“เมื่อใดก็ตามที่ผู้เป็นที่รักของพระผู้เป็นเจ้าทั้งหมดในแต่ละประเทศแต่งตั้งผู้แทนของตน และผู้แทนเหล่านี้ทำการเลือกผู้แทนของตนขึ้นมา ซึ่งผู้แทนเหล่านี้จะทำการเลือกตั้งสภา อันเป็นสภาที่จะถือว่าเป็นสภายุติธรรมสูงสุด”

?การสถาปนาสภานี้ขึ้นมาไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนศาสนาของทุกประเทศชาติในโลก ยกตัวอย่างเช่น หากสถานการณ์เอื้ออำนวยและไม่มีการก่อสิ่งรบกวนใดๆ มิตรสหายในเปอร์เซียจะทำการเลือกตั้งผู้แทนของพวกเขา และมิตรสหายในอเมริกา อินเดีย และภูมิภาคอื่นๆ ก็จะเลือกผู้แทนของตนเช่นเดียวกัน และผู้แทนเหล่านี้จะทำการเลือกตั้งสภายุติธรรม สภายุติธรรมนั้นจะเป็นสภายุติธรรมสูงสุดเท่านั้นเอง?

?ความสำเร็จของวิสาหกิจ ซึ่งมีขอบข่ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่น และมีศักยภาพทางจิตวิญญาณอันมหาศาลนี้ ขึ้นอยู่กับการริเริ่มการดำเนินการต่างๆ ภายในขอบเขตของธรรมสภาแห่งชาติแต่ละแห่งทั้งหมดที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ทั่วโลกบาไฮในช่วงเวลาต่อมาของยุคก่อร่างของศาสนา?ซึ่งเป็นการดำเนินการที่จะมีองค์ประกอบภายในเป็นการโหมโรงสำหรับการเริ่มต้นขึ้นของวิสาหกิจทั้งหลายที่ครอบคลุมทั้งโลก ซึ่งจะได้รับการกำหนดให้เริ่มดำเนินการในสมัยต่อๆ ไปในอนาคตของยุคเดียวกันนั้นโดยสภายุติธรรมแห่งสากล ที่จะเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี และเป็นผู้ประสานงานและรวบรวมกิจกรรมทั้งหลายของธรรมสภาแห่งชาติเหล่านี้?

ในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงเป็นหนึ่งเดียว พระผู้ไม่มีผู้ใดเปรียบปานได้ พระผู้ทรงพลานุภาพ พระผู้ทรงรอบรู้ พระผู้ทรงอัจฉริยภาพ

?แสงสว่างที่ฉายส่องมาจากสวรรค์แห่งพระกรุณาธิคุณ และการอวยพรที่ส่องแสงมาจากอรุโณทัยสถานแห่งพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นนายของอาณาจักรแห่งนาม จงอยู่กับพระองค์ผู้ทรงเป็นสื่อกลางสูงสุด ปากกาอันสูงส่งที่สุด ผู้ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้เป็นอรุโณทัยสถานของพระนามอันดีเลิศที่สุดทั้งหลายของพระองค์และเป็นรุ่งอรุณแห่งคุณลักษณะอันสูงส่งทั้งหลายของพระองค์ โดยผ่านทางพระองค์แสงสว่างแห่งความสามัคคีได้ฉายส่องเหนือขอบฟ้าของโลก และกฎแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ถูกเปิดเผยท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย ผู้ซึ่งได้หันมายังขอบฟ้าอันสูงส่งด้วยใบหน้าที่ผ่องใส และรับรู้ในสิ่งที่ชิวหาแห่งพระวจนะได้เปล่งออกมาในอาณาจักรแห่งความรู้ของพระองค์ว่า ?โลกและสวรรค์ ความรุ่งโรจน์และอำนาจปกครอง เป็นของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงอำนาจเหนือทุกสิ่ง พระผู้ทรงมหิทธานุภาพทั้งปวง พระผู้เป็นนายแห่งความกรุณาอันอุดม!?

“ด้วยหัวใจที่สุขหรรษาและเปี่ยมด้วยความขอบคุณ เราขอเป็นพยานต่อความมากมายของความปรานีของพระผู้เป็นเจ้า ต่อความสมบูรณ์พร้อมของความยุติธรรมของพระองค์ และต่อการบรรลุผลของคำมั่นสัญญาที่มีมาแต่โบราณกาลของพระองค์”

“พระบาฮาอุลลาห์ พระผู้ทรงเปิดเผยพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าในยุคนี้ พระผู้ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของอำนาจบังคับบัญชา พระผู้เป็นต้นกำเนิดน้ำพุแห่งความยุติธรรม พระผู้ทรงสร้างสรรค์ระบบโลกใหม่ พระผู้สถาปนาสันติภาพอันยิ่งใหญ่ที่สุด พระผู้ทรงให้แรงบันดาลใจและพระผู้ทรงก่อตั้งอารยธรรมโลก ผู้ทรงพิพากษา พระผู้ประทานกฎ พระผู้ทรงรวบรวมและพระผู้ทรงกอบกู้ของมนุษยชาติทั้งมวล ได้ทรงประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการมาถึงของอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนโลกนี้ ได้ทรงกำหนดกฎและบทบัญญัติทั้งหลายของโลกขึ้น แถลงหลักการและบัญญัติสถาบันทั้งหลายของโลก? เพื่อกำหนดทิศทางและวางแนวแก่พลังทั้งหลายที่ปลดปล่อยออกมาจากการเปิดเผยธรรมของพระองค์ พระองค์ได้ทรงจัดตั้งพระปฏิญญาของพระองค์ขึ้น ซึ่งพลังของพระปฏิญญานี้จะปกปักรักษาความมั่นคงของศาสนาของพระองค์ ธำรงไว้ซึ่งเอกภาพ และกระตุ้นการแผ่ขยายออกไปทั่วโลกของศาสนาตลอดช่วงเวลาของการสืบทอดการบริหารของพระอับดุลบาฮาและท่านโชกิ เอฟเฟนดิ พระปฏิญญายังคงสืบเนื่องการบรรลุผลในจุดประสงค์อันให้ชีวิตของพระปฏิญญาโดยผ่านทางการปฏิบัติงานของสภายุติธรรมแห่งสากล ซึ่งวัตถุประสงค์ขั้นพื้นฐานในฐานะของหนึ่งในผู้สืบทอดคู่แฝดของพระบาฮาอุลลาห์และพระอับดุลบาฮาของสภาแห่งนี้คือ การรับประกันความต่อเนื่องของอำนาจบังคับบัญชาที่กำหนดมาจากสวรรค์ซึ่งได้หลั่งไหลมาจากพระผู้ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของศาสนา การอารักขาความสามัคคีของสาวกทั้งหลาย และการผดุงไว้ซึ่งความสมบูรณ์และความยืดหยุ่นของคำสอนของศาสนานี้”

“พระบาฮาอุลลาห์ทรงประกาศว่า ?จุดประสงค์ขั้นพื้นฐานที่ขับเคลื่อนความเชื่อและศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า คือการอารักขาผลประโยชน์และส่งเสริมความสามัคคีของมนุษยชาติ และการประคับประคองดวงจิตแห่งความรักและมิตรภาพในท่ามกลางมนุษย์? จงอย่าปล่อยให้ศาสนากลายเป็นบ่อเกิดของการทะเลาะเบาะแว้งและความไม่ลงรอยกัน ของความเกลียดชังและการเป็นศัตรูกัน นี่คือวิถีอันตรง คือรากฐานอันมั่นคงและไม่อาจเคลื่อนย้ายได้ สิ่งใดก็ตามที่ตั้งอยู่บนรากฐานนี้ การเปลี่ยนแปลงและโชควาสนาของโลกจะไม่มีวันสามารถลดทอนความแข็งแรงของสิ่งนั้นลงได้ และการปฏิวัติแห่งศตวรรษจำนวนนับไม่ถ้วนก็จะไม่สามารถบ่อนทำลายโครงสร้างของสิ่งนั้น”

“พระอับดุลบาฮาทรงประกาศในพระประสงค์และพินัยกรรมของพระองค์ว่า ?ทุกคนต้องหันไปหาคัมภีร์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และทุกสิ่งที่มิได้บันทึกไว้อย่างชัดแจ้งในคัมภีร์นั้นต้องนำเสนอต่อสภายุติธรรมแห่งสากล”

“ต้นกำเนิด อำนาจบังคับบัญชา หน้าที่ ขอบข่ายการดำเนินการของสภายุติธรรมแห่งสากลนั้น ซึ่งทั้งหมดมาจากพระวจนะที่เปิดเผยไว้ของพระบาฮาอุลลาห์ พร้อมด้วยการตีความและคำอธิบายอย่างละเอียดทั้งหลายของพระผู้เป็นศูนย์กลางแห่งพระปฏิญญาและของท่านศาสนภิบาล? ผู้ซึ่งถัดมาจากพระอับดุลบาฮา คือผูมีอำนาจรับผิดชอบเพียงผู้เดียวในการตีความธรรมลิขิตบาไฮ? ประกอบกันเข้าเป็นขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่ผูกมัดของสภายุติธรรมแห่งสากลและเป็นพื้นฐานอันแน่นหนาของสภานี้? อำนาจบังคับบัญชาของธรรมลิขิตเหล่านี้เด็ดขาดและไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้จนกว่าจะถึงเวลาที่พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงมหิทธานุภาพจะทรงเปิดเผยพระผู้ทรงแสดงธรรมพระองค์ใหม่ผู้จะทรงครอบครองอำนาจบังคับบัญชาและพลังทั้งหมด”

“ในการที่ไม่มีผู้สืบทอดของท่านโชกิ เอฟเฟนดิ ในฐานะศาสนภิบาลของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า สภายุติธรรมแห่งสากลจึงเป็นหัวหน้าของศาสนาและเป็นสถาบันสูงสุดของศาสนา ที่ทุกคนต้องหันมาหา และสภานี้แบกรับความรับผิดชอบขั้นสูงสุดในการรับประกันความสามัคคีและความเจริญก้าวหน้าของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า นอกจากนี้ สภานี้ยังได้รับมอบอำนาจให้มีหน้าที่ในการกำหนดทิศทางและประสานงานให้กับงานต่างๆ ของพระหัตถ์ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ในการรับประกันการดำเนินการอย่างต่อเนื่องของหน้าที่ในการปกป้องและการเผยแพร่ที่สถาบันดังกล่าวได้รับมอบหมายมา? และในการจัดหาวิธีการสำหรับการออกใบเสร็จและการใช้จ่ายฮูคุคุลลาห์”

?ในบรรดาอำนาจและหน้าที่ที่สภายุติธรรมแห่งสากลได้รับการมอบอำนาจมาคือ:

?การรับประกันการเก็บรักษาธรรมลิขิตศักดิ์สิทธิ์ และการอารักขาไว้ซึ่งความละเมิดมิได้ของธรรมลิขิตนั้น; การวิเคราะห์ จัดหมวดหมู่ และเรียบเรียงพระธรรมลิขิต; การแก้ต่างให้และปกป้องศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า และปลดเปลื้องศาสนาจากโซ่ตรวนของการกดขี่และการประหัตประหาร;

?การสร้างความก้าวหน้าให้กับผลประโยชน์ของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า; การประกาศอย่างเป็นทางการ การเผยแพร่ และการสอนข่าวสารแห่งสวรรค์ของศาสนา; การขยายและการสร้างความแข็งแรงให้กับสถาบันของระบบบริหารของศาสนา; การนำทางในระบบแห่งโลกของพระบาฮาอุลลาห์; การส่งเสริมการบรรลุถึงคุณลักษณะทางธรรมที่ควรเป็นลักษณะเฉพาะตัวของวิถีชีวิตบาไฮทั้งส่วนบุคคลและส่วนรวม; การดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อการบรรลุความเป็นจริงของไมตรีจิตและความสุภาพในระดับที่มากกว่าเดิมในท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย และเพื่อการบรรลุสู่สันติภาพสากล; การอุปถัมภ์ค้ำชูสิ่งที่จะนำมาซึ่งความรู้แจ้งในธรรมและความส่องสว่างของจิตวิญญาณของมนุษย์ และความก้าวหน้าและความเจริญของโลก;

?การออกกฎและข้อบังคับต่างๆ ที่ไม่ได้มีบันทึกไว้อย่างชัดเจนในพระธรรมลิขิตศักดิ์สิทธิ์; การยกเลิกกฎและข้อบังคับต่างๆ ที่สภายุติธรรมแห่งสากลเป็นผู้ออก ตามความเหมาะสมต่อการเปลี่ยนแปลงและเงื่อนไขต่างๆ ในเวลานั้น; การพิจารณาอย่างรอบคอบและตัดสินปัญหาทั้งหมดที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง; การให้คำอธิบายที่ชัดเจนแก่ประเด็นที่คลุมเครือ; การคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และความคิดริเริ่มของบุคคล; การให้ความเอาใจใส่ต่อการรักษาไว้ซึ่งเกียรติของมนุษย์ การพัฒนาของประเทศทั้งหลาย และเสถียรภาพของรัฐประเทศต่างๆ;

?การประกาศ และประยุกต์ใช้กฎและหลักคำสอนทั้งหลายของศาสนา; การปกป้องและบังคับใช้ความเที่ยงตรงในความประพฤติที่กฎของพระผู้เป็นเจ้ากำหนดไว้; การเก็บรักษาและพัฒนาศูนย์กลางทางจิตวิญญาณและการบริหารของศาสนาบาไฮที่มีที่ตั้งอย่างถาวรอยู่ในนครคู่แฝดแห่งอัคคาและไฮฟา; การบริหารกิจการทั้งหลายของชุมชนบาไฮทั่วโลก; การนำทาง การจัดระบบ การประสานงาน และการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันให้กับกิจกรรมของสภา; การก่อตั้งสถาบันทั้งหลาย; การมีความรับผิดชอบที่จะรับประกันว่าไม่มีผู้ใดหรือสถาบันใดภายในศาสนาจะใช้เอกสิทธิ์ของสภายุติธรรมแห่งสากลในทางที่ผิด หรือปฏิเสธการดำเนินการตามความชอบธรรมและสิทธิพิเศษของสภานี้; และการจัดหาวิธีการเพื่อการออกใบเสร็จ การจัดการตามวัตถุประสงค์ การบริหาร และการพิทักษ์รักษากองทุนต่างๆ เงินบริจาคทั้งหลาย และทรัพย์สินอื่นๆ ที่ได้รับความไว้วางใจให้อยู่ภายใต้การดูแลของสภายุติธรรมแห่งสากล;

?การวินิจฉัยข้อโต้แย้งที่อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของสภายุติธรรมแห่งสากล; การให้คำตัดสินในกรณีต่างๆ ที่มีการละเมิดกฎของศาสนา และการประกาศบทลงโทษสำหรับการละเมิดนั้นๆ; การจัดหาวิธีการเพื่อการบังคับใช้คำตัดสินของสภายุติธรรมแห่งสากล;? การจัดหาวิธีการสำหรับการตัดสินโดยอนุญาโตตุลาการหรือกรรมการชี้ขาด และการปรองดองข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นระหว่างประชาชน; การเป็นผู้สนับสนุนและผู้พิทักษ์ของความยุติธรรมแห่งสวรรค์ ซึ่งความยุติธรรมนี้เท่านั้นที่จะสามารถรับประกันความมั่นคงของโลกและสถาปนาการปกครองด้วยกฎและระเบียบขึ้นในโลกนี้ได้

?สมาชิกของสภายุติธรรมแห่งสากล ดังที่ระบุไว้โดยพระบาฮาอุลลาห์ว่าเป็น ?บุรุษแห่งความยุติธรรม? ?ประชาชนแห่งบาฮาที่ได้รับการกล่าวถึงในคัมภีร์แห่งนาม? ?ผู้พิทักษ์ของพระผู้เป็นเจ้าในท่ามกลางคนรับใช้ของพระองค์ และรุ่งอรุณแห่งอำนาจบังคับบัญชาในประเทศทั้งหลายของพระองค์? ในการปฏิบัติตตามหน้าที่ความรับผิดชอบของตน จะคำนึงอยู่ในใจเสมอถึงมาตรฐานต่อไปนี้ที่กำหนดไว้โดยท่านโชกิ เอฟเฟนดิ ศาสนภิบาลของศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า:

?ในการชี้นำกิจการด้านการบริหารทั้งหลายของศาสนา ในการออกกฎสำหรับบทบัญญัติที่จำเป็นเพื่อเป็นภาคผนวกของกฎทั้งหลายในคัมภีร์คีตาบี-อัคดัส ควรเป็นสิ่งที่คำนึงอยู่ในใจ ดังที่พระวจนะของพระบาฮาอุลลาห์ได้บ่งบอกไว้อย่างชัดเจนว่า สมาชิกทั้งหลายของสภายุติธรรมแห่งสากลนั้นไม่ต้องรับผิดชอบต่อบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้แทน และพวกเขาต้องไม่ปล่อยให้ตนถูกครอบงำโดยความรู้สึก ความคิดเห็นโดยทั่วไป และแม้แต่ความเชื่อมั่นของหมู่มวลของผู้จงรักภักดีหรือของผู้ที่ทำการเลือกตั้งพวกเขามาโดยตรง ด้วยท่าทีที่เปี่ยมด้วยการอธิษฐาน พวกเขาจะต้องดำเนินตามการสั่งการและแรงกระตุ้นของมโนธรรมของพวกเขา พวกเขาอาจจะ ที่จริงแล้ว พวกเขาต้องทำตนเองให้คุ้นเคยกับสภาพการณ์ต่างๆ ที่แพร่หลายอยู่ในชุมชน ต้องชั่งน้ำหนักอย่างไม่มีอคติในความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับข้อผิดถูกของกรณีใดก็ตามที่ถูกนำเสนอเพื่อการพิจารณาของพวกเขา แต่ต้องสงวนไว้สำหรับตนเองซึ่งสิทธิในการตัดสินใจอย่างอิสระ พระบาฮาอุลลาห์ทรงให้ความมั่นใจอย่างโต้แย้งไม่ได้ไว้ว่า ?พระผู้เป็นเจ้าจะทรงให้แรงบันดาลใจแก่พวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัยในสิ่งใดก็ตามที่พระองค์ทรงประสงค์?? ด้วยประการฉะนี้ พวกเขา และมิใช่หมู่คณะของบรรดาผู้ที่เลือกตั้งเขาทั้งโดยตรงและโดยอ้อม จึงเป็นผู้ถูกทำให้เป็นผู้รับมอบคำแนะนำจากสวรรค์ ซึ่งเป็นทั้งสายโลหิตแห่งชีวิตและเป็นเครื่องป้องกันสูงสุดของยุคศาสนานี้?

?สภายุติธรรมแห่งสากลได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในวันแรกของเทศกาลเรซวานในปีที่หนึ่งร้อยยี่สิบของศักราชบาไฮ (21 เมษายน 1963 (พ.ศ. 2506))? ในเวลาที่สมาชิกของธรรมสภาแห่งชาติ ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดในพระประสงค์และพินัยกรรมของพระอับดุลบาฮา และเป็นการสนองตอบต่อการร้องเรียกของบรรดาพระหัตถ์ศาสนาของพระผู้เป็นเจ้า ผู้เป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์ของเครือจักรภพแห่งโลกที่เพิ่งเริ่มก่อตัวขึ้นมาของพระบาฮาอุลลาห์ ได้ให้กำเนิดแก่ ?ความรุ่งโรจน์อันเป็นมงกุฎ? ของสถาบันบริหารของพระบาฮาอุลลาห์? ?ใจกลางสำคัญและผู้เบิกทาง? อันแท้จริงของระบบแห่งโลกของพระองค์ ดังนั้น ณ บัดนี้ ด้วยความเชื่อฟังในคำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้าและด้วยความวางใจจนหมดสิ้นในพระองค์ เราสมาชิกของสภายุติธรรมแห่งสากล วางมือของเราและตราประทับของสภานี้ไว้กับคำประกาศเกี่ยวกับความรับผิดชอบนี้ ซึ่งพร้อมด้วยข้อบังคับทั้งหลายที่เป็นภาคผนวกของประกาศนี้ ประกอบกันขึ้นเป็นธรรมนูญของสภายุติธรรมแห่งสากล?

?มั่นใจอย่างเต็มที่ในมาตรการที่เพิ่งดำเนินการไปว่าจะเสริมความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นให้กับพันธะที่เชื่อมโยงศูนย์กลางแห่งโลกกับชุมชนทั้งระดับชาติและท้องถิ่นทั่วโลก จะปลดปล่อยพละกำลังใหม่ เพิ่มความกระตือรือร้น ความเชื่อมั่น ให้กับผู้ปฏิบัติงานที่กล้าหาญของไร่องุ่นแห่งสวรรค์ของพระองค์ ที่ตรากตรำอย่างเพียรพยายามเพื่อนำมนุษยชาติมาภายใต้ที่กำบังของพระปฏิญญาที่รุ่งโรจน์เหนือสิ่งทั้งปวงของพระองค์?

“ขอจงอย่าจินตนาการว่าสภายุติธรรมจะตัดสินใจตามแนวความคิดและความเห็นของตนเอง พระผู้เป็นเจ้าทรงห้ามไว้ สภายุติธรรมสูงสุดจะตัดสินเรื่องต่างๆ และสถาปนากฎโดยอาศัยการบันดาลใจและการยืนยันจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะสภานี้อยู่ในความคุ้มครองและอยู่ภายใต้ที่กำบังและการปกป้องของพระผู้ทรงความงามแต่โบราณกาล และการเชื่อฟังคำตัดสินของสภานี้เป็นหน้าที่ที่จำเป็นและมีภาระผูกพัน และเป็นความรับผิดชอบสูงสุด และไม่มีผู้ใดหลบเลี่ยงไปจากหน้าที่นี้ได้”

?จงกล่าวว่า ดูกร ประชาชน แท้จริงแล้ว สภายุติธรรมสูงสุดอยู่ภายใต้ปีกของพระผู้เป็นนายของเจ้า พระผู้ทรงเห็นใจ พระผู้ทรงปรานี ซึ่งก็คือภายใต้ความคุ้มครอง การดูแล และที่กำบังของพระองค์ เพราะเป็นความสูงส่งของอาณาจักรสวรรค์ และกฎของสภานี้ได้รับแรงบันดาลใจและเป็นกฎแห่งจิตวิญญาณ?

?ด้วยเหตุที่ในแต่ละวันมีปัญหาใหม่ขึ้นมาและสำหรับทุกปัญหามีทางแก้ กิจธุระดังกล่าวควรเสนอต่อสภายุติธรรมแห่งสากลเพื่อว่าสมาชิกของสภานี้จะดำเนินการตามความจำเป็นและความต้องการของเวลานั้น พวกเขา ผู้ซึ่งเพื่อเห็นแก่พระผู้เป็นเจ้า ลุกขึ้นเพื่อรับใช้ศาสนาของพระองค์ เป็นผู้รับแรงบันดาลใจแห่งสวรรค์ที่มาจากอาณาจักรที่มองไม่เห็น เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะเชื่อฟังพวกเขา ทุกเรื่องของรัฐประเทศควรเสนอต่อสภายุติธรรม แต่การปฏิบัติบูชาต้องกระทำตามสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยไว้ในคัมภีร์ของพระองค์?

?เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงด้วยว่า โครงสร้างของศาสนาได้รับการออกแบบมาในลักษณะที่ สิ่งใดก็ตามที่เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องรวมเข้าไว้ในโครงสร้างเพื่อที่จะคงไว้ซึ่งการอยู่ในแนวหน้าของความเคลื่อนไหวอย่างมีความก้าวหน้าทั้งหมด เป็นสิ่งที่สามารถนำมารวมเข้าไว้ได้อย่างปลอดภัย ตามข้อกำหนดที่พระบาฮาอุลลาห์ทรงวางไว้ ถ้อยพระวจนะของพระบาฮาอุลลาห์ที่บันทึกอยู่ในหน้าที่แปดของพระคัมภีร์แห่งสวรรค์อันสูงส่งยืนยันในเรื่องนี้ว่า: ?เป็นหน้าที่ของบรรดาผู้พิทักษ์แห่งสภายุติธรรม ที่จะปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่ไม่ได้เปิดเผยไว้อย่างชัดเจนในคัมภีร์ และบังคับใช้สิ่งที่พวกเขาเห็นชอบ โดยแท้แล้ว พระผู้เป็นเจ้าจะทรงบันดาลใจพวกเขาด้วยสิ่งใดก็ตามที่พระองค์ทรงประสงค์ และแท้จริงแล้ว พระองค์คือพระผู้ทรงจัดหา พระผู้ทรงรอบรู้?

“ด้วยการมีธรรมสภาเหล่านี้ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ปฏิบัติหน้าที่อย่างขยันขันแข็งและมีประสิทธิภาพทั่วโลกบาไฮ หนทางเดียวในการสถาปนาสภายุติธรรมสูงสุดก็จะได้รับการรับประกัน?และเมื่อได้มีการสถาปนาสภาสูงสุดขึ้นมาอย่างเหมาะสมแล้ว สภานี้จะพิจารณาสถานการณ์ทั้งหมดใหม่อีกครั้งหนึ่ง และจะวางหลักการที่จะให้การนำทางแก่กิจการทั้งหลายของศาสนาตราบนานเท่าที่สภานี้เห็นว่าเหมาะสม?

?ในลักษณะที่ซ่อนเร้นอยู่ในสภาวะที่หาอดีตไม่ได้และในอนันตกาลอันบรมโบราณของแก่นสาระของเรา? เรารู้ว่าเรามีความรักสำหรับเจ้า ดังนั้นเราจึงสร้างเจ้าขึ้นมา และได้สลักรูปของเราไว้ในตัวเจ้าและเปิดเผยความงามของเราต่อเจ้า?

?เจ้าเป็นเสมือนดั่งดาบที่หล่อมาอย่างดี ซ่อนอยู่ในฝักที่มืดมิด และคุณค่าของดาบนี้ถูกซ่อนเร้นมิให้ช่างผู้ชำนาญรู้ ดังนั้นจงออกมาจากฝากแห่งอัตตาและกิเลส? เพื่อว่าคุณค่าของเจ้าจะปรากฏขึ้นอย่างงดงามและแจ่มแจ้งต่อทั่วทั้งโลก?

?พรจงมีแด่พวกเขาผู้ซึ่งได้ทะยานขึ้นด้วยปีกแห่งความไม่ผูกพัน และได้บรรลุสู่สถานะซึ่งบดบังรัศมีของการสร้างสรรค์ทั้งปวงดังที่บัญญัติไว้โดยพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาผู้ซึ่งการจินตนาการอันไร้สาระของผู้คงแก่เรียน หรือฝูงชนของผู้อาศัยอยู่บนโลก ก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จในการหันเหพวกเขาออกไปได้จากศาสนาของพระองค์?

?เจ้าจงรู้ไว้ว่าเขาคือผู้รอบรู้โดยแท้ ผู้ซึ่งยอมรับการเปิดเผยธรรมของเรา และดื่มจากมหาสมุทรแห่งความรู้ของเรา และทะยานขึ้นไปในบรรยากาศแห่งความรักของเรา และสลัดทิ้งซึ่งทุกสิ่งนอกจากเรา และยึดเหนี่ยวอย่างมั่นคงอยู่กับสิ่งที่ได้ประทานลงมาจากอาณาจักรแห่งพระวจนะอันมหัศจรรย์ของเรา?

?แท้จริงแล้วพระผู้เป็นเจ้าได้เลือกเจ้า เพื่อความรักและความรู้ของพระองค์; พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกสรรเจ้าเพื่อการรับใช้อันควรค่าในการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมนุษยชาติ; พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกสรรเจ้าเพื่อจุดประสงค์ของการค้นคว้าหาการดำรงอยู่อย่างแท้จริงและเผยแพร่สันติภาพสากล;? พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกสรรเจ้าเพื่อความเจริญก้าวหน้าและการพัฒนาของมนุษยชาติ เพื่อการเผยแพร่และประกาศการศึกษาอันแท้จริง เพื่อการแสดงออกซึ่งความรักต่อเพื่อนมนุษย์ และการขจัดอคติทิ้งไป; พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกสรรเจ้าให้ผสานหัวใจมนุษย์เข้าด้วยกันและให้แสงสว่างแก่โลกของมนุษย์ ประตูของความเอื้อเฟื้อของพระองค์นั้นเปิดออกอย่างกว้างขวางแก่เรา แต่เราต้องเอาใจใส่ ตื่นตัวและระวังระไว มีธุระยุ่งอยู่กับการรับใช้มนุษยชาติทั้งมวล สำนึกในคุณค่าของของขวัญทั้งหลายจากพระผู้เป็นเจ้าและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์อยู่เสมอ?

?อย่าคิดว่าสิ่งที่เราเปิดเผยต่อเจ้าเป็นเพียงประมวลกฎชุดหนึ่ง? เปล่าเลย ที่จริงแล้วเราได้เปิดผนึกของอมฤตชั้นเยี่ยมด้วยองคุลีแห่งอำนาจและอานุภาพ? วจนะที่มาจากปากกาแห่งการเปิดเผยพระธรรมเป็นพยานต่อสิ่งนี้ ดูกร มนุษย์ผู้หยั่งเห็น!? จงใคร่ครวญดู?

?จุดประสงค์หลัก วัตถุประสงค์ขั้นพื้นฐานและในการวางกฎอันทรงพลังทั้งหลายและการกำหนดหลักการและสถาบันอันยิ่งใหญ่ของทั้งหลายขึ้นมาเกี่ยวกับทุกแง่มุมของอารยธรรมนั้น คือความสุขของมนุษย์? และความสุขของมนุษย์นั้น ประกอบไปด้วยเพียงการเข้าใกล้ธรณีประตูของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงมหิทธานุภาพให้มากขึ้น และการรับประกันสันติภาพและความผาสุกของสมาชิกทุกคนของมนุษยชาติไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม และตัวแทนผู้จัดหาในระดับสูงสุดเพื่อการประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์สองประการนี้คือคุณลักษณะอันดีเลิศทั้งหลายที่มนุษย์ได้รับการประสิทธิ์ประสาทมา?

?ผู้ใดเล่าจะสามารถสงสัยได้ว่า ผลสัมฤทธิ์ดังกล่าว? การบรรลุวุฒิภาวะของมนุษยชาติ?จะต้องเป็นสิ่งบ่งชี้ในทางกลับกันถึงการเริ่มต้นขึ้นของอารยธรรมโลกในลักษณะที่ไม่มีสายตาของมนุษย์ผู้ใดได้เคยเห็นมาก่อน หรือไม่มีภูมิปัญญาของมนุษย์ผู้ใดสามารถจะคิดขึ้นได้? ผู้ใดเล่าที่จะสามารถจินตนาการได้ถึงมาตรฐานอันสูงส่งที่อารยธรรมดังกล่าวได้ถูกกำหนดให้บรรลุถึง ในขณะที่อารยธรรมนั้นกำลังเปิดเผยตนเองออกมา ? ผู้ใดเล่าจะสามารถวัดได้ถึงระดับความสูงของสติปัญญาของมนุษย์ที่จะพุ่งทะยานขึ้นเมื่อถูกปลดปล่อยให้หลุดพ้นเป็นอิสระจากพันธนาการทั้งหลายที่ฉุดรั้งเอาไว้ ? ผู้ใดเล่าจะสามารถจินตนาการได้ถึงอาณาจักรทั้งหลายที่จะถูกค้นพบโดยจิตวิญญาณของมนุษย์ ผู้ซึ่งได้รับการให้พลังโดยแสงสว่างอันหลั่งไหลลงมาของพระบาฮาอุลลาห์ ซึ่งฉายส่องในระดับของความรุ่งโรจน์อย่างเต็มที่??