการตอบแทนด้วยการอุทิศพละกำลังของเขาให้กับการฟื้นชีวิตให้แก่จิตวิญญาณดวงอื่นๆ รวมทั้งการสนับสนุนกฎและหลักการทั้งหลายที่ศาสนาใหม่ของเขาวางไว้??

?สัญญาณของชั่วโมงใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้วในประวัติศาสตร์ของศาสนาอันเป็นที่รักของเรา เรียกร้องให้ทั่วประเทศมีความพยายามอย่างเป็นระบบและยั่งยืนในสนามของการสอนศาสนา วิธีนี้จะทำให้พลังทั้งหลายสามารถถูกมุ่งหมายไปในช่องทางต่างๆ ที่จะส่งผลให้ความรุ่งโรจน์ของศาสนาและเกียรติยศของสถาบันของศาสนาของเราเพิ่มพูนขึ้น?

?แผนการที่มีความเป็นระบบ ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างระมัดระวังและก่อตั้งขึ้นอย่างมั่นคง ควรจะได้รับการจัดทำขึ้น มีการดำเนินการอย่างขะมักเขม้น และขยายออกอย่างต่อเนื่อง?

?เหนือสิ่งอื่นใด ในระหว่างปีแรกๆ ของศตวรรษที่สองของศาสนาบาไฮ ข่าวสารที่ให้การรักษาของพระบาฮาอุลลาห์จะต้องได้รับการนำไปสู่ความสนใจของมวลชนอย่างจริงจังและเป็นระบบ ในช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศก ความทุกข์ยาก และความสับสนของพวกเขา โดยอาศัยเครื่องมือของระบบบริหารของศาสนาที่ได้มีการปฏิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสม และมีสาขาแผ่ขยายออกไปทั่วทุกทิศของซีกโลกตะวันตกแล้ว?

?งานด้านการสอนศาสนา ทั้งที่จัดขึ้นโดยสถาบันของศาสนา และที่เป็นผลของความคิดริเริ่มส่วนบุคคล จะต้องมีการดำเนินการต่อไปอย่างขยันขันแข็ง เพื่อว่าจะมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของศาสนิกชนซึ่งนำให้ประเทศต่างๆ ในจำนวนมากขึ้นไปสู่ขั้นตอนแห่งการเข้าสู่ศาสนาของผู้คนเป็นจำนวนมาก และในท้ายสุดไปสู่การเปลี่ยนศาสนาของมหาชน?

“ดูกร ท่านผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้า ตอนนี้เป็นเวลาสำหรับความพยายามอย่างกระตือรือร้น? ขอให้ท่านต่อสู้ดิ้นรนและมุ่งมั่น และเนื่องด้วยพระผู้ทรงความงามมาแต่โบราณกาลทรงถูกนำออกสู่สนามของความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสทั้งกลางวันและกลางคืน ขอให้เราสนองตอบด้วยการตรากตรำอย่างหนัก ฟัง และครุ่นคิดถึงคำแนะนำของพระผู้เป็นเจ้า ขอให้เราสลัดชีวิตของเราและละทิ้งวันเวลาที่สั้นและมีอยู่จำกัดของเรา ? ? ขอให้เราหันสายตาของเราไปจากความเพ้อฝันอันว่างเปล่าของรูปแบบอันผันแปรของโลกนี้ และรับใช้แก่วัตถุประสงค์ที่เหนือกว่า ซึ่งเป็นการออกแบบที่ยิ่งใหญ่นี้แทน ขอให้เราอย่าโค่นล้มพฤกษาต้นนี้ซึ่งมือแห่งกรุณาธิคุณแห่งสวรรค์ได้ปลูกไว้ลงเพราะจินตนาการทั้งหลายของเราเอง ขอให้เราอย่าบดบังความรุ่งโรจน์ที่หลั่งไหลมาจากอาณาจักรอับฮาด้วยเมฆดำแห่งภาพลวงตาและความสนใจที่เห็นแก่ตัวของเรา ขอให้เราอย่าเป็นเช่นสิ่งกีดขวางที่กั้นมหาสมุทรที่สาดซัดของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงอานุภาพ ขอให้เราอย่าขัดขวางกลิ่นหอมหวานอันบริสุทธิ์จากอุทยานของพระผู้ทรงความงามอันรุ่งโรจน์ทั้งปวงจากการพัดพาออกไปกว้างไกล ขอให้เราอย่ากีดกันห่าฝนในยามฤดูใบไม้ผลิของพระพรจากเบื้องบนในวันแห่งการกลับมาอยู่ร่วมกัน ขอให้เราอย่ายินยอมให้ความรุ่งโรจน์ของดวงอาทิตย์แห่งสัจธรรมเลือนลางและหายลับไป เหล่านี้คือคำตักเตือนของพระผู้เป็นเจ้าดังที่บรรยายไว้ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของพระองค์ ซึ่งเป็นธรรมลิขิตและสาส์นของพระองค์ที่แจ้งคำแนะนำของพระองค์แก่ผู้ที่มีความจริงใจ”

?ขอความรุ่งโรจน์ ความปรานี และพระพรของพระผู้เป็นเจ้าจงอยู่กับท่าน?

?จงเพ่งสายตาของท่านไปยังความเป็นไปได้ที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย พระพรอันเหลือคณานับ และเจตนารมณ์อันไม่อาจถูกเอาชนะได้ของศาสนาที่กำลังต่อสู้ ดิ้นรนและกำลังเจริญเติบโตอยู่นี้ของพระผู้เป็นเจ้า และจงอย่ายอมให้การโต้เถียงในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และความแตกต่างอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ของยุคปัจจุบันมาบดบังสายตาของท่านจากความรุ่งโรจน์อันสุกสกาวทั้งหลาย ที่อนาคตของศาสนามีสำรองไว้ให้กับผู้สนับสนุนที่ยึดมั่นและกล้าหาญ?

?หากมีความขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้นระหว่างพวกเจ้า จงมองเห็นเรากำลังยืนอยู่ต่อหน้า? และมองข้ามความบกพร่องของกันและกันเพื่อเห็นแก่นามของเรา และประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของเจ้าต่อศาสนาที่ประจักษ์แจ้งแสนอำไพของเรา เรารักที่จะเห็นเจ้าคบหากันด้วยมิตรภาพและความปรองดองตลอดเวลาภายในสวรรค์แห่งความพึงพอใจของเรา เราอยากสูดสุคนธรสแห่งไมตรีจิตและความสามัคคี ความเมตตารักใคร่และมิตรภาพจากการกระทำของเจ้า ดังนื้ คือคำแนะนำจากพระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงความซื่อสัตย์ เราจะอยู่กับเจ้าเสมอ หากเราได้สูดสุคนธรสแห่งมิตรภาพของเจ้า หัวใจของเราย่อมเบิกบานอย่างแน่นอน เพราะไม่มีสิ่งอื่นใดทำให้เราพึงพอใจได้ มนุษย์ผู้มีความเข้าใจอันแท้จริงทุกคนเป็นพยานต่อสิ่งนี้?

?จงเดินตามรอยเท้าของพระอับดุลบาฮาและในวิถีของพระผู้ทรงความงามแห่งอาณาจักรอับฮา ปรารถนาในทุกขณะที่จะอุทิศชีวิตของพวกท่าน ส่องแสงออกไปดั่งดวงอาทิตย์ ไม่มีวันหยุดพักดั่งทะเล จงให้ชีวิตแก่ทุ่งนาและขุนเขาดังพวกท่านเป็นเมฆแห่งสวรรค์ และดังเช่นพวกท่านเป็นสายลมแห่งเดือนเมษายน จงพัดพาความสดชื่นผ่านต้นไม้แห่งมนุษย์เหล่านั้นและทำให้พวกเขาผลิดอก?

?นั่นคือเพื่อที่จะกล่าวว่า มนุษย์ต้องค่อยๆ เลือนหายไปในพระผู้เป็นเจ้า ต้องลืมสภาพอันเห็นแก่ตัวของตนเอง เพื่อว่าเขาอาจจะลุกขึ้นสู่สถานะแห่งการเสียสละ การเสียสละนั้นควรอยู่ในระดับที่ถ้าแม้เขานอนหลับก็ไม่ควรเป็นไปเพื่อความพึงพอใจ แต่เพื่อพักผ่อนร่างกายเพื่อที่จะกระทำได้ดีขึ้น พูดได้ดีขึ้น อธิบายได้อย่างงดงามขึ้น เพื่อรับใช้คนรับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า และเพื่อพิสูจน์ความจริงทั้งหลาย เมื่อเขาตื่นอยู่เขาควรแสวงหาที่จะเอาใจใส่ รับใช้ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า และเสียสละสถานะต่างๆ ของตนเพื่อสถานะของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อเขาบรรลุสู่สถานะนี้ การรับรองของพระวิญญาณบริสุทธิ์จะมาถึงเขาอย่างแน่นอน และมนุษย์ผู้มีพลังเช่นนี้จะสามารถทนต่อทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลก?

?ข้าพเจ้าหวังด้วยพระกรุณาธิคุณของพระผู้ทรงความสูงส่ง ผู้ทรงฟื้นชีวิตแก่จิตวิญญาณทั้งหลาย ว่าท่านจะไม่หยุดพักแม้เพียงขณะเดียว แต่จะเต้นเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่องดั่งชีพจรของเส้นโลหิตแดงแห่งร่างกายของโลก เพื่อที่จะซึมซาบพลังแห่งชีวิตให้แก่จิตวิญญาณทั้งหลาย และทำให้ประชาชนพุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดของอาณาจักรสวรรค์?

?คนเหล่านี้จะตรากตรำอย่างไม่หยุดหย่อนทั้งวันและคืน จะไม่ใส่ใจต่อการทดสอบหรือความเศร้าโศก จะไม่ทนยอมการหยุดพักในความพยายามของพวกเขา จะไม่แสวงหาการพักผ่อน จะไม่นำพากับความสะดวกและความสบายทั้งปวง และด้วยความไม่ผูกพันและความปราศจากมลทิน พวกเขาจะอุทิศทุกขณะที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วของชีวิตของตนให้กับการแพร่กระจายสุคนธรสแห่งสวรรค์ และการยกย่องพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า ใบหน้าของพวกเขาจะฉายส่องความยินดีแห่งสวรรค์และหัวใจของพวกเขาจะเต็มเปี่ยมด้วยความหรรษา จิตวิญญาณของพวกเขาจะได้รับการกระตุ้น และรากฐานของพวกเขาจะยืนอยู่อย่างมั่นคง พวกเขาจะกระจายไปในโลกและเดินทางไปทั่วทุกภูมิภาค พวกเขาจะเปล่งเสียงขึ้นในที่ประชุมทุกแห่ง ทำการตกแต่งและฟื้นชีวิตให้กับทุกการชุมนุม พวกเขาจะพูดในทุกลักษณะการพูดและอธิบายทุกความหมายที่ซ่อนเร้น พวกเขาจะเปิดเผยความเร้นลับของอาณาจักรสวรรค์และแสดงสัญลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้าให้ปรากฏแก่ทุกคน พวกเขาจะลุกโชนอย่างสว่างไสวดั่งเช่นเทียนในแก่นกลางของที่ประชุมทุกแห่ง และส่องแสงออกไปดังดวงดาวบนขอบฟ้า สายลมอันอ่อนโยนที่โบกพัดมาจากอุทยานแห่งหัวใจของพวกเขาจะให้กลิ่นหอม และฟื้นชีวิตแก่จิตวิญญาณของมนุษย์ การเปิดเผยความรู้สึกนึกคิดของพวกเขาจะเติมความมีชีวิตชีวาให้แก่ประชาชนและชาติทั้งหลายของโลกเหมือนดั่งเช่นสายฝน?

?ข้าแต่พระผู้เป็นนาย ข้าพเจ้าเป็นนกที่ปีกหักและปรารถนาจะทะยานขึ้นไปในห้วงเวหาอันไร้ขีดจำกัดของพระองค์ ข้าพเจ้าจะทำเช่นนี้ได้อย่างไรหากมิใช่โดยอาศัยการดูแลเอาใจใส่ และความกรุณาของพระองค์ ? การรับรองและการช่วยเหลือของพระองค์?

?ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อพระผู้ทรงเป็นบ่อเกิดของการเปิดเผยธรรมและเป็นอรุโณทัยแห่งสัญลักษณ์ของพระองค์ ขอทรงทำให้หัวใจของข้าพเจ้าเป็นที่รองรับความรักของพระองค์และการระลึกถึงพระองค์ ขอทรงเชื่อมหัวใจของข้าพเจ้าไว้กับมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์ เพื่อว่าชลธีแห่งอัจฉริยภาพ และสายธารใสแห่งการสดุดีและการสรรเสริญของพระองค์จะหลั่งไหลออกมาจากหัวใจของข้าพเจ้า?

?ข้าพเจ้าร้องขอต่อพระองค์ ข้าแต่พระผู้ทรงเป็นกษัตริย์แห่งการดำรงอยู่ และพระผู้ทรงให้การคุ้มครองแก่ทั้งสิ่งที่มองเห็นได้และสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็น ขอทรงทำให้ผู้ใดก็ตามที่ลุกขึ้นรับใช้ศาสนาของพระองค์เป็นดั่งทะเลที่สาดซัดไปตามพระประสงค์ของพระองค์ ? เป็นผู้ที่ลุกโชนด้วยเพลิงแห่งพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ที่ส่องแสงมาจากขอบฟ้าแห่งสวรรค์ของพระประสงค์ของพระองค์?

?ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า โปรดทรงช่วยให้คนรับใช้ของพระองค์เชิดชูพระวจนะ พิสูจน์สิ่งที่ไร้สาระและไม่จริงให้ประจักษ์ สถาปนาความจริง แพร่กระจายบทกลอนอันศักดิ์สิทธิ์ไปกว้างไกล เปิดเผยความรุ่งโรจน์ และทำให้แสงอุษารุ่งอรุณขึ้นในหัวใจของผู้ที่ชอบธรรม?

?ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงแลเห็นความอ่อนแอ ความต่ำต้อย และความอ่อนน้อมถ่อมตนของข้าพเจ้าที่มีอยู่ต่อหน้าสรรพสิ่งสร้างสรรค์ของพระองค์ ? ? แม้กระนั้น ข้าพเจ้าก็วางใจในพระองค์ และได้ลุกขึ้นส่งเสริมคำสอนของพระองค์ท่ามกลางคนรับใช้ที่แข็งแรงของพระองค์ ด้วยความเชื่อมั่นในพลังอำนาจ และอานุภาพของพระองค์?

?ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงเห็นว่าข้าพเจ้าในยามที่มีความต่ำต้อยและอ่อนแอ ได้ใช้เวลาอยู่กับภารกิจอันยิ่งใหญ่ด้วยความตั้งใจที่จะเชิดชูพระวจนะในท่ามกลางมวลชน และแพร่กระจายพระธรรมคำสอนของพระองค์ไปในหมู่ประชาชนของพระองค์ ข้าพเจ้าจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรหากพระองค์ไม่ทรงช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยลมหายใจแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ โปรดทรงช่วยให้ข้าพเจ้ามีชัยชนะด้วยเหล่าเทวัญแห่งอาณาจักรอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ และขอทรงโปรยปรายการรับรองของพระองค์ให้แก่ข้าพเจ้า? ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่สามารถเปลี่ยนให้ริ้นกลายเป็นนกอินทรี น้ำหยดหนึ่งกลายเป็นแม่น้ำและทะเล และทำให้อะตอมกลายเป็นแสงสว่างและดวงอาทิตย์?

?ข้าแต่พระผู้เป็นนาย ข้าพเจ้าอ่อนแอ ขอทรงทำให้ข้าพเจ้าเข้มแข็งด้วยพลังอำนาจ และอานุภาพของพระองค์ ลิ้นของข้าพเจ้านั้นตะกุกตะกัก ขอทรงทำให้ข้าพเจ้าเปล่งวาจาเพื่อการสรรเสริญและการรำลึกถึงพระองค์ ข้าพเจ้าต่ำต้อย โปรดทรงให้เกียรติแก่ข้าพเจ้าด้วยการยอมรับข้าพเจ้าเข้าสู่อาณาจักรของพระองค์ ข้าพเจ้านั้นอยู่ห่างไกล ขอทรงทำให้ข้าพเจ้าได้เข้าไปใกล้ธรณีประตูแห่งความปรานีของพระองค์?

?ข้าแต่พระผู้เป็นนาย หากลมหายใจแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์จะให้การรับรองแก่ผู้อ่อนแอที่สุดในหมู่สรรพสิ่งสร้างสรรค์ เขาย่อมจะบรรลุสู่ทุกสิ่งที่เขาใฝ่ฝัน และย่อมจะครอบครองสิ่งใดก็ตามที่เขาปรารถนา?

?ข้าแต่พระผู้เป็นนาย โปรดทรงแสดงจิตวิญญาณที่ถ่อมตนและยอมจำนนเหล่านี้ให้ปรากฏในแผ่นดินของพระองค์ ขอให้ใบหน้าของพวกเขาเรืองรองด้วยรัศมีแห่งการนำทาง เป็นอิสระจากโลก สรรเสริญพระนามของพระองค์ เปล่งวาจาแห่งการสดุดีพระองค์ ? และแพร่กระจายสุคนธรสแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ในท่ามกลางมนุษยชาติ?

?ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า โปรดทรงช่วยคนรับใช้ที่พระองค์ทรงไว้ใจให้มีหัวใจที่มีความรักและเมตตาปรานี โปรดทรงช่วยให้พวกเขาส่องแสงแห่งการนำทางที่มาจากหมู่เทวัญเบื้องบนไปท่ามกลางประชาชาติทั้งปวงบนพิภพ?

?ข้าแต่พระผู้เป็นนายของข้าพเจ้า แท้จริงแล้ว คนรักของพระองค์นั้นกระหาย โปรดทรงนำพวกเขาไปสู่น้ำพุแห่งความอารีและความกรุณา แท้จริงแล้วพวกเขาหิวโหย โปรดทรงประทานโต๊ะอาหารแห่งสวรรค์ของพระองค์ลงมาให้พวกเขา แท้จริงแล้ว พวกเขาไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่ โปรดทรงห่อหุ้มพวกเขาด้วยเครื่องแต่งกายแห่งการเรียนรู้และความรู้?

?ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าผู้ไม่มีผู้ใดเปรียบปานได้ ข้าแต่พระผู้เป็นนายแห่งอาณาจักรสวรรค์ จิตวิญญาณเหล่านี้คือกองทัพอันล้ำเลิศของพระองค์ โปรดทรงช่วยเหลือพวกเขา ขอทรงให้หมู่เทวัญเบื้องบนช่วยให้พวกเขามีชัยชนะ เพื่อว่าพวกเขาแต่ละคนจะกลายเป็นกองทัพที่พิชิตประเทศเหล่านี้ด้วยความรักของพระผู้เป็นเจ้าและแสงสว่างแห่งพระธรรมสวรรค์?