ความเชื่อมโยงกันของจิตวิญญาณและวัตถุ

การก่อตัวขึ้นของอารยธรรมโลกที่สมบูรณ์ทั้งทางวัตถุและจิตวิญญาณในยุคที่มนุษยชาติบรรลุวุฒิภาวะนั้น มีนัยว่าการดำเนินชีวิตทางโลกและทางธรรมต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างสอดคล้องกัน พระอับดุลบาฮากล่าวไว้ว่าความก้าวหน้าทางวัตถุเป็นหนทางหนึ่งของความเจริญของมนุษยชาติในโลก อย่างไรก็ดี หากไม่มีความก้าวหน้าทางธรรมมาเคียงคู่ไปด้วยแล้ว มนุษย์ก็ไม่สามารถ บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ นั่นก็คือความปีติสุขที่แท้จริง

พระอับดุลบาฮาอธิบายต่อไปว่า ความเจริญทางวัตถุ เปรียบเหมือนตัวตะเกียง ส่วนความเจริญทางจิตวิญญาณ เป็นเหมือนดวงไฟ ตะเกียงที่ปราศจากแสงไฟไม่อาจส่องสว่างได้ ความเจริญทางวัตถุนั้นเปรียบเหมือนร่างกายที่แม้ว่าจะสวยสง่างามเพียงใดก็เป็นเพียงแค่เรือนร่าง ขณะที่ความเจริญของจิตใจเป็นดั่งดวงวิญญาณที่ให้ชีวิตแก่ร่างกาย หากปราศจากดวงวิญญาณร่างกายก็เป็นดั่งซากศพ จะเห็นได้ว่าโลกของมนุษยชาติจำต้องพึ่งพาลมหายใจของวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า ถ้าปราศจากกระแสวิญญาณนี้ โลกมนุษย์ก็จะไร้ชีวิต ถ้าปราศจากแสงพระธรรม โลกมนุษย์ก็จะตกอยู่ในความมืดมน

หากเราหวังให้อารยธรรมก้าวหน้าไปอย่างสมดุลย์ทั้งด้านวัตถุและจิตวิญญาณ เราจำต้องหันมาตรวจสอบ ความหมายของความรุ่งโรจน์ ความมั่งคั่งเสียใหม่ ความพรั่งพร้อมทางวัตถุมีความสำคัญต่อความก้าวหน้าของอารยธรรมอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง และทุกคนควรได้รับส่วนแบ่งจากความมั่งคั่งนี้ ความหมายของความมั่งคั่งไม่ควรจำกัดอยู่เพียงแค่ความร่ำรวยส่วนบุคคล แนวคิดที่เน้นแต่ประโยชน์ของปัจเจกบุคคลซึ่งในตัวมันเองก็ขาดคุณค่าของความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณอยู่แล้ว จะนำไปสู่การปรนเปรอความต้องการจนเกินเลย และการปลูกฝังให้ลุ่มหลงอยู่กับความฟุ่มเฟือย หากเราต้องการสร้างอารยธรรมที่มีความรุ่งโรจน์ทั้งทางวัตถุและจิตวิญญาณ เราต้องนำเอาทรัพยากรทางวัตถุมาไช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่สูงส่งมีความหมายยิ่งขึ้นไปกว่านี้ เป็นต้นว่า เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคี เพื่อยกระดับจริยธรรมในสังคม เพื่อเปิดทางให้มวลชนทั้งปวงเข้าถึงแหล่งความรู้

ในการทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของพัฒนาการทางจิตวิญญาณ เราต้องระวังไว้ว่าบ่อยครั้งความเข้าใจของเราเป็นไปอย่างผิวเผิน เราหลงคิดไปว่าเรื่องของจิตวิญญาณเป็นแค่เครื่องมือในการสร้างความพึงพอใจ หรือเป็นแค่เปลือกนอกของกิจกรรมหรือพิธีการที่ช่วยคลายความกังวลของเราจากโลกทางวัตถุเท่านั้น

ความเจริญทางจิตวิญญาณที่แท้จริงหยั่งรากลึกลงไปถึงทุกส่วนของชีวิตมนุษย์ แทรกซึมไปถึงพฤติกรรมของเรา ช่วยเกื้อหนุนความพยายามของทั้งปัจเจกบุคคล และมวลชนไปสู่ความก้าวหน้าของสังคม ช่วยให้เราใฝ่หาความรู้ ช่วยยกระดับการทำภารกิจต่างๆ ให้เป็นดั่งการบูชาพระผู้เป็นเจ้า ช่วยสร้างความเอื้ออาทรเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ช่วยยับยั้งความเห็นแก่ตัว ช่วยเน้นให้เห็นความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ช่วยเสริมสร้างความมีน้ำใจ และความอ่อนน้อมถ่อมตน ช่วยให้เราเห็นความสำคัญของความหลากหลายและมองเห็นความงดงามที่แฝงอยู่

พระอับดุลบาฮาดำรัสไว้ว่า จิตวิญญาณเป็นของขวัญอันล้ำค่าที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้แก่มนุษย์ ขอให้พวกเราทุกคนจงมีจิตวิญญาณที่แจ่มจรัสเพิ่มขึ้นทุกวัน ขอให้ทุกคน จงเปี่ยมไปด้วยความดีงามทั้งปวง ขอให้ได้รับพระกรุณาของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่สิ้นสุด และให้ดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระและขอให้พลังจากสรวงสวรรค์จงเกื้อหนุนทุกคน