ความศรัทธาและเหตุผล

ความศรัทธาและเหตุผลเป็นคุณลักษณะของดวงวิญญาณของมนุษย์ที่อำนวยให้เราเข้าถึงและเข้าใจแง่มุมต่างๆ ของโลกทางวัตถุและทางจิตวิญญาณ พระอับดุลบาฮาอธิบายว่า ความศรัทธาหมายถึงการรับรู้ ตามด้วยการกระทำความดี ส่วนเหตุผลนั้นเป็นพลังความสามารถประการแรกของมนุษย์ การที่มนุษย์รู้จักใช้เหตุใช้ผลทำให้มนุษย์แตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และถือเป็นสัตว์ประเสริฐ พระผู้เป็นเจ้าประทานความสามารถในการใช้เหตุผลแก่มนุษย์เพื่ออำนวยให้เราเข้าใจสรรพสิ่งทั้งปวง เพื่อให้เราเข้าถึงสัจธรรม หากมนุษย์ปฏิเสธเหตุผลอะไรจะเกิดขึ้น ศรัทธาและเหตุผลเมื่อนำมาประกอบเข้าด้วยกันจะช่วยให้เราค้นพบพลังความสามารถที่แฝงอยู่ในปัจเจกบุคคลและในมนุษยชาติทั้งปวงศรัทธาและเหตุผลอำนวยให้เราแปรศักยภาพเหล่านี้ให้เป็นจริงได้

บ่อยครั้งเราหลงคิดไปว่าความศรัทธาและเหตุผลเป็นขั้วความขัดแย้ง นั่นคือ ความคิดและความรู้สึกเป็นสองสิ่งที่ดำเนินไปในทิศทางตรงกันข้ามอยู่ตลอดเวลา ความขัดแย้งอันนี้ตั้งอยู่บนคำนิยามที่ไม่สมบูรณ์ของคำว่าความศรัทธาและเหตุผล เรามักคิดว่า ความศรัทธาคือความคิดเพ้อฝัน ความงมงาย การขาดเหตุผล ความเชื่อที่ขาดข้อเท็จจริง เรียกได้ว่าเป็นขั้วที่อยู่ตรงกันข้ามกับตรรกความรู้ ขณะเดียวกันเหตุผลก็ถูกนิยามให้จำกัดอยู่เพียงแค่ข้อสรุปหรือข้ออนุมานที่มาจากปรากฏการณ์อันประจักษ์แจ้ง และทดสอบได้เท่านั้น ไม่รวมสิ่งอื่นๆ ที่เป็นเรื่องของการประเมิน และสิ่งที่ไม่อาจวัดค่าออกมาได้ หากแต่ในความเป็นจริง ความศรัทธาและการใช้เหตุผลเป็นพลังความสามารถของมนุษย์ที่เกื้อกูลกันและช่วยให้มนุษย์เข้าใจโลกความเป็นจริง ความศรัทธาและหลักเหตุผลต่างก็เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สังคมเข้าถึงความเป็นจริง พระอับดุลบาฮานิพนธ์ไว้ว่า หากศาสนาขัดแย้งกับหลักเหตุผลและวิทยาศาสตร์ ความศรัทธาที่แท้จริงก็ไม่อาจบังเกิดขึ้นได้ และเมื่อความศรัทธาความเชื่อมั่นในพระศาสนาไม่บังเกิดขึ้นในใจมนุษย์แล้ว มนุษย์ก็ไม่อาจบรรลุความสำเร็จทางจิตวิญญาณได้

ความศรัทธามิได้เกิดขึ้นจากความรู้หรือความเข้าใจ ความศรัทธาที่แท้จริงคือความรู้ความกระจ่างแจ้งที่ปรากฏออกมาผ่านการกระทำ พระบาฮาอุลลาห์ทรงตรัสว่า แก่นแท้ของความศรัทธามิได้อยู่ที่คำพูด หากแต่อยู่ที่การกระทำ พระอับดุลบาฮานิพนธ์ไว้ว่า ก้าวแรกเราต้องรู้ต้องเข้าใจเสียก่อนแล้วจึงลงมือทำ ถ้าเรารู้ความจริงเราย่อมต้องปฏิบัติตามข้อเท็จจริงนั้นโดยไม่ยึดติดกับสิ่งอื่นๆ ในโลก พระบาฮาอุลลาห์ทรงลิขิตไว้ว่า ผู้ที่จะก้าวไปบนเส้นทางของความศรัทธาจำต้องละทิ้งข้อผูกพันนานาประการทางโลก ไม่เที่ยวรับฟังสิ่งไร้สาระ ไม่มัวลุ่มหลงติดอยู่กับจินตนาการเพ้อฝัน ไม่เอาใจไปใฝ่กิเลสทางโลก ไม่เที่ยวเฝ้ามองสิ่งที่เป็นอนิจจัง พวกเขาต้องเชื่อมั่นและยืดถือพระผู้เป็นเจ้า ต้องปฏิบัติตามบัญญัติของพระองค์

ในงานนิพนธ์หลากหลายชิ้น พระอับดุลบาฮาห์เน้นความสำคัญของเหตุผลและการใช้เหตุผลว่าเป็นพลังความสามารถที่ยกมนุษย์ขึ้นเหนือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ พระอับดุลบาฮากล่าวว่า การใช้เหตุผลและวาทศิลป์ในการสื่อสารเป็นพรอันประเสริฐของมนุษย์ พระอับดุลบาฮาถามว่า เหตุใดมนุษย์ถึงหลงเชื่อในสิ่งที่เขารู้ดีว่าขัดแย้งกับหลักเหตุผล ใจมนุษย์จะยอมรับในสิ่งที่เหตุผลปฏิเสธได้หรือ เหตุใดมนุษย์ถึงยอมรับในสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ หากผู้ใดปักใจเชื่อในสิ่งที่ขาดเหตุผล ความเชื่อของเขาก็นับเป็นความงมงายหาใช่ความศรัทธาไม่ พระอับดุลบาฮาอธิบายว่า ความสามารถในการใช้เหตุผลและวิจารณญาณคือสิ่งที่แยกมนุษย์ออกจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ มนุษย์ทุกคนจึงควรอุทิศสติสัมปะชัญญะและกำลังความสามารถทั้งปวงเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม โดยมีจุดมุ่งหมายสูงสุดเพื่อนำพามนุษยชาติไปสู่ป้อมปราการอันแข่งแกร่งของความรู้