ความเจริญของโลกสัมฤทธิ์ผลได้โดยอาศัยการกระทำที่บริสุทธิ์และดีงาม ความประพฤติที่งดงามและน่าสรรเสริญ

ดูกร ประชาชนแห่งบาฮา จงระวัง อย่าเดินในวิถีของพวกที่พูดอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่างหนึ่ง

ดูกร บุตรแห่งชีวิต! จงสำรวจตัวเจ้าเองแต่ละวันก่อนที่เจ้าจะถูกเรียกไปคิดบัญชี?

ดูกร ภราดรทั้งหลาย จงกล่าวว่า ขอให้การกระทำเป็นอาภรณ์ของเจ้า มิใช่คำพูด

วาจาและการกระทำที่ดีงามบริสุทธิ์จะขึ้นไปสู่สวรรค์อันรุ่งโรจน์

วาจาสัตย์คือรากฐานของคุณธรรมทั้งปวง

หากปราศจากวาจาสัตย์ ความก้าวหน้าและความสำเร็จในทุกภพของพระผู้เป็นเจ้าเป็นไปไม่ได้สำหรับจิตวิญญาณทุกดวง

ดูกร ประชาชน จงตกแต่งวาจาของเจ้าด้วยความสัตย์ และประดับจิตวิญญาณของเจ้าด้วยอลงกรณ์แห่งความสุจริต

ขอให้ดวงตาของเจ้าบริสุทธิ์ มือของเจ้าซื่อสัตย์ วาจาของเจ้ามีสัจจะ และหัวใจของเจ้าสว่าง

บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในเทพมณเฑียรของพระผู้เป็นเจ้าและตั้งมั่นอยู่บนความรุ่งโรจน์อนันต์แม้ว่ากำลังจะตายเพราะความหิว เขาก็จะไม่ยื่นมือไปหยิบฉวยทรัพย์สินของเพื่อนบ้านอย่างมิชอบแม้ว่าเพื่อนบ้านนั้นเป็นคนต่ำช้าไร้ค่าเพียงใดก็ตาม

ลิ้นที่อ่อนโยนคือแม่เหล็กที่ดึงดูดหัวใจของมนุษย์ คืออาหารของจิตวิญญาณ ซึ่งสวมถ้อยคำด้วยความหมาย คือบ่อเกิดแสงสว่างแห่งอัจฉริยภาพและความเข้าใจ

ดูกร ผู้เป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นนาย ในยุคศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ ความขัดแย้งและการโต้เถียงไม่เป็นที่อนุญาต ผู้ก้าวร้าวทุกคนพรากตนเองออกจากกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้า

ในยุคนี้ไม่มีสิ่งใดเป็นภัยต่อศาสนานี้มากกว่าการทะเลาะวิวาท การต่อสู้ การโต้เถียง ความหมางเมินและเย็นชาต่อกันในหมู่ผู้เป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นเจ้า

อย่าพอใจกับการแสดงมิตรภาพด้วยคำพูดเท่านั้น จงให้หัวใจของเจ้าลุกด้วยไฟแห่งความเมตตารักใคร่สำหรับทุกคนที่อาจเข้ามาในวิถีของเจ้า

เมื่อสงครามเข้ามาในความคิด จงต้านด้วยความคิดถึงสันติภาพที่เหนือกว่า ความรู้สึกเกลียดชังต้องถูกทำลายลงด้วยความคิดแห่งความรักซึ่งมีอำนาจเหนือกว่า

การนินทาดับแสงของหัวใจและดับชีวิตของจิตวิญญาณ

จงอย่าเอ่ยถึงบาปของผู้อื่นในเมื่อเจ้าเองก็เป็นคนบาป

จงอย่าพูดสิ่งชั่วร้าย เพื่อว่าผู้อื่นจะไม่พูดสิ่งชั่วร้ายกับเจ้า และอย่าขยายข้อบกพร่องของผู้อื่นเพื่อว่าข้อบกพร่องของเจ้าเองจะไม่ใหญ่ขึ้น

ดูกร บุตรแห่งชีวิต เจ้าลืมข้อบกพร่องของเจ้าเองและยุ่งอยู่กับข้อบกพร่องของผู้อื่นได้อย่างไร ใครทำเช่นนี้จะได้รับเคราะห์จากเรา

ข้าพเจ้าขอวิงวอนพระองค์?.ขอทรงบันดาลให้การอธิษฐานของข้าพเจ้ากลายเป็นไฟที่จะเผาม่านที่ปิดกั้นข้าพเจ้าจากความงามของพระองค์ และเป็นแสงสว่างที่จะนำข้าพเจ้าไปสู่มหาสมุทรแห่งสถิตสถานของพระองค์

ไม่มีสิ่งใดในโลกแห่งการดำรงอยู่หวานมากกว่าการอธิษฐาน มนุษย์ต้องมีชีวิตอยู่ในสภาวะของการอธิษฐาน สภาวะที่ได้รับการประสาทพรสูงสุดคือสภาวะของการอธิษฐานและการวิงวอน การอธิษฐานคือการสนทนากับพระผู้เป็นเจ้า การบรรลุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหรือสภาวะที่หวานที่สุดมิใช่อื่นใดนอกจากการสนทนากับพระผู้เป็นเจ้า การสนทนานี้ก่อให้เกิดความผ่องแผ้วทางธรรม สติและความสุขใจ นำมาซึ่งพลังดึงดูดใหม่ๆ จากอาณาจักรสวรรค์และก่อกำเนิดความตื่นตัวต่อภูมิปัญญาที่สูงกว่า

ดูกร คนรับใช้ของเรา จงสวดวจนะของพระผู้เป็นเจ้าที่เจ้าได้รับดังเช่นผู้ที่เข้าใกล้พระองค์ได้สวด เพื่อว่าความหวานในทำนองของเจ้าจะจุดไฟขึ้นในจิตวิญญาณของเจ้าเองและดึงดูดหัวใจของมวลมนุษย์ ใครที่สวดวจนะที่พระผู้เป็นเจ้าเปิดเผยโดยลำพังในห้อง เทพธิดาของพระผู้ทรงมหิทธานุภาพที่กระจายอยู่ทุกแห่งหน จะขจรสุคนธรสที่เปล่งจากปากของเขาไปกว้างไกล และจะดลให้หัวใจของมนุษย์ที่ชอบธรรมทุกคนเต้นอย่างระทึกแม้ว่าตอนแรกเขาอาจไม่ตระหนักถึงผลของการอธิษฐาน แต่อิทธิพลของพระกรุณาที่เขาได้รับจะโน้มน้าววิญญาณของเขาในไม่ช้า ความลึกลับของการเปิดเผยพระธรรมของพระผู้เป็นเจ้าถูกประกาศิตไว้ดังนี้ โดยพระประสงค์ของพระผู้เป็นบ่อเกิดของอานุภาพและอัจฉริยภาพ

ในการอธิษฐานขั้นสูงสุด มนุษย์จะอธิษฐานด้วยความรักของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น มิใช่ว่ากลัวพระองค์หรือกลัวนรก มิใช่เพราะหวังจะได้พรหรือขึ้นสวรรค์? เมื่อมนุษย์หลงรักใครคนหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่กล่าวถึงชื่อของผู้ที่เขารัก ดั้งนั้นยากกว่าเพียงไหนที่จะไม่กล่าวถึงพระนามของพระผู้เป็นเจ้าเมื่อมนุษย์รักพระองค์? ผู้มีธรรมไม่พบความปีติในสิ่งใดนอกจากในการระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า

ถ้าคนเรารักเพื่อนคนหนึ่ง ย่อมเป็นธรรมดามิใช่หรือที่เขาปรารถนาจะพูดถึงความรักนั้น?แม้เขาจะรู้ว่าเพื่อนตระหนักในความรักของเขา เขาก็ยังปรารถนาจะบอกรักเพื่อนมิใช่หรือ?เป็นความจริงที่ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงทราบความปรารถนาของหัวใจทุกดวง แต่ความรู้สึกอยากอธิษฐานนั้นเกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยมาจากความรักของมนุษย์ที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า

ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า! ของทรงอย่าถือความหวังและการกระทำของข้าพเจ้า ขอทรงถือแต่พระประสงค์ของพระองค์ที่ห้อมล้อมสวรรค์และโลก พระนามอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์เป็นพยาน ข้าแต่พระผู้เป็นนายของชาติทั้งปวง ! ข้าพเจ้าปรารถนาแต่สิ่งที่พระองค์ปรารถนาและรักแต่สิ่งที่พระองค์รัก

ข้าแต่พระผู้เป็นนายของข้าพเจ้า ขอทรงบันดาลให้การอธิษฐานของข้าพเจ้าเป็นน้ำพุแห่งชีวิตที่จะหล่อเลี้ยงข้าพเจ้าตราบนานเท่าที่อธิปไตยของพระองค์ยังอยู่ และช่วยให้ข้าพเจ้ากล่าวถึงพระองค์ในทุกภพ

พระองค์ทรงความสูงส่งเกินกว่าคำสรรเสริญของบรรดาผู้ที่อยู่ใกล้จะขึ้นไปถึงนภาแห่งความใกล้ชิดพระองค์ หรือวิหคแห่งหัวใจของบรรดาผู้ที่อุทิศตนต่อพระองค์จะไปถึงประตูของพระองค์ ข้าพเจ้าของยืนยันว่า พระองค์ทรงความวิสุทธิ์เหนือคุณลักษณะและนามทั้งปวงไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระผู้ทรงประเสริฐสุด พระผู้ทรงความรุ่งโรจน์

ดูกร บุตรแห่งอาภา จงลืมทุกสิ่งนอกจากเราและสนทนากับวิญญาณของเรา นี่คือแก่นสารของบัญชาของเรา ดังนั้นจงใส่ใจ

จงวางใจในพระผู้เป็นเจ้า จงละทิ้งความประสงค์ของเจ้าเองแล้วยึดถือพระประสงค์ของพระองค์ จงละทิ้งความปรารถนาของเจ้าเองและยึดถือความปรารถนาของพระองค์?

จิตวิญญาณมีอิทธิพล การอธิษฐานมีผลต่อจิตวิญญาณ ดังนั้นเราอธิษฐานว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า โปรดรักษาผู้ป่วยคนนี้ บางทีพระผู้เป็นเจ้าจะทรงตอบ สำคัญหรือไม่ว่าใครเป็นผู้อธิษฐาน พระผู้เป็นเจ้าจะทรงตอบคำอธิษฐานของคนรับใช้ทุกคนหากการอธิษฐานนั้นเป็นเรื่องเร่งด่วน ความปรานีของพระองค์นั้นไพศาลและไร้ขีดจำกัด พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของคนรับใช้ทุกคน พระองค์ทรงตอบคำอธิษฐานของพืชต้นนี้ซึ่งอธิษฐานว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า โปรดหลั่งฝนให้แก่ข้าพเจ้า! พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานและพืชนั้นก็เติบโต พระผู้เป็นเจ้าจะทรงตอบทุกคน

จงสวดวจนะของพระผู้เป็นเจ้าทุกเช้าค่ำ ผู้ที่ไม่สวดเท่ากับไม่ซื่อสัตย์ต่อพระปฏิญญาและพินัยกรรมของพระองค์ และใครที่เมินพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ในยุคนี้เป็นพวกที่เมินพระผู้เป็นเจ้ามาตลอดนิรันดรกาล ดูกร คนรับใช้ของเรา จงเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า

บัดนี้มาถึงคำถามของเจ้าเกี่ยวกับจิตวิญญาณของมนุษย์และการดำรงอยู่ภายหลังความตาย เจ้าจงรู้ความจริงไว้ว่า ภายหลังที่แยกจากร่างกายจิตวิญญาณจะพัฒนาต่อไปจนกระทั่งไปถึงที่สถิตของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งจะเป็นไปในสภาวะที่การหมุนเวียนของยุคสมัยและศตวรรษหรือการเปลี่ยนแปลงและความบังเอิญของโลกนี้ ก็ไม่สามารถหันเหได้ จิตวิญญาณจะคงอยู่ตราบเท่าที่อาณาจักรอธิปไตย และอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้ายังอยู่ จิตวิญญาณจะแสดงสัญลักษณ์และคุณลักษณะของพระผู้เป็นเจ้า และจะเปิดเผยความเมตตารักใคร่และความอารีของพระองค์

จงรู้ไว้ว่า หูที่สดับฟังหากยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ในทุกเวลาต้องตั้งใจฟังเสียงที่เปล่งวจนะ ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จากทุกทิศทาง : แท้จริงแล้ว เราเป็นของพระผู้เป็นเจ้า และเราจะกลับไปสู่ พระองค์ ความลึกลับของความตายของมนุษย์และการกลับไปของเขายังไม่ถูกเปิดเผยและยังไม่ได้เฉลย ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน หากความลึกลับนี้ถูกเปิดเผย การเปิดเผยนั้นจะก่อให้เกิดความกลัวและความทุกข์โศกจนทำให้บางคนมอดม้วย ขณะที่บางคนจะปลื้มปีติถึงกับปรารถนาความตายและวิงวอนอย่างไม่หยุดหย่อนขอให้พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงองค์เดียวทรงเร่งจุดจบของเขาให้มาถึงโดยเร็ว ขอความสูงส่งจงมีแด่ความรุ่งโรจน์ของพระผู้เป็นเจ้า

ความตายให้ถ้วยแห่งชีวิตแก่ผู้ที่เชื่ออย่างมั่นใจทุกคน ความตายมอบความหรรษา นำความปรีดามาให้ และประทานชีวิตนิรันดร์เป็นของขวัญ

สำหรับบรรดาผู้ที่ได้ลิ้มผลไม้แห่งการดำรงชีวิตบนโลกนี้ ซึ่งคือการยอมรับพระผู้เป็นเจ้า ที่แท้จริงองค์เดียว ขอความสูงส่งจงมีแด่ความรุ่งโรจน์ของพระองค์ ชีวิตของพวกเขาถัดจาก ภพนี้ เราไม่สามารถพรรณนาได้ ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่กับพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น พระผู้ทรงเป็นนายแห่งภพทั้งปวง

จุดประสงค์ในเวลาที่ผ่านมาและตลอดไปในอนาคตที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาคือ เพื่อช่วยให้มนุษย์รู้จักพระผู้สร้างและได้เข้าเฝ้าพระองค์ คัมภีร์ที่มีน้ำหนักและเปิดเผยจากสวรรค์ทุกเล่มเป็นพยานอย่างแน่ชัดต่อจุดมุ่งหมายอันล้ำเลิศที่สุดและวัตถุประสงค์อันยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ ผู้ใดก็ตามที่ยอมรับอรุโณทัยแห่งการนำทางสวรรค์และเข้าไปในราชสำนัก อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เท่ากับเข้าไปใกล้พระผู้เป็นเจ้าและได้เข้าเฝ้าพระองค์ซึ่งเป็นสวรรค์ที่แท้จริง และคฤหาสน์อันตระหง่านที่สุดในสวรรค์นี้เป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น…ผู้ที่ไม่ยอมรับพระองค์เท่ากับพาตัวเองไปสู่ความทุกข์ยากของการอยู่ห่างไกลจากพระองค์ อันเป็นความห่างไกลที่มิใช่อื่นใดนอกจากศูนยภาพโดยสิ้นเชิงและไฟโลกันตร์ที่แท้จริง นี่คือชะตาของเขาแม้ว่าดูภายนอกเขาอาจจะครองตำแหน่งสูงส่งที่สุดและอยู่บนบัลลังก์อันประเสริฐสุดของโลกก็ตาม

ตอนเริ่มต้นชีวิต มนุษย์เป็นตัวอ่อนในครรภ์ ที่นั่นเขาได้รับความสามารถและพรสวรรค์สำหรับความเป็นมนุษย์ พลังและความสามารถที่จำเป็นสำหรับโลกนี้ถูกประทานให้แก่มนุษย์ในสภาวะที่จำกัดดังกล่าว ในโลกนี้มนุษย์จำเป็นต้องมีตา เขาได้รับดวงตาจากในครรภ์ มนุษย์ จำเป็นต้องมีหู เขาได้รับหูจากที่นั่นพร้อมสำหรับการดำรงอยู่ใหม่ของเขา พลังความสามารถที่จำเป็นสำหรับโลกนี้ประทานให้แก่มนุษย์ในครรภ์

ดังนั้นในโลกนี้มนุษย์ต้องเตรียมตัวสำหรับชีวิตหน้า สิ่งที่เขาจำเป็นต้องมีในอาณาจักรสวรรค์ต้องได้มาในโลกนี้ ดังเช่นที่มนุษย์เตรียมตัวในครรภ์โดยได้มาซึ่งพลังที่จำเป็นสำหรับการดำรงอยู่ในโลกนี้ ในทำนองเดียวกันพลังที่ขาดไม่ได้สำหรับการดำรงอยู่ในภพสวรรค์ต้องได้มาในโลกนี้

หน้าที่ทั้งหมดของมนุษย์ในยุคนี้คือการรองรับสายธาราแห่งกรุณาธิคุณที่หลั่งมาจากพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นขออย่าให้ผู้ใดใส่ใจกับขนาดใหญ่หรือเล็กของภาชนะรองรับ ส่วนแบ่งของบางคนอาจเท่าอุ้งมือ ของคนอื่นอาจเต็มถ้วยหรือเต็มแกลลอน

เจ้าถามเราเกี่ยวกับธรรมชาติของจิตวิญญาณ จงรู้ไว้ว่าจิตวิญญาณคือสัญลักษณ์หนึ่งของพระผู้เป็นเจ้า คือมณีสวรรค์ที่มนุษย์ผู้แก่วิชาที่สุดก็ไม่สามารถเข้าใจ ความลับของจิตวิญญาณนั้นปัญญาที่เฉียบแหลมเพียงไรก็ไม่สามารถคลี่คลายได้ จิตวิญญาณคือสิ่งแรกในสรรพสิ่งทั้งปวงที่ประกาศความล้ำเลิศของพระผู้สร้าง ยอมรับความรุ่งโรจน์ของพระองค์ ยึดมั่นอยู่กับสัจธรรมของพระองค์และบูชาพระองค์ หากจิตวิญญาณซื่อสัตย์ต่อพระผู้เป็นเจ้า จิตวิญญาณจะสะท้อนอาภาของพระองค์และกลับไปหาพระองค์ในที่สุด แต่ถ้าจิตวิญญาณไม่ภักดีต่อพระผู้สร้าง จิตวิญญาณจะกลายเป็นเหยื่อของอัตตาและกิเลส และในที่สุดจะจมอยู่ในนั้น

เจ้าเป็นประหนึ่งนกที่เหินด้วยพลังทั้งหมดของปีกที่ยิ่งใหญ่ด้วยความเบิกบานและมั่นใจอย่างไพบูลย์ ผ่านไปในนภาอันไพศาล จนกระทั่งทนความหิวไม่ได้ จึงหันไปหาน้ำและดินบนพิภพเบื้องล่างด้วยความปรารถนา และด้วยติดอยู่ในร่างแหของกิเลสของตนเองจึงพบว่าตนไม่สามารถบินกลับไปสู่อาณาจักรที่ตนบินลงมา ด้วยสลัดภาระอันหนักหน่วงออกจากปีกที่แปดเปื้อนของตนไม่ได้ นกนั้นซึ่งเคยอาศัยอยู่ในสวรรค์จำต้องแสวงหาที่อาศัยบนธุลีดิน ดูกร คนรับใช้ของเรา ดังนั้นจงอย่าทำให้ปีกของเจ้าเปื้อนดินแห่งทิฐิและความปรารถนาที่ เหลวไหล และอย่ายอมให้ปีกนั้นเปื้อนธุลีแห่งความริษยาและชิงชัง เพื่อว่าเจ้าจะไม่ถูกขัดขวาง มิให้เหินขึ้นไปสู่นภาแห่งเมธาสวรรค์ของเรา

เมื่อพระองค์ทรงสร้างโลกและทุกสรรพสิ่งที่อาศัยและเคลื่อนไหวอยู่ในโลก ด้วยปฏิบัติการโดยตรงของพระประสงค์ที่เกรียงไกรที่สุด พระองค์ทรงเลือกที่จะประสาทมนุษย์ด้วยลักษณะพิเศษและความสามารถในการรู้จักและรักพระองค์ เป็นความสามารถที่ต้องถือว่าเป็นแรงขับและปฐมเจตนาที่อยู่เบื้องหลังของการสร้างสรรค์ทั้งหมดพระองค์ทรงสาดแสงให้แต่ละสิ่งด้วยพระนามหนึ่งของพระองค์และทรงบันดาลให้สิ่งนั้นเป็นผู้รับความรุ่งโรจน์ของคุณลักษณะหนึ่งอย่างของพระองค์ อย่างไรก็ตาม ความชัชวาลของพระนามและคุณลักษณะทั้งหมดของพระองค์รวมแสงมาที่มนุษย์ และทำให้มนุษย์เป็นกระจกสะท้อนฉายาของพระองค์ ในบรรดาสรรพสิ่งทั้งปวงมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ได้รับกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่และพระพรอันยั่งยืนเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม พลังงานเหล่านี้ที่ดวงตะวันแห่งความอารีและบ่อเกิดของการนำทางจากสวรรค์ประสาทให้กับมนุษย์แฝงอยู่ในตัวเขาประดุจเปลวไฟแฝงอยู่ในเทียนและรัศมีแฝงอยู่ในตะเกียง ความโชติช่วงของพลังงานเหล่านี้อาจถูกบดบังโดยกิเลสประดุจแสงอาทิตย์ถูกบดบังโดยคราบธุลีบนกระจกเงา เทียนและตะเกียงไม่สามารถติดไฟขึ้นมาเองโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือ และเป็นไปไม่ได้ที่กระจกเงาจะขจัดคราบออกไปจากตนเอง เป็นที่ประจักษ์และชัดเจนว่าจนกว่าจะมีการจุดไฟ ตะเกียงจะไม่ติดไฟ และนอกจากว่าคราบจะถูกขจัดออกไปจากผิวกระจก กระจกจะไม่แสดงภาพของดวงอาทิตย์ หรือไม่สะท้อนแสงสว่างและความโชติช่วงของดวงอาทิตย์

ประตูไปสู่การรู้จักพระผู้ดำรงอยู่มาแต่โบราณกาลปิดต่อมวลมนุษย์เสมอมาและจะปิด ตลอดไป ความเข้าใจของมนุษย์ไม่มีวันเข้าถึงราชสำนักอันควรสักการะของพระองค์ อย่างไรก็ตามพระองค์ได้สำแดงดวงตะวันแห่งการนำทางสวรรค์ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งเอกภาพสวรรค์ของพระองค์ให้ปรากฏต่อมนุษย์ ประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรานีและข้อพิสูจน์ถึงความเมตตารักใคร่ของพระองค์ และทรงบัญญัติให้การรู้จักพระศาสดาผู้วิสุทธิ์เหล่านี้เป็นเหมือนกับการรู้จักพระองค์เอง ผู้ที่ยอมรับพระศาสดาเท่ากับยอมรับพระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่เงี่ยหูฟังเสียงร้องเรียกของพระศาสดาเท่ากับเงี่ยหูฟังพระสุรเสียงของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่ยืนยันสัจจะของการเปิดเผยธรรมของพระศาสดาเท่ากับยืนยันสัจจะของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่เมินพระศาสดาเท่ากับเมินพระผู้เป็นเจ้า และผู้ที่ไม่เชื่อพระศาสดาเท่ากับไม่เชื่อพระผู้เป็นเจ้า พระศาสดาทุกพระองค์คือหนทางของพระผู้เป็นเจ้าที่เชื่อมโยงโลกนี้กับอาณาจักรเบื้องบน คือธงแห่งสัจธรรมของพระองค์สำหรับทุกคนในอาณาจักรสวรรค์และโลก คือการสำแดงองค์ของพระผู้เป็นเจ้าต่อมนุษย์ คือหลักฐานของสัจธรรมของพระองค์ และคือสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของพระองค์

มนุษย์คือเครื่องรางที่ขลังที่สุด อย่างไรก็ตาม การไม่ได้รับการศึกษาที่เหมาะสมได้พรากสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติของเขาไป มนุษย์กำเนิดขึ้นมาโดยวจนะเดียวที่เปล่งจากโอษฐ์ของพระผู้เป็นเจ้า และโดยอีกวจนะหนึ่งมนุษย์ได้รับการชักนำให้ยอมรับพระผู้เป็นบ่อเกิดการศึกษาของเขา และโดยอีกวจนะหนึ่งสถานะและโชคชะตาของเขาได้รับการปกป้อง พระผู้ทรงความยิ่งใหญ่กล่าวว่า : จงพิจารณามนุษย์เป็นประดุจเหมืองที่อุดมด้วยมณีอันประเมินค่ามิได้ การศึกษาเท่านั้นที่สามารถเปิดเผยสมบัติที่ล้ำค่านี้ออกมา และช่วยให้มนุษยชาติได้รับประโยชน์จากสมบัตินี้ หากมนุษย์ผู้ใดไตร่ตรองถึงสิ่งที่เปิดเผยในคัมภีร์ทั้งหลายที่ได้หลั่งไหลลงมาจากสวรรค์แห่งความประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า มนุษย์ผู้นั้นจะประจักษ์ว่าจุดประสงค์ของคัมภีร์เหล่านี้ คือการที่มนุษย์ทุกคนจะถูกนับว่าเป็นจิตวิญญาณดวงเดียวกัน เพื่อว่าตราประทับซึ่งบรรจุข้อความว่า อาณาจักรจะเป็นของพระผู้เป็นเจ้า จะถูกประทับลงบนหัวใจทุกดวง และแสงแห่งความอารี ความเมตตากรุณา และความปรานีของพระผู้เป็นเจ้าจะรายล้อมมนุษย์ทุกคน

พระพรจงมีแด่จิตวิญญาณที่ในชั่วโมงแห่งการแยกจากร่างกาย ได้รับการชำระให้ปลอดจากจินตนาการอันไร้สาระของประชาชนบนโลก ดวงวิญญาณดังกล่าวดำรงอยู่และเคลื่อนไหวไปตามพระประสงค์ของพระผู้สร้างของตน และเข้าไปสู่สวรรค์ชั้นสูงสุด บริจาริกาบนสวรรค์ผู้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์อันประเสริฐสุดจะรายล้อมดวงวิญญาณนั้น พระศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าและบรรดาผู้ที่พระองค์เลือกสรรจะเข้ามาคบหาสมาคมด้วย ดวงวิญญาณนั้นจะสนทนากับบุคคลเหล่านี้ได้อย่างอิสระ และจะเล่าให้พวกเขาฟังเกี่ยวกับสิ่งที่ตนได้ทนทุกข์ในวิถีทางของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายแห่งภพทั้งปวง

อย่างไรก็ตาม เราขอเป็นพยานว่า วิญญาณของผู้ที่ไม่มีศรัทธาเมื่อหายใจเฮือกสุดท้าย จะตระหนักถึงสิ่งดีงามทั้งหลายที่หนีจากเขาไป จะคร่ำครวญต่อชะตาของตนเองและถ่อมตนต่อพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาจะเป็นเช่นนี้ต่อไปภายหลังจากที่จิตวิญญาณของเขาแยกจากร่างกาย

เขาควรให้อภัยคนบาปและไม่รังเกียจสถานภาพของเขา เพราะไม่มีใครรู้ว่าจุดจบของตนจะเป็นอย่างไร บ่อยครั้งเพียงใดที่คนบาปได้เข้าถึงแก่นแท้ของความศรัทธาในชั่วโมงสุดท้าย และได้ดื่มน้ำอมฤตแล้วทะยานขึ้นไปหาหมู่เทวัญเบื้องบน และบ่อยครั้งเพียงใดที่ศาสนิกชนที่ศรัทธามั่นเมื่อถึงชั่วโมงที่จิตวิญญาณจะจากร่างไป กลับเปลี่ยนไปจนร่วงลงไปในเพลิงโลกันตร์

ความลึกลับที่มนุษย์ไม่ใส่ใจในโลกนี้ เขาจะค้นพบในภพสวรรค์ และที่นั่นมนุษย์จะรับทราบความลับของสัจธรรม ดังนั้นเขาจะค้นพบและจำบุคคลที่ตนเคยคบหาสมาคมได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในโลกนี้สักเพียงไหน ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีดวงตาบริสุทธิ์และได้รับการประทานความหยั่งเห็น จะคุ้นเคยกับความเร้นลับทั้งปวงในอาณาจักรแห่งแสงสว่าง และจะแสวงหาพระพรของการได้เห็นสภาวะอันแท้จริงของวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ทุกดวง พวกเขาจะได้เห็นความงามของพระผู้เป็นเจ้าในภพนั้นอย่างแจ่มแจ้ง ในทำนองเดียวกันพวกเขาจะได้พบมิตรสหายของพระผู้เป็นเจ้าจากอดีตทั้งใกล้และไกลพร้อมกันอยู่ในการชุมนุมสวรรค์

ความแตกต่างระหว่างมนุษย์ทั้งหมดจะเป็นที่ตระหนักภายหลังที่พวกเขาจากโลกนี้ไปแล้ว ความแตกต่างนี้ไม่เกี่ยวกับสถานที่ แต่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณและมโนธรรม เพราะอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าวิสุทธิ์ (เป็นอิสระ) พ้นจากกาลเวลาและสถานที่ เป็นอีกภพหนึ่ง อีกจักรวาลหนึ่ง แต่จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะได้รับของขวัญในการร้องขอพระกรุณาจากพระผู้เป็นเจ้าให้แก่บุคคลอื่น และจงรู้ไว้เป็นที่แน่นอนว่า ในภพสวรรค์ผู้มีธรรมผู้เป็นที่รักยิ่ง (ศาสนิกชน) ทั้งหลายจะจดจำกันและกันได้ และจะพยายามสมัครสมานกันอันเป็นการสมัครสมานทางจิตวิญญาณ ในทำนองเดียวกันความรักที่ผู้หนึ่งมีให้กับผู้ใดก็ตามจะไม่ถูกลืมในอาณาจักรสวรรค์ เช่นเดียวกันในอาณาจักรสวรรค์เจ้าจะไม่ลืมชีวิตของเจ้าบนโลกวัตถุนี้

เจ้ายังถามเราอีกเกี่ยวกับสภาวะของจิตวิญญาณภายหลังที่แยกจากร่างกาย จงรู้ความจริงไว้ว่า หากจิตวิญญาณของมนุษย์เดินในวิถีธรรมของพระผู้เป็นเจ้า จิตวิญญาณนั้นจะกลับไปสู่ความรุ่งโรจน์ของพระผู้เป็นที่รักยิ่งอย่างแน่นอน ความชอบธรรมของพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยาน ดวงวิญญาณนั้นจะบรรลุถึงสถานะที่ไม่มีปากกาด้ามใดพรรณนาได้ ไม่มีวจีใดอธิบายได้ ดวงวิญญาณที่ซื่อสัตย์ต่อศาสนาของพระผู้เป็นเจ้าและมั่นคงอย่างไม่หวั่นไหวอยู่ในวิถีของพระองค์ ภายหลังที่แยกจากร่างกายจะครอบครองอานุภาพในลักษณะที่ทุกภพซึ่งพระผู้ทรงมหิทธานุภาพสร้างไว้จะได้รับประโยชน์จากเขา

ดูกร คนรับใช้ของเรา อย่าได้ทุกข์โศกหากว่าในวันนี้สิ่งที่เป็นไปตามที่พระผู้เป็นเจ้า ทรงกำหนดไว้ในภพนี้ขัดกับความปรารถนาของเจ้า เพราะวันแห่งความสุขสันต์และปีติอนันต์ รอคอยเจ้าอยู่อย่างแน่นอน ภพทั้งหลายที่ศักดิ์สิทธิ์และรุ่งโรจน์พิสุทธิ์จะเปิดเผยต่อสายตา ของเจ้า ในภพนี้และภพถัดไปพระองค์ทรงกำหนดให้เจ้าได้รับคุณประโยชน์ ความหรรษา และส่วนแบ่งจากกรุณาธิคุณที่คอยค้ำจุนภพเหล่านั้น เจ้าจะได้รับทั้งหมดนี้อย่างไม่ต้องสงสัย